โฆษกมาร์คแขวะ “แม้ว” เจ้าของม็อบตัวจริง สั่งห้ามจัดชุมนุม เกรงสร้างความเดือดร้อนย่านธุรกิจราชประสงค์ เย้ยโฟนอินซ้ำซากเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง เชื่อหลังจากนี้พรรคไข่แม้วจะใช้ทักษิณเป็นจุดขายเพื่อเรียกคะแนนเสียง แนะศาลถอนประกันสนองความต้องการ “ไอ้ตู่” เชื่อ ปชช.เลือกผลงานมากกว่าตัวบุคคล
วันนี้ (10 ม.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ว่า เป็นการชุมนุมที่กระจัดกระจายไร้ระเบียบ แกนนำไม่สามารถควบคุมมวลชนของตัวเองได้ จึงเกรงว่าต่อไปหากครั้งต่อไปมีการชุมนุมลักษณะนี้อีกก็สุ่มเสี่ยงจะเกิดความวุ่นวาย และขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่พยายามรักษาความสงบจนไม่มีเหตุการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้น ส่วนที่แกนนำ นปช.ประกาศว่าจะมีการุมนุมอีกในวันที่ 23 ม.ค.นี้ ไม่ทราบว่าทำไมจึงใช้วันที่ 23 ม.ค.ทั้งที่เคยประกาศว่าจะใช้เฉพาะวันที่ 10 และ 19 ในขณะเดียวกันยังมีกลุ่ม 24 มิ.ย.ก็ประกาศจะชุมนุมเช่นกัน ซึ่งเป็นการชุมนุมของกลุ่มของ นปช.ที่ค่อนข้างหลากหลาย จึงอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะเจ้าของม็อบตัวจริง ประสานงานและทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้สนับสนุนว่าไม่ควรนัดชุมนุมในลักษณะต่างกัน เพราะส่งผลกระทบต่อชาว กทม. โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการทั้งโรงแรม ห้างสรรพสินค้าย่านราชประสงค์
ส่วนการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตนคิดว่าเป็นการแสดงท่าทีเหมือนเดิมในลักษณะแผ่นเสียงตกร่อง กล่าวหาว่ารัฐบาลเผด็จการ และเรียกร้องความยุติธรรมกลับมาสู่สังคมไทย ทั้งที่ข้อเท็จจริงความยุติธรรมอยู่คู่สังคมไทย เพียงแต่ พ.ต.ท.ทักษิณถูกศาลสั่งจำคุก จึงคิดตัวเองไม่ได้รับความยุติธรรม ขณะเดียวกัน ถ้าดูข้อเรียกร้องของกลุ่มคนเสื้อแดงค่อนข้างหลากหลาย โดยเฉพาะวัตถุประสงค์การชุมนุมว่าเพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิต บางกล่มอ้างประชาธิปไตย เรียกร้องรัฐธรรมนูญปี 40 ต่อต้านเผด็จการ ประเทศไทยยัง 2 มาตรฐาน รวมถึงเรียกร้องให้ปล่อยแกนนำ นปช.ที่ถูกคุมขังอยู่ ซึ่งล้วนแต่เป็นข้อเรียกร้องที่ไม่มีเอกภาพ จึงไม่เข้าใจว่าการชุมนุมของกลุ่มคนเหล่านี้มีเป้าหมายอะไรกันแน่
ส่วนที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.ที่เข้าร่วมการชุมนุมของ นปช.นั้น ตนคิดว่านายจตุพรได้ละเมิดคำสั่งศาลที่ให้เงื่อนไขว่า 1.ห้ามร่วมการชุมนุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป 2.ห้ามแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ซึ่งถือว่านายจตุพรละเมิดข้อห้ามในลักษณะท้าทายอำนาจศาล ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่ตัวเองทำเป็นการละเมิดต่อคำสั่งศาล แต่พฤติกรรมก็ยังดำรงอยู่ในลักษณะอยากลองของ จึงขอวิงวอนไปยังศาลได้โปรดสนองตอบต่อสิ่งที่นายจตุพรต้องการ อย่างน้อยก็สั่งถอนประกันนายจตุพรให้สมใจอยาก และขอให้หน่วยงานที่รักษากฎหมายและควบคุมพฤติกรรมนายจตุพรได้ใช้เงื่อนไขเหล่านี้ถอนประกันนายจตุพรให้เป็นเรื่องจริง มิฉะนั้นพฤติกรรมของนายจตุพรก็จะสวนความรู้สึกของสังคม เพราะคิดว่าคนในสังคมก็เอือมระอาต่อพฤติกรรมของนายจตุพรมากแล้ว อาจมีการตั้งคำถามว่าทำไมนายจตุพรไม่ถุกคุมขังเหมือนกับเพื่อนแกนนำ นปช.ที่ถูกคุมขังอยู่ในขณะนี้
เมื่อถามว่า ได้มีการประเมินหรือไม่ว่าการเคลื่อนไหวของ นปช.อย่างไม่มีเอกภาพ จะส่งผลต่อการทำงานของรัฐบาลอย่างไร นายเทพไทกล่าวว่า ตนคิดว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงขณะนี้ น้ำหนักหรือข้อเรียกร้องเบา และคนที่จะเข้าร่วมคงที่ ไม่เพิ่มไปกว่านี้ แต่ยังคงดำรงการเคลื่อนไหวอยู่น่าจะเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อสนับสนุนฐานทางการเมืองของเพื่อไทยมากกว่า ดูจากการตั้งองค์กร นปช.เพื่อรองรับการเมืองของพรรคเพื่อไทย ในขณะที่พรรคเพื่อไทยไม่มีเครือข่ายทางการเมืองระดับสาขาในส่วนภูมิภาค และการเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการกดดันดิสเครดิต ทำลายคะแนนนิยมของรัฐบาล เพื่อจะนำไปสู่การเลือกตั้งเพราะคนเหล่านี้รู้ว่าเหลือเวลาอีกไม่นานที่จะเข้าสู่โหมดการเลืกตั้งแล้ว ฉะนั้น ขบวนการทั้งหมดจึงเกื้อหนุนกันเพื่อสร้างคะแนนให้พรรคเพื่อไทย และลดคะแนนนิยมของรัฐบาล และคิดว่าหลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ หายหน้าจากการโฟนอินไปพักหนึ่ง เมื่อบรรยากาศเตรียมการเลือกตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณจะมีบทบาทมากขึ้น และพรรคเพื่อไทยจะชู พ.ต.ท.ทักษิณเป็นจุดขาย และหลังจากนี้ทุกกิจกรรมก็จะมี พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามามีส่วนร่วมด้วย
นายเทพไทกล่าวว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องใช้นโยบาย และรัฐบาลใช้ผลงานเสนอต่อประชาชนให้ได้รับการยอมรับ ตนคิดว่าถ้าพรรคเพื่อไทยยังย่ำอยู่กับที่ด้วยการขาย พ.ต.ท.ทักษิณอย่างเดียวนั้น กระแสคงจะลดเองเหมือนกับที่เป็นอยู่ในถาคอิสานในขณะนี้ และการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาก็น่าจะชี้ชัดได้ว่ากระแสของ พ.ต.ท.ทักษิณไม่แข็งจริงตามที่พรรคเพื่อไทยมาหลอกกันเอง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้กังวลอะไร เพราะเราคิดถึงการเสนอผลงานและนโยบายต่อประชาชนมากกว่า และคิดว่าประชาชนน่าจะเลือกผลงานมากกว่าตัวบุคคล
