“อัญชะลี” เผย “เอม” ลูกสาว “แม้ว” เตรียมแต่งงานกับลูกชายนักธุรกิจย่านโบ๊เบ๊ โดย “หญิงอ้อ” ไฟเขียวแล้ว ซึ่งจะแต่งแบบให้ผู้ชายเข้าบ้านผู้หญิงเพื่อมาช่วยงานครอบครัว อัด “ชาย ศรีวิกรม์” ค้านม็อบราชประสงค์แต่ดันต่อว่าเหมารวมทั้งเหลืองและแดง ไม่กล้าแม้แต่เอ่ยถึง “ทักษิณ” ซึ่งเป็นต้นตอของปัญหา พร้อมแนะคนทำงานย่านนั้นควรมีปฏิกิริยาต่อม็อบแดงมากกว่านี้ปล่อยไว้เสียหายหนักแน่
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ “เคาะข่าวริมโขง”
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น.วันพุธที่ 12 ม.ค. โดยวันนี้ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งได้เชิญนายโสภณ องค์การณ์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจเดอะเนชั่น และนายชัชวาล ชาติสุทธิชัย อดีตคนเดือนตุลา ร่วมพูดคุยในรายการ
น.ส.อัญชะลีกล่าวเปิดประเด็นว่า ขอแวะเรื่องทักษิณหน่อย ก่อนที่จะไปเรื่องอื่น วันนั้นรู้แล้วว่าทำไม 3 พี่น้องลูกทักษิณ และญาติผู้ใหญ่ขึ้นเครื่องบินไปดูไบ เพราะน้องเอมจะแต่งงานเลยพาแฟนไปให้คุณพ่อดูตัวหลังจากที่แม่ไฟเขียวแล้ว
แต่งกับลูกชายนักธุรกิจแถวโบ๊เบ๊ ไปเรียนหนังสือที่เมืองนอกด้วยกัน แล้วก็รักกัน เป็นการแต่งแบบผู้ชายเข้าบ้านผู้หญิงด้วย หญิงอ้อบอกว่าต้องเอามาช่วยงานเพราะหัวเรือใหญ่ของครอบครัวต้องไปอยู่ต่างประเทศ ไม่มีใครช่วยทำงาน
นายโสภณกล่าวเสริมว่า อย่างนี้อนาคตก็เป็นนายกฯ สิ เหมือนป็นการเพิ่มผู้มีศักยภาพ เข้าไปเล่นการเมืองอีกคนหนึ่ง นายชัชวาลกล่าวเพิ่มเติมว่า ถ้าตรงกับคนที่ตนรู้จัก ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ใช้ได้เลย
น.ส.อัญชะลีกล่าวอีกว่า ก็จะได้ลูกเขยเป็นครอบครัวคนจีนที่ค้าขายที่โบ๊เบ๊ ตอนนี้ก็รู้แค่นี้ยังไม่รู้รายละเอียดว่าเป็นใคร แต่รู้สึกเหมือนกับว่าญาติฝ่ายชายหน้าตาไม่ค่อยดีนัก แต่ฝ่ายหญิงก็มองว่าตนมีตังค์อยู่แล้วเลยไม่จำเป็น แต่น้องเอมก็ไม่ใช่เงียบเชียบน่ารัก ก็ออกฤทธิ์หลายครั้ง เป็นเด็กที่ไม่ธรรมดา ต้นไม้มีพิษ ลูกไม้ก็มีพิษ แต่ยังไงก็ขอให้มีความสุขแล้วกัน
น.ส.อัญชะลีกล่าวถึงประเด็นนายธาริตยื่นถอนประกันตู่ จตุพร ว่าวันนี้ธาริตไปยื่นถอนประกัน แล้วนายจตุพรก็ต่อแถวยื่นคัดค้านการถอนประกันต่อเลย และยืนต่อหลังสะกิดถามนายธาริตด้วยว่าจะถอนประกันตนอีกกี่ครั้ง ซึ่งนักข่าวก็มองว่ามันเป็นพฤติกรรมข่มขู่เจ้าพนักงาน
วันอาทิตย์ที่ผ่านมาที่ราชประสงค์ ตู่ก็ขึ้นเวที อันนี้นักธุรกิจที่สี่แยกราชประสงค์พึงต้องสำเหนียกให้หนัก ทักษิณมันให้พี่น้องมันมา จ้างคนมา ทำให้กิจการของพี่น้องที่ราชประสงค์ เสียหายทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละหลายร้อยล้านบาท และคราวที่แล้วอยู่ยาวก็เสียหายเป็นหมื่นล้านบาท
“ถามว่าคุณยังจะมีปฏิกิริยาแค่นี้กับคนอย่างทักษิณอีกหรือ นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบการวิสาหกิจย่านราชประสงค์ ที่วันนี้ออกมาคัดค้านม็อบ ก็ไม่กล้าพูดเรื่องทักษิณสักคำ เมื่อไหร่ที่คุณรู้ก็ตามว่าตัวปัญหาคือทักษิณ แล้วคุณไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยนามของตัวปัญหา คุณอย่าหวังเลยว่าพวกนั้นจะกลัวคุณ จะเกรงใจคุณ แล้วจะทำอย่างที่คุณร้องขอ แม้คุณจะมาเป็นพันก็เถอะ”
นายโสภณ กล่าวว่า พันคนน้อยไป คนออฟฟิศทำไมไม่ออกมาล่ะ นายชัชวาลกล่าวว่า เขาให้ออกมาออฟฟิศละ 3 คน แต่บางที่ก็มาบางที่ก็ไม่มา มันเลยได้จำนวนน้อย
น.ส.อัญชะลีกล่าวเสริมว่า ที่ราชประสงค์คนทำงานเต็มไปหมด ถ้าคุณไม่ช่วยเหลือพวกคุณเอง ใครจะช่วย เพราะวันนี้นายกฯ ก็พูดแล้วว่าเป็นเรื่องของตำรวจ ราชประสงค์ และเสื้อแดง ที่จะต้องไปคุยกันเอง ไม่ใช่เรื่องที่นายกฯจะลงไปจัดการ แล้วสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ตั้งอยู่ตรงนั้น ตำรวจไม่คิดจะทำอะไรบ้างเลยหรือ ตอนเสื้อแดงบุกคราวที่แล้วก็ไม่ทำอะไรเลย
น.ส.อัญชะลีกล่าวว่า ฟังที่นายชาย ศรีวิกรม์ พูด ถ้ายังคิดอย่างนี้ไม่มีวันเอาธุรกิจของตัวเองเดินออกจากปัญหานี้ได้เลย เขาเป็นพ่อค้าที่สวมหัวใจพ่อค้าอย่างเดียว เพราะมีคนแบบนี้บ้านเมืองถึงได้เป็นแบบนี้ โดยเขาพูดว่าการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ที่แยกราชประสงค์ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ทำธุรกิจการค้าในย่านดังกล่าว ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาได้มีการพยายามใช้พื้นที่บริเวณแยกราชประสงค์เป็นตัวกดดันในเรื่องของทางการเมืองมาโดยตลอด แต่ทางกลุ่มผู้ค้าและทำธุรกิจในย่านราชประสงค์ต่างมีความเห็นตรงกันว่า พวกเราไม่ต้องการที่จะให้สถานที่แห่งนี้ เป็นเครื่องมือทางการเมืองของทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเสื้อเหลือง หรือ เสื้อแดง
“เสื้อแดงรู้กันแล้วว่าเป็นไง แต่ในฐานะที่ตนเป็นเสื้อเหลืองขอพูดว่า หนึ่งเราไปที่ราชประสงค์แล้วกลับ เราช่วยกันเก็บขยะหลังจบม็อบ สองจุดประสงค์ของเราคือการต่อต้านระบอบทักษิณ เผด็จการ ทรราช และจาบจ้วงสถาบัน คนเสื้อเหลืองเป็นคนดี การเดินออกไปของเสื้อเหลืองทำให้การเมืองเปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้นคุณอย่าพูดว่าทั้งเหลือง ทั้งแดง” น.ส.อัญชะลี กล่าว
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ “เคาะข่าวริมโขง”
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น.วันพุธที่ 12 ม.ค. โดยวันนี้ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งได้เชิญนายโสภณ องค์การณ์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจเดอะเนชั่น และนายชัชวาล ชาติสุทธิชัย อดีตคนเดือนตุลา ร่วมพูดคุยในรายการ
น.ส.อัญชะลีกล่าวเปิดประเด็นว่า ขอแวะเรื่องทักษิณหน่อย ก่อนที่จะไปเรื่องอื่น วันนั้นรู้แล้วว่าทำไม 3 พี่น้องลูกทักษิณ และญาติผู้ใหญ่ขึ้นเครื่องบินไปดูไบ เพราะน้องเอมจะแต่งงานเลยพาแฟนไปให้คุณพ่อดูตัวหลังจากที่แม่ไฟเขียวแล้ว
แต่งกับลูกชายนักธุรกิจแถวโบ๊เบ๊ ไปเรียนหนังสือที่เมืองนอกด้วยกัน แล้วก็รักกัน เป็นการแต่งแบบผู้ชายเข้าบ้านผู้หญิงด้วย หญิงอ้อบอกว่าต้องเอามาช่วยงานเพราะหัวเรือใหญ่ของครอบครัวต้องไปอยู่ต่างประเทศ ไม่มีใครช่วยทำงาน
นายโสภณกล่าวเสริมว่า อย่างนี้อนาคตก็เป็นนายกฯ สิ เหมือนป็นการเพิ่มผู้มีศักยภาพ เข้าไปเล่นการเมืองอีกคนหนึ่ง นายชัชวาลกล่าวเพิ่มเติมว่า ถ้าตรงกับคนที่ตนรู้จัก ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ใช้ได้เลย
น.ส.อัญชะลีกล่าวอีกว่า ก็จะได้ลูกเขยเป็นครอบครัวคนจีนที่ค้าขายที่โบ๊เบ๊ ตอนนี้ก็รู้แค่นี้ยังไม่รู้รายละเอียดว่าเป็นใคร แต่รู้สึกเหมือนกับว่าญาติฝ่ายชายหน้าตาไม่ค่อยดีนัก แต่ฝ่ายหญิงก็มองว่าตนมีตังค์อยู่แล้วเลยไม่จำเป็น แต่น้องเอมก็ไม่ใช่เงียบเชียบน่ารัก ก็ออกฤทธิ์หลายครั้ง เป็นเด็กที่ไม่ธรรมดา ต้นไม้มีพิษ ลูกไม้ก็มีพิษ แต่ยังไงก็ขอให้มีความสุขแล้วกัน
น.ส.อัญชะลีกล่าวถึงประเด็นนายธาริตยื่นถอนประกันตู่ จตุพร ว่าวันนี้ธาริตไปยื่นถอนประกัน แล้วนายจตุพรก็ต่อแถวยื่นคัดค้านการถอนประกันต่อเลย และยืนต่อหลังสะกิดถามนายธาริตด้วยว่าจะถอนประกันตนอีกกี่ครั้ง ซึ่งนักข่าวก็มองว่ามันเป็นพฤติกรรมข่มขู่เจ้าพนักงาน
วันอาทิตย์ที่ผ่านมาที่ราชประสงค์ ตู่ก็ขึ้นเวที อันนี้นักธุรกิจที่สี่แยกราชประสงค์พึงต้องสำเหนียกให้หนัก ทักษิณมันให้พี่น้องมันมา จ้างคนมา ทำให้กิจการของพี่น้องที่ราชประสงค์ เสียหายทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละหลายร้อยล้านบาท และคราวที่แล้วอยู่ยาวก็เสียหายเป็นหมื่นล้านบาท
“ถามว่าคุณยังจะมีปฏิกิริยาแค่นี้กับคนอย่างทักษิณอีกหรือ นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบการวิสาหกิจย่านราชประสงค์ ที่วันนี้ออกมาคัดค้านม็อบ ก็ไม่กล้าพูดเรื่องทักษิณสักคำ เมื่อไหร่ที่คุณรู้ก็ตามว่าตัวปัญหาคือทักษิณ แล้วคุณไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยนามของตัวปัญหา คุณอย่าหวังเลยว่าพวกนั้นจะกลัวคุณ จะเกรงใจคุณ แล้วจะทำอย่างที่คุณร้องขอ แม้คุณจะมาเป็นพันก็เถอะ”
นายโสภณ กล่าวว่า พันคนน้อยไป คนออฟฟิศทำไมไม่ออกมาล่ะ นายชัชวาลกล่าวว่า เขาให้ออกมาออฟฟิศละ 3 คน แต่บางที่ก็มาบางที่ก็ไม่มา มันเลยได้จำนวนน้อย
น.ส.อัญชะลีกล่าวเสริมว่า ที่ราชประสงค์คนทำงานเต็มไปหมด ถ้าคุณไม่ช่วยเหลือพวกคุณเอง ใครจะช่วย เพราะวันนี้นายกฯ ก็พูดแล้วว่าเป็นเรื่องของตำรวจ ราชประสงค์ และเสื้อแดง ที่จะต้องไปคุยกันเอง ไม่ใช่เรื่องที่นายกฯจะลงไปจัดการ แล้วสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ตั้งอยู่ตรงนั้น ตำรวจไม่คิดจะทำอะไรบ้างเลยหรือ ตอนเสื้อแดงบุกคราวที่แล้วก็ไม่ทำอะไรเลย
น.ส.อัญชะลีกล่าวว่า ฟังที่นายชาย ศรีวิกรม์ พูด ถ้ายังคิดอย่างนี้ไม่มีวันเอาธุรกิจของตัวเองเดินออกจากปัญหานี้ได้เลย เขาเป็นพ่อค้าที่สวมหัวใจพ่อค้าอย่างเดียว เพราะมีคนแบบนี้บ้านเมืองถึงได้เป็นแบบนี้ โดยเขาพูดว่าการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ที่แยกราชประสงค์ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ทำธุรกิจการค้าในย่านดังกล่าว ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาได้มีการพยายามใช้พื้นที่บริเวณแยกราชประสงค์เป็นตัวกดดันในเรื่องของทางการเมืองมาโดยตลอด แต่ทางกลุ่มผู้ค้าและทำธุรกิจในย่านราชประสงค์ต่างมีความเห็นตรงกันว่า พวกเราไม่ต้องการที่จะให้สถานที่แห่งนี้ เป็นเครื่องมือทางการเมืองของทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเสื้อเหลือง หรือ เสื้อแดง
“เสื้อแดงรู้กันแล้วว่าเป็นไง แต่ในฐานะที่ตนเป็นเสื้อเหลืองขอพูดว่า หนึ่งเราไปที่ราชประสงค์แล้วกลับ เราช่วยกันเก็บขยะหลังจบม็อบ สองจุดประสงค์ของเราคือการต่อต้านระบอบทักษิณ เผด็จการ ทรราช และจาบจ้วงสถาบัน คนเสื้อเหลืองเป็นคนดี การเดินออกไปของเสื้อเหลืองทำให้การเมืองเปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้นคุณอย่าพูดว่าทั้งเหลือง ทั้งแดง” น.ส.อัญชะลี กล่าว