โพลเผยเด็กไทยอยากมีเซ็กซ์วาเลนไทน์ลดลง

โพลเผยเด็กไทยอยากมีเซ็กซ์วันวาเลนไทน์ลดลง เหตุบ้านเมืองวุ่นวาย-เศรษฐกิจแย่ อึ้ง! เด็กไทยต่ำกว่า 10 ขวบดูหนังโป๊แล้ว แถมมีเซ็กซ์ครั้งแรกอายุน้อยสุดแค่ 10 ขวบ ขณะที่วัยรุ่นอยากมอบดอกไม้ “มาร์ค” มากสุด สธ.พร้อมร่วมมือมหาวิทยาลัยจัดงานใหญ่ รักบริสุทธิ์และปลอดภัย...ออกแบบได้

วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงสาธารณสุข นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค รศ.ดร.ช่วงโชติ พันธุเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และ รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานดำเนินงานสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ร่วมกันแถลงข่าว “รักบริสุทธิ์และปลอดภัย...ออกแบบได้ ด้วยตัวคุณเอง (White Valentine…design your love)”

รศ.ดร.สุขุม กล่าวว่า สวนดุสิตโพลได้สำรวจความคิดเห็นเยาวชนไทยอายุระหว่าง 15-24 ปี ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ระหว่างวันที่ 17-31 มกราคม 2552 เกี่ยวกับกิจกรรมรณรงค์ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์เนื่องในวันวาเลนไทน์ กลุ่มตัวอย่าง 1,008 คน เป็นชาย 422 คน หญิง 579 คน และเพศที่สาม 7 คน พบว่า สิ่งที่ต้องการทำมากที่สุด คือ ซื้อของให้คนรัก 26% ซื้อดอกกุหลาบให้ 13% กินอาหารด้วยกัน 10% และต้องการมีเพศสัมพันธ์ 5%

“ผลสำรวจในปีนี้ถือว่าลดลงกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งวัยรุ่นต้องการมีเพศสัมพันธ์ในวันวาเลนไทน์ 12% โดยปัจจัยอาจเนื่องมาจากความวุ่นวายทางการเมืองและภาวะทางเศรษฐกิจทำให้อารมณ์ความรู้สึกรักใคร่ โรแมนติกลดลง” รศ.ดร.สุขุม กล่าว

รศ.ดร.สุขุม กล่าวอีกว่า ส่วนคนที่อยากให้ดอกไม้มากที่สุด คือ คนรัก/แฟน 46% พ่อแม่ 26% เพื่อน 14% ดารา 4% และนักการเมือง 2.82% ในส่วนของนักการเมืองบุคคลที่วัยรุ่นต้องการมอบดอกไม้ให้มากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 2.พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 3.นายชวน หลีกภัย 4 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง 5.นายบารัค โอบามา 6.พล.ต.จำลอง ศรีเมือง 7.นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ซึ่งในครั้งนี้พบว่า นายอภิสิทธิ์ มีอันดับที่สูงขึ้นจากเดิมอยู่ลำดับที่ 2 ซึ่งเป็นผลมาจากบุคลิกภาพส่วนตัว รูปร่างหน้าตา และภาวะความเป็นผู้นำ

รศ.ดร.สุขุม กล่าวด้วยว่า เมื่อถามถึงเว็บไซต์โป๊ ร้อยละ 34 ตอบว่า เคยดู ส่วนใหญ่ดูครั้งแรกเมื่ออายุ 10-19 ปี 86% และมีร้อยละ 3 ที่เคยดูตอนอายุต่ำกว่า 10 ปี โดยร้อยละ 48 บอกว่ารู้สึกตื่นเต้น เกิดอารมณ์/ความต้องการทางเพศขณะดู และร้อยละ 31 บอกว่าสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองหรือมีเพศสัมพันธ์ระหว่างดู ร้อยละ 5 รังเกียจ ร้อยละ 4 อาย และ ร้อยละ 2 รู้สึกตลก

ส่วนด้านการป้องกันโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 38% ตอบว่าเคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว โดย 37% มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกตอนอายุ 15-16 ปี และประมาณ 5% มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเมื่ออายุ 10-12 ปี โดยบุคคลที่มีเพศสัมพันธ์ด้วย 85% เป็นคนรัก/แฟน 6% เพื่อน แฟนเก่า 4% และหญิงขายบริการ 1% มีการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งกับคู่นอนที่ไม่ประจำ 53% ในรอบปีที่ผ่านมา 31% เคยติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเมื่อสงสัยว่า อาจมีการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 62% จะไปโรงพยาบาล ศูนย์บริการสาธารณสุข หรือคลินิก และ 6% ตอบว่า ซื้อยากินเอง ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาเชื้อดื้อยาตามมาได้

ด้าน นพ.ปราชญ์ กล่าวว่า จากข้อมูลของสำนักโรคเอดส์ วัณโรคและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค พบว่า โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ป่วยมากสุด คือ โรคหนองใน รองลงมาเป็น หนองในเทียม ซิฟิลิส กามโรคของต่อมและท่อน้ำเหลือง และแผลริมอ่อน ผู้ป่วยส่วนใหญ่อายุระหว่าง 20-24 ปี ทั้งนี้ โรคหนองในเป็นตัวบ่งชี้การแพร่ระบาดของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่นำไปสู่การแพร่ระบาดของโรคเอดส์ ซึ่งมีรายงานว่า กลุ่มนักเรียนนักศึกษามีแนวโน้มป่วยด้วยโรคหนองในเพิ่มขึ้น จาก 3.03 ต่อแสนประชากร ในปี 2545 เป็น 4.61 ต่อแสนประชากร ในปี 2549 สอดคล้องกับข้อมูลของร้านขายยาย่านพัฒน์พงษ์และสุขุมวิท ปี 2548 ที่มีผู้มาซื้อยารักษาโรคหนองใน ร้อยละ 27 ของผู้มาซื้อยารักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทั้งหมด

ส่วนสถานการณ์โรคเอดส์ของประเทศไทย ล่าสุด ถึงวันที่ 31 มกราคม 2552 สำนักระบาดวิทยาได้รับรายงานผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 345,196 ราย เสียชีวิตแล้ว 93,034 ราย สาเหตุเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์มากที่สุด ร้อยละ 84 รองลงมา เป็นการใช้ยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้น ร้อยละ 4.6 ติดเชื้อจากมารดา ร้อยละ 3.8 และจากการรับเลือด ร้อยละ 0.02 แนวโน้มของผู้ป่วยและผู้ที่เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ลดลงกว่าในอดีต เนื่องจากการเข้าถึงการรักษาด้วยยาต้านไวรัส ทำให้ผู้ป่วยมีชีวิตที่ยืนยาว และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ผู้คณะผู้เชี่ยวชาญได้คาดประมาณว่า ในปี 2552 ไทยจะมีผู้ติดเชื้อเอดส์สะสมประมาณ 1,127,168 ราย เสียชีวิต 613,510 ราย และจะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11,753 ราย


นายวิทยา กล่าวว่า วันวาเลนไทน์ ถือเป็นวันแห่งความรักที่วัยรุ่นซึ่งเป็นวัยที่อยากเรียนรู้ ชอบค้นหาและเปิดรับสิ่งใหม่ๆ มักจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ และทุ่มเทสรรหาสิ่งที่คิดว่าจะเป็นตัวแทนแสดงถึงความรักที่สุดให้กับคนรัก ซึ่งสิ่งที่น่าเป็นห่วงมาก ก็คือ การแสดงออกถึงความรักด้วยการมีเพศสัมพันธ์ เพราะเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดปัญหาตามมา ไม่เฉพาะการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นช่องทางที่จะติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ได้อีกด้วย

ทั้งนี้ มีข้อมูลชี้ให้เห็นว่าสถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน ส่งผลกระทบไปถึงโรคเอดส์ที่กำลังเป็นปัญหาสำคัญระดับโลก สธ.ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จึงต้องช่วยกันรณรงค์ให้เยาวชนไทยตระหนักถึงอันตรายที่อยู่ใกล้ๆตัว และส่งเสริมให้มีค่านิยมเกี่ยวกับความรักที่เหมาะสม รักตัวเอง พ่อแม่ ครอบครัวให้มากๆ และรู้จักป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยจากโรคเอดส์

“รู้สึกดีใจที่ผลสำรวจ ระบุว่า กิจกรรมที่วันรุ่นอยากทำให้วันวาเลนไทน์มากที่สุด คือ การซื้อของขวัญ หรือให้ดอกไม้กับคนรัก เพราะมนุษย์โลกต้องอยู่ร่วมกันด้วยความรัก โลกจะสงบสุขขึ้น แต่ถ้ามนุษย์โลกยังมีแต่ความขัดแย้งโลกก็จะไม่น่าอยู่ ส่วนผลสำรวจระบุว่า นักการเมืองที่วัยรุ่นอยากมอบดอกไม้ให้มากที่สุด คือ นายอภิสิทธ์ นั้น ในฐานะประชาชนก็รู้สึกยินดีที่หัวหน้าคณะรัฐบาลได้เป็นนักการเมืองที่กลุ่มวัยรุ่น ชื่นชอบมากที่สุด” นายวิทยา กล่าว

นพ.มล.สมชาย กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมรณรงค์รักบริสุทธิ์และปลอดภัย...ออกแบบได้ ด้วยตัวคุณเอง ซึ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่นนั้น กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2552 ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น.บริเวณอาคารสายสุทธานภดล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดยมีลานกิจกรรมงานออกแบบ “สิ่งของ ความคิด ความรู้สึก ความรัก” การประกวดผลงานความคิดสร้างสรรค์โดยใช้ถุงยางอนามัยเป็นส่วนประกอบ การประกวดโปสเตอร์ “สื่อ...รักบริสุทธิ์และรักปลอดภัย” ทอล์กโชว์จาก อ.จตุพล ชมภูนิช การแสดงของ เบิร์ด เอกชัย แชมป์โลกกีตาร์ อะคูสติก และศิลปินวงบุดดา เบลส พร้อมนิทรรศการให้ความรู้เรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด