xs
xsm
sm
md
lg

ลูกค้าธนาคาร สมถวิล นุกูลธนวัตร (จบ)

เผยแพร่:   โดย: ชัยสิริ สมุทวณิช

“สวัสดีครับ นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะพบกัน...”

ยังไม่ทันพูดจบ ก็มีเสียงปล่อยโฮดังมาจากข้างผนังด้านซ้ายมือ พนักงานหญิงสูงอายุทนไม่ได้ที่รู้สึกว่าวันสุดท้ายเธอและเพื่อนๆ มาถึงแล้ว

เกริกเกียรติเองก็คาดไม่ถึงว่า แค่เริ่มต้นก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้ว เขาพยายามคงน้ำเสียง แต่มันก็ยังสั่นเครือ

ผมเข้าใจดีที่พวกเรามีอารมณ์และรู้สึกว่าวันนี้ต้องมาถึงสักวัน ผมอยากบอกให้ทราบทั่วกันว่า

ธนาคารนี้ไม่ใช่ธนาคารของผม แบงก์ชาติก็เอาไปไม่ได้ ประชาชนก็เอาไปไม่ได้ ไม่ว่าใคร มีอำนาจมากเท่าใด ไม่มีวันเอาไปได้

ธนาคารนี้เป็นธนาคารของพวกเราทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่ ของคุณประจวบที่นั่งอยู่แถวสาม คุณศรีสอางค์นั่งอยู่ริมแถวหน้าซ้ายมือผม เธอทำงานมา 30 ปีแล้ว

ผู้ถูกกล่าวถึงลุกขึ้นยืนยกมือพนมไหว้เกริกเกียรติ แล้วหันตัวไปไหว้เพื่อนร่วมงานทุกคน นัยน์ตาเธอมีน้ำตาคลอเบ้า เป็นครั้งแรกที่เธอทราบว่าเจ้านายจำชื่อและอายุงานเธอได้ คนพวกนี้ต่างหากที่เป็นเจ้าของ

“ผมกับเอกชัย และประภาส 3 คนมาจากแบงก์ชาติ แต่จะไม่บอกว่าด้วยความสมัครใจหรือไม่ ทุกท่านรู้แก่ใจอยู่แล้ว แต่เชื่อเถอะครับ ทันทีที่เราเข้ามา เราก็รู้ว่า จะทำงานที่นี่จนวันตาย ไม่ได้คิดว่าธนาคารจะตายก่อนเรา” มีเสียงหัวเราะดังขึ้นมา

เกริกเกียรติหยุดพูดนิดหนึ่ง....

เมื่อเริ่มพูดใหม่ เขาลดเสียงลงจนเหมือนกระซิบ

“ผมมาในขณะที่ธนาคารป่วย กำลังจะตาย หรือตายไปแล้ว แบงก์ชาติปกปิดความจริง แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับความตั้งใจทำงานของผมกับคณะ เราเชื่อว่าของใหม่เกิดจากของเก่าหรือซากที่พังแล้ว ต้นไม้ที่โดนฟันโดนโค่น ปล่อยไว้สักพักก็มีหน่ออ่อนออกใหม่ได้ ผมคิดเช่นนี้ และก็เห็นหน่ออ่อนที่โตขึ้นอย่างรวดเร็ว” เราพูดกันทุกวันว่า

“ธนาคารมีปัญหา”

แต่เราก็ “แก้ปัญหาได้สำเร็จ” แม้จะไม่ได้บ้าง แต่ก็พยายามทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ เกริกเกียรติเปลี่ยนน้ำเสียง แล้วเขาก็ทุบโต๊ะดังปัง

“หลายคนไม่เคยรู้เลยว่า ผมส่งรายงานทุกครั้งที่เราทำอะไรก็ตาม เป็นนโยบายหลักของเรา”

“เอกสารทุกชิ้นผมเก็บไว้หมด” เขายกเอกสารปึกใหญ่ขึ้นวางไว้บนโต๊ะ

“เอกสารสีแดงนี่ เป็นเอกสารขอความช่วยเหลือ” แล้วชูเอกสารอีกปึกหนึ่งให้พนักงานดู

“ผมไม่ได้เดินไปขอเงินนะครับ แต่เดิมแบงก์ชาติบอกจะช่วยเรา ต่อมาก็ไปช่วยแบงก์อื่น แล้วว่าให้เราช่วยตัวเองไปก่อน แต่พอเราช่วยตัวเอง เสนอว่าจะทำอะไร เพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ทราบหรือไม่ว่า แบงก์ชาติว่ายังไง นอกจากเขาไม่ตอบแล้ว ส่วนที่ตอบก็คือไม่ให้ความยินยอมกับสิ่งที่เราต้องการทำ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่ยอม”

เกริกเกียรติพูดอย่างมีอารมณ์

เขาใช้เวลาพูดไปร่วม 45 นาที เห็นว่ามากพอที่พนักงานรู้ว่าอะไรคือข้อเท็จจริง ก็สรุป และเลิกประชุม

สมถวิลนึกแบงก์ชาติออกมาดังๆ แต่ติดตรงที่พนักงานยังนั่งอยู่กับที่ รอให้ฝ่ายบริหารทยอยกันออกจากห้องก่อน เมื่อออกจากห้อง ลูกน้องสามียืนหน้าจ๋อยรออยู่แล้ว

“พี่ครับ... ผมเบิกเงินในบัญชีพี่ไม่ได้เลย”

“อ้าว... เธอน่าจะไปตามพี่ที่ห้องประชุมนะ”

“พี่ไปก็เบิกไม่ได้หรอก คำสั่งแบงก์ชาติอายัดเงินทุกบาททุกสตางค์ไว้หมดครับ... ผมเสียใจจริงๆ ความจริงครั้งแรกพี่ควรเบิกแล้วปิดบัญชีไปเลย”

“พี่พยายามแล้ว หัวหน้าข้างล่างบอกไม่ได้”

“โธ่พี่แค่โทรศัพท์ถึงพี่ผู้ชาย เขาก็จะให้หัวหน้าฝ่ายเซ็นรับรองได้”

“พี่ไม่รู้จริงๆ เวลานั้นมืดแปดด้าน ไอ้คนข้างหลังพี่ก็จี้ให้พี่รีบเสร็จๆ ไปเสียที”

เย็นวันนั้นสมถวิลนั่งปลงตก สั่งปิดร้านก่อนกำหนด กลับบ้านมารอสามี เผื่อมีข่าวคืบหน้า และจะหารือว่าควรทำอะไรต่อไปดี

แผนการไปเที่ยวต่างประเทศที่ตั้งใจไว้ เป็นอันว่าอดไปแน่นอนแล้ว โอกาสที่จะได้เงินที่เหลือไม่มีทางแน่ สมถวิลถึงกับร้องไห้กับสามี เงินที่เก็บไว้ในแบงก์อื่นมีแค่แสนเดียว เบ็ดเสร็จมียังไม่ถึงล้านบาท ไหนจะต้องเสียค่ารักษาพยาบาลแม่อีกแสนบาท ไม่ให้แม่ก็เป็นอัมพฤกษ์อัมพาต สมถวิลไม่อยากกลายเป็นคนเนรคุณ

เธอกับสามีหวานอมขมกลืน ต้องเก็บเบี้ยรายทางเล็กๆ น้อยๆ จากร้านที่ถนนรามอินทราเท่านั้น แต่ร้านก็อยู่ได้แค่ไม่ถึง 6 เดือน สมถวิลเซ้งต่อให้กับร้านอะหลั่ยรถยนต์ข้างๆ ไป โดยไม่นึกเสียดาย ทุกวันนี้สมถวิลขายอาหารตามสั่งอยู่ที่บ้านใหม่ ราคาไม่แพงนักที่ซอยรางน้ำ อาหารอร่อย ลูกค้าแน่นทุกวัน

สมถวิลนับหนึ่งใหม่ เงินล้านหาได้ไม่ยากแล้ว

-------------------------------------------
เรียนท่านผู้อ่านที่เคารพ

การเขียนถึงลูกค้าธนาคารเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ที่จะกล่าวถึงชีวิตคนเหล่านี้ทุกคน ล้วนผูกพันกับธนาคารที่ได้อาศัยพึ่งพิงมาตลอดระยะเวลาอันยาวนาน

คนที่เรานำมาเขียนครั้งนี้ แน่นอนว่าเป็นส่วนใหญ่เขียนจากจินตนาการ สถานที่จริง ตัวละครต้องสมมติขึ้น เนื่องจากบางคนยังมีชีวิตอยู่ พวกที่เสียชีวิตเป็นไปตามกรรมที่ก่อขึ้น

ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ ให้ข้อมูลเป็นบางส่วน ทุกคนได้อ่านต้นฉบับและแก้ไขบางส่วนเท่าที่เห็นสมควร โดยเฉพาะญาติๆ ของนายสมหวัง แทบจะไม่แตะต้องต้นฉบับเลย เพราะรู้ข้อมูลเขาน้อยมาก

ที่เหลือก็เช่นกันพอใจในระดับหนึ่ง ชีวิตดั่งนิยายที่ถูกนำมารวมเป็นภาคสมทบพิเศษ เราไม่ได้รูปภาพมาเลยนี่ เพราะไม่ต้องการให้เห็นบุคคลหรือสถานที่เกี่ยวข้อง ในภาคสมทบพิเศษ ผู้อ่านคงจินตนาการได้เอง

ผู้เขียนขออโหสิกรรมแก่ผู้เสียชีวิตที่นำเรื่องราวของพวกเขามาใส่ไว้ ณ ที่นี้ ความเป็นธรรมคือจุดประสงค์ดั้งเดิมที่เราต้องการและหวังว่า ถ้าเขารับรู้ด้วยหนทางใดทางหนึ่งเขาก็จะรับไป

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ

- พนักงานธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ สำนักงานใหญ่ที่ยังเก็บรักษาเอกสารในยุคนั้น หลงเหลืออยู่บ้าง

- คุณเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ ที่ให้คำสัมภาษณ์

- บริษัท แมโทรโกลวินด์ & เมเยอร์ พิวเจอร์ คอร์ปอเรชั่น

- ครอบครัวคุณวิภาค แสงสุวิภาคกร

- คุณปั้นโรเจอร์ (ตามที่รับข้อมูลการแสดงภาพยนตร์ของโรสแมรี่ เธอใช้ชื่ออื่นในการแสดงภาพยนตร์)

- คุณสมถวิล และสามี นุกูลธนวัตร

- เราไม่ได้รับความช่วยเหลือจากญาติพี่น้องคุณสมหวัง พึ่งก่อการ มากนัก

-คุณกฤติกร โชติกเสถียร ผู้ประสานงานโรงพิมพ์

-บุคคลอื่นๆ ที่ร่วมเขียนหนังสือเล่มนี้

-หญิง จากผู้จัดการที่พิมพ์ต้นฉบับในส่วนแรก
กำลังโหลดความคิดเห็น