xs
xsm
sm
md
lg

14 ก.พ.“รุมโทรม” สู่ “เซ็กซ์หมู่”! กับนาฏกรรมความใคร่ที่เปลี่ยนไป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ท่ามกลางการห่อหุ้มด้วยเปลือกบางๆ แห่งความอนุรักษ์นิยมสุดขั้วของสังคมไทย ยังคงมีกระแสการไหล่บ่าอย่างบ้าคลั่งจากวัฒนธรรมตะวันตกที่ทะลักเข้ากระแทกแสกหน้าวัฒนธรรมอันดีงาม จนกลายเป็นบิดเบี้ยวผิดรูปร่าง ส่งผลให้เกิดความสับสนอลหม่านของวัยรุ่นขาโจ๋ที่อยู่กลางระหว่างของเก่าที่ถูกมองว่าคร่ำครึ และของใหม่อันเย้ายวนชวนลิ้มลอง

แน่นอนว่า...วาเลนไทน์และเซ็กซ์ ก็ไม่ได้หลุดกฎความสนใจในประการหลัง ในมุมมองวัยรุ่น

เป็นเวลานับสิบปีมาแล้วที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายฝ่ายได้ออกมาประกาศปาวๆ รณรงค์การรักษาเนื้อรักษาตัวของเหล่าเด็กสาวในวันวาเลนไทน์ มิให้เผลอไผลปล่อยใจให้แก่คู่รักในช่วงวัยก่อนวัยอันควร แต่ดูเหมือนความพยายามเหล่านี้จะไม่เป็นผล เพราะเป็นความจริงที่ปรากฏให้เห็นอยู่แล้วว่า เด็กวัยรุ่นกับการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร เป็นปัญหาที่ไม่สามารถจะแก้ไขได้

“ไม่ใช่เฉพาะเด็กไทยครับ เด็กวัยรุ่นทั่วโลกให้ความสนใจต่อเรื่องเพศ เป็นเหมือนกันทั่วทั้งโลกครับ”
 
สิงห์ - วรรณสิงห์ ประเสิรฐกุล หนุ่มนักเขียนและนักพัฒนาในองค์กรอิสระ วัย 23 หรือที่เขาเรียกวัยของตัวเองว่า Young Adult บอกเล่าในฐานะตัวแทนของคนที่เพิ่งจะผ่านวัยรุ่นมาหมาดๆ ที่ได้มีโอกาสศึกษาอยู่ในสหรัฐอเมริกา และ แคนาดา ประมาณ 4 ปี ในช่วงวัยรุ่นพอดี

สถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น อาจจะเป็นจริงจากปากคำของนักเขียนหนุ่ม เพราะในช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา แนวทางการรณรงค์ในวันวาเลนไทน์ นอกจากจะเป็นเรื่องของการพร่ำสอนให้รักนวลสงวนตัวแล้ว ยังมีกระแสการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการตั้งครรภ์อันไม่พึงประสงค์ควบมาเป็นแพ็คคู่อีกด้วย

“ต้องยอมรับความจริงก่อนครับ ยังไงเด็กไทยก็มีเซ็กซ์กันอยู่ดี”

คำบอกเล่าแบบตรงๆ โต้งๆ จากปากของโจ๋หนุ่มอายุอานามประมาณ 18 ปี ผู้เดินผ่านมาชมกิจกรรม “วาเลนไทน์วัย X ต้อง Sex Education” ที่จัดขึ้นใต้ลิโด้ สยามสแควร์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาพูดปนยิ้มๆ ด้วยน้ำเสียงไม่ไร้สาระต่อไปอีกว่า

“ห้ามไม่ได้หรอกครับพี่ ไม่เฉพาะวาเลนไทน์นะ คือ วันธรรมดาวันอื่นๆ มันก็มีอะไร กัน ดังนั้นห้ามวาเลนไทน์ไปวันเดียวก็ไม่ได้ผลอะไรขึ้นมาแล้วล่ะครับ”

เขาหลิ่วตาเล็กน้อยก่อนจะทิ้งท้ายและเดินจากไปว่า

“แต่วาเลนไทน์น่ะ มันมีอะไรกันแบบพิเศษเสมอๆ นั่นแหละพี่ ลองไปหาดูสิ”

จากข้อมูลของเยาวชนผู้ทำงานด้านนี้มานานอย่าง “น้องต้าร์” – วันเฉลิม สัตยศักดิ์สิทธิ์ ตัวแทนจากเครือข่ายเยาวชนต้านเอดส์ประเทศไทย (Youth Net) ได้เปิดเผยข้อมูลอันน่าเศร้าเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นจริงเมื่อช่วงวาเลนไทน์ของปี พ.ศ.2549 ที่ผ่านมา

“เป็นเรื่องของวัยรุ่นชายในสลัม กับเด็กสาวอายุประมาณ 16 ปี” วันเฉลิม กล่าวขอโทษที่มิสามารถให้ชื่อจริงของเด็กทั้งคู่ จึงเรียกเขาและเธอว่า “เอ” และ “บี”

หนุ่มเอ เป็นเยาวชนที่อยู่ในชุมชนแออัด อายุประมาณ 18 ปี เคยเรียน กศน.อยู่ระยะหนึ่งแต่ไม่นานนัก ส่วน บี เป็นเด็กสาวที่มาจากครอบครัวปานกลาง กำลังศึกษาในโรงเรียนมัธยมแถวฝั่งธนแห่งหนึ่ง ทั้งคู่ตกลงใจคบหาเป็นแฟนกันมาได้ระยะหนึ่งแล้ว

เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ เอ ได้เกลี้ยกล่อมแฟนสาวของเขา ว่า ใกล้ถึงวาเลนไทน์หรือเทศกาลแห่งความรักแล้ว อยากจะขอมีเพศสัมพันธ์กับนางสาวบี เพื่อที่วาเลนไทน์ในปีนั้นจะได้เป็นวาเลนไทน์ที่สมบูรณ์ ที่ทั้งสองจะได้เป็นหนึ่งเดียวกัน ตามความเชื่อที่ฝ่ายชายส่วนใหญ่มักจะนำมาใช้หลอกผู้หญิงที่ตนเองอยากจะได้ครอบครอง

ด้าน นางสาวบี ซึ่งเคยมีประสบการณ์ทางเพศกับคู่รักชายคนที่เคยคบหาก่อนนายเอมาแล้ว 2-3 คน ก็ไม่ได้อิดออดแต่อย่างใด เธอตกลงยอมมีเพศสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มด้วย คิดว่าจะเป็นการแสดงให้เขาเห็นว่า เธอรักเขา และยอมที่จะเป็นของเขาทั้งกายและใจ

แต่เหตุการณ์ไม่ได้โรแมนติกหวานฉ่ำอย่างที่สาวบีคาดเอาไว้ เมื่อเธอมาถึงสถานที่ที่ นายเอ นัดพบ เพื่อจะให้เป็นวิมานฉิมพลีของทั้งคู่ แล้วก็พบว่า

นอกจากจะมีแฟนหนุ่มแล้ว ยังมีชายวัยรุ่นอีก 3 คน เปลื้องผ้าล่อนจ้อนรอเธออยู่

แล้วโศกนาฏกรรมความใคร่แบบ 4 รุม 1 ก็ดำเนินไปจนถึงรุ่งสางของอีกวันหนึ่ง โดยชายทุกคนที่ก่อเหตุรุมโทรมเธอนั้น ไม่มีใครสวมถุงยางอนามัยเลยแม้แต่คนเดียว!!!


“พ่อของน้องบีเอาเรื่อง เพราะมีการกักขังหน่วงเหนี่ยวเข้ามาเกี่ยวข้อง คือ ฝ่ายชายทั้ง 4 เขากักขังน้องบีไว้หนึ่งคืนก่อนจะปล่อยกลับมา”

ต้าร์ เล่าต่อไปว่า แต่ภายหลังเมื่อคุยกัน พ่อฝ่ายหญิงจึงเรียกเงินค่ายอมความจากชายวัยรุ่นผู้ก่อเหตุทุกคน ได้มาคนละประมาณ 2-3 หมื่นบาท หน่วยงานที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือได้นำน้องบีไปตรวจโรคติดต่อทางเพศ และภาวการณ์ตั้งครรภ์ ซึ่งโชคดีมากที่ไม่พบทั้งสองอย่าง

ที่น่าแปลกใจที่สุด คือ ภายหลังจากที่น้องบีถูกแฟนหลอกพาไปให้เพื่อนรุมโทรมแล้ว น้องบีก็ยังคบกับนายเอต่อไป

“ตอนแรกน้องบีเขาก็โกรธแฟนนะครับ แต่ตอนหลังก็หาย กลับไปคบกัน”

และที่สำคัญที่สุด คือ ประสบการณ์อันเลวร้ายที่เด็กสาววัย 16 ที่ถูกชาย 4 คนรุมข่มขืนคนนี้ กลับทำให้เธอกลายเป็น “ยอมรับ” ในรูปแบบของการมีเพศสัมพันธ์แบบที่เรียกกันว่า “เซ็กซ์หมู่”!?

“บี ยังคงคบแฟนต่อไปอีก และนัดกับเพื่อนแฟนบางคนในกลุ่มมามีเพศสัมพันธ์แบบหมู่แบบนี้อีกเป็นบางครั้งบางคราว บางครั้งก็มีหน้าใหม่ๆ เข้ามาร่วมด้วย โดยความยินยอมพร้อมใจของน้องบีเอง ต่อมาน้องบีเลิกกับนายเอ และมีแฟนใหม่ ก็ยังมีพฤติกรรมชอบมีเพศสัมพันธ์แบบหมู่กับแฟนใหม่และเพื่อนๆ ของแฟนใหม่ด้วย”

สำหรับฝ่ายชายทั้ง 4 คน ผู้ชักนำให้ บี รู้จักเพศสัมพันธ์ที่แตกต่างออกไป โดยนำช่วงเทศกาลแห่งความรักมาเป็นข้ออ้างนั้น ต้าร์ ได้ติดตามข้อมูลของพวกเขาแล้ว พบว่า นายเอ ผู้เป็นแฟนของน้องบี ได้มีคนรักเป็นตัวเป็นตนแล้ว และไม่ชักนำแฟนคนนี้มายุ่งกับเซ็กซ์หมู่อีก

ส่วนเพื่อนของนายเอ 2 ใน 3 คนนั้น ขณะนี้ได้แต่งงานและก่อร่างสร้างครอบครัวเป็นที่เรียบร้อยกับผู้หญิงที่เขาทั้งคู่เลือกมาเป็นแม่ของลูก ทั้งคู่เลิกพฤติกรรมเซ็กซ์หมู่แบบเด็ดขาด และดูเหมือนจะลืมเลือนเด็กสาวผู้เคยเป็น “ทางผ่านบนเส้นทางความใคร่” ในคืนวาเลนไทน์เมื่อสองปีที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง

และนี่คือ...ซอกมุมอันอับชื้นเพียงซอกเดียวในเมืองใหญ่ ในวันที่กระแสโลกและความหมายของ “วาเลนไทน์” เปลี่ยนไปเป็น “เทศกาลแห่งความใคร่” ที่มีรูปแบบอันบ้าเพี้ยนหลุดโลกที่เกิดขึ้นแล้วจริงๆ ในสังคมบ้านเรา

กำลังโหลดความคิดเห็น