xs
xsm
sm
md
lg

"วิเชียร"ลั่นไม่ยึดติดเก้าอี้ ฝากขังทีมบึ้มทำคดีเองไม่ส่งดีเอสไอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-"วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี"ไม่สนกระแสเลื่อยขาเก้าอี้ ลั่น “ จะไปก็ไป ” ไม่ยึดติดเก้าอี้ เผยไม่มีการจัดฉากจับ 5 ผู้ต้องหาเตรียมบึ้ม ขณะที่ ผบก.น.6 หนึ่งในชุดจับกุมแจงไม่มีการจัดฉากแน่นอน คุม 5 ผู้ต้องหา ฝากขังศาล ยันตำรวจทำคดีเอง ไม่ส่งต่อดีเอสไอ

วานนี้ (26 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีการจับกุมผู้ต้อง 5 คนที่เตรียมก่อเหตุวางระเบิดแสวงเครื่องใส่กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯว่า ก่อนที่จะมีการจับกุม 1 วัน พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบก.น.6 ได้แจ้งให้ทราบแล้วว่า มีการติดตามกลุ่มดังกล่าวว่าจะมีการก่อเหตุก่อกวน ไม่ได้มีการจัดฉากแน่นอน

ทุกอย่างว่ากันไปตามการสอบสวน ก่อนจับกุมต้องมีการเตรียมข้อมูล เตรียมการ ต้องใช้เวลา การจับกุมก็ต้องใช้ความระมัดระวัง และผู้ต้องหาเองก็รับสารภาพ ไม่มีใครคิดที่จะจัดฉาก เอาบ้านเมืองมาล้อเล่น ไม่มีใครทำแบบนั้น ใครมาเอาตำรวจเป็นเป้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ใครคิดแบบนี้ก็ผิดแล้ว

**ลั่น “จะไปก็ไป”ไม่ยึดติดเก้าอี้
 

เมื่อถามถึงกระแสการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 5 คน เป็นการเลื่อนขาเก้าอี้ ผบ.ตร.หรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ตนเองเป็นตำรวจมาถึงยศ พล.ต.อ.แล้ว มาทำงานก็เพื่อแทนคุณแผ่นดิน ไม่เอาบ้านเมืองมาล้อเล่น ทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ถ้าใครคิดว่าตนเองทำหน้าที่ไม่เหมาะสม จะไปก็ไป ไม่ได้ยึดติดกับเก้าอี้ ส่วน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ 10)ที่ผ่านมา การทำงานต่างๆ ก็ได้รายงานให้ตนเองทราบตลอดตามขั้นตอน ไม่ได้ไปรายงานนายกรัฐมนตรีโดยตรง

ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ได้ให้หลักการทำงานแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ให้เป็นกลไกในการรักษาความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อยให้ได้ ในภาวะที่บ้านเมืองแตกแยกก็ต้องวางตัวเป็นกลาง โดยใช้หลักของกฎหมาย แต่หากกฎหมายไม่พอ ถ้าหากต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ต้องร้องขอรัฐบาล หรือให้ทหารมาช่วย แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น

**เน้นเจรจากลุ่มผู้ชุมนุม
พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมว่า เราพยายามเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมให้อยู่ในพื้นที่ที่เจ้าหน้าตำรวจจำกัด ไว้ให้ ผู้ชุมนุมอ้างว่ามีจำนวนผู้ชุมนุมเป็นจำนวนมากก็ต้องปิดการจราจรถนนราชดำเนินช่วงที่มีการชุมนุม กลุ่มผู้ชุมนุมของเวลา 2-3 วันเพื่อเรียกร้องเหตุผลในการชุมนุม เมื่อเป็นที่พอใจก็จะแยกย้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถห้ามไม่ให้มีการกางเต็นท์ ตั้งเวที ก็ต้องจำยอมผ่อนผันให้เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน

พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวต่อว่า ได้ไปตรวจความเรียบร้อยด้วยตัวเองทุกคืน เพื่อกำชับแนวทางปฏิบัติให้ชัดเจนว่า ไม่ให้ปิดล้อมทำเนียบฯ สภาฯ โดยเด็ดขาด และกำชับเรื่องความพร้อมในการทำหน้าที่ บางส่วนก็ต้องแก้ไขให้มีความพร้อมมากกว่านี้ นอกจากนั้น ยังมีปัญหาเรื่องการสับเปลี่ยนกำลังพล เพราะต้องนำกำลังจากพื้นที่ บช.ภ.1,2,7,ตชด.และ บช.ก.ซึ่งมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนมาช่วย เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนการทำงานได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ต.จำลอง ศรีเมือง บอกจะยกระดับการชุมนุมหากไม่ได้ตามข้อเรียกร้องเหตุการณ์จะซ้ำรอยครั้งที่ ผ่านมาหรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ตำรวจก็ยอมไม่ได้เหมือนกัน ยอมมาเยอะแล้ว ก็ทำให้เกิดปัญหาอย่างที่ว่า ตำรวจกลายเป็นเป้า ที่ผ่านมายอมให้เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งเราก็ต้องทำหน้าที่ของเรา

**“สุวัฒน์”แจงไม่มีการจัดฉาก

พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบก.น.6 หนึ่งในชุดจับกุม กล่าวถึงการจับกุมนายธวัชชัย หรือดำ เอี่ยมนาค พร้อมพวก 5 คน ขณะขี่ จยย.จะนำระเบิดแสวงเครื่องไปวางที่ทำเนียบรัฐบาล จากนั้นขยายผลยึดระเบิด เครื่องยิงระเบิด และกระสุนปืนจำนวนมาก ท่ามกลางกระแสข่าวว่า น่าจะเป็นการจัดฉาก ว่า คิดง่ายๆว่าเราจะไปจ้างใคร หรือจะไปจัดให้มารับโทษที่มีอัตราโทษจำคุกถึง 20 ปี คิดว่ามันไม่น่าเป็นไปได้ วิจารณญาณของแต่ละคน คิดว่าก็น่าจะมีอยู่แล้ว คงน่าจะคิดได้

พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวต่อว่า กลุ่มผู้ต้องหานั้น ชุดสืบสวนก็มีการติดตาม และมีทีมงานทำเรื่องนี้มานานตั้งแต่ปีที่แล้ว ที่เริ่มมีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้น รวมทั้งไม่ได้มีการทำเพียงลำพัง ประสานกับหน่วยงานหลายหน่วย เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ สันติบาล หน่วยข่าวทางทหาร หน่วยข่าวทางมหาดไทย เป็นต้น และทำข้อมูลกัน เป้าหมายก็คือ ทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้เกิดระเบิดต้องใช้ทุกวิธี ทั้งที่เปิดเผยได้ และเปิดเผยไม่ได้ โดยอยู่ในกรอบของกฎหมาย เราไม่ได้ต้องการจะไปไล่ หรือไล่จับอะไรใคร แต่เมื่อจำเป็นก็ต้องจับกุม

“ถ้าป้องกันไม่ได้ แล้วเกิดเหตุระเบิดก็ต้องจับคนร้ายให้ได้ เป็นเรื่องที่ทำมาเยอะ เพียงแต่ว่า อาจจะไม่เป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ กรณีดังกล่าวอาจจะเป็นข้อสงสัยได้ ก็เป็นสิทธิ์ที่จะสงสัย แต่ผมขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนทำโดยไม่คิดอะไร ว่าใครจะเอาเรื่องนี้เพื่อไปทำอะไร หรือเอาไปเป็นประเด็น แต่ทุกคนก็ทำตามหน้าที่”ผบก.น.6 กล่าว

**ตำรวจทำคดีเองไม่ส่งดีเอสไอ

พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เปิดเผยว่า ตามที่ทางตำรวจนครบาลได้จับกุมตัวผู้ต้องหา 5 คน ได้พร้อมอาวุธสงครามจำนวนมาก โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่าเตรียมจะมาก่อเหตุในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งทางตำรวจจะไม่ส่งตัวผู้ต้องหา หรือโอนคดีให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ดำเนินคดีในข้อหาก่อการร้าย เนื่องจากรัฐบาลได้ประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่กรุงเทพมหานครไปแล้ว โดยคดีดังกล่าวจึงไม่เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ หรือคดีเกี่ยวกับการก่อการร้ายเหมือนกับคดีที่ผ่านมา

พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวด้วยว่า การดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดทางตำรวจจะเป็นผู้ดำเนินการเอง โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อหามีอาวุธสงครามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตก่อน และในวันเดียวกันจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ไปฝากขังต่อศาลผลัดแรก โดยนายธวัชชัย ทาง สน.ดุสิต จะนำไปฝากขังต่อศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ส่วนผู้ต้องหาอีก 4 คน สน.บางมด เจ้าของพื้นที่จะคุมตัวไปฝากขังต่อศาลอาญา ธนบุรี และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขอคัดค้านการประกันตัวด้วย อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจได้ทำการสอบสวนผู้ต้องหา เพื่อขยายผลหาผู้อยู่เบื้องหลังหรือร่วมขบวนการต่อไป

**คุม 5 ผู้ต้องหาฝากขังศาล

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันเดียวกัน ร.ต.ต.ชวลิต น้ำใจสัตย์ พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ควบคุมตัวนายธวัชชัย เอี่ยมนาค อายุ 37 ปี อาชีพวินมอเตอร์ไซด์รับจ้าง อยู่บ้านเลขที่ 784 ถ.เจริญกรุง แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กทม.ผู้ต้องหา ข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 4 (3) มาตรา 38 และมาตรา 74 และกรณีพกวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง เตรียมก่อเหตุบริเวณที่ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มาขออำนาจศาลอาญาฝากขังผลัดแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.- 6 ก.พ. เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนระบุว่า การสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ ต้องสอบปากคำพยานอีก 3 ปาก รอผลการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหา และรอผลตรวจสอบวัตถุระเบิดของกลางพร้อมขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีนี้ของกลางเป็นวัตถุระเบิดที่ความร้ายแรง อีกทั้งผู้ต้องหามีพฤติการณ์เตรียมนำวัตถุระเบิดไปก่อเหตุความไม่สงบเรียบ ร้อยในบ้านเมือง และเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง หากผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวอาจจะหลบหนี หรือไปก่อเหตุอันตรายขึ้น ศาลตรวจสำนวนและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังตามคำร้อง

สำหรับผู้ต้องหาที่เหลืออีก 4 คน ถูกนำตัวไปขออำนาจศาลอาญาธนบุรี ฝากขังผลัดแรกเช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น