xs
xsm
sm
md
lg

แดงเป็นเถือก เดือดร้อนไปทั่ว

เผยแพร่:   โดย: อัญชะลี ไพรีรัก

ยุบสภาแล้วได้อะไร? ไม่ยุบสภา? แล้วบ้านเมืองจะเป็นอย่างไรต่อไป? ทุกคำตอบล้วนมีความหมายต่อบ้านเมืองของเราในเวลานี้ทั้งสิ้น

ความวุ่นวายโกลาหลของบ้านเมืองในขณะนี้ ทำให้คนชนบทมีรายได้เพิ่มพูนจากการชุมนุม แต่คนกรุงเทพฯ อกสั่นขวัญแขวน หวาดกลัว ไม่เป็นอันกินอันนอน

ไม่ต้องพูดถึงบรรยากาศการลงทุนชะลอตัว บรรยากาศการท่องเที่ยวทรุดฮวบ แต่ตลาดหุ้นดีดตัวไร้เหตุผลท่ามกลางเสียงข่าวลือว่า “นายใหญ่” ปั่นหุ้นมาทำม็อบแดง และนักการเมืองชั่วฉวยโอกาสเล่นหุ้นสะสมเสบียงเพื่อวันข้างหน้า

บ้านเมืองตกอยู่ในความอึมครึม มีเสียงระเบิดตูมตามที่โน่นที่นี่ มีการค้นพบอาวุธสงครามมากมาย มีข่าวปฏิวัติลอยฟุ้ง ทำให้กรุงเทพมหานครมีสภาพไม่ต่างอะไรไปจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

เวลานี้ประเทศไทยต้องรับศึกหนักรอบด้านซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นศึกในอก จนบ้านเมืองเหมือนนรกเข้าไปทุกที ไม่ว่าจะเป็นผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่ยังไม่ล่าทัพ แต่กลับเหิมเกริมก่อกวนหนักข้อขึ้น ขณะที่คณะรัฐมนตรีต้องย้ายสถานที่การประชุมไปทั่วเหมือนจ้าวไม่มีศาล เพราะทำเนียบรัฐบาลถูกมวลชนเสื้อแดงล้อมไว้ ทำให้นายกรัฐมนตรีต้องหนีไปทำงานในค่ายทหาร และส่งทหารมาทำงานในทำเนียบรัฐบาลแทน

ล่าสุดรัฐสภาเต็มไปด้วยความวุ่นวายขาดเอกภาพ ไม่สง่างามทั้งบุคลากรและสถานที่ ด้านนอกของสภาไทยถูกล้อมไปด้วยลวดหนามราวสนามรบ การประชุมสภาฯมีสภาพประดักประเดิด สมาชิกพรรคเพื่อไทยเปิดหน้าชกมวยวัดข้างถนนร่วมกับมวลชนคนเสื้อแดงชัดเจนแล้ว แถมยกระดับเล่นนอกกติกาเอาเถิดเจ้าล่อกับพรรคประชาธิปัตย์ชนิดไม่มีใครยอมใคร-ไม่มีการยอมกัน ถึงกับประกาศไม่ร่วมประชุมสภาฯถ้าไม่ยุบสภา

รวมถึงมีการปล่อยข่าว “กลุ่มขนานอำมาตย์” ซึ่งรวบรวมคนดัง คนดี จากทั่วทุกสารทิศ เพื่อเตรียมเข้ามากุมสภาพประเทศไทย หากเกิดความรุนแรงถึงขั้นนองเลือด และดูท่าว่าจะมีคนพยายามสร้างสถานการณ์กดดันให้การชุมนุมเดินหน้าไปสู่โมเดล 6 ตุลาฯ ไม่มีผิด โดยหวังดึงสถาบันสูงสุดเข้ามามีส่วนร่วมในปัญหาของทักษิณให้จงได้

การโฟนอินของทักษิณ ตัวปัญหาของชาติ เริ่มร้อนแรงมากขึ้น-สามหาวมากขึ้น โดยก่อนหน้าที่เขาจะประกาศหยุดชั่วคราว เพราะเจ็บคอการเมือง เนื่องจากต้องเดินทางย้ายสถานที่จากดูไบมาใกล้บ้านเรา ทักษิณเริ่มขี่ม้าศึกเลาะรั้ว “สวนจิตร” จนแทบจะชิด “กำแพงวัง” อยู่รอมร่อ ขณะที่ยังไม่มีท่าทีใดๆ ออกมาจากสี่เสาเทเวศร์

ความอ่อนแอ และเชื่องช้าในการแก้ไขปัญหามวลชนเสื้อแดงของทักษิณ ทำให้ประชาชนอึดอัด เสียงบ่นถึงประสิทธิภาพในการตัดสินใจของผู้นำรัฐบาลดังขรมไปรอบด้าน เวลานี้รัฐบาลประชาธิปัตย์ถูกโจมตีอย่างรุนแรงถึงความอ่อนหัดไม่ประสีประสาในการใช้สื่อเชิงรุก และความเด็ดเดี่ยวในการทำศึกการเมือง คะแนนเสียงของพวกเขาในกรุงเทพมหานครที่เพิ่งจะตีตื้นขึ้นมาทำท่าจะร่อแร่เสียอีกแล้ว

เดี๋ยวนี้การปราศรัยของเวทีเสื้อแดงเริ่มมีเนื้อหาเข้มข้น และพุ่งเป้าไปที่ ประชาธิปไตย และความยุติธรรมที่ไม่เท่าเทียมกัน โดยยกกรณีเปรียบเทียบระหว่างคดีของทักษิณ กับเนวินและพวก และการกระชากหน้ากากนักการเมืองซีกรัฐบาลปัจจุบันที่ทุจริต คอร์รัปชัน มูมมาม โดยข้ามประเด็น “สถาบัน” ปล่อยให้ทักษิณพล่ามแต่ผู้เดียว

มุกนี้ได้ผล-เริ่มมีผู้ชุมนุมหน้าใหม่ในเสื้อผ้าหลากสีเกาะขอบเวทีด้วยใจไม่ต้องจ้างมากขึ้น เสียแต่ว่า “อภิวันท์” ทำตัวไพร่ทุกครั้งที่ขึ้นเวที ด้วยลีลากักขฬะ หยาบคาย แลลบหลู่ “ป๋าเปรม”

ประเด็นนี้สื่อมวลชนต่างประเทศพากันวิเคราะห์ว่า เป็นสาเหตุปัจจัยหนึ่งที่เพิ่มปริมาณมวลชนเสื้อแดงในนาม “แดงไม่เอาเจ้า” และคนกลุ่มนี้นับวันจะมีมากขึ้น แต่พวกเขาก็ชัดเจนว่า “ไม่เอาระบอบทักษิณ” ด้วย

เดิมทีหน่วยงานความมั่นคงปรามาสมวลชนเสื้อแดงว่า “จะไปได้สักกี่น้ำ” ที่ไหนได้ตอนนี้กลับหลั่งไหลเข้ามาจากชนบทเพื่อร่วมชุมุนมที่สะพานผ่านฟ้ามากขึ้นๆ และมีข่าวว่าเงินนอกจากสิงคโปร์ไหลเข้าไทยเพิ่มขึ้นเช่นกัน

ขณะที่เวทีปราศรัยคนเสื้อแดงที่ผ่านฟ้าเริ่มมีสีสัน และสาระต่างไปจากเดิม อันเป็นผลจากแนวร่วมที่มาจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย นักเขียน นักกวี นักวิชาการ และ ดารา-นักร้องคนดังในสังคมไทยคับคั่ง ทำให้บรรยากาศเวทีเสื้อแดงที่เคยเหลวไหลไร้สาระจากกลุ่ม 3 เกลอ กลายมาเป็นเวทีเรียกหาประชาธิปไตย และความเสมอภาคที่ดูขรึมขลังหนักแน่นและโน้มน้าวมวลชนได้อย่างน่าเชื่อถือ รวมถึงสนุกสนานมีรสชาติไม่จืดชืดไร้รสนิยมเหมือนที่ผ่านมา

ทุกวันนี้คนกรุงเทพฯ เบื่อหน่ายการชุมนุม และเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย ทำให้ไม่กล้าออกจากบ้านไปไหน แต่คนกรุงเทพฯ อีกกลุ่มหนึ่งเริ่มต่อต้านการชุมนุมเสื้อแดงที่อ้างว่าได้รับการต้อนรับจากคนกรุงเทพฯ ท่วมท้นในวันเดินสายรอบกรุง

ถ้าสังเกต...จะเห็นอาคารพาณิชย์หลายแห่ง อาคาร สำนักงานหลายจุด ในกรุงเทพฯ รวมตัวตอบโต้ทักษิณ และมวลชนเสื้อแดง ด้วยการพร้อมใจกันขึ้นป้ายไวนิลความว่า “พวกเราไม่เอาความรุนแรง และไม่สนับสนุนคนเสื้อแดง” รวมถึงเริ่มมีพฤติกรรมถามคนขับรถแท็กซี่ และตุ๊กๆ ทุกคันก่อนขึ้นใช้บริการว่า “พี่เสื้อสีอะไร” ถ้ายืดอกตอบว่า “แดง”... ไม่ขึ้น จนล่าสุดมีมุกใหม่ในออนไลน์ ที่ไม่แดง ไม่เหลือง ไม่ขาว แต่เป็น “ศรีทนได้”

สื่อมวลชนหลายฉบับได้เริ่มทยอยกันรายงานพิเศษเกี่ยวกับการจัดตั้งมวลชนเสื้อแดง ที่รุกคืบรัฐบาลอย่างเป็นระบบมากขึ้น

ภายใต้การนำของหัวคะแนนพรรคการเมืองหนึ่งซึ่งทำงานประสานกันเป็นอย่างดี หลังจากสัปดาห์แรกของการชุมนุมเป็นไปอย่างกระท่อนกระแท่น ท่ามกลางข่าวลือเล็ดลอดมาว่า แกนนำแตกคอกันเองด้วยเรื่อง “เงิน” และการ “อมเงิน”

น้องๆ นักข่าวจากภาคสนามในพื้นที่การชุมนุมว่า พี่น้องชนบททางภาคอีสานและภาคเหนือ ถูกหัวคะแนนระดับผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ชักชวนให้มานั่งกินนอนกินบนถนนราชดำเนิน ด้วยราคาหัวละ 2,000 บาทต่อสุดสัปดาห์มีรถรับส่งและอาหาร – น้ำ 3 มื้อ โดยออกเดินทางตั้งแต่วันพฤหัสบดี และกลับคืนวันอาทิตย์ สลับสับเปลี่ยนกันอย่างนี้ เพื่อหล่อเลี้ยงให้การชุมนุมดูหนาแน่น

แต่ถ้าสัปดาห์ไหนมีกิจกรรมพิเศษ เช่น ต้องร่วมขบวนเดินประกาศแสนยานุภาพไปทั่วกรุงเทพฯ เหมือนสัปดาห์ที่ผ่านมา พี่น้องเหล่านี้จะได้ราคาค่าจ้างเพิ่มขึ้นเป็นหัวละ 3,000 – 4,000 บาทต่อสัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภาระหน้าที่ ส่วนมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งว่อนรอบกรุงจะได้ค่าจ้างที่ชั่วโมงละ 300 บาท รวมค่าน้ำมัน

เวลานี้ทางการทหารเริ่มเกิดความวิตกทุกข์ร้อน ล่าสุดหน่วยงานความมั่นคงของกองทัพบกได้จัดส่งกองกำลังพัฒนาชุมชนลงพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสานจำนวนมาก เพื่อสร้างความเข้าใจ และสกัดกั้นไม่ให้พี่น้องจากชนบทเข้ามาสมทบกับผู้ชุมนุมเสื้อแดง จะได้ผลหรือไม่แม่ทัพนายกองเขาขอร้องให้รอดูผลภายในสิ้นเดือนนี้ ด้วยมั่นใจยิ่งยวดว่า จำนวนผู้ชุมุนมจะลดลงฮวบฮาบ เพราะงานสงกรานต์เข้ามาเป็นตัวช่วย

ยามนี้บ้านเมืองของเรากำลังลุกเป็นไฟด้วยคนไทยต้องมาแตกแยกกันเองเพราะเงินสกปรกของทักษิณ และทาสน้ำเงินของเขาที่ไม่รู้ดีรู้ชั่ว และสื่อมวลชนยักษ์ใหญ่หลายฉบับ หลายสถานีวิทยุ-โทรทัศน์ที่ประกาศตนเป็นคนเสื้อแดงอย่างออกหน้าออกตา

ขณะที่คนไทยกำลังเดือดร้อนด้วยทักษิณ มีคนพบว่า คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร พาลูกๆ ที่บินมารวมกันที่ฮ่องกง เดินชอปปิ้งซื้อของใช้ เครื่องแต่งตัวราคาแพงอยู่ย่านห้างสรรพสินค้าหรูหรากลางฮ่องกงหน้าตาเฉยดุจทองไม่รู้ร้อน

และนาทีที่เรากำลังหวาดกลัวมวลชนเสื้อแดงล้อมกรุง และวิตกว่าบ้านเมืองจะล่มจมหรือไม่ นาทีเดียวกันนั้นมีคนไทยเห็นคุณหญิงพจมานกำลังเลือกซื้อรองเท้าแบรนด์เนมราคาแพง และปัญหาใหญ่ของเธอคือ ขนาดของรองเท้าที่ไม่พอดี

เหมือนๆ กัน ...อีกด้านหนึ่งของกรุงลอนดอน เนวิน ชิดชอบ และพรรคพวกจากซอยรางน้ำ เดิน กิน เที่ยว ชอปปิ้ง กันสบายใจเฉิบใช้เงินกันมือเติบตามร้านรวงราคาแพงในกรุงลอนดอน

เดี๋ยวนี้เนวิน โฉมใหม่ ปรับเปลี่ยนเนื้อตัวให้ดูดี โก้ หรูหราขึ้น การไปอังกฤษเที่ยวนี้ของเนวิน ไม่เพียงหลบลมร้อนการเมืองเยี่ยมลูกๆ และชอปปิ้งเท่านั้น แต่กุนซือของเขายังพาเนวินไปเข้าชั้นเรียนภาษาอังกฤษกับครูฝรั่งตัวต่อตัว ซึ่งแว่วว่าก่อนหน้านี้เขาเริ่มเรียนภาษอังกฤษมาพักใหญ่แล้ว นัยว่าจะได้ไม่อายลูกๆ ที่เรียนอังกฤษกันทุกคนจากทุกครัว และยังเป็นการปูทางเตรียมความพร้อม เพื่อไปสู่อนาคตการเมืองที่ยิ่งใหญ่กว่าในปัจจุบัน

และล่าสุดขออีกที...มีรายงานว่า แม่เรือน้อยร้อยวิก ที่รักของทักษิณ เหิมเกริมไม่หยุดหย่อน เพราะหลังขึ้นเวทีเสื้อแดงเสร็จ รุ่งขึ้นส่งกระเช้าดอกไม้หรูหราไป “ถวายสมเด็จฯ” ถึงศิริราช

ผู้คนเลยงุนงงสงสัยกันว่า ตกลงแล้วแม่นางร้อยวิกคนนี้ แกเป็นคนยังไงกันแน่ ระหว่าง อีชาติชั่ว กับ อีสารเลว.

กำลังโหลดความคิดเห็น