นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัการ บริษัทฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวซอรี่ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัทของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เพอร์เฟค ในการจัดทำคำเสนอซื้อหุ้น บริษัท แอ๊ดว้านซ์เพ้นท์ แอนด์ เคมิเคิล (ไทยแลนด์ ) จำกัด (มหาชน) หรือ APC เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการหารือกับทางบริษัทเอ็นเนอร์ยี่ ฯ เพื่อที่จะปรับราคาทำคำเสนอซื้อหุ้น (เทนเดอร์ออฟเฟอร์) หลังจากที่ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งให้แก้ไขจากที่ไม่เป็นตามหลักเกณฑ์ของทางก.ล.ต.ส่วนราคาทำคำเสนอซื้อนั้นคาดว่าจะแจ้งต่อก.ล.ต.ใน 1-2 วันนี้ แต่ราคา อาจจะไม่ถึงระดับที่ทางที่ปรึกษาทางการเงินอิสระประเมินไว้ที่ 0.35บาทต่อหุ้น
" เดิมที่บริษัทกำหนดราคาเทนเดอร์ฯที่ 0.10 บาท เนื่องจากเป็นระดับราคาที่บริษัทได้ประโยชน์ทางภาษี APC มีผลขาดทุนอยู่ เพราะ หากคิดมูลค่าของ APC นั้นแทบไม่มีมูลค่าจากที่ผลประกอบการขาดทุน 9 เดือนมีผลขาดทุนสะสม 250 ล้านบาท ส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ 27 ล้านบาท และหยุดเทรดตั้งแต่ปี 48 แต่หากคิดตามเกณฑ์ของก.ล.ต.มูลค่าหุ้นของเอ็นเนอร์ยี่ฯอยู่ที่ 35 บาทต่อหุ้น เมื่อนำไปคูณกับมูลค่าแลกหุ้นแล้วราคาเทนเดอร์ฯจะอยู่ที่ 0.30 บาทต่อหุ้น ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะอยู่ที่เท่าไร " นานวรชาติ กล่าว
ทั้งนี้ ตั้งแต่บริษัทได้เปิดรับซื้อหุ้นตั้งแต่ปลายปี 53นั้น ขณะนี้ยังไม่มีผู้ถือหุ้นรายย่อยนำหุ้นมาขายเลย เพียงแต่ติดต่อสอบถามว่าหุ้นจะกลับมาซื้อขายเมื่อไร โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถทำเทนเดอร์ฯเสร็จประมาณเดือนกุมภาพันธ์ และจะยื่นคำขอต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ในเดือนมีนาคมในการกลับเข้ามาซื้อขาย และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ประมาณปลายเมษายนหรือ ต้นพฤษภาคมนี้ และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัทเอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH
สำหรับการที่ APC ยังมีผลขาดทุนสะสมอยู่ที่ 250 ล้านบาท บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะล้างขาดทุนสะสมด้วยวิธีใด ซึ่งหากล้างด้วยผลประกอบการต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปี แต่หากลดทุนสามารถทำได้เลย โดยบริษัทจะเสนอให้ทางผู้ถือหุ้นมีการออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้น ส่วนผู้ถือหุ้นจากที่ติดลบ 27 ล้านบาท ขณะนี้เหลือ 0 แล้วจากที่กลุ่มเจ้าของเดิมได้มีการซื้อสินทรัพย์กลับคืนไป และหากบริษัทกลับเข้ามาซื้อขายก็จะมีส่วนผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 320 ล้านบาท จากเป็นส่วนผู้ถือหุ้นของ EARTH
นายขจรพงศ์ คำดี กรรมผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปี 54 จะเพิ่มขึ้น 40% จากปี 53 คาดว่าจะอยู่ที่ 1,800 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทจะมีการก่อสร้างคลังสินค้าใหม่ที่จะส่งผลให้บริษัทกำลังผลิตถ่านหินอีก 6-8 หมื่นตันต่อเดือน โดยบริษัทจะส่งสินค้าไปจำหน่ายเองที่จีน จากปัจจุบันที่ร่วมทำกับพันธมิรและบริษัทวางแผนระยะยาวที่จะเข้าไปซื้อเหมืองถ่านหิน ในอนาคต
" เดิมที่บริษัทกำหนดราคาเทนเดอร์ฯที่ 0.10 บาท เนื่องจากเป็นระดับราคาที่บริษัทได้ประโยชน์ทางภาษี APC มีผลขาดทุนอยู่ เพราะ หากคิดมูลค่าของ APC นั้นแทบไม่มีมูลค่าจากที่ผลประกอบการขาดทุน 9 เดือนมีผลขาดทุนสะสม 250 ล้านบาท ส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ 27 ล้านบาท และหยุดเทรดตั้งแต่ปี 48 แต่หากคิดตามเกณฑ์ของก.ล.ต.มูลค่าหุ้นของเอ็นเนอร์ยี่ฯอยู่ที่ 35 บาทต่อหุ้น เมื่อนำไปคูณกับมูลค่าแลกหุ้นแล้วราคาเทนเดอร์ฯจะอยู่ที่ 0.30 บาทต่อหุ้น ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะอยู่ที่เท่าไร " นานวรชาติ กล่าว
ทั้งนี้ ตั้งแต่บริษัทได้เปิดรับซื้อหุ้นตั้งแต่ปลายปี 53นั้น ขณะนี้ยังไม่มีผู้ถือหุ้นรายย่อยนำหุ้นมาขายเลย เพียงแต่ติดต่อสอบถามว่าหุ้นจะกลับมาซื้อขายเมื่อไร โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถทำเทนเดอร์ฯเสร็จประมาณเดือนกุมภาพันธ์ และจะยื่นคำขอต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ในเดือนมีนาคมในการกลับเข้ามาซื้อขาย และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ประมาณปลายเมษายนหรือ ต้นพฤษภาคมนี้ และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัทเอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH
สำหรับการที่ APC ยังมีผลขาดทุนสะสมอยู่ที่ 250 ล้านบาท บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะล้างขาดทุนสะสมด้วยวิธีใด ซึ่งหากล้างด้วยผลประกอบการต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปี แต่หากลดทุนสามารถทำได้เลย โดยบริษัทจะเสนอให้ทางผู้ถือหุ้นมีการออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้น ส่วนผู้ถือหุ้นจากที่ติดลบ 27 ล้านบาท ขณะนี้เหลือ 0 แล้วจากที่กลุ่มเจ้าของเดิมได้มีการซื้อสินทรัพย์กลับคืนไป และหากบริษัทกลับเข้ามาซื้อขายก็จะมีส่วนผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 320 ล้านบาท จากเป็นส่วนผู้ถือหุ้นของ EARTH
นายขจรพงศ์ คำดี กรรมผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปี 54 จะเพิ่มขึ้น 40% จากปี 53 คาดว่าจะอยู่ที่ 1,800 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทจะมีการก่อสร้างคลังสินค้าใหม่ที่จะส่งผลให้บริษัทกำลังผลิตถ่านหินอีก 6-8 หมื่นตันต่อเดือน โดยบริษัทจะส่งสินค้าไปจำหน่ายเองที่จีน จากปัจจุบันที่ร่วมทำกับพันธมิรและบริษัทวางแผนระยะยาวที่จะเข้าไปซื้อเหมืองถ่านหิน ในอนาคต