สธ.เปิดคลินิกวัยรุ่น บางรัก ให้บริการดูแลสุขภาพทางเพศที่ปลอดภัย และตรวจรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์วัยรุ่นชายหญิงอายุ 10-24 ปี โดยให้บริการแบบพี่ๆ น้องๆ ในวันเสาร์ พบโดนใจสูงถึงร้อยละ 96 พร้อมกับพบว่าจุดเสี่ยงความไม่ปลอดภัยของวัยรุ่น คือการเก็บหรือวางถุงยางอนามัยในรถยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์ ทำให้ถุงยางอนามัยเสื่อมสภาพ ด้าน “ไชยา” ห่วงวัยรุ่นไทยบางส่วน ใช้วันแห่งความรักเริ่มต้นการมีเพศสัมพันธ์ ทำให้เกิดปัญหาติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ตามมา เตือนสติวัยรุ่นไทย การแสดงออกถึงความรักไม่จำเป็นต้องถึงขั้นพลีกายมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร และความรักไม่ได้มีเฉพาะเพื่อนต่างเพศเท่านั้น แต่ยังมีพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ให้รักด้วย
นายแพทย์ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ในเทศกาลวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นวันที่ชาวไทยอาจถือโอกาสมอบความรัก ความปรารถนาดี ห่วงใยถึงกัน แต่จากผลสำรวจของสถาบันการศึกษาต่างๆ พบว่ามีวัยรุ่นประมาณ 1 ใน 5 ที่มีค่านิยมมีพฤติกรรมเสี่ยงในเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ในวันนี้ด้วย ทำให้เป็นจุดเสี่ยงของการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เป็นช่องทางทำให้โรคเอดส์ปะทุรุนแรงขึ้นได้
ทั้งนี้ จากการเฝ้าระวังโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในปี 2548-2549 พบโรคหนองในมากที่สุดร้อยละ 50 รองลงมา คือ หนองในเทียม ร้อยละ 37 ผู้ติดเชื้อเกือบครึ่งเป็นวัยรุ่นอายุ 15-24 ปี ซึ่งวัยรุ่นที่ติดเชื้อดังกล่าวมักไม่กล้าไปพบแพทย์ โดยจะซื้อยารักษาเอง หรือปรึกษาจากผู้ที่มีปัญหาเหมือนกัน ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น รักษาไม่หาย เชื้อดื้อยา
ในการแก้ปัญหาดังกล่าว กรมควบคุมโรคได้เปิดคลินิกวัยรุ่น บางรัก ตั้งอยู่ที่โรงพยาบาลบางรัก ถ.สาทรใต้ เขตสาทร กทม. เพื่อให้เป็นคลินิกต้นแบบให้บริการกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ในกทม.และปริมณฑล ในการเสริมสร้างการดูแลสุขภาพทางเพศที่ปลอดภัย การควบคุมป้องกันโรค และการให้บริการตรวจรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยเฉพาะ เช่น หนองใน หนองในเทียม ซิฟิลิส แผลริมอ่อน ร่วมกับบริการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีโดยสมัครใจ และไวรัสตับอักเสบบี ให้บริการทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-15.30 น. โดยจัดบริการแบบเป็นมิตร ได้มาตรฐาน รวดเร็วทันใจ เป็นกันเองกับวัยรุ่น มีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้วัยรุ่นเข้าไปอ่านศึกษาความรู้ ข้อมูลคำแนะนำที่แม่นยำ ทันต่อค่านิยมของวัยรุ่นสมัยใหม่ โดยเปิดเว็บไซต์สุขภาพ www.stisthai.org ซึ่งมีเนื้อหาเรื่องเพศวัยรุ่น และมีข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสุขภาพทางเพศ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่น่าสนใจ
ทางด้านแพทย์หญิงอังคณา เจริญวัฒนาโชคชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางรัก กล่าวว่า คลินิกวัยรุ่นบางรักนี้ได้เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ปลายปี 2550 เป็นช่องทางพิเศษสำหรับวัยรุ่นอายุ 10-24 ปี ทั้งชายและหญิงที่เป็นกลุ่มเสี่ยง คู่เพศสัมพันธ์และเพื่อน โดยโรคที่พบบ่อยที่สุด 3 อันดับแรก คือ โรคหนองใน โรคหนองในเทียม และหูดหงอนไก่ ในการประเมินผลการให้บริการพบว่า วัยรุ่นมีความพึงพอใจต่อการให้บริการของเจ้าหน้าที่สูงสุด ร้อยละ 96 รองลงมาคือ การได้รับบริการตรงกับความต้องการของวัยรุ่นร้อยละ 91 และพึงพอใจต่อกระบวนการและขั้นตอนการให้บริการ รวมทั้งวัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือทางการแพทย์ ร้อยละ 83
แพทย์หญิงอังคณา กล่าวต่อว่า จากการศึกษาในกลุ่มวัยรุ่นอายุ 15-24 ปี โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 20-24 ปี ที่เจ็บป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองใน เริม มดลูกอักเสบ พบว่ามีการแก้ปัญหา โดยรักษาเอง/ซื้อยากินเองร้อยละ 40 รักษาที่คลินิกแพทย์ร้อยละ 35 รักษาในโรงพยาบาลร้อยละ 28 และปล่อยให้หายเองร้อยละ 15 ซึ่งอาการแทรกซ้อนจากการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาจทำให้เป็นหมัน ท้องนอกมดลูก มะเร็งปากมดลูก มีโอกาสเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อและแพร่เชื้อเอชไอวี โดยเด็กแรกเกิดที่ได้รับเชื้อจากแม่ที่ติดเชื้อโรคซิฟิลิส หนองใน หนองในเทียมจะมีปัญหาสุขภาพตามมามากมาย เช่น ป่วยเป็นซิฟิลิสกรรมพันธุ์ ปอดบวม น้ำหนักตัวน้อย ร่างกายอ่อนแอ ตาอักเสบติดเชื้อหนองในหรือหนองในเทียมจนอาจถึงตาบอดได้
ทั้งนี้จากการประเมินการใช้ถุงยางอนามัย ในกลุ่มวัยรุ่นทีใช้บริการที่คลินิกบางรัก พบวัยรุ่นชายมีความรู้ในการใช้ถุงยางอนามัยในระดับดี แต่ยังขาดความระมัดระวัง โดยเก็บหรือวางถุงยางในบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง เช่น ในรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ ซึ่งทำให้ถุงยางอนามัยเสื่อมสภาพได้ ส่วนวัยรุ่นหญิงขาดความรู้เกี่ยวกับวิธีการและขั้นตอนการใช้ถุงยางอนามัย
แพทย์หญิงอังคณา กล่าวต่ออีกว่า ก่อนใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง ขอให้ตรวจดูวันเดือนปีที่ผลิต ซึ่งจะมีอายุการใช้งานได้ 5 ปีนับตั้งแต่วันผลิต ก่อนจะใช้ ให้บีบปลายถุงยางก่อนทุกครั้งเพื่อไล่อากาศป้องกันการแตก และให้ใช้กระดาษชำระพันขอบถุงยางเวลาถอด สำหรับการทำเพศปฏิบัติโดยใช้ปากและไม่ใช้ถุงยางอนามัย อาจทำให้ติดเชื้อหนองในหรือหนองในเทียม ซิฟิลิส และอื่นๆ ได้
ในการส่งเสริมให้วัยรุ่นเกิดการเรียนรู้ และพัฒนาทักษะการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คลินิกบางรักได้นำโปรแกรมการสอนสุขศึกษา โดยใช้สื่อคอมพิวเตอร์มาใช้ช่วยสอน มีเจ้าหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงช่วยแนะนำ และในปี 2551 นี้ จะเพิ่มการอบรมแกนนำวัยรุ่น เพื่อพัฒนาทักษะด้านการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์ และฝึกปฏิบัติการเป็นพี่เลี้ยง ในการมีส่วนร่วมช่วยเหลือดูแลวัยรุ่นในคลินิกวัยรุ่นบางรักต่อไปด้วย หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ทางโทรศัพท์หมายเลข 0-2286-0108 ต่อ 32 หรือ 0-2286-0431 ต่อ 32 หรือ 0-2286-4483 ในเวลาราชการ
นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า วัยรุ่นส่วนใหญ่ในยุคปัจจุบัน มักยอมรับกระแสค่านิยม วัฒนธรรมตะวันตกจากสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นการแต่งกาย สิ่งของเครื่องใช้ เทคโนโลยีต่างๆ รวมทั้งวันวาเลนไทน์ ซึ่งตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่สังคมประเทศตะวันตกถือเป็นวันแห่งความรัก เยาวชนวัยรุ่นไทยก็ตื่นตัวให้ความสำคัญกันมาก เห็นได้จากสิ่งของต่างๆ ที่เป็นสื่อสัญลักษณ์แทนความรัก เช่น ดอกกุหลาบ ช็อคโกแลต ตุ๊กตา จะขายดีเป็นพิเศษและลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่น แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ จากการทำโพลของสถาบันวิชาการแห่งหนึ่ง แล้วพบว่ามีเยาวชนไทยร้อยละ 21 อยากมีเพศสัมพันธ์ในวันวาเลนไทน์ โดยเห็นว่าการมีเพศสัมพันธ์กันเป็นเรื่องปกติ และเป็นสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งมีความเสี่ยงอย่างมากที่จะติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือเกิดการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ตามมา
“การที่คนเราจะรักกันเป็นเรื่องที่ดี และความรักก็เป็นสิ่งที่สร้างสรรค์ การมอบของแสดงความรักแก่กันในวันวาเลนไทน์จึงไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด แต่ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ผ่านประสบการณ์ในชีวิตมามาก อยากให้ข้อคิดแก่เยาวชนสักนิดว่า มูลค่าของของขวัญไม่ได้บ่งบอกถึงความรัก การซื้อของขวัญจึงไม่จำเป็นต้องทุ่มเทจนเกินฐานะ หรือถึงขั้นต้องยอมพลีกายมอบพรหมจรรย์ และการมอบความรักหรือแสดงความรัก ก็ไม่ได้จำกัดเฉพาะคู่รักเท่านั้น แต่ยังมีพ่อแม่ซึ่งเป็นคนที่รักเรามากที่สุด แต่ไม่เคยเรียกร้องความรักหรือของขวัญจากเราเลย ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลหรือวันอะไรก็ตาม รวมทั้งยังมีพี่น้อง ปู่ย่า ตายาย ดังนั้นหากจะทำอะไรก็ขอให้คิดถึงบุคคลเหล่านี้ให้มากๆ รวมทั้งคิดถึงผลพวงที่จะตามมาจากความสุขชั่ววูบในวันวาเลนไทน์ด้วย” นายไชยากล่าว
นายไชยา กล่าวต่อว่า ในส่วนของพ่อแม่เอง อยากขอให้เข้าใจพฤติกรรม ความต้องการของวัยรุ่นให้มากๆ และให้ความรักความอบอุ่นแก่ลูกอย่างเต็มที่ รวมทั้งเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูก เปิดโอกาสให้ลูกได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างเปิดเผย เพื่อที่จะแนะนำการคบเพื่อน การดูแลตัวเอง การรักนวลสงวนตัว และตระหนักถึงผลกระทบจากพฤติกรรมเสี่ยง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เด็กจะเรียนรู้ได้ดี ถ้าสถาบันครอบครัวมีความเข้มแข็งและมีสัมพันธภาพที่ดี