ในที่สุดนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ก็ออกมายอมรับกับสังคมแล้วว่า รู้เห็นกับการเดินทางไปตรวจพื้นที่ริมชายแดนไทย-เขมรด้านสระแก้วของ คุณพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กทม. ปชป.จริง หลังจากใช้เวลาอมพะนำอ้ำๆ อึ้งๆ อยู่เกือบอาทิตย์
คำตอบของนายกรัฐมนตรีมีขึ้นหลังจากเขมรส่งคลิปตัดต่อขึ้นยูทูบ ก็เล่นเอา รมว.กลาโหม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ และรองนายกฯ สุเทพ เทือกสุบรรณ ใบ้รับประทานไปเรียบร้อย เพราะออกตัวแรงเรื่อง 7 คนไทยลงพื้นที่สุ่มเสี่ยงด้วยพลการ และย้ำหนักแน่นว่า รัฐบาลไม่รู้ไม่เห็น
รัฐบาลเขมรดึงและดูดลูก-หลานเขมรพลัดถิ่นที่ตามพ่อ แม่ไปโตในต่างแดนกลับมาช่วยชาติพะเรอเกวียน หนุ่ม-สาวการศึกษาดีเหล่านี้มีปริญญาจากมหาวิทยาลัยชั้นเยี่ยมของโลก สามารถพูดกันได้คนละสอง-สามภาษา คือ ฝรั่งเศส อังกฤษ หรือเขมร เป็นอย่างน้อย
พลังเขมรรุ่นใหม่เป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งของฮุนเซนเป็นอย่างดี และบุคลากรเหล่านี้กลับบ้านเกิดเมืองนอนจากการชักนำของลูกสาวฮุนเซน “ฮุน มนา” คนที่คุมสื่อสารมวลชนทั้งประเทศ และเป็นผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลของเขมรไม่แพ้ผู้เป็นมารดา
“ท่านผู้หญิงบุนรานี”
ไม่แปลกใจที่เขมรรบไทยในที่ประชุม “คณะกรรมการมรดกโลก” ด้วยชั้นเชิงของสาระ ข้อมูลที่แน่นหนา และใช้เทคโนโลยี-นวัตกรรมใหม่ๆ สู้กับไทยอย่างรวดเร็ว รุนแรง
ดูตัวอย่างล่าสุดกับการตัดต่อคลิปคำพูดของคุณพนิช แล้วส่งขึ้นยูทูบกับ FB ของไทยกับเขมร ผลที่ออกมาคือ คนไทยคลั่ง และคนเขมรแค้น
ความคลั่งแค้นที่พบจากโลกออนไลน์ของเรากับเขาต่างกันลิบลับ
ของเราด่ากันเองขรมทีเดียว กล่าวหาว่า กลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติกำลังสร้างความเดือดร้อนไม่สิ้นสุด แม้กระทั่งนักการเมืองท้องถิ่นสายยี้ห้อยยังเกณฑ์ชาวบ้านออกมาต่อต้าน สู้รบปรบมือ
“ไอ้หมอนี่” ไม่หวังดีกับประเทศ เห็นแก่ตัว เอาเปรียบ และไม่น่าจะตายดี เพราะพื้นเพบนเส้นทางการเมืองก็เลวชาติ มันพาเราไปหงอกับฮุนเซน เพราะนักการเมืองกลุ่มนี้มีผลประโยชน์มหาศาลริมชายแดน ทั้งยังฉวยโอกาสที่มีอำนาจวาสนาจ้วงกินกอบโกยทรัพยากรธรรมชาติใต้ทะเลของเรากับรัฐบาลฮุนเซนในจุดที่ทักษิณเคยสวาปาม ปล่อยให้คนไทยยืนดูตาปริบๆ และบ้างก็กำลังเข่นฆ่ากันเอง
แต่นั่นไม่ใช่ธุรกิจแรกที่นักการเมืองขายชาติพวกนี้ทำมาหากินกับฮุนเซน พวกเขาเริ่มกรุยทางมาก่อนหน้านี้ ด้วยการทำธุรกิจปลูกข้าวหอมมะลิกับเขมรบนที่ดินเขมร
แน่นอนพันธุ์ข้าวหอมมะลิชั้นดีมาจากเมืองไทย อีกทั้งไม่ใช่เพิ่งทำ แต่ทำมานาน นักข่าวก็รู้แต่บางคนโดนเงินฟาดหัวเลยมึนไม่รู้ไม่ชี้ รับข้าวหอมเขามากิน รับเงินเขามาเลี้ยงชีวิตหรูหรา ไม่นำพา ไม่หวงแหน “คนไทยบางคนวันนี้มันทิ้งแผ่นดินและหลายคนนิ่งดูดาย”
ก่อนหน้านี้ทหาร-ตำรวจบางกลุ่มร่วมกับพ่อค้าท้องถิ่นและนักการเมือง ขยับหมุดปักปันเขตแดน เพียงเพราะต้องการให้ป่าไม้ที่พวกมันลักลอบตัดกลายสภาพจากไม้ไทยเป็นไม้เขมร อีสานแล้งมีหลายสาเหตุ หนึ่งในนั้นที่สำคัญเพราะมันทำลายป่ากันโครมๆ และเราเสียดินแดนมีหลายสาเหตุ หนึ่งในนั้นคือ การขยับกันเองด้วยความโลภ
เหมือนๆ กับไม่นำพาการตัดถนนรุกเข้าเขตไทยของเขมรและการตั้งบ้านเรือนล้ำแดนไทย เพียงเพราะได้ผลประโยชน์จากการค้าขายเครื่องอุปโภคบริโภค อาวุธยุทโธปกรณ์และยาเสพติด ตอนนี้ทำเฉยยิ่งกว่า เพราะน้ำมันใต้ทะเลมันหอมหวนจรุงใจ
ใครทำอะไรไว้กับแผ่นดินนี้ ทำดีได้ ทำร้ายล้วนแต่ไม่ตายดี ลองถ้าประชาชนขับไล่ไม่ได้ ก็สาปแช่งมัน ให้ตายโหงตายห่าใน 3 วัน 7 วัน เพื่อซับน้ำตา 7 คนไทยที่ไประกำในคุกพนมเปญ
เหลืยบไปดูกระทู้ของพี่น้องเขมรในโลกออนไลน์ พบว่า พวกเขาร่วมมือกันทวงคืนปราสาทพระวิหารคึกคักทรงพลัง พอมีข่าวจับ 7 คนไทยที่ฝ่ายเราดันไปเออออด้วยว่าเป็นดินเขมร เท่านั้นละ!!! ปรากฏว่า คนเขมรในโซเชียลเน็ตเวิร์กเคียดแค้นแสนสาหัส
การจับกุมคุมขัง 7 คนไทยสร้างความสะเทือนใจให้กับผู้เกี่ยวข้องไม่น้อย หลังจากพวกเขาถึงคุกพนมเปญไม่กี่วัน พ่อแม่พี่น้องของทุกคนก็เริ่มเตรียมตัวเยี่ยมลูก-ผัวอย่างกระตือรือร้น เป็นปีใหม่แสนเศร้า เป็นปีเก่าที่ปวดร้าวไม่อยากจดจำ
พี่ขวัญดิน และพี่ฟ้าจากสันติอโศก ตีตั๋วเครื่องบินด่วนจี๋ เพื่อเยี่ยมพี่แซมดินและพี่น้องอโศก
คุณเจี๊ยบภรรยาคุณพนิชก็กระวนกระวายใจกับการรอคอยที่จะไปเยี่ยมสามี
ทั้งหมดได้รับการติดต่อจากกระทรวงการต่างประเทศ ประสานให้ไปพนมเปญเร็วที่สุด ด่วนที่สุด และเงียบที่สุด เช้าวันสิ้นปีที่เราเตรียมอาหาร-เครื่องดื่มเลี้ยงวันดีปีใหม่ แต่คนเหล่านี้เตรียมเสื้อผ้า หยูกยา และอาหารเยี่ยม 7 คนไทยในคุกพนมเปญ
หลังสุขเกษมเปรมปรีด์ สวัสดีปีใหม่ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง บุคคลทั้งหมดได้เข้าเยี่ยม 7 คนไทย พบว่า คุกพนมเปญแยกพวกเขาเป็น 3 กลุ่ม พี่วีระ สมความคิดอยู่รวมกับคุณพนิชที่ชั้นล่าง คับแคบ ร้อนตอนกลางวัน และหนาวเหน็บในยามค่ำ อาหารไม่ดี น้ำไม่สะอาดพอ ดีที่สถานทูตของเรายังได้ดูแลกันบ้างในยามยาก ส่วนพี่แซมดินอยู่ชั้นบนรวมกับน้องๆ ชาวอโศกที่ไปจาก FM TV และ สองสาวทีมงานของพี่วีระถูกแยกไปขังคุกหญิงที่อยู่ใกล้ๆ กัน
หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของพนมเปญพาดหัวข่าวการล่วงล้ำอธิปไตยชาวเขมรโดย 7 คนไทย โดยโชว์รูป วีระ-พนิช หรา และเขียนข่าวสาดโคลนไม่มีดี มีข่าวลือไปทั่วพนมเปญว่า สองคนไทยนี้เป็นผู้บุกรุกอธิปไตยเขมรและอาจต้องโทษหนัก
นาทีแห่งการเยี่ยมเยียนจึงเต็มไปด้วยน้ำตาของบรรดาเมียและพี่ๆ น้องๆ ของ 7 คนไทย จับความได้ว่า พี่แซมดินถูกหนู หรือแมลงสาบไม่ทราบได้กัดหัวจนเป็นแผล ทำให้ยามหลับยามนอนไม่ปกติสุข แต่ทุกคนก็ไม่บ่น และมีกำลังใจดีเยี่ยม
เมื่อญาติพี่น้องและกลุ่มเมียๆ กลับถึงเมืองไทย พวกเขาเก็บปากเก็บคำ เพราะเชื่อว่า ยิ่งเงียบ ยิ่งง่าย เพราะฮุนเซนบ้าๆ บอๆ เดี๋ยวพาลพาโล พอดีพอร้ายอาจติดยาว!!!
ภรรยาคุณพนิชมุดเข้านมัสการพ่อท่านโพธิรักษ์ทันทีที่กลับจากพนมเปญ เธอรายงานสภาพของสามีและ 7 คนไทยที่ได้เห็นด้วยน้ำตานองหน้า และละล่ำละลักด้วยเสียงแห่งความโศกเศร้าว่า “พ่อท่านฯ ช่วยสามีดิฉันด้วยๆๆๆๆ”
ในโลก FB เหน็บเรื่องเมียๆ ผัวๆ จากข่าวสารไว้น่าสนใจว่า “เมียเหวงเยี่ยมผัวในคุกไทย เมียพนิชเยี่ยมผัวในคุกเขมร เมียวิคเตอร์ บูทเยี่ยมผัวในคุกฝรั่ง แล้วเมียทักษิณจะเยี่ยมผัวในคุกไหน?” เป็นภารกิจเมียนักการเมืองที่แลดูเหนื่อยไม่หยอก
และอีกอันก็แสบทรวงดีจริง “เสื้อแดงติดคุกไทย เสื้อเหลืองติดคุกเขมร” ฮาไม่ออกทีเดียว
หนักกว่านั้นเมื่อ ธิดา ดาวดึงส์ เมียเหวงบอกว่า “จะรอดูว่า 7 นปช.ในคุกไทยกับ 7 คนไทยในคุกเขมร ใครจะได้รับอิสระก่อนกัน” เออ…ผัวเมียคู่นี้เหวงพอๆ กัน
ไกลจากกรุงเทพฯ ไปหลายร้อยกิโลเมตร ด้านชายแดนไทย-เขมร ตรงบริเวณที่มีการจับกุม 7 คนไทย พี่น้องสายเลือดเดียวกันกำลังประจันหน้าจะฆ่าจะแกงกัน ด้านหนึ่งต่อต้านเขมร ทวงคืนแผ่นดินไทย อีกด้านหนึ่งต่อต้านคนไทยที่มาต่อต้านเขมร
การสู้รบปรบมือมีได้ทุกวินาทีเพราะนักการเมืองท้องถิ่นปลุกประชาชน มาแตกแยกกัน หรือว่าเลือดไทยต้องไหลรินล้างเท้าฮุนเซน จะเอากันอย่างนี้หรือ?
พวกเรากำลังห่างไกลจากคำว่า รักชาติ สมัครสมานสามัคคี เพราะนักการเมืองเลวๆ มันแบ่งแยก เพราะผู้บริหารอ่อนแอเห็นแก่ตัวเอาแต่ได้ เพราะข้าราชการกลไกของบ้านเมืองยอมศิโรราบตกอยู่ใต้ฝ่าตีนนักการเมืองฉ้อฉล
คนไทยจะลำบากก็วันนี้ และจะมีผลในวันหน้า…ล้างไพ่กันใหม่ดีกว่า ปล่อยไทยฆ่าไทยด้วยไทยยุแยง
การเลือกคนดีขึ้นมาปกครองบ้านเมืองไม่ใช่เรื่องง่ายในยุคสมัยคนไทยเห็นเงินเป็นใหญ่ แต่ก็ไม่ยากถ้าอยากจะทำ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ขายชาติให้ฮุนเซนมันเสีย จะได้ไม่ต้องมานั่งทะเลาะเบาะแว้งกันเองให้อายคนชาติอื่นเขา.
คำตอบของนายกรัฐมนตรีมีขึ้นหลังจากเขมรส่งคลิปตัดต่อขึ้นยูทูบ ก็เล่นเอา รมว.กลาโหม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ และรองนายกฯ สุเทพ เทือกสุบรรณ ใบ้รับประทานไปเรียบร้อย เพราะออกตัวแรงเรื่อง 7 คนไทยลงพื้นที่สุ่มเสี่ยงด้วยพลการ และย้ำหนักแน่นว่า รัฐบาลไม่รู้ไม่เห็น
รัฐบาลเขมรดึงและดูดลูก-หลานเขมรพลัดถิ่นที่ตามพ่อ แม่ไปโตในต่างแดนกลับมาช่วยชาติพะเรอเกวียน หนุ่ม-สาวการศึกษาดีเหล่านี้มีปริญญาจากมหาวิทยาลัยชั้นเยี่ยมของโลก สามารถพูดกันได้คนละสอง-สามภาษา คือ ฝรั่งเศส อังกฤษ หรือเขมร เป็นอย่างน้อย
พลังเขมรรุ่นใหม่เป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งของฮุนเซนเป็นอย่างดี และบุคลากรเหล่านี้กลับบ้านเกิดเมืองนอนจากการชักนำของลูกสาวฮุนเซน “ฮุน มนา” คนที่คุมสื่อสารมวลชนทั้งประเทศ และเป็นผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลของเขมรไม่แพ้ผู้เป็นมารดา
“ท่านผู้หญิงบุนรานี”
ไม่แปลกใจที่เขมรรบไทยในที่ประชุม “คณะกรรมการมรดกโลก” ด้วยชั้นเชิงของสาระ ข้อมูลที่แน่นหนา และใช้เทคโนโลยี-นวัตกรรมใหม่ๆ สู้กับไทยอย่างรวดเร็ว รุนแรง
ดูตัวอย่างล่าสุดกับการตัดต่อคลิปคำพูดของคุณพนิช แล้วส่งขึ้นยูทูบกับ FB ของไทยกับเขมร ผลที่ออกมาคือ คนไทยคลั่ง และคนเขมรแค้น
ความคลั่งแค้นที่พบจากโลกออนไลน์ของเรากับเขาต่างกันลิบลับ
ของเราด่ากันเองขรมทีเดียว กล่าวหาว่า กลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติกำลังสร้างความเดือดร้อนไม่สิ้นสุด แม้กระทั่งนักการเมืองท้องถิ่นสายยี้ห้อยยังเกณฑ์ชาวบ้านออกมาต่อต้าน สู้รบปรบมือ
“ไอ้หมอนี่” ไม่หวังดีกับประเทศ เห็นแก่ตัว เอาเปรียบ และไม่น่าจะตายดี เพราะพื้นเพบนเส้นทางการเมืองก็เลวชาติ มันพาเราไปหงอกับฮุนเซน เพราะนักการเมืองกลุ่มนี้มีผลประโยชน์มหาศาลริมชายแดน ทั้งยังฉวยโอกาสที่มีอำนาจวาสนาจ้วงกินกอบโกยทรัพยากรธรรมชาติใต้ทะเลของเรากับรัฐบาลฮุนเซนในจุดที่ทักษิณเคยสวาปาม ปล่อยให้คนไทยยืนดูตาปริบๆ และบ้างก็กำลังเข่นฆ่ากันเอง
แต่นั่นไม่ใช่ธุรกิจแรกที่นักการเมืองขายชาติพวกนี้ทำมาหากินกับฮุนเซน พวกเขาเริ่มกรุยทางมาก่อนหน้านี้ ด้วยการทำธุรกิจปลูกข้าวหอมมะลิกับเขมรบนที่ดินเขมร
แน่นอนพันธุ์ข้าวหอมมะลิชั้นดีมาจากเมืองไทย อีกทั้งไม่ใช่เพิ่งทำ แต่ทำมานาน นักข่าวก็รู้แต่บางคนโดนเงินฟาดหัวเลยมึนไม่รู้ไม่ชี้ รับข้าวหอมเขามากิน รับเงินเขามาเลี้ยงชีวิตหรูหรา ไม่นำพา ไม่หวงแหน “คนไทยบางคนวันนี้มันทิ้งแผ่นดินและหลายคนนิ่งดูดาย”
ก่อนหน้านี้ทหาร-ตำรวจบางกลุ่มร่วมกับพ่อค้าท้องถิ่นและนักการเมือง ขยับหมุดปักปันเขตแดน เพียงเพราะต้องการให้ป่าไม้ที่พวกมันลักลอบตัดกลายสภาพจากไม้ไทยเป็นไม้เขมร อีสานแล้งมีหลายสาเหตุ หนึ่งในนั้นที่สำคัญเพราะมันทำลายป่ากันโครมๆ และเราเสียดินแดนมีหลายสาเหตุ หนึ่งในนั้นคือ การขยับกันเองด้วยความโลภ
เหมือนๆ กับไม่นำพาการตัดถนนรุกเข้าเขตไทยของเขมรและการตั้งบ้านเรือนล้ำแดนไทย เพียงเพราะได้ผลประโยชน์จากการค้าขายเครื่องอุปโภคบริโภค อาวุธยุทโธปกรณ์และยาเสพติด ตอนนี้ทำเฉยยิ่งกว่า เพราะน้ำมันใต้ทะเลมันหอมหวนจรุงใจ
ใครทำอะไรไว้กับแผ่นดินนี้ ทำดีได้ ทำร้ายล้วนแต่ไม่ตายดี ลองถ้าประชาชนขับไล่ไม่ได้ ก็สาปแช่งมัน ให้ตายโหงตายห่าใน 3 วัน 7 วัน เพื่อซับน้ำตา 7 คนไทยที่ไประกำในคุกพนมเปญ
เหลืยบไปดูกระทู้ของพี่น้องเขมรในโลกออนไลน์ พบว่า พวกเขาร่วมมือกันทวงคืนปราสาทพระวิหารคึกคักทรงพลัง พอมีข่าวจับ 7 คนไทยที่ฝ่ายเราดันไปเออออด้วยว่าเป็นดินเขมร เท่านั้นละ!!! ปรากฏว่า คนเขมรในโซเชียลเน็ตเวิร์กเคียดแค้นแสนสาหัส
การจับกุมคุมขัง 7 คนไทยสร้างความสะเทือนใจให้กับผู้เกี่ยวข้องไม่น้อย หลังจากพวกเขาถึงคุกพนมเปญไม่กี่วัน พ่อแม่พี่น้องของทุกคนก็เริ่มเตรียมตัวเยี่ยมลูก-ผัวอย่างกระตือรือร้น เป็นปีใหม่แสนเศร้า เป็นปีเก่าที่ปวดร้าวไม่อยากจดจำ
พี่ขวัญดิน และพี่ฟ้าจากสันติอโศก ตีตั๋วเครื่องบินด่วนจี๋ เพื่อเยี่ยมพี่แซมดินและพี่น้องอโศก
คุณเจี๊ยบภรรยาคุณพนิชก็กระวนกระวายใจกับการรอคอยที่จะไปเยี่ยมสามี
ทั้งหมดได้รับการติดต่อจากกระทรวงการต่างประเทศ ประสานให้ไปพนมเปญเร็วที่สุด ด่วนที่สุด และเงียบที่สุด เช้าวันสิ้นปีที่เราเตรียมอาหาร-เครื่องดื่มเลี้ยงวันดีปีใหม่ แต่คนเหล่านี้เตรียมเสื้อผ้า หยูกยา และอาหารเยี่ยม 7 คนไทยในคุกพนมเปญ
หลังสุขเกษมเปรมปรีด์ สวัสดีปีใหม่ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง บุคคลทั้งหมดได้เข้าเยี่ยม 7 คนไทย พบว่า คุกพนมเปญแยกพวกเขาเป็น 3 กลุ่ม พี่วีระ สมความคิดอยู่รวมกับคุณพนิชที่ชั้นล่าง คับแคบ ร้อนตอนกลางวัน และหนาวเหน็บในยามค่ำ อาหารไม่ดี น้ำไม่สะอาดพอ ดีที่สถานทูตของเรายังได้ดูแลกันบ้างในยามยาก ส่วนพี่แซมดินอยู่ชั้นบนรวมกับน้องๆ ชาวอโศกที่ไปจาก FM TV และ สองสาวทีมงานของพี่วีระถูกแยกไปขังคุกหญิงที่อยู่ใกล้ๆ กัน
หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของพนมเปญพาดหัวข่าวการล่วงล้ำอธิปไตยชาวเขมรโดย 7 คนไทย โดยโชว์รูป วีระ-พนิช หรา และเขียนข่าวสาดโคลนไม่มีดี มีข่าวลือไปทั่วพนมเปญว่า สองคนไทยนี้เป็นผู้บุกรุกอธิปไตยเขมรและอาจต้องโทษหนัก
นาทีแห่งการเยี่ยมเยียนจึงเต็มไปด้วยน้ำตาของบรรดาเมียและพี่ๆ น้องๆ ของ 7 คนไทย จับความได้ว่า พี่แซมดินถูกหนู หรือแมลงสาบไม่ทราบได้กัดหัวจนเป็นแผล ทำให้ยามหลับยามนอนไม่ปกติสุข แต่ทุกคนก็ไม่บ่น และมีกำลังใจดีเยี่ยม
เมื่อญาติพี่น้องและกลุ่มเมียๆ กลับถึงเมืองไทย พวกเขาเก็บปากเก็บคำ เพราะเชื่อว่า ยิ่งเงียบ ยิ่งง่าย เพราะฮุนเซนบ้าๆ บอๆ เดี๋ยวพาลพาโล พอดีพอร้ายอาจติดยาว!!!
ภรรยาคุณพนิชมุดเข้านมัสการพ่อท่านโพธิรักษ์ทันทีที่กลับจากพนมเปญ เธอรายงานสภาพของสามีและ 7 คนไทยที่ได้เห็นด้วยน้ำตานองหน้า และละล่ำละลักด้วยเสียงแห่งความโศกเศร้าว่า “พ่อท่านฯ ช่วยสามีดิฉันด้วยๆๆๆๆ”
ในโลก FB เหน็บเรื่องเมียๆ ผัวๆ จากข่าวสารไว้น่าสนใจว่า “เมียเหวงเยี่ยมผัวในคุกไทย เมียพนิชเยี่ยมผัวในคุกเขมร เมียวิคเตอร์ บูทเยี่ยมผัวในคุกฝรั่ง แล้วเมียทักษิณจะเยี่ยมผัวในคุกไหน?” เป็นภารกิจเมียนักการเมืองที่แลดูเหนื่อยไม่หยอก
และอีกอันก็แสบทรวงดีจริง “เสื้อแดงติดคุกไทย เสื้อเหลืองติดคุกเขมร” ฮาไม่ออกทีเดียว
หนักกว่านั้นเมื่อ ธิดา ดาวดึงส์ เมียเหวงบอกว่า “จะรอดูว่า 7 นปช.ในคุกไทยกับ 7 คนไทยในคุกเขมร ใครจะได้รับอิสระก่อนกัน” เออ…ผัวเมียคู่นี้เหวงพอๆ กัน
ไกลจากกรุงเทพฯ ไปหลายร้อยกิโลเมตร ด้านชายแดนไทย-เขมร ตรงบริเวณที่มีการจับกุม 7 คนไทย พี่น้องสายเลือดเดียวกันกำลังประจันหน้าจะฆ่าจะแกงกัน ด้านหนึ่งต่อต้านเขมร ทวงคืนแผ่นดินไทย อีกด้านหนึ่งต่อต้านคนไทยที่มาต่อต้านเขมร
การสู้รบปรบมือมีได้ทุกวินาทีเพราะนักการเมืองท้องถิ่นปลุกประชาชน มาแตกแยกกัน หรือว่าเลือดไทยต้องไหลรินล้างเท้าฮุนเซน จะเอากันอย่างนี้หรือ?
พวกเรากำลังห่างไกลจากคำว่า รักชาติ สมัครสมานสามัคคี เพราะนักการเมืองเลวๆ มันแบ่งแยก เพราะผู้บริหารอ่อนแอเห็นแก่ตัวเอาแต่ได้ เพราะข้าราชการกลไกของบ้านเมืองยอมศิโรราบตกอยู่ใต้ฝ่าตีนนักการเมืองฉ้อฉล
คนไทยจะลำบากก็วันนี้ และจะมีผลในวันหน้า…ล้างไพ่กันใหม่ดีกว่า ปล่อยไทยฆ่าไทยด้วยไทยยุแยง
การเลือกคนดีขึ้นมาปกครองบ้านเมืองไม่ใช่เรื่องง่ายในยุคสมัยคนไทยเห็นเงินเป็นใหญ่ แต่ก็ไม่ยากถ้าอยากจะทำ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ขายชาติให้ฮุนเซนมันเสีย จะได้ไม่ต้องมานั่งทะเลาะเบาะแว้งกันเองให้อายคนชาติอื่นเขา.