การเมืองว่าร้อนแรงแล้ว แต่ความเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์ร้อนแรงยิ่งกว่า นาทีนี้เทคโนโลยีการสื่อสารสมัยใหม่ถูกนำมาใช้ทางการเมืองทุกรูปแบบ
ที่น่าจับตามองที่สุด คือ ปฏิกิริยาตอบโต้ของชาวไซเบอร์ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็เดือดพล่านไม่แพ้กัน
เวลานี้สังคมเฟซ บุ๊ก –ทวิตเตอร์ และ บีบี กลายเป็นแหล่งหาข่าวที่น่าสนใจ การสื่อสารที่รวดเร็วฉับไว ทำให้การแลกเปลี่ยนข้อมูลของ “คอข่าวไซเบอร์” มีมุมมองที่หลากหลาย ทั้งหนักแน่นขึงขัง และสนุกสนานขบขัน
เช่น “เหวง” คือ ความเพ้อเจ้อ ไร้สาระ “จตุพร” คือ คำขึ้นต้น “ด้วยความเคารพ” ก่อนหลอกด่าตามมา และ “วีระ” คือ สัญลักษณ์ของความอกตัญญู ขณะที่ “สามเกลอ” คือ กลุ่มคนที่สู้แล้วรวย เป็นต้น
ก่อนหน้านี้สังคมออนไลน์หลั่งไหลกันออกมาต่อต้านม็อบเสื้อแดงด้วยการแสดงท่าทีผ่านรูปโปรไฟล์ลายดอกไม้ว่า “เราไม่ต้องการความรุนแรง” ถูกนำมาใช้กันแพร่หลายในเฟซ บุ๊ก และทวิตเตอร์
ต่อมาพวกเขาตอบโต้ป้าย “สงบ สันติ ยุบสภา” ของม็อบเสื้อแดงด้วยป้ายโปรไฟล์สู้ ว่า “สงบ สันติ ไม่ยุบสภา” และที่ฮือฮาที่สุดคือ “อย่ายุบนะเฮีย เดี๋ยวเฮี่ยกลับมา” และ “สงบ สันติ ทักษิณตายก็ไม่ยุบสภา”
จนล่าสุดหลังการเจรจาสองรอบผ่านไป สังคมออนไลน์ออกแบบโปรไฟล์เป็นรูปตัวหนังสือว่า “เราสนับสนุนนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”
หลังจากที่ชาวไซเบอร์โจษขานกันขรมเรื่อง “หมอเหวง” ไม่ว่าจะชั่วช้าเลวทรามน่าอัปยศสักแค่ไหน แต่ก็ทำให้หมอเหวงซึ่งคลุกฝุ่นกับการชุมนุมมานานหลายปี เจิดจรัสเปล่งรัศมีเทียบชั้น “ณัฐวุฒิ” ได้เพียงชั่วข้ามคืน
พูดถึงหมอเหวงแล้วขอล่วงเกินไปพูดถึง “สลักธรรม” ลูกชายของเขาที่ใกล้จบแพทยศาสตรบัณฑิต จากจุฬาฯ ในกลางปีนี้ เพราะพ่อ-ลูกคู่นี้สามารถจะอธิบายปรากฏการณ์ “ลูกไม้ใต้ต้น” ได้เหมือนๆ กับครอบครัวชินวัตร
เนื่องจากเมื่อวันที่ม็อบเสื้อแดงเล่นมุก “เจาะเลือด” ลูกชายของหมอเหวง ก็ไปช่วยพ่อ และม็อบเสื้อแดง “เจาะเลือด” ให้ผู้ชุมนุมเหมือนกัน เรื่องนี้อาจารย์แพทย์ที่จุฬาฯ กำลังเต้นผางด้วยความขุ่นใจไม่น้อย
แต่ที่ขมใจมากที่สุดคือ ลูก – เมียของ วีระ ที่ต้องก้มหน้ารับกรรมที่พ่อก่อไว้ ในฐานะ “คนอกตัญญู” เพราะในโลกออนไลน์มีการค้นเอาภาพเก่าๆ สมัยที่ วีระ มุสิกพงศ์ถูกคุมตัวออกจากคุก มากราบขอพระราชทานอภัยโทษต่อหน้าพระบรมฉายาลักษรณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานอภัยโทษในคดี “หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” ภาพนี้ถูกเผยแพร่กันสะพัดในโลกออนไลน์
เพราะว่าอินเทอร์เน็ตรวดเร็วและย่อโลกให้เล็กเท่าฝ่ามือ วันนี้คนไทยในสวีเดนส่งเสียงตามสายออนไลน์แฉไปทั่วว่า ทักษิณหนีออกจากดูไบและถูกไล่เปิดออกจากสวีเดน ทันทีที่เท้าเหยียบกรุงสตอกโฮลม์ ด้วยสองราชวงศ์ไทย-สวีเดน ใกล้ชิดกันมาก และเรื่องเก่าเกี่ยวกับเว็บไซต์ “หมิ่นเจ้า” www.manusaya.com ยังไม่จาง สวีเดนจึงไม่ประสงค์ให้ทักษิณอยู่สวีเดน ด้วยเกรงจะถูกใช้เป็นฐานโจมตีรัฐบาลไทย และจาบจ้วง
ตอนนี้แน่ชัดแล้วว่า เขาอยู่อย่างง่อยกระรอกในรัสเซีย แต่คงอยู่ได้อีกไม่นาน เพราะ วลาดิเมียร์ ปูติน ได้รับแจ้งจากกระทรวงการต่างประเทศของไทย ให้เฝ้าระวังทักษิณที่จะใช้รัสเซียเป็นฐานทำลายรัฐบาลและราชวงศ์ไทย
อย่างไรก็ตาม วงการแพทย์พูดกันหนาหูแล้ว เรื่องโรคภัยไข้เจ็บของคนจรหมอนหมิ่นที่กำลังกลายเป็น “หมาจนตรอก”
ล่าสุดพบว่า มะเร็งต่อมลูกหมากของเขาพัฒนาจากระยะ 2 มาเป็นระยะ 3 เพราะความเครียด และสุขภาพทรุดโทรมจากการเดินทางบ่อย
ถึงตอนนี้จะฉายแสงก็ไม่ได้ ฝังแร่ธาตุก็ไม่ดี ต้องคีโมเท่านั้นจึงเอาอยู่ และนี่คือที่มาของ “ทรงผม” ที่ผิดปกติซึ่งชุมชนออนไลน์จ้องตาเขม็ง
ภาพนายใหญ่ในอดีตกับปัจจุบันถูกนำมาเปรียบเทียบกันทุกเว็บไซต์แล้ว และพบว่า “ทรงผม” ของเขาเปลี่ยนไปรวมถึงหน้าตาของเขาก็ดูไม่เหมือนเดิมด้วย
เวลานี้ “ผม” เริ่มบางลงอย่างเห็นได้ชัด และบางวันก็เถิกขึ้นไปจนน่ากลัว แต่ที่สำคัญคือ เขาไม่มี “จอนผม” และ “ไรผม” เลยแม้แต่น้อย มองไปมองมาจึงเหมือน “สวมวิก” แถมบางวันคงรีบเพราะ “วิกเบี้ยว”
นอกจากนี้ยังมีการเดากันไปต่างๆ นานาว่า หมาจนตรอกใช้ “สถานพยาบาล” เป็นที่วิดีโอลิงก์เพราะทั้งรูปแบบของม่าน รูปแบบของดอกไม้ประดับห้อง หรือแม้แต่สีสันของห้อง และระยะการออนแอร์ที่มาจากกล้องเว็บเคม ไม่น่าจะเป็นห้องพักในโรงแรม หรือบ้าน
วันนี้ยังไม่รู้ว่าทักษิณจะย้ายที่นอนอีกไหม? แต่ที่แน่ๆ เขาเคยเปรยกับคนใกล้ชิดว่า ไม่อยากถือพาสปอร์ตเขมร และไม่กล้าเข้าเขมรอีก เพราะกลัวฮุนเซน “ไถหนัก” และ “หักหลัง”
สัปดาห์นี้มีผู้พบเห็น “นายหญิง” ในกรุงเทพฯ แล้ว หลังจากขออนุญาตศาลหลบไปฮ่องกง ในช่วงม็อบเสื้อแดงแรงฤทธิ์ เพราะเริ่มต่อสายฟูมฟายกับเพื่อนฝูง และเร็วๆ นี้ว่า จะขอศาลออกไปเยี่ยม “อดีตสามี” ถึงแดนหมีพร้อม “หมอ”
ส่วน “ยิ่งเลิฟ” ยังปักหลักอยู่สิงคโปร์ทำหน้าที่เบิกจ่ายมือเป็นระวิง เพรายิ่งระดมคนมามากเท่าไร ยิ่งใช้เงินมากเท่ามาก และยิ่งใกล้วันปิดเกม “3 เม.ย.” ที่นายใหญ่หวังเล่นแรงให้จบใน “วันจักรี” ยิ่งไม่ต้องพูดถึง...ตายเป็นตาย และทักษิณคงได้ตายสมใจอยาก เพราะรอบตัวเขาล้วนแต่เป็นกระสือไส้แห้งทั้งนั้น
ก่อนม็อบใหญ่ปิดกรุงเทพฯ บรรดาหมอๆ จากโรงพยาบาลต่างๆ ให้กลุ้มใจหนักขึ้นไปใหญ่ เนื่องจากพบว่า มีเชื้อโรคมากมายในการชุมนุมเสื้อแดง!!!
ไล่กันตั้งแต่ โรคท้องร่วงธรรมดาๆ จากอาหารและน้ำที่ไม่สะอาด ยอดคนป่วยท้องเสียตกวันละกว่า 100 คน ตามมาด้วยการติดเชื้อหวัด 2009 ที่แพร่ระบาดอย่างหนัก และโรคตาแดง เป็นต้น
แต่โรคระบาดว่าหนักใจแล้ว ยังมีอีกโรคหนึ่งซึ่งหนักใจยิ่งกว่า เพราะเมื่อตรวจผู้ชุมนุมที่มาขอรับการรักษา กลับพบว่า หลายรายติดเชื้อเอดส์!!!
เมื่อซักถามประวัติผู้ติดเชื้อก็พบว่า บางคนเป็นมาก่อน ขณะที่หลายคนมาติดในที่ชุมนุม เพราะขณะนี้ในที่ชุมนุมเสื้อแดงมี “หญิง และ ชาย” และ “ผีขนุน” แห่มาขายบริการกันพลุกพล่านทั้งวันทั้งคืน แทบทุกรายไม่มีการใช้ถุงยางอนามัย และเวลานี้การติดเชื้อเอดส์ในที่ชุมนุมมีปริมาณมากขึ้นและเร็วขึ้น!!!
หนักกว่านั้น...คือยาเสพติด เพราะเจ้าหน้าที่พบว่า มีการแทรกซึมของพ่อค้ายาเสพติดเข้ามาในที่ชุมนุมมากขึ้น และผู้ชุมนุมบางกลุ่มก็พกยาเสพติดเข้ามายังสถานที่ชุมนุมด้วย
ทั้งนี้ยังไม่นับว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดงมี “เหล้า และ เบียร์” เป็นเรื่องปกติ นัยว่าเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ
ยาใจของม็อบเสื้อแดงล้วนมาจากเงินถุงเงินถัง ที่คนเลวหน้าเหลี่ยมโกงจากคนไทย บางส่วนซุกไว้ในต่างแดน และบางส่วนถูกยึดแล้วในเมืองไทย
เมื่อไม่มีอะไรจะต้องเสีย หมาจนตรอกก็บ้าและกล้าพอที่จะสู้ แต่ถ้าเหลืออะไรที่จะต้องเสียเพื่อปิดเกมและเอาชัยชนะมาซับเหงื่อทรราช ขอให้เชื่อเถิดว่า คนจัญไรอย่างนี้ยอมเสียได้กระทั่งชีวิตของขี้ข้าม้าครอก-บ่าวไพร่ บริวาร จนถึงลูกและเมีย
จะต้องเผาบ้านเผาเมืองอีกกี่หน จะต้องสูญเสียชีวิตคนอีกกี่ชีวิต จะต้องทำลายชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ให้พังภินทน์ลงไปต่อหน้าต่อตาก็ได้ ถ้าทำแล้วเขาจะได้ทุกอย่างคืนกลับมา ...เชื่อเถิดว่า คนคนนี้ทำโดยไม่ลังเล
ถามผู้อ่านว่า คนอย่างทักษิณ เราจะเรีกเขาว่าอะไรดี เพราะคำว่า ชั่วช้าสามานย์จัญไรไอ้นรกส่งมาเกิด ...คิดว่ายังสุภาพเกินไป...ช่วยตั้งฉายาให้ด้วยจักเป็นพระคุณยิ่ง