xs
xsm
sm
md
lg

ทำไมไม่ “ปักธงไทย”ที่วัดแก้วฯ!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

00 ตื่นตัวหูตาเหลือกกันเป็นแถวประเภท “นั่งไม่ติด” ก้นไม่ติดเก้าอี้ หลังจากมีหลักฐานพิสูจน์ชัดเจนเรื่อยๆว่าคนในรัฐบาลและกองทัพไทย “ไม่ได้เอาใจใส่” หรือจงใจมองไม่เห็นการ “รุกคืบ” เข้ามาของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งหากมองอีกด้านหนึ่งมันก็อาจมีสาเหตุมาจากเรื่องของ “ผลประโยชน์” ตามแนวชายแดน รวมไปถึงเรื่องผลประโยชน์ด้าน “ธุรกิจพลังงานในอ่าวไทยที่ไป “สวมตอ” มาจากยุค ทักษิณ ชินวัตร ทำเอาไว้ สิ่งเหล่านี้หรือเปล่าที่ทำให้คนเหล่านี้หูตา “มืดบอด” ไปหมด บางครั้งกลายเป็น “โฆษกเขมร” หน้าตาเฉย
00 หากพิจารณาตามความเป็นจริงตั้งแต่ กรณีแผ่นป้าย ต่อเนื่องมาจนถึงเรื่อง “ธงชาติเขมร” ที่ประตูวัดแก้วศิขาคีรีสวาระ ที่ตอนแรก รองฯนายกเขมร เอ้ย รองนายกฯไทย สุเทพ เทือกสุบรรณ บอกว่า “ธงวัด” นั่นแหละ แต่เมื่อแถไม่ออกก็บอกว่ากำลังเจรจากันอยู่ ซึ่งไม่รู้อีกกี่ชาติจะสำเร็จ บ้านเมืองถ้ามีรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงแบบนี้ อย่ามีเสียดีกว่า เพราะเสียทั้งงบประมาณ และที่สำคัญกลายเป็นว่าเป็นต้นเหตทำลายความมั่นคงนั่นเอง
00 ในที่สุด “บัวแก้ว” ก็ตื่นขึ้นมาแล้ว ทำขึงขังประท้วงไปเมื่อวันที่ 31 ม.ค.54 ให้เขมรรื้อถอนวัดแก้วฯและปลดธงชาติลงไป รวมถึงไม่ยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 2 แสนของเขมร แม้ว่าจะดูดีขึ้นมาบ้าง แต่คำถามก็คือทำไมเพิ่งมาประท้วงให้เอาธงลงหรือให้รื้อตอนนี้ เพราะทั้งวัด-ธง ทหาร “ฮุนเซน” มันสร้างมี “นานเป็นปี” แล้ว จนกระทั่งมีภาคประชาชนออกมาเปิดโปงนั่นแหละจึงต้องออกมา “เต้น” กันเป็นแถว แต่น่าเจ็บใจก็คือไม่ทันข้ามวันดี นายกฯอภิสิทธิ์ กลับมาบอกอีกอย่างว่าไม่ได้สั่งให้รื้อวัดแก้วฯ อย่างนี้หมายความว่าอย่างไร จะมั่วกันไปถึงไหน !!
00 เอาเถอะ มองในแง่ดีบ้างก็ได้ ถือว่ามาช้าดีกว่าไม่มา แต่ต้องทำให้จริงจัง และที่บอกว่ากำลังเจรจาให้เขมรปลดธงชาติที่วัดแก้วฯ แต่ยังไม่ยอม ก็ไม่เป็นไร ฝ่ายไทยก็ต้องทำแบบเดียวกันนั่น เฉพาะหน้าก็ต้อง “เอาธงชาติไทย” ไปปักไว้ที่นั่นเช่นเดียวกัน เอาให้พลิ้วไสวตีคู่กันไปเลย เหมือนกับที่เคยมีข่าวว่าทางแม่ทัพภาคที่ 2 พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร เตรียมนำแผ่นป้ายของไทยไปปักคู่กับป้าย “ที่นี่กัมพูชา” มาแล้วหากยังดื้อแพ่ง ทำไมไม่ทำแบบนั้นบ้างละ !!
00 พูดถึงเรื่องทหารแล้วขอว่ากันต่อเลยแล้วกัน แม้ว่าในช่วงสองสามนี้เริ่ม “แอ็กชั่น” มากขึ้นแล้วก็ตาม โดยเฉพาะการขึ้นปักธงชาติไทยบริเวณที่เรียกว่า “สถูปคู่” ที่อยู่ติดกับฐานตรวจการณ์ “ผามออีแดง” ของไทย บนเขาพระวิหาร แม้เป็นเรื่องถูกต้องและสมควรทำมาตั้งนานแล้ว แต่ทางที่ดีต้องรุกขึ้นไปปักธงชาติคู่กับของเขมรที่วัดแก้วศิขาฯให้ได้ เพราะบริเวณ สถูปคู่ดังกล่าวมันเป็น “พื้นที่ของไทย” อยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลก และ ถ้ามองอีกด้านหนึ่งทำแบบนี้มันก็อาจเป็นเหตุให้ เขมรฮุนเซน มันเข้าใจว่าเขตพื้นที่ของไทยอยู่แค่ตรงนั้น สามารถรุกล้ำกินแดนเข้ามาได้อีก
00 แม้หลายคนเริ่มมีความหวังกับท่าทีอันแข็งกร้าว เห็นการเอาจริงเอาจังทั้งจากฝ่ายรัฐบาลและกองทัพ ที่เริ่มตอบโต้กัมพูชา ก็ไม่ว่ากัน ไม่อยากไปขัดคอ แต่ในมุมส่วนตัวกลับเห็นไปอีกทางหนึ่งว่านี่คือการ “สร้างภาพ ลดกระแส” และที่สำคัญเป็นการ “จำนนต่อหลักฐาน” ต่างหาก และที่น่าจับตาต่อไปก็คือ ท่าทีของ ผบ.ทบ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่แอ็กชั่นมากกว่าเดิม แต่ขณะเดียวกันก็ต้องตอบคำถามให้ได้ด้วยว่าที่ผ่านมาในฐานะที่กองทัพดูแลชายแดนมาตลอด ทำไมถึงปล่อยให้เขมรเหิมเกริมฝ่ายเดียวได้ถึงขนาดนี้ ครั้งก่อนเขมรยังไม่เคยติดธงชาติที่วัดแก้วฯ แล้วทำไมมาวันนี้ถึงทำได้ และที่บอกว่าเราก็มีสิทธิ์ที่จะไปปักธงในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร เหมือนกัน ทางที่ถูกน่าจะบอกว่าพื้นที่ตรงนั้นเป็นของเรา ไม่ใช่พื้นที่พิพาท และธงที่นำขึ้นไปปักเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ทำไมเพิ่งทำ และที่สำคัญบริเวณนั้นมันเป็นพื้นที่ไทยชัดเจนอยู่แล้ว เพราะอยู่ติดกับฐานปฏิบัติการทหาร ไม่ชักธงนี่สิแปลก !!
00 เห็นอาการ “มาร์ค-หน้าหล่อ”แล้ว เริ่มเข้าเค้า “สติแตก” หลังจากเจอข้อกล่าวหา “ขายชาติ” ทำให้เสียอธิปไตย ถึงกับย้อนคำพูดกลับมาว่า “ผมไม่ได้กล่าวหาเลยว่าไปรับเงินกัมพูชามาหรือเปล่า” แม้ไม่ได้ระบุตรงๆ แต่ความหมายเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจาก “พันธมิตรฯ” แต่ก็อย่าแปลกใจ เพราะนานไปก็ยิ่งเห็น “ตัวตน” มากขึ้นเรื่อยๆ เรื่องใครเป็นคนรับเงินใครหรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่างานนี้บางคน “ดื้อตาใส” จนทำให้เรื่องบานปลาย เมื่อมีคนรู้ทันและนำมาเปิดโปงมันก็ย่อมทำให้สติแตก หันมาใช้ “วิชามาร” ทำลายฝ่ายตรงข้าม คิดว่าตัวเองมี “ต้นทุน” ทางสังคมสูงพูดอะไรออกไปแล้วจะมีน้ำหนัก แต่บางครั้งอาจลืมไปว่ายุคนี้ใช้ “วาทะ” อย่างเดียวอาจไม่ได้ผล เพราะทุกอย่างต้องขึ้นกับ “หลักฐาน” ซึ่งเริ่ม “ประจาน” ออกมาให้เห็นเรื่อยๆ ทั้งกรณี “แผ่นป้าย-ธงชาติเขมร-วัดแก้วฯ-แถลงการณ์บัวแก้ว” เป็นลำดับเหตุการณ์ที่ชี้ให้เห็นตำตา
กำลังโหลดความคิดเห็น