ASTVผู้จัดการรายวัน - “สนธิ” จวก "อภิสิทธิ์-ประวิตร-สุเทพ" ไม่ใช่คนไทย เตือนกฎแห่งกรรม กำลังตามล่า “คนขายชาติ-เจตนาร้ายกับแผ่นดินไทย" จะมีความฉิบหายทั้งครอบครัว ถาม “อภิสิทธิ์” จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ระวังจะไม่มีแผ่นดินอยู่เหมือน “ทักษิณ” ถาม “ประวิตร-บัวแก้ว" สมัยUNHCRขอตั้งค่ายลี้ภัยในแผ่นดินไทย ไปอยู่ที่ไหน
วานนี้ (7 ม.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวตอนหนึ่งในรายการเมืองรายสัปดาห์โดยก่อนหน้าพิธีกรร่วม ได้นำคลิปวีดีโอที่ระบุว่า คณะ 7 คนไทยที่เข้าไปตรวจสอบหลักหมุดในพื้นที่ทับซ้อนของไทยและเขมรที่อ้างว่า เป็นตัวเต็มมาออกให้ผู้ชมดู โดยอ้างว่าเป็นการนำมาเปิดให้ฟังครั้งแรกในเอเอสทีวี ซึ่งระบุว่า มีการตัดต่อคำพูดของนายพินิจ วิกิตเศรษฐ์ และนายวีระ สมความคิด เพื่อหวังผลประโยชน์
นายสนธิ กล่าวว่า การเข้าไปในเขตเขมร กรณี 7 คนไทย เชื่อว่ามีความพยายามสร้างเรื่องให้เป้นวาระซ้อนเร้นอย่างแน่นอน ทั้งคนในท้องถิ่น ทหารบางคน พ่อค้าบางคนที่อยู่เบื้องหลังและรัฐบาลชุดนี้ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เห็นนายฮุนเซน นากยรัฐมนตรีเขมรเป็นพ่อตัวเอง และคิดว่า นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ก็ควรลาออกจากประชาชนไทยเสียที และรีบย้ายไปเป็นลูกน้องนายฮุนเซน
ขณะเดียกวันการทำหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ ในขณะนี้ถือว่าเป็น “กระทรวงขายชาติ”อย่างแท้จริงในขณะนี้ ตนผิดหวังมากที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศและนายสุเทพพยายามบิดเบือนความจริง อย่างนายกษิตก็ฉกฉวยการชุมนุมของพันธมิตรฯไปสร้างชื่อให้กับตัวเอง การที่นายกษิตมาพูดวันนี้ ก็คือเป็นการไปปกป้องเขมรไปหมด เพราะถ้าคิดว่าถ้านายกษิตหรือนายสุเทพพูดถูกว่าคณะทั้ง 7 คนถูกจับที่พื้นที่เขมร ตรงนั้นก็คือพื้นที่ที่ใช้มาตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน แต่ที่นายอภิสิทธิ์ อ้างว่าพื้นที่ทับซ้อนจะต้องยึดหลักสันปันน้ำ ถามว่าตรงไหน ที่นายอภสิทธิ์พูด คงไปยึดหลัก “สันปันนำลาย”มากกว่า
นายสนธิ กล่าวว่า ส่วนที่พล.อ.ประวิตร บอกว่า เป็นไปไม่ว่าคนไทยทั้ง 7 คนจะถูกจับกุมจากฝั่งประเทศไทย เพราะไม่มีโฉนดระบุว่าเป็นพื้นที่ใคร เพราะพื้นที่ทับซ้อนยังยึดหลักสันปันน้ำ ที่เขมรบอกว่าจะใช้มาตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน
“คำถามก็มีอยู่ว่า กว่า 30 ปีที่ผ่านมาเกิดสงครามระหว่างทหารเขมร กับเขมรแดง และทหารไทยในขณะนั้น ก็เป็นทหารที่ประจำการอยู่ พล.อ.ประวิตรในสมัยเป็นผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ก็รู้ว่า ที่ ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือUNHCRเขามาขอตั้งค่ายผู้ลี้ภัยให้กับผู้ลี้ภัย ก็ต้องมาขอตั้งในเขตแดนไทย ที่ไม่ใช่คู่สงครามกับเขมรและเขมรแดง
จะเห็นได้จากที่ตั้งที่อยู่ในดินแดนไทยและมีบ่อน้ำที่ขุดเพื่อเลี้ยงผู้ลี้ภัย ดังนั้นที่พล.อ.ประวิตร นายสุเทพ บอกว่าเขตแดนตรงนั้นน่าจะเป็นของเขมร ถามว่าเขาจะมาตั้งค่ายผู้ลี้ภัยตรงนี้ทำไม เมื่อเขมรฆ่ากันเอง ก็ต้องมาตั้งที่ไทย ไม่รู้ว่าพล.อ.ประวิตรพูดคืออะไร กรณีนี้ที่ดินที่มีหนังสือ นส.3ก. ของคุณบุญจัน เกตุธาตุ ชาวบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เขามีที่ดินตั้งแต่ยังเป็นจังหวัดปราจีนบุรี แต่ถูกทหารเขมรไล่ที่ เขาก็มาชี้ว่า เขามีหนังสือ นส.3.ก.มีชื่อชัดเจนว่าเป็นของของเขา
ตรงนี้พล.อ.ประวิตร ที่พูดว่าเขมรเข้ามาในพื้นที่นั้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2520 ถามว่าพื้นที่ตรงนั้น คนไทยอยู่มาตั้ง 20-30 ปี เขมรเข้ามาปีพ.ศ. 2520 เข้ามาได้อย่างไร อย่างนี้ต้องบอกว่า ไม่ทำหน้าที่แล้ว ยังจะมายกพื้นที่ให้กับเขมรอีก ถามว่าคุณกำลังจะยกพื้นที่ตรงนี้ให้กับเขมรหรือยังไง
นายสนธิ กล่าวอีกว่า ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ ที่ออกมาบอกว่า คนไทย 7 คนถูกจับในเขตแดนเขมรและหลงเข้าไป ตนถามว่ากระทรวงการต่างประเทศ จะไม่รู้หรือไงว่า UNHCRเข้ามาขอตั้งค่ายลี้ภัยให้กับผู้อพยพ เขามาตั้งในไทยที่ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ก็คือมีทั้งบ่อน้ำ มีโฉนดที่มาตั้งในประเทศไทย ต้องบอกว่า กระทรวงต่างประะทศกำลังสมรู้ร่วมคิดกับเขมร ทหารไทยบางคนก็สมรู้ร่วมคิดกับนายฮุนเซน
ทั้งนี้จะเห็นได้จาก รายงานพิกัดหลักเขต ของกองกำลังบูรพา ที่ดูแลพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว ในปี 2553 พบว่า มีการเลื่อนพิกัดสีแดงไปเป็นสีน้ำเงินให้กับเขมร มีการกินดินแดน ตั้งแต่หลักเขต 46 ไปเลื่อย ถามว่า ทหารไทยไม่ได้ปกป้องดินแดนไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด นักการเมืองไม่ได้ทำหน้าที่ปกป้องหรืออย่างไร
ด้วยเหตุผลนี้ชัดเจนว่ารายงานพิกัดหลักเขต ที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.)รายงานให้กับนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าในปี 2549 มีการเสียดินแดนไป ถามว่ากองกำลังบูรพา กำลังทำอะไรอยู่ ใน 4 ปีที่เสียดินแดนไป กระทรวงการต่างประทศเฮงซวยกำลังทำอะไรอยู่ ตรงนี้แสดงว่า ไทยยอมรับโดยพฤตินัยไปแล้ว ตรงนี้นายกรัฐมนตรีกล้าที่จะดำเนินการอะไรหรือไม่
นายสนธิ กล่าวว่า พวกที่อกมาพูดว่า โลกไร้พรมแดน คนที่ออกมาปกป้องเป็นพวกคลั่งชาตินั้นไม่ถูกต้อง แต่เป็นเรื่องของความถูกต้องที่ละเอียดอ่อน ถ้านายกฯ เป็นลูกผู้ชาย พล.อ.ประวิตรยังมีจิตใจเป็นทหาร นายสุเทพยังเป็นคนไทยจริง ๆต้องประกาศชัดเจนว่า เขมรต้องปล่อยทันที เพราะพื้นที่ดังกล่าวนี้คือบ้านของเรา
นายสนธิ กล่าวว่า กรณีนี้เป็นเรื่องที่น่าเจ็บช้ำน้ำใจอย่างมาก เพราะพอมีเรื่องรัฐบาลไทย ทหาร นักการเมืองกลับไม่มีศักดิ์ศรี เหมือนกับว่า เรายอมเขมรไปทุกเรื่อง ถามว่าประเทศที่มันฆ่าล้างเผ่าพันธ์ เราควรทำอย่างไร ทหารเรามีแต่ความเท่ห์ ลืมภารกิจที่จะต้องปกป้องแผ่นดิน
“ที่บอกว่าเขมรอยู่ตั้งแต่ปี 2520 ขอถามว่า ก่อนหน้านั้นใครอยู่ ถ้าไม่ใช่คนไทย และก่อนหน้านั้น คุณปล่อยให้มันเข้ามาได้อย่างไร คุณทำหน้าที่ของคุณอยู่หรือ แสดงว่ามีอะไรที่เป็นเบื้องหน้าเบื้องหลังที่คุณเข้าไปทำอะไรกัน”
นายสนธิกล่าว่วา ถามว่าทหารที่ทำหน้าที่ตอนนั้นในช่วงนั้น ที่ก็รู้ว่าUNHCR เข้ามาตั้งค่ายผู้ลี้ภัยและทำอะไรกันอยู่ว่าเป็นดินแดนไทยสมัยนั้น เดิมก็เป็นแผ่นดินแดนไทย ถามว่าทำไมสมัยนี้ ทำไมถึงบอกว่าไมได้เป็นแผ่นดินไทย
“คำถามว่าคือใครให้พวกมันเข้ามาอยู่ เพราะรายงานพิกัดก็ให้ทั้งนายกฯ ให้ทหารเข้ามาดู เพราะคนไทยที่ถูกจับก็ที่หลักเขต 46 เพราะตั้งแต่ปี 49ตรงนี้ถามว่าทหารรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ หรือเห็นแก่ประโยชน์ตรงนี้ ถ้าเช่นนั้นก็ต้องบอกว่าเป็นทหารขายชาติ ถ้าไม่ใช่ก็เป็นคำสั่งของรัฐบาลชุดไหน ตั้งแต่สมัยพล.อ.สุรยุทธิ์ จุลานนท์ นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงษ์สวัสดิ์ หรือสมัยของนายอภิสิทธิ์ หากรู้ว่าเป็นใครให้พวกมันเข้ามาอยู่ ก็ต้องไปต้องลากคอมาติดตารางให้หมด เพราะเมืองไทยมันยังขาดการจับรองนายกฯ ด้านความมั่นคง กับนายกฯ มาติดตาราง ถ้าเมืองไทยจับไอ้พวกนี้ติดตารางได้เมืองไทยจะน่าอยู่ขึ้น ”นายสนธิกล่าว
นายสนธิ บอกว่า หากเป็นตนจะต้องเปลี่ยนนายกฯและ รมว.กลาโหม ผบ.ทบ.ถึงจะกล้าพูดความจริงมากขึ้น ว่าเรื่องนี้มีปัญหาอะไร พื้นที่พรมแดนที่มีปัญหาก็เพราะนักการเมืองท้องถิ่น ทั้งปัญหาบ่อนการพนัน มีการจ่ายค่าต๋งให้กับนายฮุนเซน ที่ได้อาทิตย์ ละ 60 ล้านบาท ที่คนไทยไปเล่นที่ยอมเสียศักดิ์ศรี และยังเสือกโง่ไปแล่นของมันอีก คนที่ดูแลพรมแดนก็คือ ทหารตำรวจ ถ้าชาวบ้านเขายังอยู่ พวกนี้ก็จะยังหากินได้”
นายสนธิ กล่าวว่า ขณะนี้ผลประโยชน์ที่มีที่เลื่อนแผ่นดิน เลื่อนพรมแดนเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง พพวกนี้จะสามารถเข้าไปตัดไม้ ซึ่ง้ป็นต้นพะยุงได้ง่าย หรือเป็นพื้นที่ผ่านในการลอบซื้อขายของเถื่อน ถ้ามีพรมแดน พวกนี้ก็จะให้มีการทับซ้อนกัน ก็เพื่อผลประโยชน์ให้กับคนพวกนี้ เพราะที่ดินของคนไทยมันไปเห็นประโยช์ของพวกมัน ที่ถูกทหารไปหลอกขายที่ว่าจะมีการรบกัน ชาวบานก็ขายทิ้ง และให้เขมรมาอยู่ หากินกับเงินเขมร มันก็รุกเข้ามาเรื่อย ๆ เชื่อว่าจะลามไปถึงชายแดนทุกแห่ง
“ผมเห็น่วา ทหารตำรวจที่ดูแลชายแดน จะต้องไล่ออกทั้งหมด เพราะไปหาผลประโยชน์พวกเดียวกัน เพื่อใครบางคน จะมาเถียงกับเราก็ได้ว่าไม่มี เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นของไทย มีพิกัดที่แน่นอน หลักเขต 46 ก็เป็นหลักเขตบูรพาทำขึ้นมา ถ้าพบจะเห็นว่า ทหารบางคนจะติดคุกที่ไปร่วมกับ “เขมรที่มันสถุลมาก”
นายสนธิ กล่าวว่า คนอย่างนายวีระ นายพนิช ถือว่าเป็นคนกล้าหาญ แต่นายอภิสิทธิ์ กลับไม่แอ่นอกรับว่า เป็นคนสั่งงานให้นายพนิช เพราะพิกัดพิสูจน์ชัดว่า คนไทยถูกจับในแผ่นดินไทย ต้องกล้าออกมาพูดว่า จะให้รมว.กลาโหม เข้าไปจัดการ กดดัน แต่เขากลับไปพูดแต่ว่า “จะไปแทรกแซงศาลเขาไมได้” บอกเลยว่า ทาสแท้ของนายอภิสิทธิ์ และนายกษิต ออกมาแล้วเป็นของเก๊จริง ๆ ทำไมเราต้องไปแคร์กับนายฮุนเซน เราเดินอยู่ในบ้านของเรา ก็ยังเสือกหาว่าคนของเราไปล้ำที่ มันเป็นเพื่อนบ้านที่เลวที่สุด
ส่วนกรณีที่ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ในฐานะประธานมรดกโลกฝ่ายไทยจะไปนายซกอาน รมว.ต่างประเทศเขมร ถ้าเป็นตนเราก็จะไม่พูดกับเขมรทุกเรื่อง และบอกว่าถ้าไม่คืนคนไทย มาทั้ง 7 คน เราจะต้องปฏิเสธจะหารือเด็ดขาด
“ตอนนี้ปัญหาอยู่ที่ว่า ข้าราชการที่เกษียณอายุ ไม่รู้จักพอ เข้าไปหาประโยชน์ จากการตัดไม้พยุง ค้าของเถื่อน เอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง มิน่าละทำไมคนพวกนี้ถึงมาไล่ยิงผม ผมก็รู้”นายสนธิกล่าว
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ถึงเวลาแล้วที่ทหารที่มีจิตวิญญาณจริง ต้องแสดงออกมาบ้าง จะมานั่งอยู่เฉยๆไม่ได้ เพราะแผ่นดินไทย ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ คนอย่างนายอภิสิทธิ์อย่าทำเป็นเล่นกับดินแดนไทย เพราะเป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ ที่มีทั้งแม่พรธรณี บูรพระมหากษัตริย์ ทหาร ชาวบ้านที่เขาสู้ตายมาเพื่อแผ่นดินไทย ที่ต่อสู้เพื่อแผ่นดิน เขายังมีจิตวิญญาณอยู่ เพราะคนที่มีเจตนาร้ายกับแผ่นดินไทย เชื่อว่าจะมีความฉิบหาย ทั้งไปถึงครอบครัว ตวงศ์ตระกูลคุณ อย่างนายอภิสิทธิ์จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนต่อไป ไม่ใช่ไม่มีแผ่นดินอยู่เหมือนกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และที่มีคนบอกว่า คน 7 คน เข้าไปเรื่องนั้นก็ต้องบอกว่า เป็นเรื่องทุเรศ ที่คนไทยไร้ปัญญา นักการเมืองมันก็หลอกได้ ตนเชื่อในกฎแห่งกรรมใกล้มาถึงแล้ว.
วานนี้ (7 ม.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวตอนหนึ่งในรายการเมืองรายสัปดาห์โดยก่อนหน้าพิธีกรร่วม ได้นำคลิปวีดีโอที่ระบุว่า คณะ 7 คนไทยที่เข้าไปตรวจสอบหลักหมุดในพื้นที่ทับซ้อนของไทยและเขมรที่อ้างว่า เป็นตัวเต็มมาออกให้ผู้ชมดู โดยอ้างว่าเป็นการนำมาเปิดให้ฟังครั้งแรกในเอเอสทีวี ซึ่งระบุว่า มีการตัดต่อคำพูดของนายพินิจ วิกิตเศรษฐ์ และนายวีระ สมความคิด เพื่อหวังผลประโยชน์
นายสนธิ กล่าวว่า การเข้าไปในเขตเขมร กรณี 7 คนไทย เชื่อว่ามีความพยายามสร้างเรื่องให้เป้นวาระซ้อนเร้นอย่างแน่นอน ทั้งคนในท้องถิ่น ทหารบางคน พ่อค้าบางคนที่อยู่เบื้องหลังและรัฐบาลชุดนี้ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เห็นนายฮุนเซน นากยรัฐมนตรีเขมรเป็นพ่อตัวเอง และคิดว่า นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ก็ควรลาออกจากประชาชนไทยเสียที และรีบย้ายไปเป็นลูกน้องนายฮุนเซน
ขณะเดียกวันการทำหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ ในขณะนี้ถือว่าเป็น “กระทรวงขายชาติ”อย่างแท้จริงในขณะนี้ ตนผิดหวังมากที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศและนายสุเทพพยายามบิดเบือนความจริง อย่างนายกษิตก็ฉกฉวยการชุมนุมของพันธมิตรฯไปสร้างชื่อให้กับตัวเอง การที่นายกษิตมาพูดวันนี้ ก็คือเป็นการไปปกป้องเขมรไปหมด เพราะถ้าคิดว่าถ้านายกษิตหรือนายสุเทพพูดถูกว่าคณะทั้ง 7 คนถูกจับที่พื้นที่เขมร ตรงนั้นก็คือพื้นที่ที่ใช้มาตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน แต่ที่นายอภิสิทธิ์ อ้างว่าพื้นที่ทับซ้อนจะต้องยึดหลักสันปันน้ำ ถามว่าตรงไหน ที่นายอภสิทธิ์พูด คงไปยึดหลัก “สันปันนำลาย”มากกว่า
นายสนธิ กล่าวว่า ส่วนที่พล.อ.ประวิตร บอกว่า เป็นไปไม่ว่าคนไทยทั้ง 7 คนจะถูกจับกุมจากฝั่งประเทศไทย เพราะไม่มีโฉนดระบุว่าเป็นพื้นที่ใคร เพราะพื้นที่ทับซ้อนยังยึดหลักสันปันน้ำ ที่เขมรบอกว่าจะใช้มาตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน
“คำถามก็มีอยู่ว่า กว่า 30 ปีที่ผ่านมาเกิดสงครามระหว่างทหารเขมร กับเขมรแดง และทหารไทยในขณะนั้น ก็เป็นทหารที่ประจำการอยู่ พล.อ.ประวิตรในสมัยเป็นผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ก็รู้ว่า ที่ ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือUNHCRเขามาขอตั้งค่ายผู้ลี้ภัยให้กับผู้ลี้ภัย ก็ต้องมาขอตั้งในเขตแดนไทย ที่ไม่ใช่คู่สงครามกับเขมรและเขมรแดง
จะเห็นได้จากที่ตั้งที่อยู่ในดินแดนไทยและมีบ่อน้ำที่ขุดเพื่อเลี้ยงผู้ลี้ภัย ดังนั้นที่พล.อ.ประวิตร นายสุเทพ บอกว่าเขตแดนตรงนั้นน่าจะเป็นของเขมร ถามว่าเขาจะมาตั้งค่ายผู้ลี้ภัยตรงนี้ทำไม เมื่อเขมรฆ่ากันเอง ก็ต้องมาตั้งที่ไทย ไม่รู้ว่าพล.อ.ประวิตรพูดคืออะไร กรณีนี้ที่ดินที่มีหนังสือ นส.3ก. ของคุณบุญจัน เกตุธาตุ ชาวบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เขามีที่ดินตั้งแต่ยังเป็นจังหวัดปราจีนบุรี แต่ถูกทหารเขมรไล่ที่ เขาก็มาชี้ว่า เขามีหนังสือ นส.3.ก.มีชื่อชัดเจนว่าเป็นของของเขา
ตรงนี้พล.อ.ประวิตร ที่พูดว่าเขมรเข้ามาในพื้นที่นั้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2520 ถามว่าพื้นที่ตรงนั้น คนไทยอยู่มาตั้ง 20-30 ปี เขมรเข้ามาปีพ.ศ. 2520 เข้ามาได้อย่างไร อย่างนี้ต้องบอกว่า ไม่ทำหน้าที่แล้ว ยังจะมายกพื้นที่ให้กับเขมรอีก ถามว่าคุณกำลังจะยกพื้นที่ตรงนี้ให้กับเขมรหรือยังไง
นายสนธิ กล่าวอีกว่า ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ ที่ออกมาบอกว่า คนไทย 7 คนถูกจับในเขตแดนเขมรและหลงเข้าไป ตนถามว่ากระทรวงการต่างประเทศ จะไม่รู้หรือไงว่า UNHCRเข้ามาขอตั้งค่ายลี้ภัยให้กับผู้อพยพ เขามาตั้งในไทยที่ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ก็คือมีทั้งบ่อน้ำ มีโฉนดที่มาตั้งในประเทศไทย ต้องบอกว่า กระทรวงต่างประะทศกำลังสมรู้ร่วมคิดกับเขมร ทหารไทยบางคนก็สมรู้ร่วมคิดกับนายฮุนเซน
ทั้งนี้จะเห็นได้จาก รายงานพิกัดหลักเขต ของกองกำลังบูรพา ที่ดูแลพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว ในปี 2553 พบว่า มีการเลื่อนพิกัดสีแดงไปเป็นสีน้ำเงินให้กับเขมร มีการกินดินแดน ตั้งแต่หลักเขต 46 ไปเลื่อย ถามว่า ทหารไทยไม่ได้ปกป้องดินแดนไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด นักการเมืองไม่ได้ทำหน้าที่ปกป้องหรืออย่างไร
ด้วยเหตุผลนี้ชัดเจนว่ารายงานพิกัดหลักเขต ที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.)รายงานให้กับนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าในปี 2549 มีการเสียดินแดนไป ถามว่ากองกำลังบูรพา กำลังทำอะไรอยู่ ใน 4 ปีที่เสียดินแดนไป กระทรวงการต่างประทศเฮงซวยกำลังทำอะไรอยู่ ตรงนี้แสดงว่า ไทยยอมรับโดยพฤตินัยไปแล้ว ตรงนี้นายกรัฐมนตรีกล้าที่จะดำเนินการอะไรหรือไม่
นายสนธิ กล่าวว่า พวกที่อกมาพูดว่า โลกไร้พรมแดน คนที่ออกมาปกป้องเป็นพวกคลั่งชาตินั้นไม่ถูกต้อง แต่เป็นเรื่องของความถูกต้องที่ละเอียดอ่อน ถ้านายกฯ เป็นลูกผู้ชาย พล.อ.ประวิตรยังมีจิตใจเป็นทหาร นายสุเทพยังเป็นคนไทยจริง ๆต้องประกาศชัดเจนว่า เขมรต้องปล่อยทันที เพราะพื้นที่ดังกล่าวนี้คือบ้านของเรา
นายสนธิ กล่าวว่า กรณีนี้เป็นเรื่องที่น่าเจ็บช้ำน้ำใจอย่างมาก เพราะพอมีเรื่องรัฐบาลไทย ทหาร นักการเมืองกลับไม่มีศักดิ์ศรี เหมือนกับว่า เรายอมเขมรไปทุกเรื่อง ถามว่าประเทศที่มันฆ่าล้างเผ่าพันธ์ เราควรทำอย่างไร ทหารเรามีแต่ความเท่ห์ ลืมภารกิจที่จะต้องปกป้องแผ่นดิน
“ที่บอกว่าเขมรอยู่ตั้งแต่ปี 2520 ขอถามว่า ก่อนหน้านั้นใครอยู่ ถ้าไม่ใช่คนไทย และก่อนหน้านั้น คุณปล่อยให้มันเข้ามาได้อย่างไร คุณทำหน้าที่ของคุณอยู่หรือ แสดงว่ามีอะไรที่เป็นเบื้องหน้าเบื้องหลังที่คุณเข้าไปทำอะไรกัน”
นายสนธิกล่าว่วา ถามว่าทหารที่ทำหน้าที่ตอนนั้นในช่วงนั้น ที่ก็รู้ว่าUNHCR เข้ามาตั้งค่ายผู้ลี้ภัยและทำอะไรกันอยู่ว่าเป็นดินแดนไทยสมัยนั้น เดิมก็เป็นแผ่นดินแดนไทย ถามว่าทำไมสมัยนี้ ทำไมถึงบอกว่าไมได้เป็นแผ่นดินไทย
“คำถามว่าคือใครให้พวกมันเข้ามาอยู่ เพราะรายงานพิกัดก็ให้ทั้งนายกฯ ให้ทหารเข้ามาดู เพราะคนไทยที่ถูกจับก็ที่หลักเขต 46 เพราะตั้งแต่ปี 49ตรงนี้ถามว่าทหารรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ หรือเห็นแก่ประโยชน์ตรงนี้ ถ้าเช่นนั้นก็ต้องบอกว่าเป็นทหารขายชาติ ถ้าไม่ใช่ก็เป็นคำสั่งของรัฐบาลชุดไหน ตั้งแต่สมัยพล.อ.สุรยุทธิ์ จุลานนท์ นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงษ์สวัสดิ์ หรือสมัยของนายอภิสิทธิ์ หากรู้ว่าเป็นใครให้พวกมันเข้ามาอยู่ ก็ต้องไปต้องลากคอมาติดตารางให้หมด เพราะเมืองไทยมันยังขาดการจับรองนายกฯ ด้านความมั่นคง กับนายกฯ มาติดตาราง ถ้าเมืองไทยจับไอ้พวกนี้ติดตารางได้เมืองไทยจะน่าอยู่ขึ้น ”นายสนธิกล่าว
นายสนธิ บอกว่า หากเป็นตนจะต้องเปลี่ยนนายกฯและ รมว.กลาโหม ผบ.ทบ.ถึงจะกล้าพูดความจริงมากขึ้น ว่าเรื่องนี้มีปัญหาอะไร พื้นที่พรมแดนที่มีปัญหาก็เพราะนักการเมืองท้องถิ่น ทั้งปัญหาบ่อนการพนัน มีการจ่ายค่าต๋งให้กับนายฮุนเซน ที่ได้อาทิตย์ ละ 60 ล้านบาท ที่คนไทยไปเล่นที่ยอมเสียศักดิ์ศรี และยังเสือกโง่ไปแล่นของมันอีก คนที่ดูแลพรมแดนก็คือ ทหารตำรวจ ถ้าชาวบ้านเขายังอยู่ พวกนี้ก็จะยังหากินได้”
นายสนธิ กล่าวว่า ขณะนี้ผลประโยชน์ที่มีที่เลื่อนแผ่นดิน เลื่อนพรมแดนเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง พพวกนี้จะสามารถเข้าไปตัดไม้ ซึ่ง้ป็นต้นพะยุงได้ง่าย หรือเป็นพื้นที่ผ่านในการลอบซื้อขายของเถื่อน ถ้ามีพรมแดน พวกนี้ก็จะให้มีการทับซ้อนกัน ก็เพื่อผลประโยชน์ให้กับคนพวกนี้ เพราะที่ดินของคนไทยมันไปเห็นประโยช์ของพวกมัน ที่ถูกทหารไปหลอกขายที่ว่าจะมีการรบกัน ชาวบานก็ขายทิ้ง และให้เขมรมาอยู่ หากินกับเงินเขมร มันก็รุกเข้ามาเรื่อย ๆ เชื่อว่าจะลามไปถึงชายแดนทุกแห่ง
“ผมเห็น่วา ทหารตำรวจที่ดูแลชายแดน จะต้องไล่ออกทั้งหมด เพราะไปหาผลประโยชน์พวกเดียวกัน เพื่อใครบางคน จะมาเถียงกับเราก็ได้ว่าไม่มี เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นของไทย มีพิกัดที่แน่นอน หลักเขต 46 ก็เป็นหลักเขตบูรพาทำขึ้นมา ถ้าพบจะเห็นว่า ทหารบางคนจะติดคุกที่ไปร่วมกับ “เขมรที่มันสถุลมาก”
นายสนธิ กล่าวว่า คนอย่างนายวีระ นายพนิช ถือว่าเป็นคนกล้าหาญ แต่นายอภิสิทธิ์ กลับไม่แอ่นอกรับว่า เป็นคนสั่งงานให้นายพนิช เพราะพิกัดพิสูจน์ชัดว่า คนไทยถูกจับในแผ่นดินไทย ต้องกล้าออกมาพูดว่า จะให้รมว.กลาโหม เข้าไปจัดการ กดดัน แต่เขากลับไปพูดแต่ว่า “จะไปแทรกแซงศาลเขาไมได้” บอกเลยว่า ทาสแท้ของนายอภิสิทธิ์ และนายกษิต ออกมาแล้วเป็นของเก๊จริง ๆ ทำไมเราต้องไปแคร์กับนายฮุนเซน เราเดินอยู่ในบ้านของเรา ก็ยังเสือกหาว่าคนของเราไปล้ำที่ มันเป็นเพื่อนบ้านที่เลวที่สุด
ส่วนกรณีที่ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ในฐานะประธานมรดกโลกฝ่ายไทยจะไปนายซกอาน รมว.ต่างประเทศเขมร ถ้าเป็นตนเราก็จะไม่พูดกับเขมรทุกเรื่อง และบอกว่าถ้าไม่คืนคนไทย มาทั้ง 7 คน เราจะต้องปฏิเสธจะหารือเด็ดขาด
“ตอนนี้ปัญหาอยู่ที่ว่า ข้าราชการที่เกษียณอายุ ไม่รู้จักพอ เข้าไปหาประโยชน์ จากการตัดไม้พยุง ค้าของเถื่อน เอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง มิน่าละทำไมคนพวกนี้ถึงมาไล่ยิงผม ผมก็รู้”นายสนธิกล่าว
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ถึงเวลาแล้วที่ทหารที่มีจิตวิญญาณจริง ต้องแสดงออกมาบ้าง จะมานั่งอยู่เฉยๆไม่ได้ เพราะแผ่นดินไทย ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ คนอย่างนายอภิสิทธิ์อย่าทำเป็นเล่นกับดินแดนไทย เพราะเป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ ที่มีทั้งแม่พรธรณี บูรพระมหากษัตริย์ ทหาร ชาวบ้านที่เขาสู้ตายมาเพื่อแผ่นดินไทย ที่ต่อสู้เพื่อแผ่นดิน เขายังมีจิตวิญญาณอยู่ เพราะคนที่มีเจตนาร้ายกับแผ่นดินไทย เชื่อว่าจะมีความฉิบหาย ทั้งไปถึงครอบครัว ตวงศ์ตระกูลคุณ อย่างนายอภิสิทธิ์จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนต่อไป ไม่ใช่ไม่มีแผ่นดินอยู่เหมือนกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และที่มีคนบอกว่า คน 7 คน เข้าไปเรื่องนั้นก็ต้องบอกว่า เป็นเรื่องทุเรศ ที่คนไทยไร้ปัญญา นักการเมืองมันก็หลอกได้ ตนเชื่อในกฎแห่งกรรมใกล้มาถึงแล้ว.
