xs
xsm
sm
md
lg

"สมบัติ"ส่อโดน ศาลนัดไต่สวนซ้ำ ไทยพับลิคพอร์ต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - กรรมเริ่มตามทัน "สมบัติ พานิชชีวะและพวก" หนาวแน่! ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องนัดที่ 2 หลังเจ้าของเดิม "ไทยพับลิคพอร์ต" ยื่นหลักฐานเด็ดพบแจ้งเท็จเจ้าพนักงาน ใช้วิชามารลงมติผู้ถือหุ้นทั้งที่ไม่ได้ประชุมจริง ลดทุนแล้วเพิ่มทุน ตะลึงระบุเอง หอบเงินสด 360 ล้าน ชำระค่าหุ้น!

จากกรณีที่นายวิทวัส ขันมั่น ผู้ถือหุ้นบริษัท ไทยพับลิคพอร์ต ยื่นฟ้องนายสมบัติ พานิชชีวะ เป็นจำเลยที่ 3 ข้อหา "ให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ" โดยนายพูนพิพัฒน์ โมสิกมาศ โจทก์ผู้รับมอบอำนาจจากนายวิทวัส เปิดเผยความคืบหน้าหลังจากศาลรับฟ้องเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 53 ว่า ศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องไปแล้ว เมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา ผลการไต่สวนพบพิรุธของจำเลย ศาลจึงนัดไต่สวนอีกครั้งในวันที่ 16 มีนาคมนี้

นายพูนพิพัฒน์กล่าวว่า คำร้องมีมูล ศาลจึงประทับรับฟ้อง ที่สำคัญผลการไต่สวนมูลฟ้องเมื่อวันที่ 18 ม.ค.ทำให้นายวิทวัส ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ไทยพับลิคพอร์ต เริ่มมีความหวังอีกครั้ง จากพยายามต่อสู้กับนายสมบัติและพวกมาตั้งแต่ถูกยึดกิจการอย่างไม่เป็นธรรมเมื่อหลายปีก่อน

ทั้งนี้ พบหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรกรณีที่พวกของนายสมบัติแจ้งต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร ยืนยันการชำระหุ้นว่าได้นำเงินสด 360 ล้านบาท เพื่อชำระค่าซื้อหุ้นเพิ่มทุน

หนังสือยืนยันการชำระหุ้นดังกล่าว มีเหตุให้เชื่อได้ว่าน่าจะเป็นการแจ้งเท็จต่อเจ้าพนักงาน เพราะหลังจากนายสมบัติและพวก เข้าฮุบกิจการโดยการสนับสนุนของ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) มีการยื่นขอเพิ่มทุนบริษัทฯ เป็นเงิน 360 ล้าน อ้างว่าเพื่อชำระหุ้นสามัญ 45 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 8 บาท

นายเรืองศักดิ์ เชาวรัตน์ (จำเลยที่ 1) กับนายธเนศ พานิชชีวะ (จำเลยที่ 2) ในฐานะกรรมการ ระบุในหนังสือลงวันที่ 23 ธ.ค.46 ว่าในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจ ขอยืนยันการชำระหุ้น 360 ล้านบาท เรียบร้อยแล้ว โดยเงินจำนวนดังกล่าว ได้เก็บรักษาไว้ที่ตู้นิรภัยในสำนักงานของบริษัทฯ

"ไม่น่าเป็นไปได้ ว่าการซื้อขายหุ้นเพิ่มทุนจะมีการนำเงินสดมาชำระค่าหุ้น หรือชำระแล้วนำไปเก็บไว้ในตู้เซฟจริงที่พวกนายสมบัติอ้าง" นายพูนพิพัฒน์ตั้งข้อสังเกตและว่า นายทะเบียนฯ ได้รับจดทะเบียนจากนายสมบัติ นายธเนศและนายเรืองศักดิ์ว่าบริษัทฯ มีการดำเนินการไปตามมติการประชุมผู้ถือหุ้นทั้งๆ ที่ไม่ได้มีการประชุมจริง นายทะเบียนมีการรับจดทะเบียนมติพิเศษลดทุน มติการเพิ่มทุนและการแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิจากการร่วมกันแจ้งเท็จของจำเลยทั้ง 3 คน

ในบรรยายคำฟ้องระบุด้วยว่า "เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชน หรือเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยเจตนาทุจริตของจำเลยทั้ง 3 ด้วยการดำเนินการจดทะเบียนลดทุจากทุน 375 ล้านบาท กระทั่งทุนจดทะเบียนเหลือ 30 ล้านบาท แล้วจดทะเบียนเพิ่มทุนกระทั่งทุนจดทะเบียน 420 ล้านบาท และได้ใช้หรืออ้างการจดทะเบียนจากลดทุนเป็นเพิ่มทุนเพื่อให้จำเลยทั้ง 3 กับเครือข่ายของจำเลยที่ 3 เข้าซื้อหุ้น ได้เป็นผู้ถือหุ้นข้างมากของบริษัท ไทยพับลิคพอร์ต โดยประการที่น่าจะทำความเสียหายให้แก่โจทก์และประชาชน"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพิ่มเติมว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ยังมีคดีที่ นายจิระ รัตนะรัต ประธาน The Siam Chemicals Public Co., Ltd. ผู้ก่อตั้งบริษัท ไทยพับลิคพอร์ต ฟ้องกลับ บสท.ในข้อหา กลั่นแกล้งอมใบหุ้น-ประนอมหนี้สองมาตรฐานและเลือกปฏิบัติ ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นศาลและนายจิระได้ส่งข้อมูลให้กรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว.
กำลังโหลดความคิดเห็น