เครือข่ายเยาวชน เผย ผลสำรวจเยาวชนส่วนใหญ่ ต้องการเรียนรู้เรื่องเพศศึกษาอย่างเป็นระบบในสถานศึกษา และต้องการรัฐบาลสนับสนุนการทำงานของกลุ่มเยาวชนในเรื่องเพศศึกษา ขณะที่อยากให้พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถพูดคุยและรับรู้ความในใจเรื่องความรักและเรื่องเพศ ที่สำคัญสามารถรับถุงยางที่โรงเรียน พร้อมมีอุปกรณ์สอนอย่างชัดเจนอย่างอวัยวะเพศเทียม
น.ส.อุษาสินี ริ้วทอง เจ้าหน้าที่โครงการก้าวย่างอย่างเข้าใจ องค์การแพธ เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง “ทัศนคติและความคิดเห็นของเด็กและเยาวชนเกี่ยวกับการเรียนรู้เรื่องเพศศึกษา การใช้ถุงยางอนามัย และโฆษณาถุงยางอนามัย” จากวัยรุ่นอายุระหว่าง 15-22 ปี ใน 11 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 2,000 คน สำรวจโดยเครือข่ายเยาวชนด้านเอดส์ประเทศไทย ร่วมกับโครงการก้าวย่างอย่างเข้าใจ องค์การแพธ และสถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา พบว่าวัยรุ่นส่วนใหญ่ต้องการเรียนรู้เรื่องเพศศึกษาอย่างเป็นระบบจากสถานศึกษา โดยร้อยละ 76.5 เห็นว่า ควรมีวิชาเพศศึกษาบรรจุอยู่ในหลักสูตรของทุกโรงเรียน ร้อยละ 72 เห็นว่า นักเรียนทุกคนควรได้เรียนเพศศึกษาอย่างต่อเนื่องในทุกระดับชั้น และร้อยละ 56 ต้องการให้มีการใช้สื่อการเรียนการสอนที่ชัดเจนในห้องเรียน เช่น อุปกรณ์อวัยวะเพศเทียมเพื่อสาธิตการใช้ถุงยางอนามัย เป็นต้น นอกจากนี้ ร้อยละ 73.8 ต้องการให้พ่อแม่ผู้ปกครอง สามารถพูดคุยและรับรู้ความในใจ เรื่องความรักและเรื่องเพศ และร้อยละ 72.5 ต้องการให้ครูตอบข้อสงสัยเรื่องเพศศึกษาของนักเรียนได้อย่างปกติและกระจ่างชัด
ด้านทัศนคติต่อถุงยางอนามัย พบว่าเยาวชนร้อยละ 65.6 ต้องการให้นักเรียนรับถุงยางอนามัยที่โรงเรียนได้ ร้อยละ 64.5 เห็นด้วยกับการสาธิตใช้ถุงยางอนามัยในห้องเรียน ซึ่งสะท้อนให้เห็นทัศนคติของวัยรุ่นที่คำนึงถึงความรับผิดชอบร่วมกันระหว่างหญิงชายในการป้องกันเอชไอวีและการตั้งครรภ์ นอกจากนี้ เยาวชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 74.9 เห็นด้วยกับการโฆษณาให้เยาวชนพกและใช้ถุงยางอนามัย ร้อยละ 70.5 เห็นว่า เกย์ กะเทย ทอม และ ดี้ ควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมในโรงเรียน ร้อยละ 67.2 เห็นว่า การตัดสินใจมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นเป็นสิทธิส่วนบุคคล และเยาวชนเกินครึ่ง หรือร้อยละ 60.4 เห็นด้วยที่จะให้มีการเผยแพร่ความรู้เรื่องเพศศึกษาทางโทรทัศน์ในช่วงเวลาครอบครัว หรือก่อน 4 ทุ่มได้
น.ส.อุษาสินี ริ้วทอง เจ้าหน้าที่โครงการก้าวย่างอย่างเข้าใจ องค์การแพธ เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง “ทัศนคติและความคิดเห็นของเด็กและเยาวชนเกี่ยวกับการเรียนรู้เรื่องเพศศึกษา การใช้ถุงยางอนามัย และโฆษณาถุงยางอนามัย” จากวัยรุ่นอายุระหว่าง 15-22 ปี ใน 11 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 2,000 คน สำรวจโดยเครือข่ายเยาวชนด้านเอดส์ประเทศไทย ร่วมกับโครงการก้าวย่างอย่างเข้าใจ องค์การแพธ และสถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา พบว่าวัยรุ่นส่วนใหญ่ต้องการเรียนรู้เรื่องเพศศึกษาอย่างเป็นระบบจากสถานศึกษา โดยร้อยละ 76.5 เห็นว่า ควรมีวิชาเพศศึกษาบรรจุอยู่ในหลักสูตรของทุกโรงเรียน ร้อยละ 72 เห็นว่า นักเรียนทุกคนควรได้เรียนเพศศึกษาอย่างต่อเนื่องในทุกระดับชั้น และร้อยละ 56 ต้องการให้มีการใช้สื่อการเรียนการสอนที่ชัดเจนในห้องเรียน เช่น อุปกรณ์อวัยวะเพศเทียมเพื่อสาธิตการใช้ถุงยางอนามัย เป็นต้น นอกจากนี้ ร้อยละ 73.8 ต้องการให้พ่อแม่ผู้ปกครอง สามารถพูดคุยและรับรู้ความในใจ เรื่องความรักและเรื่องเพศ และร้อยละ 72.5 ต้องการให้ครูตอบข้อสงสัยเรื่องเพศศึกษาของนักเรียนได้อย่างปกติและกระจ่างชัด
ด้านทัศนคติต่อถุงยางอนามัย พบว่าเยาวชนร้อยละ 65.6 ต้องการให้นักเรียนรับถุงยางอนามัยที่โรงเรียนได้ ร้อยละ 64.5 เห็นด้วยกับการสาธิตใช้ถุงยางอนามัยในห้องเรียน ซึ่งสะท้อนให้เห็นทัศนคติของวัยรุ่นที่คำนึงถึงความรับผิดชอบร่วมกันระหว่างหญิงชายในการป้องกันเอชไอวีและการตั้งครรภ์ นอกจากนี้ เยาวชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 74.9 เห็นด้วยกับการโฆษณาให้เยาวชนพกและใช้ถุงยางอนามัย ร้อยละ 70.5 เห็นว่า เกย์ กะเทย ทอม และ ดี้ ควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมในโรงเรียน ร้อยละ 67.2 เห็นว่า การตัดสินใจมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นเป็นสิทธิส่วนบุคคล และเยาวชนเกินครึ่ง หรือร้อยละ 60.4 เห็นด้วยที่จะให้มีการเผยแพร่ความรู้เรื่องเพศศึกษาทางโทรทัศน์ในช่วงเวลาครอบครัว หรือก่อน 4 ทุ่มได้
