นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญ
พิจารณาศึกษา ร่าง พ.ร.บ.เงินเดือนข้าราชการตำรวจ พ.ศ... เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมาธิการได้
พิจารณาศึกษาในร่างกฏหมายดังกล่าวแล้วเสร็จ และจะส่งให้ประธานสภาผู้แทนราษฏร บรรจุเข้า
วาระการประชุมในสองสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ สาระสำคัญที่เป็นประโยชน์กับองค์กรตำรวจอย่างยิ่ง คือ การพิจารณาขึ้นค่าตอบแทน
เพิ่มเติมให้กับข้าราชการตำรวจ โดยเฉพาะชั้นประทวน จากเพดานเดิม 22,500 บาท และร่าง ของ
คณะรัฐมนตรี เสนอให้ปรับขึ้นเป็น 25,700 บาท แต่ทางคณะกรรมาธิการได้เสนอให้ปรับขึ้นเป็น
33,450 บาท ซึ่งถือว่า ทะลุแท่งเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับนายร้อย และเป็นการขึ้นเงินเดือนตามสภาวะ
เศรษฐกิจ โดยขึ้นตามฐานเงินเดือนของทหารที่ปรับขึ้นไปก่อนหน้านี้แล้ว และยังถือเป็นขวัญ และ
กำลังใจ ที่ไม่เกี่ยวกับประสิทธิภาพในการทำงาน
นายสาธิต กล่าวว่า คาดว่าที่ประชุมสภา จะสามารถพิจารณาผ่านร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ได้ก่อน
เดือนเม.ย. ซึ่งจะเป็นช่วงก่อนการเลือกตั้ง โดยได้มีการกำหนดให้มีผลย้อนหลังถึงเดือน ต.ค.53 โดย
ต้องใช้งบประมาณเพื่อการนี้ปีละ 365 ล้านบาท ซึ่งจะหมายความว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ขึ้นเงินเดือน
จะได้ประโยชน์ถึง 2 เด้ง คือนอกจากเงินเดือนจะขึ้นตามพ.ร.บ.นี้แล้ว ยังได้ขึ้นเงินเดือน 5 % ของ กพ.
ตามที่รัฐบาลเคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งจากการดูจำนวนเจ้าหน้าที่ตำวรจทั่วประเทศแล้ว พบว่ามี
เจ้าหน้าตำรวจที่ได้รับอานิสงส์ จากพ.ร.บ.นี้ มากที่สุดคือ ระดับชั้นยศดาบตำรวจ 27,429 คน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การขึ้นเงินเดือนครั้งนี้จะทำให้ปัญหาด้านภาพลักษณ์ และการปฏิบัติ
หน้าที่ของตำรวจดีขึ้นหรือไม่ โดยเฉพาะตำรวจมะเขือเทศ นายสาธิต กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่อง
การปฏิบัติหน้านี้ แต่เป็นการปรับตามสภาวะเงินเฟ้อของเศรษฐกิจปัจจุบัน ส่วนเรื่องประสิทธิภาพ
การทำงาน ต้องไปตามกันตามองค์กรนั้นๆ และเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นการตกเขียว หรือเอาใจตำรวจเพื่อหวัง
ผลต่อการเมืองในอนาคต
** ส.ก.-ส.ข .ก็จะขอเพิ่มบ้าง
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านั้น สมาชิกสภาเขต (ส.ข.) และ สมาชิกสภากรุงเทพฯ(ส.ก.)
ได้ทำเรื่องเสนอไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอให้ปรับขึ้นเงินเดือน โดย ส.ข.ขอปรับจาก 10,500 บาท
เป็น 15,250 บาท ส.ก.ขอปรับจาก 41,000 บาท เป็น 54,000 บาท
ส่วนประธานสภาเขต ขอปรับจาก 12,000 บาท เป็น 19,050 บาท ประธานสภากทม. ขอ
ปรับเป็น 78,620 บาท และ รองประธานสภา ขอปรับเป็น 64,970 บาท
**ขอเงินประจำตำแหน่งหน.ส่วนราชการ
นายธัญศักดิ์ แสงศรีจันทร์ นายกสมาคมข้าราชการส่วนตำบลและเทศบาล เปิดเผยว่า การ
ปรับขึ้นเงินเดือนของข้าราชการส่วนตำบล และเทศบาล จะมีการปรับขึ้นอย่างแน่นอน แต่โครงสร้าง
อาจจะแตกต่างกับในส่วนของข้าราชการพลเรือน ที่เป็นแบบแท่งที่มีการปรับขึ้นในปีนี้ 5 % ซึ่งจะมีผล
ในเดือนเม.ย.
ในส่วนของข้าราชการตำบล และเทศบาลเองก็เชื่อว่าจะปรับขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน เป็น
ไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ และการปรับขึ้นเงินเดือนจะต้องไม่ต่ำกว่าข้าราชการพลเรือน จึงไม่มี
อะไรต้องน่าเป็นห่วง เพราะจะมีการปรับเพิ่มตามกันเช่นนี้เป็นประจำทุกปี
ดังนั้น ในส่วนของข้าราชการส่วนตำบล และเทศบาลเองจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ส่วนตำบล และเทศบาลทั่วประเทศ กว่า 9,000 แห่ง จึงยังไม่มีการเคลื่อนไหวเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตามได้มีการเสนอให้มีการปรับค่าตอบแทนในส่วนของหัวหน้าส่วนราชการ ทั้ง
ตำแหน่งผู้อำนวยการกอง ผู้อำนวยการส่วน ให้มีเงินประจำตำแหน่งเหมือนปลัดองค์การบริหารเทศบาล
และปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล
โดยปัจจุบัน ปลัดซี 6 และซี 7 มีเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 3,500 บาท ในขณะที่
ตำแหน่งปลัดซี 8 มีเงินประจำตำแหน่ง เดือนละ 5,600 บาท ในส่วนของหัวหน้าส่วนราชการได้มีการ
เสนอขั้นต่ำเดือนละ 2,500-3,000 บาท ขณะนี้เรื่องได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการในส่วน
ของหลักการแล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างการรอพิจารณาความเห็นชอบของคณะกรรมาการ ทั้งนี้ จะ
พยายามผลักดันให้มีการเพิ่มเงินประจำตำแหน่งเร็วๆ นี้แน่นอน
พิจารณาศึกษา ร่าง พ.ร.บ.เงินเดือนข้าราชการตำรวจ พ.ศ... เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมาธิการได้
พิจารณาศึกษาในร่างกฏหมายดังกล่าวแล้วเสร็จ และจะส่งให้ประธานสภาผู้แทนราษฏร บรรจุเข้า
วาระการประชุมในสองสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ สาระสำคัญที่เป็นประโยชน์กับองค์กรตำรวจอย่างยิ่ง คือ การพิจารณาขึ้นค่าตอบแทน
เพิ่มเติมให้กับข้าราชการตำรวจ โดยเฉพาะชั้นประทวน จากเพดานเดิม 22,500 บาท และร่าง ของ
คณะรัฐมนตรี เสนอให้ปรับขึ้นเป็น 25,700 บาท แต่ทางคณะกรรมาธิการได้เสนอให้ปรับขึ้นเป็น
33,450 บาท ซึ่งถือว่า ทะลุแท่งเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับนายร้อย และเป็นการขึ้นเงินเดือนตามสภาวะ
เศรษฐกิจ โดยขึ้นตามฐานเงินเดือนของทหารที่ปรับขึ้นไปก่อนหน้านี้แล้ว และยังถือเป็นขวัญ และ
กำลังใจ ที่ไม่เกี่ยวกับประสิทธิภาพในการทำงาน
นายสาธิต กล่าวว่า คาดว่าที่ประชุมสภา จะสามารถพิจารณาผ่านร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ได้ก่อน
เดือนเม.ย. ซึ่งจะเป็นช่วงก่อนการเลือกตั้ง โดยได้มีการกำหนดให้มีผลย้อนหลังถึงเดือน ต.ค.53 โดย
ต้องใช้งบประมาณเพื่อการนี้ปีละ 365 ล้านบาท ซึ่งจะหมายความว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ขึ้นเงินเดือน
จะได้ประโยชน์ถึง 2 เด้ง คือนอกจากเงินเดือนจะขึ้นตามพ.ร.บ.นี้แล้ว ยังได้ขึ้นเงินเดือน 5 % ของ กพ.
ตามที่รัฐบาลเคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งจากการดูจำนวนเจ้าหน้าที่ตำวรจทั่วประเทศแล้ว พบว่ามี
เจ้าหน้าตำรวจที่ได้รับอานิสงส์ จากพ.ร.บ.นี้ มากที่สุดคือ ระดับชั้นยศดาบตำรวจ 27,429 คน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การขึ้นเงินเดือนครั้งนี้จะทำให้ปัญหาด้านภาพลักษณ์ และการปฏิบัติ
หน้าที่ของตำรวจดีขึ้นหรือไม่ โดยเฉพาะตำรวจมะเขือเทศ นายสาธิต กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่อง
การปฏิบัติหน้านี้ แต่เป็นการปรับตามสภาวะเงินเฟ้อของเศรษฐกิจปัจจุบัน ส่วนเรื่องประสิทธิภาพ
การทำงาน ต้องไปตามกันตามองค์กรนั้นๆ และเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นการตกเขียว หรือเอาใจตำรวจเพื่อหวัง
ผลต่อการเมืองในอนาคต
** ส.ก.-ส.ข .ก็จะขอเพิ่มบ้าง
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านั้น สมาชิกสภาเขต (ส.ข.) และ สมาชิกสภากรุงเทพฯ(ส.ก.)
ได้ทำเรื่องเสนอไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอให้ปรับขึ้นเงินเดือน โดย ส.ข.ขอปรับจาก 10,500 บาท
เป็น 15,250 บาท ส.ก.ขอปรับจาก 41,000 บาท เป็น 54,000 บาท
ส่วนประธานสภาเขต ขอปรับจาก 12,000 บาท เป็น 19,050 บาท ประธานสภากทม. ขอ
ปรับเป็น 78,620 บาท และ รองประธานสภา ขอปรับเป็น 64,970 บาท
**ขอเงินประจำตำแหน่งหน.ส่วนราชการ
นายธัญศักดิ์ แสงศรีจันทร์ นายกสมาคมข้าราชการส่วนตำบลและเทศบาล เปิดเผยว่า การ
ปรับขึ้นเงินเดือนของข้าราชการส่วนตำบล และเทศบาล จะมีการปรับขึ้นอย่างแน่นอน แต่โครงสร้าง
อาจจะแตกต่างกับในส่วนของข้าราชการพลเรือน ที่เป็นแบบแท่งที่มีการปรับขึ้นในปีนี้ 5 % ซึ่งจะมีผล
ในเดือนเม.ย.
ในส่วนของข้าราชการตำบล และเทศบาลเองก็เชื่อว่าจะปรับขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน เป็น
ไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ และการปรับขึ้นเงินเดือนจะต้องไม่ต่ำกว่าข้าราชการพลเรือน จึงไม่มี
อะไรต้องน่าเป็นห่วง เพราะจะมีการปรับเพิ่มตามกันเช่นนี้เป็นประจำทุกปี
ดังนั้น ในส่วนของข้าราชการส่วนตำบล และเทศบาลเองจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ส่วนตำบล และเทศบาลทั่วประเทศ กว่า 9,000 แห่ง จึงยังไม่มีการเคลื่อนไหวเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตามได้มีการเสนอให้มีการปรับค่าตอบแทนในส่วนของหัวหน้าส่วนราชการ ทั้ง
ตำแหน่งผู้อำนวยการกอง ผู้อำนวยการส่วน ให้มีเงินประจำตำแหน่งเหมือนปลัดองค์การบริหารเทศบาล
และปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล
โดยปัจจุบัน ปลัดซี 6 และซี 7 มีเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 3,500 บาท ในขณะที่
ตำแหน่งปลัดซี 8 มีเงินประจำตำแหน่ง เดือนละ 5,600 บาท ในส่วนของหัวหน้าส่วนราชการได้มีการ
เสนอขั้นต่ำเดือนละ 2,500-3,000 บาท ขณะนี้เรื่องได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการในส่วน
ของหลักการแล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างการรอพิจารณาความเห็นชอบของคณะกรรมาการ ทั้งนี้ จะ
พยายามผลักดันให้มีการเพิ่มเงินประจำตำแหน่งเร็วๆ นี้แน่นอน