xs
xsm
sm
md
lg

“ยะใส” ซัดไพร่แดงพลาดทางยุทธวิธี-อย่าโยนพันธมิตรฯหนุนคนกรุงต้านม็อบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุริยะใส กตะศิลา
“สุริยะใส” สวนไพร่แดง อย่านำความเคยชินกับพฤติกรรมของตัวเองมากล่าวหาพันธมิตรฯ ยันคิดเถื่อนๆ ไม่เป็น เชื่อคนกรุงเริ่มอึดอัด เหตุ นปช.พลาดทางยุทธวิธีกดดันประชาชนมากกว่ารัฐบาล เตือนจะมีคนต้านมากขึ้น สอนวิธีเคลื่อนไหวมวลชนแพ้ชนะไม่ได้อยู่ที่จำนวนผู้ชุมนุม แต่อยู่ที่ขอเรียกร้องว่าชอบธรรมหรือไม่


นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (กมม.) กล่่าวว่า กระแสการเคลื่อนไหวของเครือข่ายชุมชน และองค์กรต่างๆ เพื่อแสดงถึงความไม่เห็นด้วยการชุมนุมที่ละเมิดสิทธิและเรียกร้องให้ยุบสภาของ นปช.หรือกลุ่มเสื้อแดง นั้น เป็นปรากฏการณ์ก่อตัวขึ้นเองโดยธรรมชาติ เพราะประชาชนทั่วไปเริ่มได้รับผลกระทบ และเริ่มอึดอัดต่อสถานการณ์ที่ไม่รู้จะจบอย่างไร ซ้ำร้ายยุทธวิธีการเคลื่อนไหวของ นปช.ไม่ว่าจะเป็นการเดินขบวนทั่วกรุงเทพฯ จนจราจรเป็นอัมพาต หรือการข่มขู่สังคมสารพัดวิธีนั้น มันเป็นยุทธวิธีที่คุกคามสังคมและจับประชาชนเป็นตัวประกันมากกว่า ที่สำคัญ ข้อเสนอยุบสภาน้ำหนักยังน้อย สถานการณ์ก็ไม่สุกงอมพอที่จะสร้างแนวร่วมจากสังคมได้

นายสุริยะใส กล่าวว่า กลุ่มต่างๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหวเป็นกลุ่มอิสระ แม้บางคนบางกลุ่มจะเคยเข้าร่วมต่อสู้กับพันธมิตรฯ ก็ตาม แต่กลุ่มองค์กรเหล่านั้น ก็ย่อมมีสิทธิที่จะปกป้องสิทธิของตัวเอง แกนนำพันธมิตรฯ ยังยืนยันมติเดิมคืออยู่ในที่ตั้ง ยังไม่มีการเคลื่อนไหวมวลชน แต่ก็มีการประเมินสถานการณ์เป็นระยะๆ

การกล่าวหาว่า พันธมิตรฯ จับมือกับรัฐบาลจัดตั้งคนมาเผชิญหน้ากับมวลชน นปช.นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะนี่เป็นวิธีที่ป่าเถื่อน ซึ่งแกนนำพันธมิตรฯไม่เคยแม้แต่จะคิด อาจเป็นเพราะ แกนนำ นปช.คงเคยชินกับพฤติกรรมป่าเถื่อนมาก่อน เลยคิดว่าคนอื่นจะทำอะไรที่ป่าเถื่อนเหมือนตัวเองทำได้

“ถ้าจำกันได้ แกนนำ นปช.เคยปลุกคนเสื้อแดงออกมาต่อต้านพันธมิตรฯที่สะพานมัฆวาน เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2551 ในช่วงชุมนุม 193 วัน จนมีคนเสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บจำนวนมาก แต่ตอนเกิดเหตุแกนนำหนีเอาตัวรอด ไม่อยู่ที่ชุมนุมแม้แต่คนเดียว นอกจากนี้ แกนนำ นปช.ยังจัดตั้งคนเสื้อแดงออกมาล้มเวทีและทำร้ายพันธมิตรฯ ในหลายๆ จังหวัด เช่นที่ อุดรธานี ร้อยเอ็ด มหาสารคาม เชียงใหม่ ฯลฯ

นายสุริยะใส กล่าวว่า นปช.จะชุมนุมยืดเยื้ออยู่จนเกิน 193 วัน ก็ไม่มีใครว่า เป็นสิทธิของ นปช.แต่จะต้องไม่คุกคามคนอื่น หรือจับประชาชนและประเทศเป็นตัวประกัน เพราะโอกาสที่ประชาชนจะรวมกลุ่มกันออกมาต่อต้านก็เป็นไปได้เช่นกัน ซึ่งทุกฝ่ายต้องช่วยกันระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น

“ผมอยากแนะนำแกนนำ นปช.ชัยชนะของการเคลื่อนไหวมวลชน ไม่ได้ชี้วัดกันที่ปริมาณคนมาร่วมชุมนุมเท่านั้น แต่จะต้องดูที่ข้อเรียกร้องว่ามีน้ำหนัก และได้รับการตอบรับจากสังคมหรือไม่”

เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ เชื่อว่า การชุมนุมใหญ่วันเสาร์ที่ 27 มีนาคมนี้ นปช.เตรียมมาตรการเข้มข้นไว้เพื่อสร้างน้ำหนักกดดันรัฐบาล ซึ่งอาจดาวกระจายปิดการจราจร เพื่อให้ กทม.เป็นอัมพาตอีกรอบ หรืออาจปิดล้อมรัฐสภา และทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลทำงานไม่ได้ นอกจากนี้ ต้องระวังยุทธการความรุนแรงคู่ขนานการชุมนุม ซึ่งรัฐบาลต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้นมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น