ASTVผู้จัดการรายวัน – สทท.จี้ มหาดไทย เร่งเอาผิดโรงแรมเถื่อน ชี้หลังครม.มีมติแต่ยังไร้แววรูปธรรม พร้อมเสนอช่วยพิจารณาผ่อนปรนกฎเกณฑ์ เปิดทางโรงแรมเล็กได้จดทะเบียน เตรียมชงเรื่องถึง กรอ.อ้อนของบรัฐบาล 500 ล้านบาทกระตุ้นท่องเที่ยว หลังม็อบแดงสลายตัว
นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สทท. เตรียมทำหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย ให้เร่งรัดดำเนินการตามมติครม. ในเรื่องของการตรวจสอบและดำเนินการเอาผิดกับผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ห้องเช่า และเซอร์วิสอพาร์ทเม้นต์ ที่เปิดให้เช่ารายวัน ในลักษณะเดียวกันกับโรงแรม
รวมถึงให้เร่งรัดการออกใบอนุญาติประกอบธุรกิจโรงแรมให้แก่ผู้ประกอบการที่ยังไม่มีใบอนุญาติดังกล่าวนี้ด้วย เพื่อให้ปัญหาเรื่องโรงแรมเถื่อนหมดไปโดยเร็ว ซึ่งหลังจาก ครม.มีมติมานานหลายเดือนแล้ว แต่ในทางปฎิบัติยังไม่มีผลเป็นรูปธรรมเลย
นอกจากนั้น สทท.จะทำหนังสือถึงหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ขอความร่วมมือหยุดใช้บริการโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาต โดยเฉพาะ อพาร์ทเม้นท์ และ ห้องเช่า ที่หันมาเปิดให้บริการรายวัน ทั้งที่ไม่มีใบอนุญาต เพื่อให้หันมาใช้บริการผู้ประกอบการที่มีใบ้อนุญาติที่ถูกต้อง เป็นการสนับสนุนผู้ที่ทำธุรกิจอย่างถูกกฎหมาย และ
จูงใจให้ผู้ที่ยังไม่ขอใบอนุญาติให้เข้ามาสู่ระบบอย่างถูกต้อง
“ปัญหาโรงแรมเถื่อนระบาด มาจากกฎเกณฑ์ในการขอใบอนุญาติประกอบธุรกิจโรงแรม ไม่มีความยืดหยุ่น ซึ่งอาจเป็นเพราะผู้ร่างกฎหมาย คำนึงถึงโรงแรมระดับ 5 ดาวเป็นหลัก จนลืมคิดไปว่ารูปแบบโรงแรมในปัจจุบันก็ต้องปรับเปลี่ยนไปตามไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยว ดังนั้นกฎเกณฑ์ที่ตั้งขึ้นก็ควรนำมาปรับใหม่ ให้เหมาะกับโรงแรมแต่ละระดับด้วย ”
ปัจจุบันโรงแรมที่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมถูกต้องตามกฎหมายมีประมาณ 5,000 โรงแรม และโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ ห้องเช่ารายวัน ที่ไม่มีใบอนุญาตถูกต้อง 4,000-6,000 ราย ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ใกล้กัน เชื่อว่าโรงแรมหลายแห่งที่ไม่มีใบอนุญาต ยังต้องการจะปฏิบัติให้ถูกต้อง หากผลักดันกลุ่มนี้เข้ามาอยู่ในระบบได้ก็จะทำให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการที่ปฏิบัติถูกต้อง และรัฐบาลจะมีรายได้จากการจัดเก็บภาษี
อย่างไรก็ตาม มีแนวคิดว่าจะนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ (กรอ.) เพื่อขอให้พิจารณาหลังการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงยุติ ให้เสนอต่อรัฐบาลขอให้จัดสรรงบประมาณพิเศษเข้ามากระตุ้นท่องเที่ยว นอกเหนือจากการขยายมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวอื่นๆไปแล้ว
เพราะการชุมนุมทางการเมืองได้ส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวในบางตลาดที่สำคัญ เช่น จีน ฮ่องกง โดยวงเงินที่จะขอรัฐบาลจะอยู่ราว 500 ล้านบาท
นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สทท. เตรียมทำหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย ให้เร่งรัดดำเนินการตามมติครม. ในเรื่องของการตรวจสอบและดำเนินการเอาผิดกับผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ห้องเช่า และเซอร์วิสอพาร์ทเม้นต์ ที่เปิดให้เช่ารายวัน ในลักษณะเดียวกันกับโรงแรม
รวมถึงให้เร่งรัดการออกใบอนุญาติประกอบธุรกิจโรงแรมให้แก่ผู้ประกอบการที่ยังไม่มีใบอนุญาติดังกล่าวนี้ด้วย เพื่อให้ปัญหาเรื่องโรงแรมเถื่อนหมดไปโดยเร็ว ซึ่งหลังจาก ครม.มีมติมานานหลายเดือนแล้ว แต่ในทางปฎิบัติยังไม่มีผลเป็นรูปธรรมเลย
นอกจากนั้น สทท.จะทำหนังสือถึงหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ขอความร่วมมือหยุดใช้บริการโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาต โดยเฉพาะ อพาร์ทเม้นท์ และ ห้องเช่า ที่หันมาเปิดให้บริการรายวัน ทั้งที่ไม่มีใบอนุญาต เพื่อให้หันมาใช้บริการผู้ประกอบการที่มีใบ้อนุญาติที่ถูกต้อง เป็นการสนับสนุนผู้ที่ทำธุรกิจอย่างถูกกฎหมาย และ
จูงใจให้ผู้ที่ยังไม่ขอใบอนุญาติให้เข้ามาสู่ระบบอย่างถูกต้อง
“ปัญหาโรงแรมเถื่อนระบาด มาจากกฎเกณฑ์ในการขอใบอนุญาติประกอบธุรกิจโรงแรม ไม่มีความยืดหยุ่น ซึ่งอาจเป็นเพราะผู้ร่างกฎหมาย คำนึงถึงโรงแรมระดับ 5 ดาวเป็นหลัก จนลืมคิดไปว่ารูปแบบโรงแรมในปัจจุบันก็ต้องปรับเปลี่ยนไปตามไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยว ดังนั้นกฎเกณฑ์ที่ตั้งขึ้นก็ควรนำมาปรับใหม่ ให้เหมาะกับโรงแรมแต่ละระดับด้วย ”
ปัจจุบันโรงแรมที่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมถูกต้องตามกฎหมายมีประมาณ 5,000 โรงแรม และโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ ห้องเช่ารายวัน ที่ไม่มีใบอนุญาตถูกต้อง 4,000-6,000 ราย ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ใกล้กัน เชื่อว่าโรงแรมหลายแห่งที่ไม่มีใบอนุญาต ยังต้องการจะปฏิบัติให้ถูกต้อง หากผลักดันกลุ่มนี้เข้ามาอยู่ในระบบได้ก็จะทำให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการที่ปฏิบัติถูกต้อง และรัฐบาลจะมีรายได้จากการจัดเก็บภาษี
อย่างไรก็ตาม มีแนวคิดว่าจะนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ (กรอ.) เพื่อขอให้พิจารณาหลังการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงยุติ ให้เสนอต่อรัฐบาลขอให้จัดสรรงบประมาณพิเศษเข้ามากระตุ้นท่องเที่ยว นอกเหนือจากการขยายมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวอื่นๆไปแล้ว
เพราะการชุมนุมทางการเมืองได้ส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวในบางตลาดที่สำคัญ เช่น จีน ฮ่องกง โดยวงเงินที่จะขอรัฐบาลจะอยู่ราว 500 ล้านบาท