xs
xsm
sm
md
lg

KKห่วงดบ.ขาขึ้นทำNIMหด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - เกียรตินาคินเดินหน้าขยายฐานสินเชื่อ-เงินฝาก ตั้งเป้าปล่อยกู้เพิ่ม 16-19% พร้อมลุยเปิดสาขาเพิ่มอีก 11-16 แห่ง ขณะที่ผลการดำเนินงานปีนี้คาดทรงตัวจากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นทำ NIM ลด

นายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (KK) กล่าวว่า ในปี 2554 นี้ ธนาคารตั้งเป้าอัตราการเติบโตสินเชื่อรวมไว้ที่ 16-19% จากยอดคงค้างสินเชื่อ ณ สิ้นปี 53 ที่ 107,726 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสินเชื่อเช่าซื้อตั้งเป้าขยายตัว 14-17% จากยอดคงค้างสิ้นปี 53 ที่ 77,020 ล้านบาท สินเชื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยตั้งเป้า 12-15% จาก 15,749 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ ธนาคารตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มอีก 11-16 สาขา จากปัจจุบันที่มีสาขารวมสำนักงานใหญ่ 62 แห่ง โดยธนาคารจะยังคงดำเนินนโยบายเน้นการควบคุมและรักษาคุณภาพสินทรัพย์ โดยควบคุมระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ให้ต่ำกว่า 4% จากปัจจุบันที่มีเอ็นพีแอลก่อนหักสำรองตามเกณฑ์ธปท.อยู่ที่ 4.43%

ด้านผลการดำเนินงานทั้งในส่วนของรายได้และกำไรในปี 2554 นั้น ยังคงต้องคำนึงถึงทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งมีผลกระทบต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย(NIM)ที่ลดลง โดยธนาคารพยายาม NIM ให้อยู่ที่ประมาณ 4.5-5% ลดลงจากปี 2553 ที่อยู่ระดับ 5.5% ขณะที่ผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น (ROE) ในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 13-15% ซึ่งใกล้เคียงกับปีก่อนที่อยู่ระดับ 14.7%

"ในปีนี้ธนาคารคงไม่ได้คาดหวังผลงานที่สวยหรูนัก แต่จะพยายามรักษาระดับการเติบโตของผลประกอบการให้ใกล้เคียงกับปีก่อน เนื่องจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้ส่วนต่างลดลง"

นายธวัชไชยกล่าวอีกว่า การจ่ายเงินปันผลของธนาคารจากผลการดำเนินงานปี 2553 นั้น โดยหลักการแล้วหากธนาคาร มีกำไรที่เพิ่มขึ้นก็จะสามารถจ่ายปันผลเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนได้ จากในปี 2552 ธนาคารมีการจ่ายเงินปันผลต่อหุ้นที่ 2 บาท อย่างไรก็ตาม ความชัดเจนในการจ่ายเงินปันผลจะต้องรอการประชุมของคณะกรรมการที่จะมีขึ้นในเดือน มี.ค. นี้

ขณะที่นางสาวฐิตินันท์ วัธนเวคิน กรรมการและประธานสายธุรกิจเงินฝากและการตลาด ธนาคารเกียรตินาคินกล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านการระดมเงินฝากในปีนี้จะขยายเพิ่มไปในทิศทางเดียวกันกับการเติบโตของสินเชื่อรวม โดยเน้นเงินฝากระยะกลางถึงยาวตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป รวมถึงการขยายฐานลูกค้าไปสู่รายย่อย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ฝากรายละ 1 ล้านบาท จาก ณ สิ้นปี 53 มีสัดส่วนอยู่ที่ 30%
กำลังโหลดความคิดเห็น