xs
xsm
sm
md
lg

ท.ทหารอดทน ท.ทักษิณอดศพ ท.ไทยรักสงบ ธ.ธรรมเพื่อไทย

เผยแพร่:   โดย: ไทยทน

โดย ไทยทน

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2553 ที่ผ่านมา ก็เป็นนิมิตหมายอีกครั้งหนึ่งของการแสดงออกของประชาชนเสื้อแดง โดยถือกันว่าเป็นไประบอบประชาธิปไตย กับการตอบสนองของรัฐบาล ทหารและตำรวจไทย

ภาพที่ประชาชนไปกดดันพื้นที่ต่างๆ ถึง 8 จุด แล้วทหารถอยออกไป นับเป็นภาพที่งดงาม เราเห็นความรักสงบ ความรัก ความเข้าใจ ความถ่อม การไม่ลุแก่อำนาจ การให้อภัย ความพยายามที่จะสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนไทยในแผ่นดิน ล้วนแล้วแต่เป็นภาพที่งดงามทั้งสิ้น

สอดคล้องกับที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ทำวิดีโอลิงก์เข้ามาในคืนนั้นว่า “วันนี้สิ่งเกิดขึ้นมันเป็นความสวยงามของประเทศไทย พี่น้องไปขอให้ทหารออกไป อีกฝ่ายก็เดินออกไปยิ้มแย้มแจ่มใส แบบนี้เป็นคนไทยโดยสายเลือดจริงๆ”

เพียงแต่ว่า น่าจะพิจารณากันให้ดีว่า “อะไรงดงาม?” “อะไรไม่งดงาม?” “ใครงดงาม?” “ใครทำให้เสียความงดงาม?” “ใครยกระดับแผ่นดิน?” “ใครทำบาปต่อแผ่นดิน?”

1.ท.ทหารอดทน : คำขวัญนี้ เป็นคำขวัญที่คนไทยทุกคนยอมรับ และยกย่องทหาร ที่ต้องเสียสละอดทนเพื่อปกป้องประเทศชาติ แม้กระทั่งเพลงเพื่อชีวิต ก็ยังยกย่อง “ท.ทหารอดทน”

...กับศัตรูต่างประเทศ ทหารต้องเฝ้าระวังอย่างอดทน และหากต้องต่อสู้ก็ต้องต่อสู้อย่างเข้มแข็ง

...กับพี่น้องคนไทย ทหารต้องปกป้องคนไทย “ทุกคน” “ทุกสี” ให้มีความมั่นคง ปลอดภัย อุ่นใจเสมอ

โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่คนไทยมาร่วมชุมนุมโดยปราศจากอาวุธจำนวนมาก ขณะที่มีขบวนการคู่ขนานโดยการก่อการร้าย วางระเบิดในจุดต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่ของทหารหลายๆ ครั้ง เกือบทุกวัน

ผู้นำเทียมเท็จ ก็ใช้แต่ความเท็จใส่ร้ายภาครัฐ ใส่ร้ายว่าทหารฆ่าประชาชน ตัดต่อปลอมคลิปนายกรัฐมนตรี และใส่ร้ายว่าคงเป็นโรคจิต สั่งทหารปราบปรามประชาชนอย่างรุนแรง ทหารยิ่งต้องรักษาสติ ความรัก ความให้อภัย ระมัดระวังตัวพิเศษกับทุกเหตุการณ์ที่อาจถูกนำไปบิดเบือนให้คนไทยแตกแยกกันมากขึ้น

แม้ทหารมีอำนาจ มีอาวุธ มีหน้าที่ร่วมกับตำรวจในการรักษาความสงบ และความมั่นคงของประเทศ หากคิดข่มเหง ข่มขู่ เหยียดประชาชนเป็นดังไพร่ ที่ผู้นำกล่าวหา ในขณะที่ผู้นำได้ลบหลู่ ท้าทายสถาบันองคมนตรี โดยอ้างว่าเป็น “อำมาตย์” ผู้วางอำนาจ และกดขี่ชนชั่นไพร่ ได้ยั่วยุให้โกรธมาหลายครั้ง หลายเดือน ทหารกลับไม่เคยใช้ความรุนแรงกับประชาชนเหล่านี้เลย

หลายครั้ง ความรัก และความอดทนต้องอาศัยการพิสูจน์

การพิสูจน์ที่ผ่านมา ยังไม่พอหรือที่จะเห็นชัดว่า ใครรักชาติไทยจริง? ใครรักประชาชนทุกคนทุกสีจริง? ใครรักประชาชนเสื้อแดงจริง? ใครหลอกให้คนเสื้อแดงมาเสี่ยงตายเพื่อคนบางคน? ใครพูดจริง? ใครพูดเท็จ?

...นัดชุมนุมใหญ่ครั้งแรก ภารกิจแรก คือ ไปกองพันทหารราบที่ 11 ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการรักษาความสงบ ทหารก็ไม่ได้โต้ตอบด้วยปืนกล รถถัง แต่โต้ตอบด้วยลำโพง จนคนเสื้อแดงก็โต้ตอบด้วยหัวใจตบแทน

...นัดกันวันต่อมา คือเอาเลือดไปเทหน้าบ้านนายกฯ ที่ท่านกล่าวหาว่า เป็นโรคจิตสั่งฆ่าประชาชน แต่นายกฯก็อดทน เข้มแข็ง ยอมถ่อมกับประชาชน เพื่อไม่ให้ใครนำไปเป็นเงื่อนไขบานปลาย ภาพที่คุณพ่อออกมาขอบคุณผู้มามอบกำลังใจให้อย่างใจสงบ เป็นภาพที่งดงาม ภาพที่ผู้นำของประเทศถ่อมกับประชาชนแม้จะพูดถึงขั้นที่ว่า “อยากเอาเลือดหัวนายกฯ มาล้างเท้า” จนบางคนอาจรู้สึกกระทบต่อศักดิ์ศรี แต่หลายคนก็น่าจะได้ชื่นชมยกย่องกับความถ่อมและความเห็นแก่ความรักสามัคคีของชาวไทยเหนือศักดิ์ศรีส่วนตัวอย่างแท้จริง

...แล้วเสาร์ถัดมา ขณะที่รถติดมาแล้วหลายวัน คน กทม.ก็เริ่มบ่น อยากเห็นรัฐบาลบังคับใช้กฎหมาย ให้ผู้ชุมนุมเลิกรบกวนชีวิตคนอื่นๆ แม้มีความท้าทาย รัฐบาลว่าเป็นรัฐบาลฆ่าประชาชน มีการบุกที่มั่นของทหาร มีการยิงระเบิดใส่ค่ายทหาร มีการคุกคามผู้นำประเทศ แต่รัฐบาลก็ไม่ใช้กำลังคุกคามผู้ชุมนุมแต่อย่างใด กลับอำนวยความสะดวกให้ขับขบวนรถไปทั่ว กทม.ดังที่ได้เห็นกัน

...วันที่ 27 มีนาคม คุกคามเพิ่มเติมต่อโดยการรุกไล่ทหารออกจากพื้นที่ ทั้งๆ ที่ทหารก็มิได้ออกไปคุกคามประชาชน ผู้นำม็อบเสื้อแดงกลับหลอกให้ประชาชนไปคุกคามกดดันทหาร “ท่านพยายามทำให้ประชาชนเหล่านี้เห็นว่าคนไทยที่ไม่เห็นด้วยเป็นศัตรูเช่นนั้นหรือ?”

...แม้ท่านจะกล่าวว่า รัฐบาลอภิสิทธิ์ หรือทหาร “อย่ามองว่าประชาชนเป็นดังศัตรู” ท่านก็ไม่ควรพูดอย่างทำอีกอย่าง โดยเอาประชาชนเข้าไปรุกไล่ทหารเช่นนั้น

เพื่อให้ประชาชนอุ่นใจ ทหารที่ทำหน้าที่รักษาความสงบก็ไม่มีอาวุธรุนแรง จนบางครั้ง กลับถูกข่มเหงโดยผู้ไม่ประสงค์ดี การยิงระเบิดใส่

ท่านรุกไล่นายกรัฐมนตรีเท่าไร? รุกไล่รัฐบาลเท่าไร? รุกไล่สถาบันองคมนตรีเท่าไร? รุกไล่ทหารเท่าไร? ทุกฝ่ายก็ยังอดทน มีขันติ มีความถ่อม มีความรัก ความให้อภัย

ท่านใช้ความเท็จถึงการสั่งฆ่าประชาชนเดือนเมษายน 2552 คนเสื้อแดงก็กล้องเยอะ สื่อมวลชนก็มากมาย กลับไม่สามารถมีหลักฐานได้ ก็มันไม่มีความโหดร้ายเช่นนั้นจริงต่างหาก

การผ่านการทดลองเหล่านี้คือภาพที่งดงาม ที่ประชาชนทุกคน ทุกสี พึงจะได้เข้าใจ และเห็นภาพที่แท้จริง และเข้าใจได้มากขึ้นว่า เป็น “สถาบันอำมาตย์ กดขี่ไพร่” “นายกฯ โรคจิต สั่งฆ่าประชาชน” “ทหารฆ่าประชาชน” ก็น่าจะเห็นความงดงามที่แท้จริงของบุคคลเหล่านี้และสถาบันเหล่านี้

พ.ต.ท.ทักษิณเองยังชมเชย โดยอ้างอิงว่า “ขอบคุณนายวีระ เมื่อคืนที่ยกคำพูดอดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ทอมัส เจฟเฟอร์สัน ที่เคยกล่าวว่า ถ้าประเทศไหน รัฐบาลกลัวประชาชน แสดงว่าประเทศนั้นเป็นประชาธิปไตย อยากจะบริการประชาชนเหมือนที่นายอภิสิทธิ์พูดไว้ แต่ถ้าประเทศไหน ประชาชนกลัวรัฐบาล มีการข่มขู่กันสารพัด เขาเรียกว่าเผด็จการ”

การที่รัฐบาลกลัวประชาชน ไม่ใช่เพราะว่าประชาชนกลุ่มใดวางอำนาจเป็นดังมาเฟียใหญ่ แต่เป็นเพราะรัฐบาลและทหารตระหนักว่าเป็นรัฐบาลและทหารของประชาชน ความอดทนอดกลั้น ความยึดมั่นไม่คุกคาม ไม่ทำร้ายประชาชนที่ผ่านมาของรัฐบาลอภิสิทธิ์และทหาร จึงเป็นความงดงามอย่างแท้จริง

และขอชมคนไทยเสื้อแดงส่วนใหญ่ ที่ยังตั้งใจอย่างบริสุทธิ์ในการแสดงออกทางการเมืองอย่างสงบโดยปราศจากอาวุธ ขอให้ระมัดระวังตัว และเพื่อนๆ และครอบครัว ที่อาจถูกล่อลวงให้เกินเลยกฎหมาย จนถึงขั้นทำร้ายคนไทยร่วมชาติ หรือทำลายทรัพย์สินของชาติ อันอาจเป็นการร่วมทำร้ายประเทศไทยได้

2.ท.ทักษิณอดศพ : พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พยายามนำตัวเองผูกติดกับสัญลักษณ์ของความเป็นประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการ สร้างว่าอยู่พวกเดียวกับไพร่ ขับไล่อำมาตย์ แต่ “ความจริง” คืออะไร

... ทักษิณ ร่ำรวยจากสัมปทานโทรคมนาคมที่ได้รับการเอื้อประโยชน์จากรัฐบาลเผด็จการ รสช.

... ทักษิณ เป็นนายกฯ จากระบอบรัฐสภา แต่ไม่ยอมตอบกระทู้ในสภา ไม่ยอมให้อภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ยอมให้สื่อสาร 2 ด้าน อันจะทำให้ “โกหกยาก”

...ทักษิณกล่าววิเคราะห์นักการเมืองว่าอะไรดี ว่าอะไรชั่ว อย่างชัดเจนว่า “นักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ต้องไม่ใช่นักการเมืองโดยอาชีพ หลายคนมาทำธุรกิจไม่รวย มาเล่นการเมืองรวยกว่า มีนายทุนบางคนเซ้งกระทรวง เซ้งรัฐวิสาหกิจ” ผมว่าคนทั่วไปก็ย่อมเห็นด้วยว่าจริง โดยมีความจริงอยู่ด้วยว่า ท่านทักษิณเองก็บอกว่า เคยทำธุรกิจล้มเหลวมาหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น พีโอเอส บัสซาวด์ ฯลฯ ก็ล้มเหลว จนมีผู้ตั้งคำถามว่า “ธุรกิจแข่งขันเสรีใด ที่ท่านแข่งขันชนะบ้าง?” “ธุรกิจใด ที่ไม่ใช้อำนาจรัฐเอื้อ ที่ท่านทำได้สำเร็จบ้าง?” กลุ่มชินฯ รุ่งเรือง ไม่ใช่เพราะมีอำนาจรัฐเอื้อหรือ? ชินฯอินเตอร์ฯ ไปลงทุนต่างประเทศ ก็ขาดทุนแทบหมดสิ้น ไปลงทุนอสังหาริมทรัพย์ดูไบ ก็คงไปขาดทุนมหาศาล เพราะก็ไปแบบแมงเม่าช่วงลูกโป่งก่อนแตก ลงุทนเหมืองเพชรเมื่อมีคนจับไต๋ได้ว่าคงเอาถ้ำมาซื้อแร่เพชรด้วยเงินสกปรกแล้วมาฟอก ก็ยังไม่เห็นว่ามีการดำเนินการจริงหรือไม่? จึงเป็นตัวอย่างชัดเจนหรือไม่ที่ท่านว่า “ทำธุรกิจไม่รวย มาเล่นการเมืองรวยกว่า มีนายทุนบางคนเซ้งกระทรวง เซ้งรัฐวิสาหกิจ” ดังที่ท่านประณามและตำหนิ

... ทักษิณ เป็นสัญลักษณ์ปกป้องประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขจริงหรือไม่?

... ยุครัฐบาลทักษิณ การปิดกั้นสื่อ ใช้สื่อด้านเดียว การปิดกั้นเสรีภาพของสื่อมวลชน ก็คือการปิดกั้นเสรีภาพของประชาชนในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร ซึ่งแตกต่างกับยุคนี้ที่มีเสรีภาพอย่างแท้จริง

... ในรัฐบาลทักษิณ มีการสลายการชุมนุมของประชาชน จนเกิดเหตุกรือเซะ และตากใบ อย่างน่าเสียใจ และเป็นปมปัญหาที่แก้ไขปัญหายากสืบมาจนถึงปัจจุบัน

... รัฐบาลทักษิณ เอื้อประโยชน์กิจการของตน อย่างไม่เคารพรัฐธรรมนูญ กฎหมายห้ามรัฐมนตรีถือหุ้น โดยเฉพาะกิจการสัมปทาน ท่านก็ซุกหุ้น และมีการใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ตัวเองมากมาย แต่กับกดดันองค์กรอิสระ และหน่วยงานภาครัฐ ทั้ง ป.ป.ช. ปปง. ก.ล.ต. กกต. ดีเอสไอ สำนักงานอัยการฯ ฯลฯ จนคดีไม่เดิน

... ทักษิณสัมพันธ์ดีกับรัฐบาลเผด็จการ รสช.ที่เอื้อสัมปทานของตน กลับดิ้นรนต่อต้านรัฐบาล คมช. ซึ่งไม่ได้เอื้ออำนาจเอาประโยชน์ใส่ตน เพียงแต่ผลักดันให้กระบวนการยุติธรรมปลอดอำนาจมืด ทำงานได้จริง และเมื่อหลักฐานได้เปิดชัดเจนแล้ว ท่านก็ไม่มีหลักฐานมาเป็นข้อต่อสู้แต่อย่างใด? หนี้ปลอม 3 พันล้านบาท ของ พานทองแท้ (แม่ขายของที่ทุน 1,500 ล้านบาท ให้ลูกในมูลค่า 4,500 ล้านบาทใน 3 เดือน เป็นช่องทางคืนปันผล) ของขวัญวันเกิดปลอม 370 ล้านบาท (พี่กับน้องไม่มีเหมือนกัน แต่ใช้ปรับการถือหุ้นในกลุ่มโนมินี) หนี้ปลอมบรรณพจน์แม้มีทรัพย์สินไม่น้อยที่ได้โอนหุ้นมา แต่เมื่อจองหุ้นมูลค่า 102,135,225 บาท กลับกู้เงินคุณหญิงพจมานเพื่อจองทุกบาททุกสตางค์ แม้เศษ 135,225 บาท ก็ต้องกู้ และไม่คืนเลยจนได้รับปันผล) หนี้ปลอมยิ่งลักษณ์ 20 ล้านบาท (เช่นกัน แม้ 20 ล้านบาทจองหุ้นชินฯ น.ส. ยิ่งลักษณ์ก็ยังต้องกู้ และถอนเป็นเงินสดหลบกฎหมายฟอกเงินโดยให้การเท็จว่าใช้ตกแต่งบ้านหรือลงทุน แต่กลับไม่สามารถแสดงหลักฐานได้)

หากวิเคราะห์ดูการสร้างสถานการณ์ปั่นป่วนประเทศเมื่อเดือนเมษายน ดีที่รัฐบาลสลายการชุมนุมด้วยคุณธรรม ไม่มีการทำร้ายประชาชนอย่างรุนแรง แม้สื่อมวลชนมากมาย คนเสื้อแดงถือกล้องมากมาย ก็ไม่มีหลักฐาน

จนครั้งที่แล้ว จึงต้อง “ปั้นศพ” ไม่ว่าจะเป็นการกล่าวเท็จ การทำคลิปเสียงนายกฯปลอม การแสวง “หาศพ” เหมือนกับว่า ตาม “ท้องเรื่อง” แล้ว ต้องมีศพ (ยิ่งถ้าเป็นดังสมัยรัฐบาลของท่านกระมัง?) แต่กลับหาไม่ได้

ครั้งนี้จึงน่าแปลกใจที่ทุกครั้งที่ชุมนุมใหญ่กลับพยายามหาเรื่องให้ถึงเลือดทุกๆ ครั้ง ทันทีที่รวมกัน ก็นำประชาชนไปชนทหารและรัฐบาลที่กองพันทหารราบที่ 11 เอาเลือดทาหน้าทำเนียบรัฐบาล เอาเลือดโยนใส่บ้านนายกฯที่ท่านกล่าวหาว่าโรคจิตสั่งฆ่าประชาชน หลังจากคน กทม.หงุดหงิดได้ที่ ก็จัดขบวนเสื้อแดงตระเวนไปเพิ่มปัญหาจราจรแสดงศักดาทั่ว กทม. เสี่ยงต่อการชนกันของประชาชนได้ง่าย

แต่คุณธรรมสูงส่งของนายกฯ รัฐบาล ทหาร และ “คนไทย” ทั้ง กทม. และต่างจังหวัด ทั้งเสื้อสีแดง และสีใดๆ ก็กลายเป็นภาพที่งดงาม ไม่แตกแยกอย่างที่อาจจะหวัง ไม่มีคนไทยตีกันอย่างที่อาจจะหวัง จะถือได้ว่า ท่านก็จะ “อดศพ” ที่จะใช้สร้างเงื่อนไขป่วนชาติต่อไป

3.ท.ไทยรักสงบ : น่าดีใจที่หลายกลุ่ม เช่น ชุมชนต่างๆ ชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย เริ่มแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย แสดงความเห็นแตกต่าง โดยไม่สร้างความแตกแยก คนไทยน่าภูมิใจตามเพลงชาติที่ว่า “ไทยนี้รักสงบ” เพื่อร่วมแรงร่วมใจกัน สร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันให้ได้

ขณะนี้ ประเทศไทยกำลังเผชิญสงคราม แต่ศัตรูของคนไทยต้องไม่ใช่คนไทยกันเอง การที่คนกลุ่มหนึ่งจะชนะอีกกลุ่มหนึ่งด้วยการคุกคามกัน ทำร้ายกัน จะเป็นประโยชน์อันใด ทุกฝ่ายก็เจ็บปวด ทุกฝ่ายก็พ่ายแพ้ ประเทศก็พ่ายแพ้

แต่ “ศัตรู” ร่วมของคนไทย ที่กำลังพยายามครอบงำประเทศ คือ ซาตาน ซาตานมีอำนาจไม่เทียบเท่าพระเจ้า แต่คำแปลตรงของซาตานคือ “การสร้างความแตกแยก” ทำให้มนุษย์แตกแยกจากพระเจ้า และความชอบธรรม

ไทยทนไม่ได้ว่าใคร คนที่หลงสร้างความแตกแยกในขณะนี้ ก็อาจจะไม่ได้ทำเพราะความเป็นตัวเอง แต่อาจเป็นเพราะถูกครอบงำโดยซาตาน

ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก เพราะหากสร้างความแตกแยกสำเร็จ คนไทยก็มีแต่ความทุกข์ ไม่สงบและอ่อนแอ จึงเป็นเรื่องที่ไม่ใช่เราคนไทยจะนั่งดูเฉยๆ แต่พึงร่วมแรงร่วมใจ ร่วมไม้ร่วมมือ

ยิ่งในสถานการณ์คับขันเพียงใด ยิ่งต้องเคลื่อนไหวโดยเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน สนับสนุนผู้นำร่วมกัน เรามีผู้นำที่รักสงบ ผ่านการทดสอบหลายครั้งด้วยความรัก เมตตา เห็นคุณค่าประชาชนทุกฝ่าย แม้ผู้ตั้งตัวต่อต้านท่าน ดูถูกท่าน คุกคามท่าน แม้หลายคนจะเริ่มรู้สึกว่า ทำไมรัฐบาลยังไม่ลงมือเสียที ก็น่าจะคิดได้ว่า ผลต่อเนื่องของความรุนแรงนั้น อาจทำให้ยิ่งบาน ปลายไปกว่านี้

จึงดีเหลือเกินที่รัฐบาลจะไม่เอาชนะคนเสื้อแดงด้วยการสู้กัน เพราะรัฐบาลมีอาวุธมากมาย แต่ด้วยไม่อยากให้เกิดความสูญเสีย แต่คนไทยทั้งเสื้อแดง เสื้อสีใดๆ รัฐบาล จะต้องร่วมกัน เอาชนะซาตาน ไม่ให้ใครสร้างความแตกแยกให้คนไทยทะเลาะแตกแยกกัน ตระหนักว่า คนไทย รักชาติไทยแท้ จะเป็นตาม “ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบ (กับศัตรูภายนอก หรือซาตานผู้สร้างความแตกแยก) ไม่ขลาด” อย่างแท้จริง

4.ธ.ธรรมเพื่อไทย : ในยามที่สังคมตกต่ำ มีรอยแตกแยก สิ่งที่สำคัญคือระลึกถึงหลักธรรม เป็นสถานการณ์ที่คนไทยวัดจากประสบการณ์ในหัวใจได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ว่า “ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีสุข” เราจึงควรนึกถึงหลักธรรม เติมความรักแก่กันในสังคม มีความเข้าใจกัน เอาใจเขามาใส่ใจเรา เคารพความแตกต่าง แต่ไม่สร้างความแตกแยก รักษาสิทธิ์ของตัว และไม่ละเมิดสิทธิ์ผู้อื่น ก็จะทำให้ประเทศไทย เป็นแผ่นดินธรรม และเพื่อประเทศไทยจะได้เป็นแผ่นดินทองของเราอย่างแท้จริง

หัวข้อนี้ก็สอดคล้องกับชื่อพรรคการเมือง ก็ขอให้เป็นจริงด้วยสัจธรรมความจริงจริงๆๆ

... ไทยรักไทย ก็ขอให้รักไทยจริง ไม่ใช่จัดกิจกรรมทีไร ก็มุ่งเอาประชาชน ไปชนกับปืน ไปชนกับทหารที่ท่านกล่าวหาว่าเป็นทหารฆ่าประชาชน ไปชนนายกฯที่ท่านกล่าวหาว่าเป็นโรคจิตสั่งฆ่าประชาชน อยู่ตลอดเวลา

... พลังประชาชน จะงดงามก็เมื่อเป็นพลังที่แสดงออกอย่างสงบ สันติ ไม่ใช่ไปคุกคามทหารถึงในที่ตั้ง ไม่ใช่เอาประชาชน กทม.เป็นประกัน ไม่ใช่เอาประชาชนทั้งชาติเป็นตัวประกันด้วยการสร้างสถานการณ์ให้มีการแตกแยกระหว่างคนกรุง กับคนต่างจังหวัด ไม่ควรสร้างสงครามชนชั้น

...เพื่อไทย ก็ควรจะเพื่อไทยจริงๆๆ เมื่อใช่เพื่อใครบางคน
ไทยทนจึงขอให้กำลังใจกับ “ท.ทหารอดทน” อธิษฐานขอให้ “ท.ทักษิณอดศพ” เชิญชวนให้ “ท.ไทยรักสงบ” และ กระตุ้นจิตสำนึก “ธ.ธรรม เพื่อไทย” ให้ชาติไทยมีความรู้รักสามัคคี มีประชาธิปไตยที่สงบร่มเย็น จะได้มีความก้าวหน้ามั่นคงยั่งยืนตลอดไปครับ

กำลังโหลดความคิดเห็น