00 แปลกใจระคนสงสัยไม่หายกับคำพูดและท่าทีของคนในรัฐบาลไทย ไม่ว่าจะเป็น นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ“เทพเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่เป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ในกรณีคดีของ วีระ สมความคิด ตอนแรกบอกว่า “รุกล้ำแดน” เขา มีความผิดให้เคารพกระบวนการยุติธรรมของกัมพูชา แต่พอล่าสุดศาลที่โน่นบอกว่า จะมีการพิจารณาตัดสินคดีในวันที่ 1 ก.พ. คนพวกนี้ก็ออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “นานไป” และขอร้องให้ร่นเวลาให้ “เร็วขึ้น” บ๊ะ มันอะไรกันแน่ ขอกันได้ด้วยหรือ
00 แต่พอย้อนกลับไปดูคำพูดเมื่อตอนถูกจับใหม่ๆ ดันไปพูดแบบ “ยกแผ่นดิน” ให้เขาหน้าตาเฉย แทนที่จะช่วยพูดเพื่อให้ข้อต่อสู้เรื่องยืนอยู่ “บนดินแดนไทย” หรืออย่างมากก็ยังไม่พิสูจน์ชัด ดันไปยอมรับผิดตั้งแต่แรก ทำให้คนไทยไม่มีทางสู้ เพราะฝ่ายกัมพูชาได้นำเอาคำพูดของ รองนายกฯไทย ไปยืนยันมันก็จบเห่ และที่บอกว่า “ช่วยเต็มที่” นั้นที่จริงแล้ว “ ช่วยให้วีระติดคุกเต็มที่ ” หรือเปล่า และการที่นายกฯอภิสิทธิ์ เรียกระดมทุกฝ่าย เพื่อหาทางช่วยเหลือนั้นมองในแง่จิตวิทยาอาจจะมองได้ว่า ไม่ได้งอมืองอเท้า เท่านั้นเอง
00 ไม่อยากจะพูดให้เสียกำลังใจ แต่มาถึงตอนนี้ก็ได้แต่ทำใจแล้วว่า สำหรับ วีระ สมความคิด คงต้องติดคุกที่นั่นอีกระยะหนึ่ง เพราะนี่คือ “เกม” ที่ “พวกเขา” กำหนดเอาไว้ล่วงหน้าจริงๆ ขณะเดียวกันบังเอิญว่าได้อ่านข่าวที่น่าสนใจชิ้นหนึ่งในหน้า “อินโดจีน” ของ “เมเนเจอร์ ออนไลน์” ที่ตั้งข้อสังเกตในเรื่องการ “สร้างเรื่อง” เพื่อ “กลบเรื่อง” ของฮุนเซน เพราะระหว่างที่ วีระ กับพวกถูกจับตามแนวชายแดนนั้น ในช่วงเวลาเดียวกันทางการกัมพูชากำลังลงนามกับเวียดนาม เกี่ยวกับการจัดทำ “แผนที่ชายแดน” กัมพูชา-เวียดนาม พอดี ซึ่งที่ผ่านมาได้ถูกฝ่ายค้าน “สมรังสี” โจมตีมาตลอดว่า “ขายชาติ” ให้เวียดนาม ดังนั้นกรณีของ วีระ จึงถูกสงสัยว่าจะต้อง “ลากยาว” ไปอีกพักหนึ่ง อย่างน้อยเพื่อให้เรื่องชายแดนด้านโน้นซาลงไปก่อน
00 ต้องขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และให้กำลังใจกับครอบครัวของพี่น้องทหารหาญที่เสียชีวิตถึง 4 ศพ และบาดเจ็บ นับสิบราย ซึ่งผู้เสียชีวิตหนึ่งในนั้นเป็น ผบ.ร้อย ร.15121 ที่ตั้งฐานปฏิบัติการชั่วคราว จากการซุ่มโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้อาวุธปืนทั้งเอ็ม 16 และปืนพกสั้นกว่า 50 กระบอก พร้อมกระสุนหลายพันนัดหายไปด้วย ที่น่าเจ็บปวดก็คือ เหตุการณ์ร้าย เกิดขึ้นขณะที่ รองนายกฯด้าน“ความมั่นคง” สุเทพ เทือกสุบรรณ ควงคู่ไปกับ ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอาชา คล้อยหลังจากการลงพื้นที่ไม่นาน อย่างนี้เขาเรียกว่า “โจรกระทืบหน้า” จนเสียรังวัด หลังโม้มาหลายวันทำนองว่า “คุมสถานการณ์” ชายแดนใต้ลงได้แล้ว !!
00 นาทีนี้ ปัญหาภายในพรรคเพื่อไทยยังน่าติดตามต่อไปว่าจะลงเอยแบบไหน โดยเฉพาะระหว่าง “ขาใหญ่” ด้วยกัน แต่ถ้าดูตามรูปการณ์แล้ว เชื่อว่า “เป็ดเหลิม” เฉลิม อยู่บำรุง คงต้องเผ่นแน่ๆ และแม้ว่าจูนกันไม่ติดแล้วกับอีกสองสามก๊กในนั้น แต่รับรองว่า คนที่ผ่านงานการเมืองมานานย่อมรู้ดีว่าจะไม่เป็นศัตรูกับ ทักษิณ ชินวัตร เป็นอันขาด ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่า “เสี่ยเหลี่ยม” นี่แหละ คือสาเหตุที่ทำให้เขาต้อง “แป๊ก” อยู่กับที่ อย่างไรก็ดี เพื่อหวังต้องการ “กระแส” ในทางการเมืองช่วยส่งให้ไปถึงเป้าหมายจึงต้องปากอย่าง ใจอีกอย่าง อย่างที่เห็น
00 สำหรับคนรอบข้างไม่ว่าจะเป็น “หญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ “เจ๊มิ่ง” มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รับรองว่าร่วมทางกันไม่ได้แน่นอน ภาพที่เห็นในงานเลี้ยงแต่งงานลูกชายคนโต ของ ร.ต.อ.เฉลิม มีการจับมือโอบไหล่ ยิ้มกว้าง นั้นเป็นแค่มายา “หน้าม่าน” เท่านั้น ส่วนของจริงมัน “เสียบ” มิดด้าม ขาดสะบั้นกันไปนานแล้ว
00 ความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย ที่ส่งตรงจากข้างนอกเข้าไปข้างในน่าจะได้ข้อสรุป “เกือบจะ” สุดท้ายแล้วว่า ภารกิจ “เฉพาะกิจ” ขัดตาทัพของ มิ่งขวัญ เป็น “หัวขบวน” ในศึกซักฟอกรัฐบาล จากนั้นเมื่อถึงคราวเลือกตั้ง ก็จะลดตัวลงมาในระดับปกติ เพราะเก้าอี้หัวหน้าพรรคคนใหม่เขาจองไว้ให้คนในครอบครัวล่วงหน้าแล้ว ในที่นี้จะเป็นใครไม่ได้นอกจาก “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เท่านั้น !!
00 แต่พอย้อนกลับไปดูคำพูดเมื่อตอนถูกจับใหม่ๆ ดันไปพูดแบบ “ยกแผ่นดิน” ให้เขาหน้าตาเฉย แทนที่จะช่วยพูดเพื่อให้ข้อต่อสู้เรื่องยืนอยู่ “บนดินแดนไทย” หรืออย่างมากก็ยังไม่พิสูจน์ชัด ดันไปยอมรับผิดตั้งแต่แรก ทำให้คนไทยไม่มีทางสู้ เพราะฝ่ายกัมพูชาได้นำเอาคำพูดของ รองนายกฯไทย ไปยืนยันมันก็จบเห่ และที่บอกว่า “ช่วยเต็มที่” นั้นที่จริงแล้ว “ ช่วยให้วีระติดคุกเต็มที่ ” หรือเปล่า และการที่นายกฯอภิสิทธิ์ เรียกระดมทุกฝ่าย เพื่อหาทางช่วยเหลือนั้นมองในแง่จิตวิทยาอาจจะมองได้ว่า ไม่ได้งอมืองอเท้า เท่านั้นเอง
00 ไม่อยากจะพูดให้เสียกำลังใจ แต่มาถึงตอนนี้ก็ได้แต่ทำใจแล้วว่า สำหรับ วีระ สมความคิด คงต้องติดคุกที่นั่นอีกระยะหนึ่ง เพราะนี่คือ “เกม” ที่ “พวกเขา” กำหนดเอาไว้ล่วงหน้าจริงๆ ขณะเดียวกันบังเอิญว่าได้อ่านข่าวที่น่าสนใจชิ้นหนึ่งในหน้า “อินโดจีน” ของ “เมเนเจอร์ ออนไลน์” ที่ตั้งข้อสังเกตในเรื่องการ “สร้างเรื่อง” เพื่อ “กลบเรื่อง” ของฮุนเซน เพราะระหว่างที่ วีระ กับพวกถูกจับตามแนวชายแดนนั้น ในช่วงเวลาเดียวกันทางการกัมพูชากำลังลงนามกับเวียดนาม เกี่ยวกับการจัดทำ “แผนที่ชายแดน” กัมพูชา-เวียดนาม พอดี ซึ่งที่ผ่านมาได้ถูกฝ่ายค้าน “สมรังสี” โจมตีมาตลอดว่า “ขายชาติ” ให้เวียดนาม ดังนั้นกรณีของ วีระ จึงถูกสงสัยว่าจะต้อง “ลากยาว” ไปอีกพักหนึ่ง อย่างน้อยเพื่อให้เรื่องชายแดนด้านโน้นซาลงไปก่อน
00 ต้องขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และให้กำลังใจกับครอบครัวของพี่น้องทหารหาญที่เสียชีวิตถึง 4 ศพ และบาดเจ็บ นับสิบราย ซึ่งผู้เสียชีวิตหนึ่งในนั้นเป็น ผบ.ร้อย ร.15121 ที่ตั้งฐานปฏิบัติการชั่วคราว จากการซุ่มโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้อาวุธปืนทั้งเอ็ม 16 และปืนพกสั้นกว่า 50 กระบอก พร้อมกระสุนหลายพันนัดหายไปด้วย ที่น่าเจ็บปวดก็คือ เหตุการณ์ร้าย เกิดขึ้นขณะที่ รองนายกฯด้าน“ความมั่นคง” สุเทพ เทือกสุบรรณ ควงคู่ไปกับ ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอาชา คล้อยหลังจากการลงพื้นที่ไม่นาน อย่างนี้เขาเรียกว่า “โจรกระทืบหน้า” จนเสียรังวัด หลังโม้มาหลายวันทำนองว่า “คุมสถานการณ์” ชายแดนใต้ลงได้แล้ว !!
00 นาทีนี้ ปัญหาภายในพรรคเพื่อไทยยังน่าติดตามต่อไปว่าจะลงเอยแบบไหน โดยเฉพาะระหว่าง “ขาใหญ่” ด้วยกัน แต่ถ้าดูตามรูปการณ์แล้ว เชื่อว่า “เป็ดเหลิม” เฉลิม อยู่บำรุง คงต้องเผ่นแน่ๆ และแม้ว่าจูนกันไม่ติดแล้วกับอีกสองสามก๊กในนั้น แต่รับรองว่า คนที่ผ่านงานการเมืองมานานย่อมรู้ดีว่าจะไม่เป็นศัตรูกับ ทักษิณ ชินวัตร เป็นอันขาด ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่า “เสี่ยเหลี่ยม” นี่แหละ คือสาเหตุที่ทำให้เขาต้อง “แป๊ก” อยู่กับที่ อย่างไรก็ดี เพื่อหวังต้องการ “กระแส” ในทางการเมืองช่วยส่งให้ไปถึงเป้าหมายจึงต้องปากอย่าง ใจอีกอย่าง อย่างที่เห็น
00 สำหรับคนรอบข้างไม่ว่าจะเป็น “หญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ “เจ๊มิ่ง” มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รับรองว่าร่วมทางกันไม่ได้แน่นอน ภาพที่เห็นในงานเลี้ยงแต่งงานลูกชายคนโต ของ ร.ต.อ.เฉลิม มีการจับมือโอบไหล่ ยิ้มกว้าง นั้นเป็นแค่มายา “หน้าม่าน” เท่านั้น ส่วนของจริงมัน “เสียบ” มิดด้าม ขาดสะบั้นกันไปนานแล้ว
00 ความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย ที่ส่งตรงจากข้างนอกเข้าไปข้างในน่าจะได้ข้อสรุป “เกือบจะ” สุดท้ายแล้วว่า ภารกิจ “เฉพาะกิจ” ขัดตาทัพของ มิ่งขวัญ เป็น “หัวขบวน” ในศึกซักฟอกรัฐบาล จากนั้นเมื่อถึงคราวเลือกตั้ง ก็จะลดตัวลงมาในระดับปกติ เพราะเก้าอี้หัวหน้าพรรคคนใหม่เขาจองไว้ให้คนในครอบครัวล่วงหน้าแล้ว ในที่นี้จะเป็นใครไม่ได้นอกจาก “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เท่านั้น !!
