xs
xsm
sm
md
lg

เหตุเกิด(จะเกิดเหตุ)...ที่หัวไทร (3)

เผยแพร่:   โดย: บรรจง นะแส

การลุกขึ้นมาปกป้องท้องถิ่นของประชาชนที่กังวลหรือได้รับผลกระทบในการประกอบอาชีพ ในการรักษาสิ่งแวดล้อมของพื้นที่จากโครงการขนาดใหญ่ หรือได้รับผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้น มักโดดเดี่ยวและต้องต่อสู้โดยลำพัง ด้วยลำแข้งลำขาของตัวเองเสมอ คำถามจึงมีอยู่ว่ากลไกรัฐ อำนาจรัฐหรือกลไกทางการเมืองต่างๆ ทั้งในระดับท้องถิ่น อันประกอบด้วยองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เทศบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ตลอดถึงนักการเมืองระดับชาติไม่ว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในพื้นที่ หรือรัฐมนตรีที่รับผิดชอบเหล่านั้นเขาหายหัวไปอยู่ที่ไหนกันหมด ไม่เคยเห็นออกมาแสดงความคิดเห็นต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ไม่เคยแสดงจุดยืนของตัวเองเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นและดำเนินอยู่ในพื้นที่อำเภอหัวไทร ก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน

ประสบการณ์ของภาคประชาชนที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อปกป้องพื้นถิ่นหรือสู้รบตบมือกับโครงการขนาดใหญ่ อย่างกรณีพี่น้องบ่อนอกหินกรูด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พี่น้องเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกที่ทนไม่ไหวต่อการรุกคืบของภาคอุตสาหกรรมทั้งในแง่ของการขยายพื้นที่ การแย่งชิงทรัพยากรดินน้ำรวมไปถึงผลกระทบจากมลพิษต่อชีวิต ต่อสิ่งแวดล้อมจนพวกเขาทนไม่ได้อีกต่อไป จำต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ครั้งแล้วครั้งเล่า

กรณีการลุกขึ้นมาปกป้องชุมชนของพี่น้องในเขตพื้นที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ที่ลุกขึ้นมาปกป้องอาชีพของชุมชน ปกป้องหลักการศาสนา (กรณีที่ดินวะกัฟ) อันได้รับผลกระทบจากการดำเนินการของโครงการโรงแยกก๊าซและท่อส่งก๊าซไทย-มาเลย์ จนเกิดความรุนแรงส่งผลให้ทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่ของรัฐ และชาวบ้านต่างได้รับความบาดเจ็บ เป็นคดีความถึงโรงถึงศาลอยู่ในปัจจุบันยังไม่จบสิ้น ไม่รวมถึงกรณีอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน ไม่ว่ากรณีการลุกขึ้นสู้ของพี่น้องชาวแม่เมาะ จังหวัดลำปางกับโรงไฟฟ้าถ่านหินลิกไนต์ที่ทำให้พวกเขาต้องประสบกับโรคภัยไข้เจ็บ ต้องอพยพย้ายถิ่นฐาน

กรณีพี่น้องเครือข่ายป่าและที่ดินที่ลุกขึ้นมาเพื่อขอความเป็นธรรมในการขอใช้ที่ดินในการทำมาหากิน ที่ดินซึ่งเป็นพื้นที่ปราศจากการครอบครองทางพฤตินัยอย่างยาวนาน หรือพื้นที่ทำกินที่มีการออกเอกสารสิทธิ์ที่ไร้ความถูกต้อง ทั้งในพื้นที่ภาคเหนือ เช่น กรณีที่เกิดขึ้นในจังหวัดลำพูนหรือในภาคใต้ทั้งในพื้นที่กระบี่ และสุราษฎร์ธานี ซึ่งประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเรื่องปากท้อง ที่ทำมาหากินต้องลุกขึ้นมาต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวโดยลำพังเป็นส่วนใหญ่ทั้งสิ้น

ก็อาจจะมีบ้างที่มีกลุ่มบุคคลหรือองค์กรเล็กๆ ขององค์กรพัฒนาเอกชน หรือที่รับรู้กันในสาธารณะว่าพวก “เอ็นจีโอ” (NGOs) ที่ทำงานในพื้นที่หรือในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายหรือทิศทางขององค์กรได้เข้าไปหนุนช่วย ซึ่งพวกเขาก็มักถูกพวกเจ้าของโครงการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐดิสเครดิต ถูกทำลายความชอบธรรมหรือใส่ร้ายป้ายสีต่างๆ นานาว่าเป็นพวกรับเงินต่างชาติ พวกขัดขวางการพัฒนา พวกยุยงปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้งให้เกิดความรุนแรงขึ้นในสังคม ฯลฯ

โดยกลุ่มบุคคลเหล่านั้นก็ไม่ค่อยมีโอกาสไม่มีช่องทางที่จะอธิบายข้อเท็จจริงต่อสาธารณะมากนัก พวกเขาจึงมักตกเป็นจำเลยของสังคมอยู่เสมอๆในทุกพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง เหตุการณ์กรณีความขัดแย้งจากโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จะลงมาดำเนินการในพื้นที่อำเภอหัวไทร กลุ่มคนเหล่านั้นก็อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่แตกต่างกันจากพื้นที่ของความขัดแย้งอื่นๆ ทำให้เนื้อหาของความขัดแย้งในหลายๆ พื้นที่จึงถูกบดบังด้วยวาทกรรมที่ว่า “มีกลุ่มเอ็นจีโอหรือพวกคนนอกพื้นที่เข้าไปหนุนหลัง ไปยุยงชาวบ้านให้ลุกขึ้นมาต่อสู้คัดค้าน” เสียเป็นส่วนใหญ่

อีกช่องทางเพียงน้อยนิดของภาคประชาชนที่จำต้องลุกขึ้นมาสู้รบตบมือกับโครงการขนาดใหญ่ ก็คือการเข้ามาของกลุ่มนักวิชาการอิสระ และสื่อสารมวลชนที่เป็นกลาง แต่กำลังของฝ่ายนักวิชาการอิสระจากสถาบันการศึกษาต่างๆ ทั้งในพื้นที่หรือจากคณะวิชาที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของความขัดแย้งนั้นๆ มีจำนวนน้อยมากๆ เมื่อเปรียบเทียบกับเหล่านักวิชาการที่รับจ้างกลุ่มทุนเจ้าของโครงการ กรณีของความขัดแย้งในพื้นที่อำเภอหัวไทรก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน

คำถามใหญ่จึงมีว่า แล้วกลไกทางการเมืองที่ถือว่าเป็นตัวแทนของประชาชน ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนในพื้นที่นั้นๆ มันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา ถึงไม่รู้ร้อนรู้หนาวต่อความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนของพวกเขา ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ส่วนใหญ่ต่างเลือกข้างไปยืนอยู่กับฝ่ายตรงข้ามกับประชาชนของตัวเองด้วยซ้ำ

อาจจะมีกรณียกเว้นอยู่บ้าง เช่น กรณีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดระยอง ที่ผนึกกำลังกันทั้ง 5 เทศบาลในพื้นที่ที่โรงไฟฟ้าถ่านหินจะลงไปดำเนินการในพื้นที่ พวกเขาร่วมกันลงสัตยาบันประกาศไม่ยอมรับโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จะมาสร้างในพื้นที่ของพวกเขา ประกาศจะต่อสู้ร่วมกันให้ถึงที่สุด จนฝ่ายดำเนินโครงการไม่อาจจะทานกระแสของการผนึกกำลังกันเช่นนั้นได้ ต้องประกาศยุติการดำเนินโครงการในพื้นที่อำเภอแหลมสิงห์ หรืออาจจะมีนักการเมืองท้องถิ่นเพียงบางคนในบางพื้นที่ ที่กล้าประกาศตัวยืนเคียงข้างกับประชาชนของเขา

แต่ประสบการณ์ที่พบเห็นมาในหลายๆ พื้นที่ เราจะพบกลุ่มบุคคลเช่นนี้ได้ไม่มากนัก โจทย์อันหนักอึ้งที่พยายามอธิบายข้อมูลเนื้อหา ความรู้สึกนึกคิดของผู้คนในพื้นที่อันเป็นที่มาของการไม่ยอมรับไม่เห็นด้วยอันเป็นมูลเหตุของความขัดแย้งจึงตกอยู่บนบ่าของประชาชนผู้อาบเหงื่อต่างน้ำ ผู้หาเช้ากินค่ำอยากเลี่ยงไม่ได้ หากที่ไหนอ่อนล้าก็จะพบกับความพ่ายแพ้ไปในที่สุด ทิ้งไว้แต่บาดแผลของความชอกช้ำในจิตใจและจิตสำนึกสาธารณะที่ถูกกัดกร่อนให้ไร้ค่าและหมดความหมายไปในที่สุด

ป้ายขนาดใหญ่ที่ปิดประกาศริมถนนทางเข้าเขตพื้นที่อำเภอหัวไทรทุกเส้นทางด้วยข้อความว่า “ให้คนหัวไทรเป็นผู้ตัดสินใจด้วยตัวเอง” ซึ่งเป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปว่า ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) เป็นผู้ทำขึ้น แน่นอนว่ามันโดดเด่นมีมูลค่าสูงกว่าธงผืนเล็กๆ และแผ่นป้ายที่ทำด้วยกระสอบปุ๋ย กระสอบอาหารกุ้งของฝ่ายผู้คัดค้านมากมายนัก แต่ด้วยจิตวิญญาณในแผ่นป้ายผมเชื่อว่าแผ่นป้ายของผู้คัดค้านมีมากกว่าหลายร้อยหลายพันเท่า ไม่ต้องพูดถึงข้อเท็จจริงบนแผ่นป้าย เพราะวันนี้หากจะมองกันอย่างตรงไปตรงมา ทั้งการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) บริษัทรับทำประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ (เจ้าของป้าย) ตลอดถึงนักวิชาการที่รับจ้างโครงการ พวกคุณก็คือคนนอกอำเภอหัวไทรเช่นกันใช่ไหมล่ะ

เปล่าประโยชน์ที่เราจะมาถกเถียงกันด้วยวาทกรรมเช่นนี้ ประสบการณ์ของความขัดแย้งที่ผ่านมาในหลายๆ พื้นที่ หลังจากการปะทะกันด้วยเวทีปราศรัยด่าทอ การโฆษณาประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบทั้งสองฝ่าย การจัดตั้งกองกำลังในแต่ละฝ่ายก็จะตามมา หลังจากนั้นปฏิบัติการตอบโต้ที่จะออกมาก็จะมีหลากหลายรูปแบบ อาจจะจบลงด้วยการบาดเจ็บ การต้องสูญเสียชีวิตของผู้คนหรือจะต้องมีผู้คนจำนวนหนึ่งจะต้องถูกจองจำหรือวนเวียนกันขึ้นโรงขึ้นศาล

ก็อยากจะวิงวอนนักการเมืองโดยเฉพาะนักการเมืองระดับชาติในพื้นที่ของอำเภอหัวไทร หรือของจังหวัดนครศรีธรรมราชทุกคนว่า ขอท่านอย่าทำเป็นทองไม่รู้ร้อนหรือทำเป็นเอาหูทวนลมต่อความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นอีกต่อไปเลย เพราะความขัดแย้ง ความรุนแรงกำลังจะเกิดขึ้น จะเกิดเหตุ.....ที่หัวไทร จะเกิดความขัดแย้งที่ส่งผลให้เกิดความรุนแรงแน่ๆ ในเวลาอันใกล้นี้ ชาวบ้านเขาฝากถามเพียงคำเดียวว่า ขอให้ท่านประกาศออกมาเลยได้ไหมว่าความขัดแย้งในพื้นที่ครั้งนี้ ท่านยืนอยู่ฝ่ายไหนกันแน่ อย่าทำเป็นเอาหูทวนลมและอย่าแทงกั๊ก...
กำลังโหลดความคิดเห็น