ชาวกัมพูชารู้ว่า..ผู้นำ “เด็กดูดขวดนม-มาร์ค” ละอ่อนทางการเมืองไทยนั้น กลัวผู้นำเขมรฮุนเซนจนลนลานมาโดยตลอด!
ฮุนเซน..มีอะไรที่ทำให้ผู้นำและคนในรัฐบาลไทยบางคนอย่าง มาร์ค-เทพเทือก-พล.อ.ประวิตร-กษิต ฯลฯ ที่ทีกับคนไทยล่ะก็..คนพวกนี้เก่งนักเก่งหนา แต่พอเจออันธพาลเพื่อนบ้านอย่างเขมรฮุนเซน เป็นต้องหงอ-กลัวจนลนลานไปทุกที
อืม..มาดูประวัติเขมร “ฮุนเซน” กันหน่อยดีกว่า จะได้รู้เสียทีว่า..ทำไมมาร์ค-เทพเทือก-กษิต-พล.อ.ประวิตร ไฉนไย “อมสากกะเบืออ่างศิลา” จนไม่กล้าต่อปากต่อคำกับเขมรฮุนเซน!
ฮุนเซน เป็นลูกชาวนาเมืองกัมปงจาม เกิดวันที่ 4 เมษายน 2494 แต่ดันแจ้งว่า-เกิดวันที่ 5 สิงหาคม เฮ้อ..เริ่มต้นก็โกงวันเกิดเลยนะ..ฮวยเซง..
ปี 2508 ท่ามกลางสงครามในเขมร ฮุนเซนได้เรียนชั้นประถมศึกษา ณ บ้านเกิด พออายุ 13 ปี ก็เร่ร่อนเข้ากรุงพนมเปญ ไปอาศัยอยู่กับสมภาร “มง ฤทธิ์” ที่วัดนาควาน และได้เรียนต่อชั้นประถมปลายที่โรงเรียนอินทราเทวี
อายุ19 ปี ฮุนเซนก็เข้าร่วมกับกองทัพเขมรแดง ทำการสู้รบกับทหารรัฐบาลสาธารณรัฐเขมรของประธานาธิบดี “ลอนนอล” ที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาให้การหนุนหลัง จนกองกำลังเขมรแดงรบชนะและได้ปกครองเขมรตั้งแต่ปี 2518 เป็นต้นไป
5 มกราคม 2519 ฮุนเซนในวัย 25 ปี ได้แต่งงานกับ “บุญ สมเอียง” แบบรวมหมู่13 คู่ ก่อนจะมีพยานรักหรือลูกกับ “นางบุญ” ถึง 4 คน ทว่า..ฮุนเซนไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าลูกคนแรก เพราะเขาขัดแย้งกับกลุ่มเขมรแดงอย่างรุนแรง จนต้องหนีการไล่ล่าชีวิตจากพวกเขมรแดงไปอยู่ยังชายแดนเวียดนาม
ฮุนเซนเข้าร่วมกับกลุ่มเขมร “เฮง สัมริน” ที่เวียดนามสนับสนุน เขาได้รับเลือกให้เป็นผู้นำกองทัพต่อต้านรัฐบาลเขมรแดง จนกระทั่งวันที่ 7 มกราคม 2522 ฮุนเซนจึงนำกองทัพของเวียดนามบุกยึดประเทศเขมรของตนเองได้สำเร็จ
หลังยึดกรุงพนมเปญ..ฮุนเซนได้สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชาที่เวียดนามหนุนหลังขึ้นทันที โดยฮุนเซนได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จนปี พ.ศ. 2528 ฮุนเซนจึงก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยวัยเพียง 33 ปี
ทว่า..ฮุนเซนก็มิได้ครองอำนาจในกัมพูชาได้อย่างเบ็ดเสร็จ เพราะต้องสู้รบกับกองกำลังติดอาวุธเขมร 3 ฝ่าย ทั้งกลุ่มเขมรเสรี “ซอนซาน” ที่อเมริกาหนุนหลัง กลุ่มเขมรแดงที่ตกจากอำนาจและกลุ่มเจ้าสีหนุที่ประเทศจีนสนับสนุนอยู่
เมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลายลง รัฐบาลหุ่นฮุนเซนของเวียดนามก็ถูกนานาชาติกดดันอย่างรุนแรง จนทหารเวียดนามต้องถอนออกจากประเทศกัมพูชา ฮุนเซนจึงประกาศเปลี่ยนชื่อประเทศเป็น..รัฐกัมพูชา..
สิงหาคม 2531 รัฐบาลพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัน กดดันจนสงครามในกัมพูชายุติ มีการลงนามของเขมรทั้ง 4 ฝ่าย ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2534 มีการเชิญ สมเด็จนโรดมสีหนุ ให้เป็นประธานสภาสูงสุดแห่งชาติกัมพูชา และเชิญให้พระองค์เสด็จนิวัติกรุงพนมเปญ ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2534
หลังจากนั้น..มีการเลือกตั้งในกัมพูชา ที่สหประชาชาติเป็นผู้ดูแล ในระหว่างวันที่ 23-28 พฤษภาคม 2534 โดยพรรคฟุนซินเปคของเจ้านโรดมรณฤทธิ์ได้เสียงข้างมากในสภา แต่ก็ไล่เลี่ยกับพรรคประชาชนกัมพูชาของฮุนเซน สถานการณ์จึงตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง เพราะฮุนเซนไม่ยินยอมให้พรรคฟุนซินเปคปกครองกัมพูชาโดยลำพัง
สถานการณ์ในตอนนั้น ฮุนเซนเตรียมใช้ทหารเข้ายึดอำนาจรัฐ เจ้าสีหนุในฐานะประธานสภาสูงสุดแห่งชาติ ต้องลงมาหย่าศึกเจ้ารณฤทธิ์กับฮุนเซน ด้วยการตั้งทั้งคู่ให้เป็นนายกรัฐมนตรีเขมร ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองโลก ที่มีนายกฯ 2 คนใน 1 ประเทศ!
หลังจากนั้น..ฮุนเซนก็กุมการเมืองเขมรไว้ในกำมือคนเดียว ฮุนเซนยิ่งใหญ่คับฟ้า..จนเจ้าสีหนุต้องตั้งบรรดาศักดิ์ให้เป็น สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน ในเดือนตุลาคม 2550 ก่อนที่เจ้าสีหนุจะสละบัลลังก์ให้ “เจ้าสีหมุนี” ผู้บุตรขึ้นครองราชย์แทน
ฮุนเซนกับ “บุน รานี” ภริยาเชื้อสายเขมรผสมญวนคนใหม่ ที่โหดเกินพิกัดและเหี้ยมจนสะท้านสะเทือนเมืองเขมร ผู้ซึ่งเคยลงทัณฑ์เมียน้อยคนหนึ่งของฮุนเซน ด้วยการสาดน้ำกรดและเผาศพทิ้งอย่างไร้ร่องรอย ทั้งคู่ครองสุขและมีบุตรด้วยกันถึง 5 คน เป็นชาย 3 หญิง 2 คน
บุตรชายคนหนึ่งของฮุนเซนเรียนจบจากโรงเรียนนายร้อยเวสต์พอยต์ ซึ่งถือเป็นสถาบันการทหารอันดับ 1 ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีบทบาทอย่างสูงในวงการทหารกัมพูชาขณะนี้ เพราะได้คุมกำลังกองทหารอารักขาฮุนเซนผู้พ่อนั่นเอง
นายกฯ เขมรฮุนเซน..ผู้เติบโตจากชีวิตเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย-กล้าได้กล้าเสีย กล้าต่อกรกับชาติไทยที่ใหญ่กว่า ด้วยการส่งทหารบุกยึดแผ่นดินรอบปราสาทพระวิหารให้ชาวเขมรอย่างเปิดเผย!
นายกฯ ไทยอภิสิทธิ์..ผู้คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด เติบโตด้วยการใช้ปากต่อสู้แต่ในสภา ดังนั้น..แม้นายกฯ มาร์ค-จะรู้อยู่แก่ใจ-เห็นอยู่ตำตาว่า ทหารเขมรได้ยึดภูบางลูก ตั้งหมู่บ้าน-ตลาด-วัดในแผ่นดินไทย
ทว่า..ประวัติโหดของ “บัก-ฮุนเซน” ทำให้ “เด็กชาย-มาร์ค-อมขวดนม” กลัวจนปากคอสั่น ถึงขนาดไม่กล้า..แม้แต่จะตะโกนดังๆ ให้ชาวโลกได้รู้ว่า ทหารเขมรรุกด้าวแดนไทยรอบปราสาทพระวิหารแล้วโว้ย..???!!!
ฮุนเซน..มีอะไรที่ทำให้ผู้นำและคนในรัฐบาลไทยบางคนอย่าง มาร์ค-เทพเทือก-พล.อ.ประวิตร-กษิต ฯลฯ ที่ทีกับคนไทยล่ะก็..คนพวกนี้เก่งนักเก่งหนา แต่พอเจออันธพาลเพื่อนบ้านอย่างเขมรฮุนเซน เป็นต้องหงอ-กลัวจนลนลานไปทุกที
อืม..มาดูประวัติเขมร “ฮุนเซน” กันหน่อยดีกว่า จะได้รู้เสียทีว่า..ทำไมมาร์ค-เทพเทือก-กษิต-พล.อ.ประวิตร ไฉนไย “อมสากกะเบืออ่างศิลา” จนไม่กล้าต่อปากต่อคำกับเขมรฮุนเซน!
ฮุนเซน เป็นลูกชาวนาเมืองกัมปงจาม เกิดวันที่ 4 เมษายน 2494 แต่ดันแจ้งว่า-เกิดวันที่ 5 สิงหาคม เฮ้อ..เริ่มต้นก็โกงวันเกิดเลยนะ..ฮวยเซง..
ปี 2508 ท่ามกลางสงครามในเขมร ฮุนเซนได้เรียนชั้นประถมศึกษา ณ บ้านเกิด พออายุ 13 ปี ก็เร่ร่อนเข้ากรุงพนมเปญ ไปอาศัยอยู่กับสมภาร “มง ฤทธิ์” ที่วัดนาควาน และได้เรียนต่อชั้นประถมปลายที่โรงเรียนอินทราเทวี
อายุ19 ปี ฮุนเซนก็เข้าร่วมกับกองทัพเขมรแดง ทำการสู้รบกับทหารรัฐบาลสาธารณรัฐเขมรของประธานาธิบดี “ลอนนอล” ที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาให้การหนุนหลัง จนกองกำลังเขมรแดงรบชนะและได้ปกครองเขมรตั้งแต่ปี 2518 เป็นต้นไป
5 มกราคม 2519 ฮุนเซนในวัย 25 ปี ได้แต่งงานกับ “บุญ สมเอียง” แบบรวมหมู่13 คู่ ก่อนจะมีพยานรักหรือลูกกับ “นางบุญ” ถึง 4 คน ทว่า..ฮุนเซนไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าลูกคนแรก เพราะเขาขัดแย้งกับกลุ่มเขมรแดงอย่างรุนแรง จนต้องหนีการไล่ล่าชีวิตจากพวกเขมรแดงไปอยู่ยังชายแดนเวียดนาม
ฮุนเซนเข้าร่วมกับกลุ่มเขมร “เฮง สัมริน” ที่เวียดนามสนับสนุน เขาได้รับเลือกให้เป็นผู้นำกองทัพต่อต้านรัฐบาลเขมรแดง จนกระทั่งวันที่ 7 มกราคม 2522 ฮุนเซนจึงนำกองทัพของเวียดนามบุกยึดประเทศเขมรของตนเองได้สำเร็จ
หลังยึดกรุงพนมเปญ..ฮุนเซนได้สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชาที่เวียดนามหนุนหลังขึ้นทันที โดยฮุนเซนได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จนปี พ.ศ. 2528 ฮุนเซนจึงก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยวัยเพียง 33 ปี
ทว่า..ฮุนเซนก็มิได้ครองอำนาจในกัมพูชาได้อย่างเบ็ดเสร็จ เพราะต้องสู้รบกับกองกำลังติดอาวุธเขมร 3 ฝ่าย ทั้งกลุ่มเขมรเสรี “ซอนซาน” ที่อเมริกาหนุนหลัง กลุ่มเขมรแดงที่ตกจากอำนาจและกลุ่มเจ้าสีหนุที่ประเทศจีนสนับสนุนอยู่
เมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลายลง รัฐบาลหุ่นฮุนเซนของเวียดนามก็ถูกนานาชาติกดดันอย่างรุนแรง จนทหารเวียดนามต้องถอนออกจากประเทศกัมพูชา ฮุนเซนจึงประกาศเปลี่ยนชื่อประเทศเป็น..รัฐกัมพูชา..
สิงหาคม 2531 รัฐบาลพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัน กดดันจนสงครามในกัมพูชายุติ มีการลงนามของเขมรทั้ง 4 ฝ่าย ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2534 มีการเชิญ สมเด็จนโรดมสีหนุ ให้เป็นประธานสภาสูงสุดแห่งชาติกัมพูชา และเชิญให้พระองค์เสด็จนิวัติกรุงพนมเปญ ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2534
หลังจากนั้น..มีการเลือกตั้งในกัมพูชา ที่สหประชาชาติเป็นผู้ดูแล ในระหว่างวันที่ 23-28 พฤษภาคม 2534 โดยพรรคฟุนซินเปคของเจ้านโรดมรณฤทธิ์ได้เสียงข้างมากในสภา แต่ก็ไล่เลี่ยกับพรรคประชาชนกัมพูชาของฮุนเซน สถานการณ์จึงตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง เพราะฮุนเซนไม่ยินยอมให้พรรคฟุนซินเปคปกครองกัมพูชาโดยลำพัง
สถานการณ์ในตอนนั้น ฮุนเซนเตรียมใช้ทหารเข้ายึดอำนาจรัฐ เจ้าสีหนุในฐานะประธานสภาสูงสุดแห่งชาติ ต้องลงมาหย่าศึกเจ้ารณฤทธิ์กับฮุนเซน ด้วยการตั้งทั้งคู่ให้เป็นนายกรัฐมนตรีเขมร ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองโลก ที่มีนายกฯ 2 คนใน 1 ประเทศ!
หลังจากนั้น..ฮุนเซนก็กุมการเมืองเขมรไว้ในกำมือคนเดียว ฮุนเซนยิ่งใหญ่คับฟ้า..จนเจ้าสีหนุต้องตั้งบรรดาศักดิ์ให้เป็น สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน ในเดือนตุลาคม 2550 ก่อนที่เจ้าสีหนุจะสละบัลลังก์ให้ “เจ้าสีหมุนี” ผู้บุตรขึ้นครองราชย์แทน
ฮุนเซนกับ “บุน รานี” ภริยาเชื้อสายเขมรผสมญวนคนใหม่ ที่โหดเกินพิกัดและเหี้ยมจนสะท้านสะเทือนเมืองเขมร ผู้ซึ่งเคยลงทัณฑ์เมียน้อยคนหนึ่งของฮุนเซน ด้วยการสาดน้ำกรดและเผาศพทิ้งอย่างไร้ร่องรอย ทั้งคู่ครองสุขและมีบุตรด้วยกันถึง 5 คน เป็นชาย 3 หญิง 2 คน
บุตรชายคนหนึ่งของฮุนเซนเรียนจบจากโรงเรียนนายร้อยเวสต์พอยต์ ซึ่งถือเป็นสถาบันการทหารอันดับ 1 ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีบทบาทอย่างสูงในวงการทหารกัมพูชาขณะนี้ เพราะได้คุมกำลังกองทหารอารักขาฮุนเซนผู้พ่อนั่นเอง
นายกฯ เขมรฮุนเซน..ผู้เติบโตจากชีวิตเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย-กล้าได้กล้าเสีย กล้าต่อกรกับชาติไทยที่ใหญ่กว่า ด้วยการส่งทหารบุกยึดแผ่นดินรอบปราสาทพระวิหารให้ชาวเขมรอย่างเปิดเผย!
นายกฯ ไทยอภิสิทธิ์..ผู้คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด เติบโตด้วยการใช้ปากต่อสู้แต่ในสภา ดังนั้น..แม้นายกฯ มาร์ค-จะรู้อยู่แก่ใจ-เห็นอยู่ตำตาว่า ทหารเขมรได้ยึดภูบางลูก ตั้งหมู่บ้าน-ตลาด-วัดในแผ่นดินไทย
ทว่า..ประวัติโหดของ “บัก-ฮุนเซน” ทำให้ “เด็กชาย-มาร์ค-อมขวดนม” กลัวจนปากคอสั่น ถึงขนาดไม่กล้า..แม้แต่จะตะโกนดังๆ ให้ชาวโลกได้รู้ว่า ทหารเขมรรุกด้าวแดนไทยรอบปราสาทพระวิหารแล้วโว้ย..???!!!