xs
xsm
sm
md
lg

“ตี๋-ชิงชัย” เหยื่อรัฐตำรวจชั่ว-สื่อไร้จรรยา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชิงชัย เจริญอุดมกิจ หลังจากถูกระเบิดและยังพอมีสติ ชู 2 นิ้วให้เพื่อน(ภาพจาก นสพ.แนวหน้า)
ภาพชายผมเกรียน แขนขวาแหลกเละ เลือดเปรอะไปทั่วกาย ดวงตาสะลึมสะลือเหมือนไม่ได้สติ นั่งอยู่ข้างกำแพง มือซ้ายที่เปรอะด้วยเลือดเช่นกันกำลังกำวัตถุบางอย่าง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนำไปแถลงข่าวตีปี๊บว่า วัตถุในมือซ้ายของชายคนนี้คือ “ระเบิด” แล้วสรุปแบบพูดเองเออเองว่า ฝ่ายพันธมิตรฯ นำระเบิดมาร่วมชุมนุมจนเป็นเหตุให้เกิดความรุนแรงเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา และมีข้อสรุปต่อเนื่องไปว่า ผู้ชุมนุมที่บาดเจ็บสาหัส แขนขาด ขาขาด หรือกระทั่งเสียชีวิตนั้น มาจากระเบิดที่ฝ่ายพันธมิตรฯ นำมาเองทั้งสิ้น

ข้อสรุปแบบปัดสวะพ้นตัว เอาชั่วใส่พันธมิตรฯ แบบนี้ มีสื่อมวลชนประเภท “ขี้เกียจคิด” นำไปเผยแพร่ต่อโดยไม่ได้ตั้งข้อสงสัยถึงความเป็นไปได้ว่า คนที่บาดเจ็บสาหัสเลือดเปรอะไปทั่วร่าง ลืมตาไม่ขึ้นอย่างนี้ ยังมีแรงพอที่จะกำระเบิดอยู่หรือไม่ แถมตั้งข้อสันนิษฐานให้เสร็จสรรพว่า วัตถุที่อยู่ในมือชายอาการโคม่าคนนั้นคือ “เอ็ม 79”


วันต่อมา ความจริงก็ปรากฏว่า ชายคนดังกล่าว คือ “ชิงชัย เจริญอุดมกิจ” หรือ “ตี๋” ศิลปินนักวาดรูป สมาชิกเครือข่ายศิลปินกู้ชาติ ของวสันต์ สิทธิเขตต์ ที่มาร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ นั่นเอง

“ทราย” วรรณพร ฉิมบรรจง และ วสันต์ สิทธิเขตต์ เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เมื่อช่วงเย็นวันที่ 9 ต.ค. บนเวทีพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า หลังจากที่เห็นภาพ “ตี๋” ลงหนังสือพิมพ์ โดยมีภาพระเบิดในมือ และพาดหัวข่าวว่า “มือบึ้ม”ก็อยากจะถามว่าคือมันอะไรกันแน่

“ทราย” เล่าว่า ในตอนเกิดเหตุ (เย็นวันที่ 7 ต.ค.) นั้น มีศิลปินในเครือข่ายไปยังที่เกิดเหตุ(ใกล้ บชน.) 3 คน ซึ่งปกติ เครือข่ายศิลปินจะนั่งอยู่ในเต็นท์ “ฮิปปี้กู้ชาติ” ใกล้ห้องละหมาด

“เราก็คุยกันอยู่ แล้วพี่ตี๋ พี่ต้อม นักวาดที่พี่น้องไปนั่งวาดรูปกันในวันปกติ ก็ชวนกันไปนั่งที่แยก แถวๆ กำแพง บชน. แล้วเขาก็รู้สึกเหมือน ก็ไอ้ตำรวจนั่นแหละ มันหย่อนระเบิดลงมา คนหนึ่งโดนสะเก็ดระเบิดเป็นแผล 16 รูที่ข้างหลังทั้งหมดเลย อีกคนเจ็บสาหัสที่แขนข้างหนึ่ง ไปรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ราชวิถี ที่แขนมีรูหนึ่งใหญ่เท่าเหรียญสิบ คว้านเนื้อลึกเป็นเซนติเมตร

“ส่วนคุณตี๋หายสาบสูญไป เราตามหาทั้งคืนก็ไม่พบ ตอนเช้าภรรยาเขาติดต่อมาให้ช่วยตามหาหน่อย เพราะไม่มีใครพบเห็นเลย ดูตามรายชื่อผู้บาดเจ็บก็ไม่เจอ ทรายก็โทรหาพี่วสันต์ ให้ช่วยกันตามหา จนพี่วสันต์เจอรูปที่เพื่อนจากอเมริกาส่งเมล์มาให้ เป็นภาพจากหนังสือพิมพ์แนวหน้า เป็นภาพที่ชู 2 นิ้ว ทรายก็เอามือถือส่งรูปไปให้เพื่อนๆ ช่วยกันตามหา จนไปเจอชายนิรนามที่ยังไม่ทราบชื่อที่ โรงพยาบาลรามาธิบดี จึงบอกให้ภรรยาเขาไปดู ปรากฏว่าเป็นคุณตี๋

ทรายเล่าต่อว่า “ลองคิดดูสิคะ ผู้ชายคนหนึ่งมีลูกต้องเลี้ยง 2 คน อายุ 5 ขวบกับ 7 ขวบ มีคนเดียวหาเลี้ยงครอบครัวด้วยการวาดรูป ด้วยมือข้างขวา แต่พอไปถึงโรงพยาบาลหมอก็ตัดมือข้างขวาไปแล้ว มันเจ็บปวด สูญเสียมาก วันแรกเราตามหาเขาไม่พบ ทำให้รู้สึกแย่ คิดในทางไม่ดีไม่รู้เขาหายไปไหน พอพบแล้ว ก็พบว่ามือถูกตัด

“ไม่หมดแค่นั้น กล่องเสียงแหลกละเอียด อาจพูดไม่ได้ตลอดชีวิต กระดูกอกข้างซ้ายแตก ปอดชำรุด หมอพยายามช่วยชีวิตเบื้องต้นเพื่อให้หายใจได้เท่านั้น สะเก็ดระเบิด วันนี้ยังรอลุ้นอีก ที่จะต้องผ่าตัด ตื่นเช้ามายังมาเจอภาพข่าว เรารับไม่ได้ ตำรวจเอาระเบิดมายัดใส่มือเพื่อนเรา”

ทราย เล่าต่อว่า อีกเรื่องที่ต้องช่วยกันจับตามอง คือ ตำรวจไม่เก่งแค่สร้างหลักฐานเท็จ แต่อีกเรื่องที่เก่งคือฆ่าตัดตอน

“ตอนนี้อาการคุณตี๋ยังโคม่าแต่ยังรู้สติ เมื่อวานทรายคุยกับเขา เขาพูดไมได้ แต่มือข้างซ้ายยังเขียนได้ เพื่อนที่ไป 3 คน คือ ณัฐ ตี๋ ต้อม ประโยคแรกที่ถามคือ ตี๋รู้เรื่องไหม ก็พยักหน้า พยายามเขียนตัวหนังสือเขียนชื่อต้อม คนอย่างนี้หรือจะเอาระเบิดไปวางใส่เพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ

“ทรายบอกพี่ตี๋ว่า ไม่ต้องเป็นห่วง ทุกคนรู้เรื่อง ทำใจให้แข็งแรงไว้และสู้ต่อ แกก็ยกนิ้ว ทรายก็เป็นคนสันติวิธีนะคะ แต่ถ้าถือระเบิดเข้าไป จะไปกอดตำรวจก่อน ให้มันระเบิด ไม่ใช่มาระเบิดพี่น้องกันเอง เพราะฉะนั้น ถ้าคุณตี๋เป็นอะไรไป ตำรวจต้องรับผิดชอบ


ด้าน “มงคล อุทก” สมาชิกวงคาราวาน ศิลปินเพื่อชีวิตรุ่นใหญ่ กล่าวถึงภาพชายที่โดนระเบิดและแขนขาดว่า ถ้าเป็นชาวบ้านทั่วไปเรื่องก็คงเงียบหายไป แต่ไปตัดเอาแขนน้องชายของผม เขาเป็นจิตกรวาดรูป ตอนที่ชู 2 นิ้ว คงเป็นตอนที่โดนระเบิดใหม่ๆ คงยังชาอยู่ ยังสู้ได้ แต่หลอดเสียงถูกตัด พูดไม่ได้แล้ว นั่นคือรูปถ่ายรูปแรก หลังจากนั้นก็มีการเคลียร์ แล้วเขาบอกว่า ตำรวจไม่ให้รถพยาบาลไปรับ จนผ่านไปประมาณ 15 นาที

“ปรากฏว่า รูปที่สอง น้องของเราก็เบลอแล้ว เขาเอาไปพิงกำแพงไว้ ตาก็ปิดแล้ว ในมือข้างซ้ายมีระเบิด รูปนี้ตำรวจเอาไปแถลงข่าว ตำรวจเลวทั้งหลาย ผมนึกถึงการสร้างผลงานการจับยาบ้า สมัยก่อน หรือการจับกัญชา หรือการสร้างหลักฐานเท็จ มันเป็นวิถีทางของตำรวจที่มันทำอะไรง่ายๆ

“น้องเรา ไม่เคยมาในม็อบเลย ปรากฏว่าวันนั้นไปออกแถลงการณ์ร่วมกัน คัดค้านความรุนแรง ในตอนเช้า หลังจากนั้นก็ไปเยี่ยมคนป่วย มีเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ มีพี่หงา มี “โจ นูโว” นั่งรถผม ผมก็ขับรถด้วยแล้วก็จอดรถ จากการไปเยี่ยมคนป่วยผมรู้สึกว่าอาย คือไม่สะดวกในการเดินเท่าไหร่ ก็เลยหนีมา มาเจอคุณตั้วที่หน้าสภา ผมอยู่ล็อตที่ 2 ร้องเพลงสู้ไม่ถอย มันก็ตูมๆๆๆ มาเรื่อย เราก็ถอย

ผมก็อยากขอโทษพี่น้องอยู่ว่า ผมร้องเพลงสู้ไม่ถอย แล้วก็ถอย ผมก็ตั้งสติได้ว่า มันมามันหล่นลงรถกระจายเสียงแล้ว มาก็ตูมๆ แล้วก็ อารักษ์ อาภากาศ กับศรีแพร ไปคว้าแขนผม บอกว่า พี่ ชีวิตพี่แลกกับมันตอนนี้ ไม่มีความหมาย ผมก็มีสติแหวกทางคุณหมีออกมา ถึงลานพระรูป มีมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ผมก็ขึ้นมอเตอร์ไซค์รับจ้างไป แล้วโบกมือให้แฟนๆ ขณะที่ทางนี้ยังไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น จนวันต่อมาถึงรู้ว่า ศิลปินคนนั้นไม่มีแขนจะเขียนรูปแล้ว

ผมจะไปเยี่ยม ตี๋ ชิงชัย เขาเป็นคนธรรมะธัมโม อารมณ์ดี ถ้าเอาพู่กันใส่มือเขาไม่ว่าอะไรเลย นี่ไปเอาระเบิดใส่มือเขา อาการเขายังสาหัส เราจะแถลงข่าวที่ฟ้องต่อกรรมการสิทธิหลังจากที่โดนยัดอะไรตรงนี้เพื่อสร้างภาพ

“เขาคิดว่าน้องเราจะตายหรือเปล่า จะยัดอะไรใส่ก็ได้ เหมือนน้องโบ ที่เขาบอกว่าหิ้วระเบิดมา ผมก็สงสัยอยู่ว่า พันธมิตรที่แขนขาด ขาขาด หรือเป็นอะไรนี่ มันโดนระเบิดตัวเองทั้งนั้นเลย เอาระเบิดมาแล้วทำไมไม่ขว้างไปใส่ตำรวจสักลูกบ้าง ทำไมเอามาระเบิดกันเอง”มงคล อุทก กล่าว

ขณะที่ นพ.ดิเรก ภาคกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า กรณีนี้ตนเป็นผู้พบผู้บาดเจ็บด้วยตนเอง ซึ่งนั่งพิงกำแพง มีเลือดไหลบริเวณคอ หน้าอก มือขวาขาด ซึ่งได้นำส่งโรงพยาบาลรามาธิบดี โดยผู้บาดเจ็บรู้สึกตัวแต่ไม่สามารถพูดได้ เนื่องจากบาดเจ็บที่หลอดลม โดยในมือที่สงสัยว่าเป็นวัตถุบางอย่างที่คล้ายระเบิดนั้น เมื่อถึงโรงพยาบาลตนได้นำมาดูปรากฏว่าเป็นพวงกุญแจหนัง ขนาดไม่ใหญ่มาก และตนได้นำพวงกุญแจดังกล่าวใส่ไว้ในถุงเก็บของที่ทางโรงพยาบาลเตรียมไว้สำหรับของคนไข้ผู้บาดเจ็บ ดังนั้น หากมีการตรวจสอบจะพบว่ามีกุญแจอยู่แน่นอน นอกจากนี้ยังมีพยาบาล 2 คน และคนขับรถฉุกเฉิน รวมไปถึงแพทย์ที่ รพ.รามาฯ ก็พร้อมที่จะเป็นพยานว่าวัตถุชิ้นดังกล่าวไม่ใช่ระเบิดแน่นอน

****


“โอ้ไอ้ตำรวจระยำ” โดย วสันต์ สิทธิเขตต์

โอ้ไอ้ตำรวจระยำ
มึงจะต่ำทรามต่ำช้าไปถึงไหน
วันนี้มึงเข่นฆ่าประชาชนไทย
มึงใส่ร้ายป้ายสีอีกชั่วแท้ๆ

มึงยิงแก๊สใส่เราระดับอก
สัตว์นรกมึงต้องการฆ่า
ตูม ตูม ตูม มึงยิงระดมยิงมา
บ้าระห่ำโหดเหี้ยมอำมหิตจริงๆ

เพื่อปกป้องรัฐมารชั่ว
โกหกมั่วสร้างหลักฐานเท็จสุดโฉดช้า
กระพือโหมข่าวสดแหกตา
สื่อขี้หมาทำลายประชาชน

เรามีเพียงมือเปล่าเราต่อสู้
เพื่อกอบกู้แผ่นดินล้างรัฐชั่ว
พันธมิตรประชาชนไม่เคยกลัว
มวลชนทั่วเรียกร้องการเปลี่ยนแปลง

แต่มึงทำร้ายคนไม่มีทางสู้
ทุกคนรู้ว่าตำรวจชั่วมันจัดฉาก
มึงยัดระเบิดถ่ายรูประยำมาก
ไอ้สื่อกะรากสกปรกลามกเลวทรามระยำๆ

น้องชายกูเป็นจิตรกรอ่อนไหว
เขาไม่มีระเบิดหรอกมึงยัดให้
วิชามารมึงชั่วร้ายจัญไร
ตำรวจไทยโคตรชั่วมั่วบัดซบ

เขาเลี้ยงชีพด้วยเขียนรูป
อนาคตดับวูบถูกตัดแขน
เสียมือที่วาดไม่มีอะไรมาทดแทน
กูอึดอัดคับแค้นแน่นหัวใจ

ไอ้สมชายไอ้นายกนรกแตก
มึงสั่งฆ่าแหลกพี่น้องเลือดเย็นยิ่ง
ตำรวจชั่วมันจึงระดมยิง
แล้วบิดเบือนความจริง ไอ้โคตรเลว

สมชายทรราชฆาตกรบ้า
มึงจะฆ่าคนรักชาติให้หมดหรือ
วันนี้ประชาชนต้องลุกฮือ
โค่นกระสือรัฐชั่วไม่กลัวมึง


“ตี๋-ชิงชัย”ตกอยู่ในอาการสะลึมสะลือ ลืมตาไม่ขึ้น ปรากฏมีวัตถุสีดำในมือที่ตำรวจระบุว่าเป็นระเบิด(ภาพจากมติชนออนไลน์)
ทราย-วรรณพร ฉิมบรรจง และ วสันต์ สิทธิเขตต์ เล่าเรื่องราวของตี๋บนเวทีที่ทำเนียบรัฐบาล


กำลังโหลดความคิดเห็น