ASTV ผู้จัดการรายวัน- "แดงไพร่" ลั่นปลดแอกรัฐทหารวันนี้ เตรียมบุกบ้าน “ป๋าเปรม-ทำเนียบฯ -รัฐสภา” เผารัฐธรรมนูญ 100 เล่มหน้าอนุสาวรีย์ ร.7 ไม่รับรู้เงื่อนไข"แม้ว" ขอเงิน 3 หมื่นล้านคืน แลกเลิกชุมนุม "เด็จพี่"ปล่อยข่าว "เสื้อน้ำเงิน"เตรียมสร้างสถานการณ์ป่วน หวังให้รัฐบาลใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กวาดม็อบ "แดงปลอด" โอ่ 10 กว่าวัน นับไปนับมา ผู้ชุมนุมทะลุหลักล้านแล้ว ด้านพันธมิตรฯ ยัน"เสื้อเหลือง" ยังอยู่ในที่ตั้ง
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงในวันนี้ (27 มี.ค.) ว่าเราได้นัดหมายให้มารวมตัวกันที่ สะพานผ่านฟ้า ถนนราชดำเนิน ในเวลา 10.00น. จากนั้นแกนนำจะขอฉันทามติจากคนเสื้อแดง เพื่อทำการเคลื่อนไหว ทั้งนี้ ยืนยันว่าการเคลื่อนไหวจะเป็นไปโดยสงบ อหิงสา เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า ขอเรียกร้องไปยังหน่วยงานความมั่นคง ที่มีการปั่นข่าวสร้างกระแสว่า มีกลุ่มก่อความไม่สงบใน 3 จว.ชายแดนภาคใต้ ขนอาวุธเข้ามาปะปนกับกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อสร้างสถานการณ์ ซึ่งเรื่องนี้เราขอยืนยันว่า เราไม่เกี่ยวกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอย่างแน่นอน เชื่อว่าเป็นการจงใจปล่อยข่าวมากกว่า
ไม่รับมุกแม้วใช้อารยะขัดขืน
นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงการใช้มาตรการอารยะขัดขืน ตามคำสั่งของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ได้วิดีโอลิงค์เข้ามาว่า ตอนนี้คงยังไม่ทำ ต้องรอให้มีการเคลื่อนพล และหารือกับแกนนำก่อน ว่าถ้าจะใช้อารยะขัดขืน จะใช้ในรูปแบบใด
"เราไม่ได้กดดันตัวเองว่าการชุมนุมจะจบวันไหน และจะไม่ประกาศว่า ครั้งนี้เป็นสงครามครั้งสุดท้าย ไม่ประกาศชัยชนะรายวัน แต่คนเสื้อแดงจะทำสงครามต่อเนื่องทุกวัน เพื่อปลดแอกจากรัฐทหารให้ได้" นายณัฐวุฒิกล่าว
"ไอ้ตู่"ลั่น27 มี.ค.ปลดแอกรัฐทหาร
นายจตุพร หรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวโจมตีว่า รัฐบาลมีการปล่อยข่าวว่ากลุ่มนักศึกษา ม.รามคำแหง กลุ่ม PNYS ซึ่งเป็นกลุ่มนักศึกษาจาก 3 จว.ชายแดนใต้ ที่เข้ามาก่อกวน สร้างสถานการณ์นั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะกลุ่ม PNYS มีการก่อตั้งในมหาวิทยาลัยมานาน แล้ว และฝ่ายความมั่นคงได้มีการตามประกบมาตลอด จึงเป็นการแน่ชัดว่าเป็นการกุข่าวของรัฐบาลเพื่อดิสเครดิตคนเสื้อแดง ซึ่งการทำเช่นนี้ถือเป็นการทำลายบรรยากาศของการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภาโลก ที่จะมีแขกต่างประเทศมาจำนวนมาก ซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดง ได้ประกาศไปแล้วว่า จะไม่เดินทางไปในวันประชุมรัฐสภาโลก (ไอพียู) แต่จะส่งตัวแทนที่เป็นนักวิชาการจำนวน 3 คน ไปยื่นหนังสือ และขอเรียกร้องเท่านั้น
"การ กระทำของรัฐบาล ที่พยายามกุข่าว เห็นได้ชัดว่ามีความต้องการสร้างภาพ ของกรุงเทพมหานคร ให้เป็นเหมือนอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งการยิงระเบิดในแต่ละครั้ง ไม่ใช่ฝีมือคนเสื้อแดงแน่นอน เพราะการระเบิดแต่ละครั้ง คนเสื้อแดงไม่ได้ประโยชน์อะไร ตรงกันข้ามกลับกลาย เป็นการกลบข่าวความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง ในวันที่ 27 มี.ค. จะเป็นการประกาศปลดแอกประเทศไทยจากรัฐทหาร ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นหุ่นเชิด" นายจตุพรกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายจตุพร ไม่ยอมบอกว่าในวันที่ 27 มี.ค. จะเคลื่อนไหวอย่างไร โดยอ้างว่า เพื่อป้องกันฝ่ายรัฐบาลที่จะเตรียมการใช้วิชามาร และเชื่อว่าในคืนวันที่ 26 มี.ค. จะมีเสียงระเบิดมากกว่าปกติ เพื่อทำลายน้ำหนักการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง
แม้วขอคืน 3 หมื่นล.ไม่เกี่ยวชุมนุม
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ขอเงิน 3 หมื่นล้านบาทที่ถูกยึดไป คืนมาเพื่อแลกกับการยุติการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ยืนยัน ว่าเป็นความเท็จ และไม่มีการเจรจาในเรื่องนี้เลย เรื่องเงิน 3 หมื่นล้านบาทเป็นอำนาจของศาลฎีกาฯในการคืนเงินให้ ไม่ใช่อำนาจของนายอภิสิทธิ์ ดังนั้นจึงเป็นแค่เพียงการทำลายน้ำหนักของคนเสื้อแดง ว่าจะยุติการเคลื่อนไหวทันทีที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้เงินคืน นอกจากนี้อยากขอเตือนนายอภิสิทธิ์ ที่ใช้บริการชุดสร้างสถานการณ์ว่า จะเกิดผลเสียกับคนไทยทั้งประเทศ ดังนั้นในวันที่ 27 มี.ค.นี้ จะเป็นวันปลดแอกรัฐทหาร
ส่วนจะเกิดความรุนแรงหรือไม่ ต้องไปถามฝ่ายที่ถืออาวุธ เพราะพวกตนมีเพียงมือเปล่า ยกเว้นว่ามีการปราบปรามประชาชน เหตุการณ์อาจจะลุกลามชนิดที่ไม่สามารถจะห้ามได้
บุกสภาเผารธน.100 เล่มหน้าร.7
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเคลื่อนพลของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันนี้ มีรายงานว่าจะแยกเป็น 5 จุด ในจุดที่เป็นสัญลักษณ์ทางการเมือง ซึ่งไม่ไกลจากที่ชุมนุม โดยแกนนำจะประกาศสถานที่ในเวลา 10.00 น.
ทั้งนี้แกนนำนปช.ได้เตรียมแผนไว้ว่า จะไปจะต้องไปยั่วยุทหารให้เกิดการเผชิญหน้า ให้เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม ซึ่งเฝ้าในสถานที่สำคัญ อาทิ บ้านสี่เสาเทเวศร์ ของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ บริเวณรัฐสภา ทำเนียบรัฐบาล โดยจะกดดันให้รัฐบาลเจรจาให้ได้
นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำนปช. กล่าวว่า จะนำแกนนำนปช. และคนเสื้อแดงไปเผารัฐธรรมนูญ 100 ฉบับ ที่หน้ารัฐสภา และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และกำลังจะพิจารณาว่า จะขอทหารไปเผารัฐธรรมนูญ หน้าพระบรมรูปรัชกาลที่ 7 ในรัฐสภา หรือไม่
งัดไหลงยันต์เล่นมนต์ดำใส่"ป๋า"
เมื่อเวลา 14.00 น. ที่เวทีสะพานผ่านฟ้า พระเทพพิฑูรย์ ฉัทธรรมโม (เจ้ากูกำปั่น) จาก จ.หนองคาย พร้อมด้วยลูกศิษย์ 2 คน เดินถือไหปิดผ้ายันต์ ติดสติ๊กเกอร์ด้านข้าง ว่า “ยุบสภา” มีแผ่นกระดาษที่เขียนชื่อ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ,นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ,นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ,นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยมีเศษพริกสีแดง และเกลือ โรยอยู่บนกระดาษดังกล่าว
"ต้องการนำไหลงยันต์มาให้แกนนำนปช. เขียนชื่อบุคคลที่เกลียดลงในกระดาษแล้วใส่ลงในไห เพื่อเอาไปทำพิธีเผาพริก เผาเกลือ สลายวิญญาณ" เจ้ากูกำปั่นกล่าว
นับไปนับมาคนชุมนุมถึงล้านแล้ว
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวหลังการประชุมวอร์รูมพรรคเพื่อไทย จากที่ได้ทำการสำรวจพบว่า จำนวนคนที่มาร่วมชุมนุมไปและกลับ ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. ถึงปัจจุบัน ครบ 1 ล้านคนแล้ว และเชื่อว่าจะมีคนเสื้อแดงเข้าร่วมชุมนุมเพิ่มมากขึ้น
"คนเสื้อแดงก็รู้สึกแร้นแค้นจากรัฐบาล สภาวะในกรุงเทพฯ และโมโหที่โดนดูถูก ดังนั้น คนจำนวน 1 ล้านคน จึงไม่สามารถกลับบ้านมือเปล่าได้ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลทราบดี และหวั่นวิตก เพราะเมื่อใดก็ตามที่คนเสื้อแดงกลับบ้านและกระจายไปอยู่ทั่วประเทศ ย่อมที่จะสร้างปัญหาอย่างยิ่งให้กับรัฐบาลชุดนี้ และรัฐบาลไม่อยู่ในฐานะที่จะควบคุมอะไรได้เลย เพราะบ้านเมืองจะมีความโกลาหลเกิดขึ้น"
นายปลอดประสพ ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีผู้ติดต่ามข่าวสารคนเสื้อแดง จากพีเพิลชาแนล กว่า 20 ล้านคน ทั่วประเทศ ดังนั้นอย่าผลักคน 20 ล้านเป็นศัตรู ถ้ารัฐบาลยังไม่ทำตามข้อเรียกร้องของเขา รับรองว่าบ้านเมืองจะปริจนต่อกันไม่ได้
"สิ่งที่รัฐบาลกลัวที่สุดเวลานี้คือ กลัวคนกรุงเทพฯ จะเข้ามาร่วมกับคนเสื้อแดง ซึ่งจะทำให้เสียงของพรรคประชาธิปัตย์ในกรุงเทพฯ หายไปจำนวนมาก ส.ส.ประชาธิปัตย์หลายคนจึง พยายามที่จะขอร้องให้นายกรัฐมนตรียุบสภา" นายปลอดประสพกล่าว และว่าในที่สุดรัฐบาลจะต้องยุบสภาล้านเปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะพยายามยืดเวลาไปให้ถึงเดือน ธ.ค. หรือเพียงแค่เดือนก.ย. เพื่อของแต่งตั้ง ผบ.ทบ. และผ่านงบประมาณปี 2554 ก่อน **ลั่นม็อบแดงไปไหนส.ส.ไปด้วย
รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวถึงการนัดรวมพลของคนเสื้อแดงในวันนี้ ว่า ส.ส.ของพรรคทุกคน จะเดินทางไปรวมพลที่ถนนราชดำเนินด้วย ถ้าคนเสื้อแดงไปไหนเราก็จะตามไปด้วย คาดว่าจะมีรถมอเตอร์ไซค์เข้าร่วมขบวนจำนวนมาก เพราะเราได้แจกเสื้อให้กับวิน มอเตอร์ไซค์ไปจำนวนมาก
ส่วนเรื่องที่จะเดินสายพบแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลให้ถอนตัวจากรัฐบาลนั้น คงต้องรอให้นาย บรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย หายจากอาการไม่สบายก่อน เพราะเป็นเรื่องที่อดีตนายกฯ จะคุยกับอดีตนายกฯ ซึ่งพรรคเพื่อไทยคงจะไปพบนายบรรหาร เป็นคนแรก เนื่องจากมีอาวุโสทางการเมืองสูงสุด จากนั้นจะไปทุกพรรค ยกเว้นพรรคภูมิใจไทย ที่ไม่รู้ว่าจะไปคุยทำไม
จวกรัฐบาล-ทหาร เอื้อประโยชน์
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า จากผลที่รัฐบาลถูกประชาชนออกมาต่อต้านอย่างหนัก ในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน ส่วนทหาร ก็มีข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ ต่างๆ จึงถือได้ว่าทั้งรัฐบาล และ ผบ.เหล่าทัพ ต่างมีแผล สันหลังหวะทั้งคู่ จึงเกิดพฤติกรรมการช่วยเหลือเกื้อกูลระหว่างกัน เพื่อความอยู่รอดของทั้งสองฝ่าย ทหารจึงระดมกำลังออกมาคุ้มครองรัฐบาลอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกัน ทหารก็ได้รับงบประมาณในการจัดซื้ออาวุธ
นอกจากนี้ การที่รัฐบาลระดมกำลังตำรวจ และทหาร จำนวนมาก เข้ามาควบคุมสถานการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดง ซึ่งล่าสุดมีจำนวนถึง 75,000 นาย และหากคิดการชุมนุมตั้งแต่วันที่ 12 ถึง 30 มี.ค.53 ขณะนี้รัฐบาลใช้งบประมาณในการจ่ายเบี้ยเลี้ยงไปแล้ว กว่า 570 ล้านบาท
"ทหาร ตำรวจ ชั้นประทวน จ่ายวันละ 500 บาท ส่วนชั้นสัญญาบัตร จ่ายวันละ 800 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับทหาร และตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่เสี่ยงภัยอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีความยากลำบากต่อการปฏิบัติหน้าที่ และต้องระวังตัวเองอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง กลับได้รับเบี้ยเลี้ยงเพียงวันละ180 บาท แถมถูกหักค่าอาหารวันละ 40 บาท จึงเหลือเบี้ยเลี้ยงที่รับจริงเพียงวันละ140 บาทเท่านั้น ต่างกับทหาร ตำรวจ ที่มาคุ้มครองรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ถึง 3 เท่า" นายพร้อมพงศ์ กล่าว
ปล่อยข่าวรัฐบาลใช้วิชามารป่วน
นายพร้อมพงศ์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีการเตรียมการสร้างสถานการณ์ ของอดีตนักการเมืองใหญ่ที่มีบารมีนอกรัฐบาล ได้วางแผนเป็นขั้นตอนร่วมมือกับนายทหารบางคน โดยเมื่อวันที่ 24 มี.ค. มีการนำรถจักรยานยนต์ 500 คัน บรรทุกใส่รถยีเอ็มซี ของทหาร ที่ จ.ขอนแก่น เดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ มีการเกณฑ์ชายฉกรรจ์ในทุกอำเภอของ จ.บุรีรัมย์ ประมาณ 1,150 คน ทยอยขึ้นรถยนต์ปิกอัพ 120 คัน เดินทางเข้ากรุงเทพฯ พร้อมเสบียงและอุปกรณ์การสร้างสถานการณ์ ซึ่งตามที่ได้รับรายงานรถจักรยานยนต์ที่นำมา จะนำไปซ่อนไว้ในค่ายทหารใหญ่บางแห่งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล บางส่วนนำไปซ่อนไว้ในโรงซ่อมเครื่องบินแห่งใดแห่งหนึ่ง
"เมื่อถึงเวลา คาดว่าน่าจะเป็นคืนวันที่ 26 มี.ค.นี้ ชายฉกรรจ์เหล่านี้จะนำรถจักรยานยนต์ ออกก่อเหตุคันละ 2 คน เพื่อทำการป่วนเมือง เพื่อทำลายความชอบธรรม อันจะเป็นการสร้างเงื่อนไขรัฐบาล ในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และมีคำสั่งห้ามการชุมนุมเกินกว่า 5 คน ซึ่งจะทำให้การชุมนุมบริเวณสะพานผ่านฟ้า ของกลุ่มคนเสื้อแดง กลายเป็นเรื่องผิดกฎหมายขึ้นมาทันที และรัฐบาลสามารถอ้างเพื่อสลายการชุมนุมได้ เป็นการกันมิให้ผู้ชุมนุมได้รวมตัวกันเพื่อประท้วงครั้งใหญ่ในวันที่ 27 มี.ค.นี้ " นายพร้อมพงศ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ถ้าแผนดังกล่าวผิดพลาด ไม่สามารถดำเนินการในคืนวันที่ 26 มี.ค.ได้ ก็จะนำรถจักรยานยนต์ทั้งหมด เข้าร่วมในการชุมนุมของคนเสื้อแดง ในวันที่ 27 มี.ค. แล้วไปก่อเหตุปะทะกับชาวบ้านที่จัดตั้งไว้ เพื่อต่อต้านกลุ่มคนเสื้อแดง จนก่อให้เกิดจลาจลขึ้น ซึ่งจะเป็นเหตุให้รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และใช้กำลังเข้าปราบปรามกลุ่มคนเสื้อแดงได้
ดังนั้นหากมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นจริง ทั้งรัฐบาล และ ศอ.รส. จะต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
ไม่อยากให้ยุบสภาแต่ไม่กล้าบอก 3 เกลอ
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนขอพูดในนามคนไทยคนหนึ่ง ไม่ใช่ในนาม ส.ส.หรือคนเสื้อแดง เพราะตนเป็นเพียงน้ำหนึ่งหยดในมหาสมุทรเท่านั้น วันนี้ถึงเวลาที่ฝ่ายรัฐบาล และคนเสื้อแดงควรถอยคนละก้าว ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายควรยื่นไมตรีเข้าหากัน แล้วพูดคุยหาทางออกให้ประเทศ ก่อนที่ปัญหาจะลุกลามบานปลายไปกว่านี้ ไม่อยากให้ทะเลาะกัน บ้านเมืองเสียหาย ส่วนตัวถ้าจะให้ไปแนะนำเสื้อแดงหรือบอกให้รัฐบาลยุบสภาฯ คงไม่เหมาะสม เพียงแต่เห็นว่าทั้ง 2 ฝ่าย ก็มีประสบการณ์ ถ้าเริ่มต้นผูกไมตรี ยื่นไม้ยื่นมือเข้าหากันในเวลานี้เหมาะสมที่สุดแล้ว การพูดคุยจะทำให้ทุกอย่างเข้าสู่ความเรียบร้อยอย่างที่เราต้องการ
เมื่อถามว่า การเจรจาเป็นการหาทางออกดีที่สุดใช่หรือไม่ นายทนุศักดิ์ กล่าวว่า ใช่ ควรคุยกันก่อนในสิ่งที่เกิดขึ้น ข้อเรียกร้องตรงไหนเป็นจุดที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดประโยชน์และรับได้กันทั้ง 2 ฝ่าย
"สุริยะใส"ยันพันธมิตรฯยังอยู่ในที่ตั้ง
นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (กมม.) กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของเครือข่ายชุมชน และองค์กรต่างๆ เพื่อแสดงถึงความไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมที่ละเมิดสิทธิ และเรียกร้องให้ยุบสภาของนปช.นั้น เป็นปรากฎการณ์ก่อตัวขึ้นเองโดยธรรมชาติ เพราะประชาชนทั่วไปเริ่มได้รับผลกระทบ และเริ่มอึดอัดต่อสถานการณ์ที่ไม่รู้จะจบอย่างไร ซ้ำร้ายยุทธวิธีการเคลื่อนไหวของนปช. ไม่ว่าจะเป็นการเดินขบวนทั่วกรุงเทพฯ จนจราจรเป็นอัมพาต หรือการข่มขู่สังคมสารพัดวิธีนั้น มันเป็นยุทธวิธีที่คุกคามสังคม และจับประชาชนเป็นตัวประกันมากกว่า ที่สำคัญข้อเสนอยุบสภาน้ำหนักยังน้อย สถานการณ์ก็ไม่สุกงอมพอที่จะสร้างแนวร่วมจากสังคมได้
กลุ่มต่างๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหว เป็นกลุ่มอิสระ แม้บางคนบางกลุ่มจะเคยเข้าร่วมต่อสู้กับพันธมิตรฯ ก็ตาม แต่กลุ่มองค์กรเหล่านั้น ก็ย่อมมีสิทธิที่จะปกป้องสิทธิของตัวเอง แกนนำพันธมิตรฯ ยังยืนยันมติเดิมคือ อยู่ในที่ตั้ง ยังไม่มีการเคลื่อนไหวมวลชน แต่ก็มีการประเมินสถานการณ์เป็นระยะๆ
ทั้งนี้การที่กลุ่มคนเสื้อแดงกล่าวหาว่าพันธมิตรฯ จับมือกับรัฐบาล จัดตั้งคนมาเผชิญหน้ากับคนเสื้อแดงนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะนี่เป็นวิธีที่ป่าเถื่อน ซึ่งแกนนำพันธมิตรฯ ไม่เคยแม้แต่จะคิด อาจเป็นเพราะ แกนนำนปช. คงเคยชินกับพฤติกรรมป่าเถื่อนมาก่อน เลยคิดว่า คนอื่นจะทำอะไรที่ป่าเถื่อนเหมือนตัวเองทำได้
นายสุริยะใส ยังกล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงในวันนี้ว่า เชื่อว่านปช. เตรียมมาตรการเข้มข้นไว้เพื่อสร้างน้ำหนักกดดันรัฐบาล ซึ่งอาจดาวกระจายปิดการจราจร เพื่อให้ กทม.เป็นอัมพาตอีกรอบ หรืออาจปิดล้อมรัฐสภา และทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลทำงานไม่ได้ นอกจากนี้ต้องระวังยุทธการความรุนแรง คู่ขนานการชุมนุม ซึ่งรัฐบาลต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้นมากขึ้น
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงในวันนี้ (27 มี.ค.) ว่าเราได้นัดหมายให้มารวมตัวกันที่ สะพานผ่านฟ้า ถนนราชดำเนิน ในเวลา 10.00น. จากนั้นแกนนำจะขอฉันทามติจากคนเสื้อแดง เพื่อทำการเคลื่อนไหว ทั้งนี้ ยืนยันว่าการเคลื่อนไหวจะเป็นไปโดยสงบ อหิงสา เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า ขอเรียกร้องไปยังหน่วยงานความมั่นคง ที่มีการปั่นข่าวสร้างกระแสว่า มีกลุ่มก่อความไม่สงบใน 3 จว.ชายแดนภาคใต้ ขนอาวุธเข้ามาปะปนกับกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อสร้างสถานการณ์ ซึ่งเรื่องนี้เราขอยืนยันว่า เราไม่เกี่ยวกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอย่างแน่นอน เชื่อว่าเป็นการจงใจปล่อยข่าวมากกว่า
ไม่รับมุกแม้วใช้อารยะขัดขืน
นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงการใช้มาตรการอารยะขัดขืน ตามคำสั่งของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ได้วิดีโอลิงค์เข้ามาว่า ตอนนี้คงยังไม่ทำ ต้องรอให้มีการเคลื่อนพล และหารือกับแกนนำก่อน ว่าถ้าจะใช้อารยะขัดขืน จะใช้ในรูปแบบใด
"เราไม่ได้กดดันตัวเองว่าการชุมนุมจะจบวันไหน และจะไม่ประกาศว่า ครั้งนี้เป็นสงครามครั้งสุดท้าย ไม่ประกาศชัยชนะรายวัน แต่คนเสื้อแดงจะทำสงครามต่อเนื่องทุกวัน เพื่อปลดแอกจากรัฐทหารให้ได้" นายณัฐวุฒิกล่าว
"ไอ้ตู่"ลั่น27 มี.ค.ปลดแอกรัฐทหาร
นายจตุพร หรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวโจมตีว่า รัฐบาลมีการปล่อยข่าวว่ากลุ่มนักศึกษา ม.รามคำแหง กลุ่ม PNYS ซึ่งเป็นกลุ่มนักศึกษาจาก 3 จว.ชายแดนใต้ ที่เข้ามาก่อกวน สร้างสถานการณ์นั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะกลุ่ม PNYS มีการก่อตั้งในมหาวิทยาลัยมานาน แล้ว และฝ่ายความมั่นคงได้มีการตามประกบมาตลอด จึงเป็นการแน่ชัดว่าเป็นการกุข่าวของรัฐบาลเพื่อดิสเครดิตคนเสื้อแดง ซึ่งการทำเช่นนี้ถือเป็นการทำลายบรรยากาศของการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภาโลก ที่จะมีแขกต่างประเทศมาจำนวนมาก ซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดง ได้ประกาศไปแล้วว่า จะไม่เดินทางไปในวันประชุมรัฐสภาโลก (ไอพียู) แต่จะส่งตัวแทนที่เป็นนักวิชาการจำนวน 3 คน ไปยื่นหนังสือ และขอเรียกร้องเท่านั้น
"การ กระทำของรัฐบาล ที่พยายามกุข่าว เห็นได้ชัดว่ามีความต้องการสร้างภาพ ของกรุงเทพมหานคร ให้เป็นเหมือนอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งการยิงระเบิดในแต่ละครั้ง ไม่ใช่ฝีมือคนเสื้อแดงแน่นอน เพราะการระเบิดแต่ละครั้ง คนเสื้อแดงไม่ได้ประโยชน์อะไร ตรงกันข้ามกลับกลาย เป็นการกลบข่าวความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง ในวันที่ 27 มี.ค. จะเป็นการประกาศปลดแอกประเทศไทยจากรัฐทหาร ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นหุ่นเชิด" นายจตุพรกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายจตุพร ไม่ยอมบอกว่าในวันที่ 27 มี.ค. จะเคลื่อนไหวอย่างไร โดยอ้างว่า เพื่อป้องกันฝ่ายรัฐบาลที่จะเตรียมการใช้วิชามาร และเชื่อว่าในคืนวันที่ 26 มี.ค. จะมีเสียงระเบิดมากกว่าปกติ เพื่อทำลายน้ำหนักการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง
แม้วขอคืน 3 หมื่นล.ไม่เกี่ยวชุมนุม
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ขอเงิน 3 หมื่นล้านบาทที่ถูกยึดไป คืนมาเพื่อแลกกับการยุติการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ยืนยัน ว่าเป็นความเท็จ และไม่มีการเจรจาในเรื่องนี้เลย เรื่องเงิน 3 หมื่นล้านบาทเป็นอำนาจของศาลฎีกาฯในการคืนเงินให้ ไม่ใช่อำนาจของนายอภิสิทธิ์ ดังนั้นจึงเป็นแค่เพียงการทำลายน้ำหนักของคนเสื้อแดง ว่าจะยุติการเคลื่อนไหวทันทีที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้เงินคืน นอกจากนี้อยากขอเตือนนายอภิสิทธิ์ ที่ใช้บริการชุดสร้างสถานการณ์ว่า จะเกิดผลเสียกับคนไทยทั้งประเทศ ดังนั้นในวันที่ 27 มี.ค.นี้ จะเป็นวันปลดแอกรัฐทหาร
ส่วนจะเกิดความรุนแรงหรือไม่ ต้องไปถามฝ่ายที่ถืออาวุธ เพราะพวกตนมีเพียงมือเปล่า ยกเว้นว่ามีการปราบปรามประชาชน เหตุการณ์อาจจะลุกลามชนิดที่ไม่สามารถจะห้ามได้
บุกสภาเผารธน.100 เล่มหน้าร.7
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเคลื่อนพลของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันนี้ มีรายงานว่าจะแยกเป็น 5 จุด ในจุดที่เป็นสัญลักษณ์ทางการเมือง ซึ่งไม่ไกลจากที่ชุมนุม โดยแกนนำจะประกาศสถานที่ในเวลา 10.00 น.
ทั้งนี้แกนนำนปช.ได้เตรียมแผนไว้ว่า จะไปจะต้องไปยั่วยุทหารให้เกิดการเผชิญหน้า ให้เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม ซึ่งเฝ้าในสถานที่สำคัญ อาทิ บ้านสี่เสาเทเวศร์ ของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ บริเวณรัฐสภา ทำเนียบรัฐบาล โดยจะกดดันให้รัฐบาลเจรจาให้ได้
นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำนปช. กล่าวว่า จะนำแกนนำนปช. และคนเสื้อแดงไปเผารัฐธรรมนูญ 100 ฉบับ ที่หน้ารัฐสภา และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และกำลังจะพิจารณาว่า จะขอทหารไปเผารัฐธรรมนูญ หน้าพระบรมรูปรัชกาลที่ 7 ในรัฐสภา หรือไม่
งัดไหลงยันต์เล่นมนต์ดำใส่"ป๋า"
เมื่อเวลา 14.00 น. ที่เวทีสะพานผ่านฟ้า พระเทพพิฑูรย์ ฉัทธรรมโม (เจ้ากูกำปั่น) จาก จ.หนองคาย พร้อมด้วยลูกศิษย์ 2 คน เดินถือไหปิดผ้ายันต์ ติดสติ๊กเกอร์ด้านข้าง ว่า “ยุบสภา” มีแผ่นกระดาษที่เขียนชื่อ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ,นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ,นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ,นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยมีเศษพริกสีแดง และเกลือ โรยอยู่บนกระดาษดังกล่าว
"ต้องการนำไหลงยันต์มาให้แกนนำนปช. เขียนชื่อบุคคลที่เกลียดลงในกระดาษแล้วใส่ลงในไห เพื่อเอาไปทำพิธีเผาพริก เผาเกลือ สลายวิญญาณ" เจ้ากูกำปั่นกล่าว
นับไปนับมาคนชุมนุมถึงล้านแล้ว
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวหลังการประชุมวอร์รูมพรรคเพื่อไทย จากที่ได้ทำการสำรวจพบว่า จำนวนคนที่มาร่วมชุมนุมไปและกลับ ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. ถึงปัจจุบัน ครบ 1 ล้านคนแล้ว และเชื่อว่าจะมีคนเสื้อแดงเข้าร่วมชุมนุมเพิ่มมากขึ้น
"คนเสื้อแดงก็รู้สึกแร้นแค้นจากรัฐบาล สภาวะในกรุงเทพฯ และโมโหที่โดนดูถูก ดังนั้น คนจำนวน 1 ล้านคน จึงไม่สามารถกลับบ้านมือเปล่าได้ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลทราบดี และหวั่นวิตก เพราะเมื่อใดก็ตามที่คนเสื้อแดงกลับบ้านและกระจายไปอยู่ทั่วประเทศ ย่อมที่จะสร้างปัญหาอย่างยิ่งให้กับรัฐบาลชุดนี้ และรัฐบาลไม่อยู่ในฐานะที่จะควบคุมอะไรได้เลย เพราะบ้านเมืองจะมีความโกลาหลเกิดขึ้น"
นายปลอดประสพ ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีผู้ติดต่ามข่าวสารคนเสื้อแดง จากพีเพิลชาแนล กว่า 20 ล้านคน ทั่วประเทศ ดังนั้นอย่าผลักคน 20 ล้านเป็นศัตรู ถ้ารัฐบาลยังไม่ทำตามข้อเรียกร้องของเขา รับรองว่าบ้านเมืองจะปริจนต่อกันไม่ได้
"สิ่งที่รัฐบาลกลัวที่สุดเวลานี้คือ กลัวคนกรุงเทพฯ จะเข้ามาร่วมกับคนเสื้อแดง ซึ่งจะทำให้เสียงของพรรคประชาธิปัตย์ในกรุงเทพฯ หายไปจำนวนมาก ส.ส.ประชาธิปัตย์หลายคนจึง พยายามที่จะขอร้องให้นายกรัฐมนตรียุบสภา" นายปลอดประสพกล่าว และว่าในที่สุดรัฐบาลจะต้องยุบสภาล้านเปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะพยายามยืดเวลาไปให้ถึงเดือน ธ.ค. หรือเพียงแค่เดือนก.ย. เพื่อของแต่งตั้ง ผบ.ทบ. และผ่านงบประมาณปี 2554 ก่อน **ลั่นม็อบแดงไปไหนส.ส.ไปด้วย
รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวถึงการนัดรวมพลของคนเสื้อแดงในวันนี้ ว่า ส.ส.ของพรรคทุกคน จะเดินทางไปรวมพลที่ถนนราชดำเนินด้วย ถ้าคนเสื้อแดงไปไหนเราก็จะตามไปด้วย คาดว่าจะมีรถมอเตอร์ไซค์เข้าร่วมขบวนจำนวนมาก เพราะเราได้แจกเสื้อให้กับวิน มอเตอร์ไซค์ไปจำนวนมาก
ส่วนเรื่องที่จะเดินสายพบแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลให้ถอนตัวจากรัฐบาลนั้น คงต้องรอให้นาย บรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย หายจากอาการไม่สบายก่อน เพราะเป็นเรื่องที่อดีตนายกฯ จะคุยกับอดีตนายกฯ ซึ่งพรรคเพื่อไทยคงจะไปพบนายบรรหาร เป็นคนแรก เนื่องจากมีอาวุโสทางการเมืองสูงสุด จากนั้นจะไปทุกพรรค ยกเว้นพรรคภูมิใจไทย ที่ไม่รู้ว่าจะไปคุยทำไม
จวกรัฐบาล-ทหาร เอื้อประโยชน์
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า จากผลที่รัฐบาลถูกประชาชนออกมาต่อต้านอย่างหนัก ในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน ส่วนทหาร ก็มีข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ ต่างๆ จึงถือได้ว่าทั้งรัฐบาล และ ผบ.เหล่าทัพ ต่างมีแผล สันหลังหวะทั้งคู่ จึงเกิดพฤติกรรมการช่วยเหลือเกื้อกูลระหว่างกัน เพื่อความอยู่รอดของทั้งสองฝ่าย ทหารจึงระดมกำลังออกมาคุ้มครองรัฐบาลอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกัน ทหารก็ได้รับงบประมาณในการจัดซื้ออาวุธ
นอกจากนี้ การที่รัฐบาลระดมกำลังตำรวจ และทหาร จำนวนมาก เข้ามาควบคุมสถานการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดง ซึ่งล่าสุดมีจำนวนถึง 75,000 นาย และหากคิดการชุมนุมตั้งแต่วันที่ 12 ถึง 30 มี.ค.53 ขณะนี้รัฐบาลใช้งบประมาณในการจ่ายเบี้ยเลี้ยงไปแล้ว กว่า 570 ล้านบาท
"ทหาร ตำรวจ ชั้นประทวน จ่ายวันละ 500 บาท ส่วนชั้นสัญญาบัตร จ่ายวันละ 800 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับทหาร และตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่เสี่ยงภัยอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีความยากลำบากต่อการปฏิบัติหน้าที่ และต้องระวังตัวเองอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง กลับได้รับเบี้ยเลี้ยงเพียงวันละ180 บาท แถมถูกหักค่าอาหารวันละ 40 บาท จึงเหลือเบี้ยเลี้ยงที่รับจริงเพียงวันละ140 บาทเท่านั้น ต่างกับทหาร ตำรวจ ที่มาคุ้มครองรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ถึง 3 เท่า" นายพร้อมพงศ์ กล่าว
ปล่อยข่าวรัฐบาลใช้วิชามารป่วน
นายพร้อมพงศ์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีการเตรียมการสร้างสถานการณ์ ของอดีตนักการเมืองใหญ่ที่มีบารมีนอกรัฐบาล ได้วางแผนเป็นขั้นตอนร่วมมือกับนายทหารบางคน โดยเมื่อวันที่ 24 มี.ค. มีการนำรถจักรยานยนต์ 500 คัน บรรทุกใส่รถยีเอ็มซี ของทหาร ที่ จ.ขอนแก่น เดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ มีการเกณฑ์ชายฉกรรจ์ในทุกอำเภอของ จ.บุรีรัมย์ ประมาณ 1,150 คน ทยอยขึ้นรถยนต์ปิกอัพ 120 คัน เดินทางเข้ากรุงเทพฯ พร้อมเสบียงและอุปกรณ์การสร้างสถานการณ์ ซึ่งตามที่ได้รับรายงานรถจักรยานยนต์ที่นำมา จะนำไปซ่อนไว้ในค่ายทหารใหญ่บางแห่งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล บางส่วนนำไปซ่อนไว้ในโรงซ่อมเครื่องบินแห่งใดแห่งหนึ่ง
"เมื่อถึงเวลา คาดว่าน่าจะเป็นคืนวันที่ 26 มี.ค.นี้ ชายฉกรรจ์เหล่านี้จะนำรถจักรยานยนต์ ออกก่อเหตุคันละ 2 คน เพื่อทำการป่วนเมือง เพื่อทำลายความชอบธรรม อันจะเป็นการสร้างเงื่อนไขรัฐบาล ในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และมีคำสั่งห้ามการชุมนุมเกินกว่า 5 คน ซึ่งจะทำให้การชุมนุมบริเวณสะพานผ่านฟ้า ของกลุ่มคนเสื้อแดง กลายเป็นเรื่องผิดกฎหมายขึ้นมาทันที และรัฐบาลสามารถอ้างเพื่อสลายการชุมนุมได้ เป็นการกันมิให้ผู้ชุมนุมได้รวมตัวกันเพื่อประท้วงครั้งใหญ่ในวันที่ 27 มี.ค.นี้ " นายพร้อมพงศ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ถ้าแผนดังกล่าวผิดพลาด ไม่สามารถดำเนินการในคืนวันที่ 26 มี.ค.ได้ ก็จะนำรถจักรยานยนต์ทั้งหมด เข้าร่วมในการชุมนุมของคนเสื้อแดง ในวันที่ 27 มี.ค. แล้วไปก่อเหตุปะทะกับชาวบ้านที่จัดตั้งไว้ เพื่อต่อต้านกลุ่มคนเสื้อแดง จนก่อให้เกิดจลาจลขึ้น ซึ่งจะเป็นเหตุให้รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และใช้กำลังเข้าปราบปรามกลุ่มคนเสื้อแดงได้
ดังนั้นหากมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นจริง ทั้งรัฐบาล และ ศอ.รส. จะต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
ไม่อยากให้ยุบสภาแต่ไม่กล้าบอก 3 เกลอ
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนขอพูดในนามคนไทยคนหนึ่ง ไม่ใช่ในนาม ส.ส.หรือคนเสื้อแดง เพราะตนเป็นเพียงน้ำหนึ่งหยดในมหาสมุทรเท่านั้น วันนี้ถึงเวลาที่ฝ่ายรัฐบาล และคนเสื้อแดงควรถอยคนละก้าว ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายควรยื่นไมตรีเข้าหากัน แล้วพูดคุยหาทางออกให้ประเทศ ก่อนที่ปัญหาจะลุกลามบานปลายไปกว่านี้ ไม่อยากให้ทะเลาะกัน บ้านเมืองเสียหาย ส่วนตัวถ้าจะให้ไปแนะนำเสื้อแดงหรือบอกให้รัฐบาลยุบสภาฯ คงไม่เหมาะสม เพียงแต่เห็นว่าทั้ง 2 ฝ่าย ก็มีประสบการณ์ ถ้าเริ่มต้นผูกไมตรี ยื่นไม้ยื่นมือเข้าหากันในเวลานี้เหมาะสมที่สุดแล้ว การพูดคุยจะทำให้ทุกอย่างเข้าสู่ความเรียบร้อยอย่างที่เราต้องการ
เมื่อถามว่า การเจรจาเป็นการหาทางออกดีที่สุดใช่หรือไม่ นายทนุศักดิ์ กล่าวว่า ใช่ ควรคุยกันก่อนในสิ่งที่เกิดขึ้น ข้อเรียกร้องตรงไหนเป็นจุดที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดประโยชน์และรับได้กันทั้ง 2 ฝ่าย
"สุริยะใส"ยันพันธมิตรฯยังอยู่ในที่ตั้ง
นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (กมม.) กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของเครือข่ายชุมชน และองค์กรต่างๆ เพื่อแสดงถึงความไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมที่ละเมิดสิทธิ และเรียกร้องให้ยุบสภาของนปช.นั้น เป็นปรากฎการณ์ก่อตัวขึ้นเองโดยธรรมชาติ เพราะประชาชนทั่วไปเริ่มได้รับผลกระทบ และเริ่มอึดอัดต่อสถานการณ์ที่ไม่รู้จะจบอย่างไร ซ้ำร้ายยุทธวิธีการเคลื่อนไหวของนปช. ไม่ว่าจะเป็นการเดินขบวนทั่วกรุงเทพฯ จนจราจรเป็นอัมพาต หรือการข่มขู่สังคมสารพัดวิธีนั้น มันเป็นยุทธวิธีที่คุกคามสังคม และจับประชาชนเป็นตัวประกันมากกว่า ที่สำคัญข้อเสนอยุบสภาน้ำหนักยังน้อย สถานการณ์ก็ไม่สุกงอมพอที่จะสร้างแนวร่วมจากสังคมได้
กลุ่มต่างๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหว เป็นกลุ่มอิสระ แม้บางคนบางกลุ่มจะเคยเข้าร่วมต่อสู้กับพันธมิตรฯ ก็ตาม แต่กลุ่มองค์กรเหล่านั้น ก็ย่อมมีสิทธิที่จะปกป้องสิทธิของตัวเอง แกนนำพันธมิตรฯ ยังยืนยันมติเดิมคือ อยู่ในที่ตั้ง ยังไม่มีการเคลื่อนไหวมวลชน แต่ก็มีการประเมินสถานการณ์เป็นระยะๆ
ทั้งนี้การที่กลุ่มคนเสื้อแดงกล่าวหาว่าพันธมิตรฯ จับมือกับรัฐบาล จัดตั้งคนมาเผชิญหน้ากับคนเสื้อแดงนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะนี่เป็นวิธีที่ป่าเถื่อน ซึ่งแกนนำพันธมิตรฯ ไม่เคยแม้แต่จะคิด อาจเป็นเพราะ แกนนำนปช. คงเคยชินกับพฤติกรรมป่าเถื่อนมาก่อน เลยคิดว่า คนอื่นจะทำอะไรที่ป่าเถื่อนเหมือนตัวเองทำได้
นายสุริยะใส ยังกล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงในวันนี้ว่า เชื่อว่านปช. เตรียมมาตรการเข้มข้นไว้เพื่อสร้างน้ำหนักกดดันรัฐบาล ซึ่งอาจดาวกระจายปิดการจราจร เพื่อให้ กทม.เป็นอัมพาตอีกรอบ หรืออาจปิดล้อมรัฐสภา และทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลทำงานไม่ได้ นอกจากนี้ต้องระวังยุทธการความรุนแรง คู่ขนานการชุมนุม ซึ่งรัฐบาลต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้นมากขึ้น
