ASTVผู้จัดการรายวัน – สรรพากรเตรียมอายัดทรัพย์เพิ่มโอ๊ค-เอมชำระภาษี ทั้งในหุ้นและหน่วยลงทุน เพื่อรับมือกรณีเงินภาษีไปทับซ้อนกับคดียึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้าน
นายวินัย วิทวัสการเวช อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรอยู่ระหว่างรอคณะกรรมการกลาง ซึ่งได้รับมอบหมายจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ได้พิจารณาตัดสินคดียึดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำนวน 4.6 หมื่นล้านบาท คัดแยกทรัพย์สินที่อยู่ระหว่างอายัดว่าจะใช้ส่วนใดบ้าง จากนั้นกรมสรรพากรจะนำทรัพย์สินที่ถูกอายัดส่วนที่เหลือเพื่อนำมาชำระภาษีของนายพานทองแท้ และน.ส.พินทองทา ชินวัตร
ทั้งสองคนอยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์ที่ศาลภาษีอากรกลางจากคดีที่บุคคลทั้งสองซื้อหุ้นชินคอร์ปจากบริษัท แอมเพิลริช คนละ 164.6 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1 บาท รวมมูลค่าทั้งหมด 15,883.9 ล้านบาทโดยมีส่วนต่างราคาหุ้นที่เกิดขึ้นจากการซื้อขายกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งไม่มีการยื่นเสียภาษีแต่อย่างใด ส่วนของทรัพย์สินที่เหลือยังไม่ได้อายัดนั้น กรมสรรพากรก็อยู่ระหว่างสอบสวนทรัพย์เพื่ออายัดต่อไปหากว่าทรัพย์สินที่อายัดมาก่อนหน้านี้ไม่เพียงพอ
อย่างไรก็ตาม ทรัพย์สินที่ได้อายัดไว้แล้วนั้นมีมูลค่าประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท ขณะที่ภาระภาษีพร้อมเบี้ยปรับเงินเพิ่มของนายพานทองแท้ และน.ส.พินทองทา จนถึงวันนี้มีมูลค่าประมาณ 11,400 ล้านบาท หรือคนละ 5,700 ล้านบาท
"เงินที่อายัดไว้ก่อนหน้าถือว่าครอบคลุมมูลหนี้ทั้งหมดแล้ว แต่กรมสรรพากรก็จำเป็นต้องสอบสวนทรัพย์ของทั้งสองรายต่อเนื่องต่อไป ทั้งหุ้น หน่วยลงทุน เพื่อให้ครอบคลุมสำหรับการดำเนินคดี อย่างน้อยเผื่อว่าวงเงินที่ศาลจะยึดทับซ้อนกับที่กรมสรรพากรอายัดไว้ก่อน" วินัยกล่าว
***ยื่นแบบภาษีแล้ว 3.8 ล้านราย
สำหรับการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือ ภ.ง.ด. 90 และ 91 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-10 มี.ค. พบว่ามีผู้มายื่นแบบแล้ว 3.8 ล้านราย แบ่งเป็นยื่นแบบทางอินเตอร์เน็ต 2.73 ล้านราย และยื่นแบบเอกสาร 9.8 แสนราย โดยมีการขอคืนประมาณ 1 ล้านราย ลดลงกว่าปีก่อนประมาณ 4% แต่ทั้งนี้การยื่นแบบและขอคืนภาษีจะเพิ่มปริมาณในช่วง 1-2 สัปดาห์สุดท้ายของเดือนมี.ค. โดยการขอคืนจะใช้เวลาประมาณ 3-15 วัน และขณะนี้ได้ร่วมกับธนาคารออมสินจัดรถและเรือบริการเคลื่อนที่(รถหรือเรือโมบาย)เพื่อไปถึงแหล่งชุมชนหรือหน่วยงานราชการ เช่น กองทัพ รองรับการยื่นแบบภาษีทางอินเตอร์เน็ตและชำระภาษีได้ทันที คาดสิ้นเดือนมี.ค.จะมีผู้มายื่นแบบประมาณ 9 ล้านรายเท่ากับปีก่อน
สำหรับปัญหาร้องเรียนหรือแก๊งต้มตุ๋นภาษีในปีนี้มีน้อยรายเพียงหลักร้อย และวิธีการก็ยังคงรูปแบบเดิมคือนำรายชื่อของผู้ไม่มีสิทธิคืนภาษี หรือกลุ่มผู้มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษีและยังไม่ได้หักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ แล้วมาขอคืนภาษี หรือโทรแจ้งกลุ่มบุคคลที่มีรายชื่อให้โอนเงินให้ก่อนจากนั้นจะได้รับคืนภาษีภายหลัง กรมสรรพากรอยู่ระหว่างติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการหลอกลวงต่อไป.
นายวินัย วิทวัสการเวช อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรอยู่ระหว่างรอคณะกรรมการกลาง ซึ่งได้รับมอบหมายจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ได้พิจารณาตัดสินคดียึดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำนวน 4.6 หมื่นล้านบาท คัดแยกทรัพย์สินที่อยู่ระหว่างอายัดว่าจะใช้ส่วนใดบ้าง จากนั้นกรมสรรพากรจะนำทรัพย์สินที่ถูกอายัดส่วนที่เหลือเพื่อนำมาชำระภาษีของนายพานทองแท้ และน.ส.พินทองทา ชินวัตร
ทั้งสองคนอยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์ที่ศาลภาษีอากรกลางจากคดีที่บุคคลทั้งสองซื้อหุ้นชินคอร์ปจากบริษัท แอมเพิลริช คนละ 164.6 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1 บาท รวมมูลค่าทั้งหมด 15,883.9 ล้านบาทโดยมีส่วนต่างราคาหุ้นที่เกิดขึ้นจากการซื้อขายกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งไม่มีการยื่นเสียภาษีแต่อย่างใด ส่วนของทรัพย์สินที่เหลือยังไม่ได้อายัดนั้น กรมสรรพากรก็อยู่ระหว่างสอบสวนทรัพย์เพื่ออายัดต่อไปหากว่าทรัพย์สินที่อายัดมาก่อนหน้านี้ไม่เพียงพอ
อย่างไรก็ตาม ทรัพย์สินที่ได้อายัดไว้แล้วนั้นมีมูลค่าประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท ขณะที่ภาระภาษีพร้อมเบี้ยปรับเงินเพิ่มของนายพานทองแท้ และน.ส.พินทองทา จนถึงวันนี้มีมูลค่าประมาณ 11,400 ล้านบาท หรือคนละ 5,700 ล้านบาท
"เงินที่อายัดไว้ก่อนหน้าถือว่าครอบคลุมมูลหนี้ทั้งหมดแล้ว แต่กรมสรรพากรก็จำเป็นต้องสอบสวนทรัพย์ของทั้งสองรายต่อเนื่องต่อไป ทั้งหุ้น หน่วยลงทุน เพื่อให้ครอบคลุมสำหรับการดำเนินคดี อย่างน้อยเผื่อว่าวงเงินที่ศาลจะยึดทับซ้อนกับที่กรมสรรพากรอายัดไว้ก่อน" วินัยกล่าว
***ยื่นแบบภาษีแล้ว 3.8 ล้านราย
สำหรับการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือ ภ.ง.ด. 90 และ 91 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-10 มี.ค. พบว่ามีผู้มายื่นแบบแล้ว 3.8 ล้านราย แบ่งเป็นยื่นแบบทางอินเตอร์เน็ต 2.73 ล้านราย และยื่นแบบเอกสาร 9.8 แสนราย โดยมีการขอคืนประมาณ 1 ล้านราย ลดลงกว่าปีก่อนประมาณ 4% แต่ทั้งนี้การยื่นแบบและขอคืนภาษีจะเพิ่มปริมาณในช่วง 1-2 สัปดาห์สุดท้ายของเดือนมี.ค. โดยการขอคืนจะใช้เวลาประมาณ 3-15 วัน และขณะนี้ได้ร่วมกับธนาคารออมสินจัดรถและเรือบริการเคลื่อนที่(รถหรือเรือโมบาย)เพื่อไปถึงแหล่งชุมชนหรือหน่วยงานราชการ เช่น กองทัพ รองรับการยื่นแบบภาษีทางอินเตอร์เน็ตและชำระภาษีได้ทันที คาดสิ้นเดือนมี.ค.จะมีผู้มายื่นแบบประมาณ 9 ล้านรายเท่ากับปีก่อน
สำหรับปัญหาร้องเรียนหรือแก๊งต้มตุ๋นภาษีในปีนี้มีน้อยรายเพียงหลักร้อย และวิธีการก็ยังคงรูปแบบเดิมคือนำรายชื่อของผู้ไม่มีสิทธิคืนภาษี หรือกลุ่มผู้มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษีและยังไม่ได้หักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ แล้วมาขอคืนภาษี หรือโทรแจ้งกลุ่มบุคคลที่มีรายชื่อให้โอนเงินให้ก่อนจากนั้นจะได้รับคืนภาษีภายหลัง กรมสรรพากรอยู่ระหว่างติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการหลอกลวงต่อไป.