xs
xsm
sm
md
lg

ดัชนีเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นรอบ3เดือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้นทุกรายการ ครั้งแรกในรอบ 3 เดือน หลังรัฐขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ตรึงดีเซล ราคาสินค้าเกษตรพุ่ง ทำกำลังซื้อกลับมา คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้มีโอกาสโตได้ 4.5% เหตุขึ้นค่าแรง โครงการประชาวิวัฒน์ มีเงินกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม

นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ รองอธิการบดี ฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.2553 ที่สำรวจจากตัวอย่างประชาชนทั่วประเทศ 2,232 คนว่า ดัชนีทุกรายการปรับขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน โดยดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 71.9 เพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ย.2553 ที่ 70.3 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานอยู่ที่ 72.0 จาก 70.5 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 98.7 จาก 96.3 ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนธ.ค.2553 อยู่ที่ 80.8 เพิ่มขึ้นจาก 79.0 ในเดือนพ.ย.2553 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบันอยู่ที่ 63.7 เพิ่มจาก 62.6 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคตอยู่ที่ 86.3 เพิ่มจาก 84.2

ปัจจัยที่ทำให้ดัชนีทุกรายการปรับตัวดีขึ้น ได้แก่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้การจับจ่ายใช้สอยของประชาชน การท่องเที่ยว และการลงทุนของชาวต่างชาตกลับมาคึกคักในช่วงปีใหม่, การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ 8-17 บาท, รัฐบาลต่ออายุ 3 มาตรการลดค่าครองชีพ, การตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ทำให้ความกังวลของประชาชนในเรื่องราคาสินค้าแพง และค่าครองชีพสูงลดลง, ผลผลิตทางการเกษตรมีราคาสูงขึ้น ทำให้กำลังซื้อภาคเกษตรสูงขึ้น, คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ทำให้ดอกเบี้ยเพิ่มจาก 1.75% มาอยู่ที่ 2%, ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อย เป็นต้น

ส่วนปัจจัยลบที่จะบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เช่น ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศเพิ่มสูงขึ้น, ความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะปัญหาหนี้สาธารณะในระดับสูงของยุโรป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก, ผู้บริโภคกังวลเกี่ยวกับปัญหาค่าครองชีพ และราคาสินค้าสูง รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองในอนาคต

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทุกรายการเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน หรือหลังจากน้ำท่วมใหญ่ผ่านพ้นไป ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรปรับตัวดีขึ้นหมด ทั้งข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ส่งผลให้เกษตรกรมีกำลังซื้อสูงขึ้น และกลับมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ทำให้ประชาชนมีเงินมากขึ้น จึงมั่นใจกลับมาบริโภค และดันให้ดัชนีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้มีโอกาสขยายตัวได้ถึง 4.5% จากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ ที่ทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 15,000-20,000 ล้านบาท มีส่วนช่วยกระตุ้นอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) 0.1-0.15% และโครงการประชาวิวัฒน์ หากเห็นผลได้เร็วใน 6 เดือนจะมีเม็ดเงินหมุนเวียน 15,000-20,000 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นจีดีพีได้ 0.1-0.15% เช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น