xs
xsm
sm
md
lg

เปิดตัว “เขยจิบข่วย” ทักษิณ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เด็ดดอกไม้รายทาง”
โดย...อัญชะลี ไพรีรัก

ข่าวคนโรคจิตควงปืนยิงกราดที่รัฐอริโซน่า จนมีคนเจ็บหนัก 12 คน เสียชีวิต 6 คน ในจำนวนนั้นมีเด็กและ ส.ส.หญิงชื่อดังด้วย นักวิเคราะห์บอกว่า มือปืนเป็นผลผลิตของสื่อซาตาน ที่หล่อหลอมคนอ่อนแอให้กลายเป็นคนโรคจิตได้อย่างง่ายดาย เข้าทำนองทฤษฏีน้ำหยดลงหิน ขึ้นอยู่กับว่า จะหยดน้ำอะไร…น้ำดี หรือ ยาพิษ

สื่อในเมืองไทยก็กำลังมีปัญหาอย่างหนักที่สุดกว่าครั้งใดๆ ในประวัติศาสตร์ หนักกว่านั้นคือ ยังไม่มีใครยอมรับว่า อาชีพที่ทรงอิทธิพลทางความคิดต่อผู้คนนี้ ตกอยู่ในวังวนของปัญหา ทั้งวิธีคิด การสร้างสรรค์ รสนิยม ความรู้รอบตัว มาตรฐานการทำงานอย่างมืออาชีพ และจริยธรรม…สังคมจะดีหรือตกต่ำ สุดแท้แต่สื่อมวลชนจะว่ากันไปทางไหนแล้ว

แต่ตอนนี่ก็มีข่าวดีมาชื่นใจบ้าง เมื่อเห็น “พนิช วิกิตเศรษฐ” และคนไทยบางคนได้ออกมาสูดอากาศภายนอกคุกเพรย์ซอว์เสียที หลังจากถูกจองจำหลายคืนจนทั้งหนู ทั้งแมลงสาป กัด แทะ หัวหูแหว่งไปหมด จะเหลือก็แต่ “วีระ สมความคิด” - “ราตรี” ที่อาจเหนื่อยต่อไปอีก ส่วน “อาแซมดิน” และ “น้องตายแน่ มุ่งมาจน” และคนที่เหลือ คงเป็นลำดับถัดไป แต่หนังเรื่องนี้ยาวไม่จบง่ายๆแน่ เพราะเดิมพันคือ ปราสาทพระวิหารและศักดิ์ศรีประเทศ

เวลานี้นักการเมืองใช้ยุทธศาสตร์จ้างสื่อ บางคนถูกจ้างให้อยู่เฉยๆ บางคนทำแต่งานบันเทิงไป แต่บางคนใช้วิชาชีพเปลี่ยนสีขาวเป็นสีดำ เอาความเท็จมาบิดเบือนความจริง สร้างภาพระบายสีเพื่อกำจัดศัตรูที่รู้ทัน

ขณะนี้มีความพยายามที่จะทำให้สังคมคล้อยตามว่า เมืองไทยมี 2 สี- สีแดงและสีเหลือง ชั่วร้ายพอๆ กัน และ พันธมิตรฯ กับกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ เป็นพวกก่อกวนที่ชาวบ้านชาวเมืองต้องยกป้ายขับไล่ ไม่ว่าจะเป็นชายแดนหรือราชประสงค์…เอามาปนเปกันไปหมด…จนคนทั่วไปไม่รู้แล้วว่าอะไรคืออะไร ใครดีใครชั่ว พาลเกลียดกันไปหมด ชนในชาติแตกแยกเพราะนักการเมืองไทย ไม่ใช่ใคร

น่าเสียดายการเมืองภาคประชาชนที่สวยงามและสร้างสรรค์ กว่าจะเกิดขึ้นได้แทบเป็นแทบตาย แต่ดันมาถูกนักการเมืองที่หวาดกลัวนักหนากับพลังมวลมหาประชาชน ใส่ไคล้ ทุบตี จนแทบไม่มีดีแล้ว ส่วนพวกมันก็โกงบ้านกินเมืองเรามูมมามต่อไป

งั้นสัปดาห์นี้มาป้องปากคุยกันเรื่องชาวบ้านร้านตลาดสนุกกว่ากันเยอะ เพราะเมื่อเร็วๆนี้มีคนเห็น “สามคนพี่น้อง” โอ๊ค-เอม และ อุ๋งอิ๋ง เดินทางไปดูไบพร้อมผู้ติดตามจำนวนหนึ่ง ในจำนวนนั้นมีคนสนิททั้งทางฝ่ายบิดาและมารดา ทั้งซีกการเมืองและธุรกิจ

ความว่า ขบวนดูไบนี้มีทั้งเรื่องการเมืองและการมุ้ง

เรื่องการเมืองคือการผลักดัน “เจ๊มิ่ง” ไปสู้ศึกในสภาฯที่กำลังจะโหมโรงเร็วๆ นี้ ส่วนนอกสภาฯปล่อยให้ ธิดา แดง และ ตู่ -จตุพร แผลงฤทธิ์กันต่อไปไม่กลัวกฎหมาย และสุดท้ายเมื่อเป่านกหวีดเลือกตั้ง จะดันหลัง “ยิ่งลักษณ์” ขึ้นมาสู้ศึกกับ หล่อ ประชาธิปัตย์

และเรื่องสุดท้ายเห็นว่า นายใหญ่ใช้เวลาครุ่นคิดนานหน่อย เพราะพี่น้องสามคนจากชินวัตรและผู้ติดตาม พา “ตี๋หล่อ” วิศวะกรจากบริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่ในประเทศไทย เดินทางไปให้บิดา “ดูตัว” หลังจากที่คุณหญิงพจมาน ผู้มารดา ผ่านความเห็นชอบ…วี๊ดวิ้ว…คนบ้านนี้ได้เข้าใจแล้วว่า โลกนี้ไม่ได้มีแต่สีแดง สีชมพูก็มีด้วยย่ะ !!!

หนุ่มหล่อ ขาวสะอาด ปากแดงแช้ดคนนี้มีอดีตเป็นถึงขวัญใจดารา-นางแบบสาว และสลัดออกไปหมดสิ้นเมื่อมาพบรักกับ “เอม-พิณทองทา” ลูกสาวคนกลางของทักษิณระหว่างเรียนปริญญาโทด้วยกันที่อังกฤษ โดยการชักนำของเพื่อนฝูงในลอนดอน

พิณทองทาและลูกชายพ่อค้าเสื้อผ้าส่งออกใช้เวลาดูใจหลายปี และตลอดการคบหาก็ประจวบกับเป็นช่วงปีที่สาวเอมต้องทำหน้าที่ใช้หนี้กรรมให้พ่อ - แม่ งานมงคลสมรสที่วางแผนจึงเลื่อนแล้วเลื่อนอีก จนเมื่อลูกสาวทักษิณได้ชะลอการขึ้นโรงขึ้นศาล และระเหเร่ร่อนตามบิดา ทรราชไปโน่นมานี่แล้ว นั่นละ…จึงสบช่องพาเพื่อนชายไปกราบคุณหญิงมารดา ถึงจันทร์ส่องหล้าบ้านหลังเดียวกับที่พี่น้องเรียกว่า จันทร์ส่องหมานั่นแหละ

ด้วยบุคลิกหล่อ เรียบ หรู และ ดูมีฐานะ-การศึกษา คุณหญิงพจมานซึ่งรักละหวงแหนบุตรีคนนี้ยิ่งนักก็ตกลงปลงใจยินยอมตามลูกสาวทุกประการ โดยมีเงื่อนไข “แต่งเข้า” ไม่ “แต่งออก” แม้ว่าที่ลูกเขยจะมาจากครอบครัวคนจีนก็เถอะ สุดท้ายครอบครัวฝ่ายชายไม่อิดออดแถมยินดีปรีดามหาศาลเสียด้วยซ้ำที่จะได้ดองกับอัครมหาเศรษฐีแห่งเอเชีย โดยไม่อินังขังขอบว่า…ว่าที่พ่อตา-แม่ยายจะร่วมกันเผาบ้าน เผาเมือง โกงบ้านกินเมืองขนาดไหน ก็ไม่รังเกียจรังงอน… จะติดขัดตรงที่บิดาว่าที่เจ้าสาวที่ยังเป็นสัมภเวสีในต่างแดน และได้ชื่อว่า หวงลูกสาวเป็นที่สุด โดยเฉพาะพิณทองทาที่มีใบหน้าและท่าทางละม้ายคุณหญิงพจมานทุกมุมมอง…ต้องเห็นชอบด้วย!!!

การแต่งขบวนส่งตัวว่าที่ลูกเขยคนแรกไปให้ทักษิณดูตัวถึงคฤหาสน์ดูไบจึงเกิดขึ้นโดยไม่รีรอหลังจากที่คุณหญิงพจมานเคาะผ่าน และเมื่อขบวนแห่ว่าที่ลูกเขยกลับมา เขาลือกันทั้งจันทร์ส่องหล้าว่า อีกไม่นานจะมี “ข่าวดี”ของหนูเอมที่พักนี้ออกงานโชว์ตัวราว “แพคคู่”ตามบ้านญาติ และเพื่อนๆ เป็นว่าเล่น…อย่าเผลอพาว่าที่ผัวไปเดินแถว K-Village หรือ สยามแสควร์ นะน้องเดี๋ยวโดนไล่ร้องไห้ขี้มูกโป่งไม่รู้ด้วย

เพราะเรื่องชาวบ้านเป็นงานของเรา จึงอยากแนะนำว่าตอนแต่งงานอย่าลืมไปตัดชุดวิวาห์ที่ร้านพี่ไข่ -สมชาย และ แต่งหน้ากับพี่เป็ด -อภิชาติ -ถ่ายภาพโดยพี่ศักดิ์ชัย กาย แห่งลิปส์ เลี้ยงฉลองที่โรงแรมแกรนด์ เซ็นทรัล บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ตอนเลี้ยงพระก็ใช้วัดปทุมวนารามก็สะดวกดี ส่วนงานช้างอย่างนี้ ทหารและตำรวจมะเขือเทศที่บิดาว่าที่เจ้าสาวเลี้ยงไว้คงให้บริการเต็มที่ไม่ขาดตกบกพร่อง การ์ดเชิญก็ร่อนให้หมดทั้งสภาฯ และทุกกระทรวงทบวงกรม คนไทยเขาจะได้เห็นหน้ากันชัดๆ ว่า ขี้ข้าทักษิณที่ช่วยกันทำลายชาติ เผาเมืองเป็นใครกันบ้าง และสุดท้ายเมื่อเจ้าตั้งครรภ์ อย่าลืมนำทายาททรราชทักษิณไปใช้บริการแพทย์มือดีที่ “รพ.จุฬาฯ” นะจ๊ะ…ปัญญาก็มีแนะนำได้เท่านี้ละ

อย่างว่า …งานแต่งงานของเอม -พิณทองทาจะไม่ถูกชาวบ้านชาวเมืองวิพากษ์วิจารณ์เลย ถ้าไม่ใช่เอม ลูกสาวทักษิณ คนที่ทำลายได้ทุกสิ่งอย่างแม้แต่บ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง ลองหากว่าไม่ได้ดังใจ

ยิ่งครอบครัวฝ่ายชายมีสมาชิกหลายคนเป็น “ลูกจีนรักชาติ” ด้วยแล้ว ชาวบ้านยิ่งนินทาสนุกปากปนแปลกใจว่า ทำไมไปดองกับคนในบ้านทักษิณได้

โบราณว่า เรื่องแบบนี้ไม่เข้าใครออกใคร เมื่อความรักไม่มีพรมแดนฉันท์ใด อันลูกคนธรรมดาจะแต่งงานกับลูกสาวทรราชคงไม่แปลก แต่จะแปลกตรงที่ว่า ต้นไม่มีพิษบ้านนี้ ออกลูก ออกผลมีพิษชนิดเดียวกัน ถ้าทนได้ก็ทนไปใครจะไปว่ากล่าวตักเตือนอะไรได้ธุระไม่ใช่เดี๋ยวเขาจะหาว่า “เสือก” อย่างดีก็แค่ “นินทา”

แต่เอาละลูกใครก็ลูกเขา เราคนข้างบ้านหาได้เกี่ยวข้องไม่ เพราะขึ้นชื่อว่านักการเมืองไทย มันก็โกงกินด้วยกันทั้งนั้น ผิดที่ว่านักการเมืองยุคนี้ เอาทักษิณเป็นโรลโมเดล!!!

ตอนนี้มีวิธีคิด วิธีโกงทีแนบเนียนขึ้น อันใดที่ทักษิณทำแล้วได้ประโยชน์ทางการเมืองก็ก๊อปปี้มันเสียหน้าไม่อาย เช่นประชานิยม เป็นต้น แต่อันใดที่ทักษิณทำลงไปแล้วเป็นที่ขัดหูขัดตาประชาชนก็ยกยอดทิ้งไปเสีย หรือ ไม่ก็นำมาต่อยอดทำมาหากินหน้าตาเฉย เช่น โครงการเฉลิมพระเกียรติฯ ที่เวลานี้ถูกนักการเมือง หน้าด้าน เอามาบังหน้าหากิน - หาเสียง แล้วเที่ยวไถเงินเขาไปทั่วทั้งภาครัฐและเอกชน จนประชาชนเอือมระอา ก้มหน้าและพูดไม่ออก

นักการเมืองหากินหาเงินตัวเป็นเกลียว จะไม่โหวกเหวกโวยวายเลย ถ้าเงินนั้นไมได้มาจากภาษีของเรา บ้านเมืองไม่พัฒนาเพราะทุจริตคอรัปชั่นและระบบอุปถัมภ์ เงินที่โกงมาก็สร้างความสุขให้ตัวเอง ซื้อเสียง ซื้อบริวาร ซื้อสื่อและซื้อ-ขายประเทศชาติ ใกล้เหมือน ฟิลิปปินส์ กับ อาร์เจนตินา ไปทุกทีแล้ว

เวลานี้นักการเมืองเอาแต่พูดเรื่องส่วนตัว ไม่พ้นเรื่องผลประโยชน์ การยุบสภากำลังใกล้เข้ามา การเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญที่กำลังแก้ไขให้เป็นไปตามที่นักการเมือง หิวโหยต้องการก็กำลังจะเริ่มขึ้น “ เงิน “ จะเข้ามามีบทบาทในการเลือกตั้งสูงยิ่งกว่ายุคใดสมัยใด …เราจะปล่อยให้บ้านเมืองของเราโกลาหล และ ตกต่ำในน้ำมือนักการเมืองสารเลวต่อไปอีกนานแค่ไหน ถ้าวันนี้ คนดี คนเก่ง ไม่เป็นคนกล้า ไม่ออกมาสะสางปัญหาที่ฝังลึกในสังคมไทย โดยเฉพาะปัญหาทุจริตคอรัปชั่น ก็ยกประเทศให้ก๊วนการเมืองไปเสีย แล้วตัวใครตัวมัน มือใครยาวสาวได้สาวไป ประเทศจะฉิบหายล่มจมก็ช่างหัวมัน …เอากันอย่างนั้นหรือ?
กำลังโหลดความคิดเห็น