ดิอาจิโอฯ รุกวิสกี้ซูเปอร์ดีลักซ์รับตลาดในเอเชียโต ระเบิดโกลเบิ้ลแคมเปญ ”ดิอาจิโอ เวิลด์คลาส 2011” คาดสิ้นปีโต 20% กวาดแชร์ 75% รั้งบัลลังก์ผู้นำตลาด
นายอิศเรศ สุนทราวรกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์วิสกี้ บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าวิสกี้ตระกูลจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินการตลาดเชิงรุกวิสกี้ระดับซูเปอร์ดีลักซ์ในช่วงครึ่งปีแรก เพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีแนวโน้มว่าจะเติบโตมากกว่า 10% ในช่วงหลายปีนี้ภูมิภาคในเอเชีย ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย จากปีที่แล้ววิสกี้ซูเปอร์ดีลักซ์มูลค่า 500 ล้านบาท โต 20% หรือมีมูลค่า 600 ล้านบาท สวนกระแสตลาดเหล้านำเข้า 1.5 หมื่นล้านบาท ติดลบ 1-2% และวิสกี้ดีลักซ์ และพรีเมียม โต 6-8% ส่วนสแตนดาร์ด หดตัว 3-4%
“วิสกี้ระดับซูเปอร์ดีลักซ์เติบโต มาจากสภาพเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียเติบโตและโดดเด่นกว่าภูมิภาคอื่นๆ ส่งผลให้ประชากรมีกำลังการซื้อเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มสินค้าลักซ์ชัวร์รี่เติบโตเพิ่มมากขึ้น”
แผนการตลาดได้ทุ่มงบ 5 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญระดับโลก “ดิอาจิโอ เวิลด์คลาส 2011” ประกวดสุดยอดบาร์เทนเดอร์สร้างสรรค์เครื่องดื่มคอกเทลสูตรพิเศษ ครั้งแรกที่ประเทศไทย โดยใช้ส่วนผสมวิสกี้ซูเปอร์ดีลักซ์ อาทิ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ บลู กรีน โกลด์ ,กลุ่มวอดก้า และกลุ่มซิงเกิ้ลมอลท์ จะคัดเลือกผู้ที่ชนะไปประกวดการแข่งขันดิจิอาโอ เวิลด์ คลาส ที่ ประเทศอินเดีย เดือนกรกฎาคมนี้ ยังได้จัดปาร์ตี้เอ็กซ์คลูซีฟโดยให้ผู้บริโภคมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
การรุกตลาดวิสกี้ ซูเปอร์ดีลักซ์ ภายใต้”รีเสิร์ฟ พอร์ท” เพื่อสร้างพฤติกรรมการดื่มในรูปแบบคอกเทลสำหรับผู้บริโภคไทย จากปัจจุบันยังนิยมดื่มผสมกับน้ำและโซดา ขณะที่วิสกี้ซูเปอร์ ดีลักซ์ เจาะกลุ่มเป้าหมายอายุ 40 ปีขึ้นไปที่มีกำลังการซื้อสูง และต้องการความแปลกใหม่ โดยการทำตลาดผ่านบาร์เทนเดอร์ ช่วยสร้างประสบการณ์การดื่มใหม่ๆ
“ส่วนกรณีการติดฉลากบนบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในส่วนนี้ฝ่ายคอร์ปอเรจ จะเป็นผู้ดูแลและศึกษาแผนเพื่อรองรับกับนโยบายของภาครัฐ ขณะที่กระแสข่าวการเลี่ยงภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เราขอยืนว่า บริษัทดำเนินธุรกิจของบริษัทยึดหลักธรรมาภิบาลมาอย่างต่อเนื่อง”
สำหรับผลประกอบการปีรอบบัญชีกรกฎาคม – ธันวาคม (ครึ่งปีแรกของปี 2553) เติบโต 10% ตามเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มวิสกี้พรีเมียมและดีลักซ์ยอดขายเติบโต 13% ช่วยให้ส่วนแบ่งการตลาดรวมอยู่ที่ 80% ส่วนกลุ่มวอดก้าพรีเมียม ยอดขายเพิ่ม 20% ส่วนแบ่ง 30% ส่วนการทำตลาดวิสกี้ ซูเปอร์ดีลักซ์ ตั้งเป้ายอดขายโต 20% หรือมีส่วนแบ่ง 75%
นายอิศเรศ สุนทราวรกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์วิสกี้ บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าวิสกี้ตระกูลจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินการตลาดเชิงรุกวิสกี้ระดับซูเปอร์ดีลักซ์ในช่วงครึ่งปีแรก เพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีแนวโน้มว่าจะเติบโตมากกว่า 10% ในช่วงหลายปีนี้ภูมิภาคในเอเชีย ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย จากปีที่แล้ววิสกี้ซูเปอร์ดีลักซ์มูลค่า 500 ล้านบาท โต 20% หรือมีมูลค่า 600 ล้านบาท สวนกระแสตลาดเหล้านำเข้า 1.5 หมื่นล้านบาท ติดลบ 1-2% และวิสกี้ดีลักซ์ และพรีเมียม โต 6-8% ส่วนสแตนดาร์ด หดตัว 3-4%
“วิสกี้ระดับซูเปอร์ดีลักซ์เติบโต มาจากสภาพเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียเติบโตและโดดเด่นกว่าภูมิภาคอื่นๆ ส่งผลให้ประชากรมีกำลังการซื้อเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มสินค้าลักซ์ชัวร์รี่เติบโตเพิ่มมากขึ้น”
แผนการตลาดได้ทุ่มงบ 5 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญระดับโลก “ดิอาจิโอ เวิลด์คลาส 2011” ประกวดสุดยอดบาร์เทนเดอร์สร้างสรรค์เครื่องดื่มคอกเทลสูตรพิเศษ ครั้งแรกที่ประเทศไทย โดยใช้ส่วนผสมวิสกี้ซูเปอร์ดีลักซ์ อาทิ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ บลู กรีน โกลด์ ,กลุ่มวอดก้า และกลุ่มซิงเกิ้ลมอลท์ จะคัดเลือกผู้ที่ชนะไปประกวดการแข่งขันดิจิอาโอ เวิลด์ คลาส ที่ ประเทศอินเดีย เดือนกรกฎาคมนี้ ยังได้จัดปาร์ตี้เอ็กซ์คลูซีฟโดยให้ผู้บริโภคมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
การรุกตลาดวิสกี้ ซูเปอร์ดีลักซ์ ภายใต้”รีเสิร์ฟ พอร์ท” เพื่อสร้างพฤติกรรมการดื่มในรูปแบบคอกเทลสำหรับผู้บริโภคไทย จากปัจจุบันยังนิยมดื่มผสมกับน้ำและโซดา ขณะที่วิสกี้ซูเปอร์ ดีลักซ์ เจาะกลุ่มเป้าหมายอายุ 40 ปีขึ้นไปที่มีกำลังการซื้อสูง และต้องการความแปลกใหม่ โดยการทำตลาดผ่านบาร์เทนเดอร์ ช่วยสร้างประสบการณ์การดื่มใหม่ๆ
“ส่วนกรณีการติดฉลากบนบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในส่วนนี้ฝ่ายคอร์ปอเรจ จะเป็นผู้ดูแลและศึกษาแผนเพื่อรองรับกับนโยบายของภาครัฐ ขณะที่กระแสข่าวการเลี่ยงภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เราขอยืนว่า บริษัทดำเนินธุรกิจของบริษัทยึดหลักธรรมาภิบาลมาอย่างต่อเนื่อง”
สำหรับผลประกอบการปีรอบบัญชีกรกฎาคม – ธันวาคม (ครึ่งปีแรกของปี 2553) เติบโต 10% ตามเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มวิสกี้พรีเมียมและดีลักซ์ยอดขายเติบโต 13% ช่วยให้ส่วนแบ่งการตลาดรวมอยู่ที่ 80% ส่วนกลุ่มวอดก้าพรีเมียม ยอดขายเพิ่ม 20% ส่วนแบ่ง 30% ส่วนการทำตลาดวิสกี้ ซูเปอร์ดีลักซ์ ตั้งเป้ายอดขายโต 20% หรือมีส่วนแบ่ง 75%