ASTVผู้จัดการรายวัน-ม็อบแดงป่วน เปิดเวทีรับฟังความเห็นกิจการรุนแรงเลื่อนจาก 17 มี.ค.เป็น 26 มี.ค.แทน และสรุปเนื้อหาภาพรวมจาก 26 มี.ค.เป็น 2 เม.ย. เผยประชาพิจารณ์ 4 ภูมิภาค ยังมีความเห็นต่าง กรณีพืชจีเอ็มโอกับเหมืองโลหะ เห็นต่างสุดขั้ว สนามกอล์ฟมีโอกาสหลุดจากบัญชีมากสุด เสนอสวนผลไม้ขนาดใหญ่ และประตูกั้นแม่น้ำเพิ่มในบัญชีกิจการรุนแรง
นายธงชัย พรรณสวัสดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ ในฐานะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นประชาชนเพื่อการปรับปรุงรายการ โครงการ หรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อม ทรัพยากร และสุขภาพ ภายใต้คณะกรรมการ 4 ฝ่ายแก้ไขปัญหามาบตาพุด เปิดเผยว่า จากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงส่งผลให้คณะอนุกรรมการฯ ต้องเลื่อนเปิดรับฟังความเห็นของประชาชนเวทีที่กรุงเทพฯ วันที่ 17 มี.ค. ออกไปเป็นวันที่ 26 มี.ค. และเลื่อนการสรุปความเห็นทั้งหมดวันที่ 26 มี.ค. ไปเป็นวันที่ 2 เม.ย.แทน โดยคาดว่าการจัดประเภทกิจการรุนแรงจะได้ข้อสรุปช้าสุดปลายเม.ย.นี้
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้นำ 19 กิจการที่เข้าข่ายกระทบสิ่งแวดล้อมและชุมชนรุนแรงมาเป็นต้นร่างในการเปิดรับฟังความเห็นที่ผ่านมาแล้ว 4 ครั้งใน 4 ภาคคือ เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี และนครศรีธรรมราช ภาพรวมยอมรับว่ายังมีจุดยืนที่ต่างกันระหว่างผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมกับภาคประชาชน โดยมีทั้งประเภทกิจการที่เห็นต่างขั้วมาก คือ บัญชีลำดับที่ 18 การดัดแปลงสารพันธุกรรม หรือพืชจีเอ็มโอ ซึ่งผู้ประกอบการต้องการถอดออกขณะที่ภาคประชาชนต้องการให้จัดเป็นกิจการรุนแรง นอกจากนี้ ยังมีบัญชีลำดับที่ 5 เหมืองแร่โลหะทุกชนิดที่ผู้ประกอบการต้องการให้แยกเหมืองว่าเป็นโลหะใด แต่ภาคประชาชนต้องการเหมารวมหมด
ส่วนความเห็นที่ยังไม่มีข้อยุติ แต่ไม่ถึงกับสุดขั้ว คือ บัญชีลำดับที่ 12 โครงการสร้างท่าเรือ ซึ่งผู้ประกอบการระบุไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดของท่าเรือ แต่อยู่ที่ว่าท่าเรือนั้นขนสินค้าประเภทใดมากกว่า ส่วนกิจการที่ไม่มีการคัดค้านมากสุด คือ บัญชีลำดับที่ 16 โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ควรจะถูกจัดอยู่ในประเทกิจการรุนแรงชัดเจน ส่วนบัญชีลำดับที่ 19 คือ สนามกอล์ฟ ตั้งแต่ 9 หลุมมาตรฐานขึ้นไปที่ถูกจัดเป็นบัญชีกิจการรุนแรงนั้น มีการถกเถียงน้อยสุด ขณะที่มีผู้เสนอให้ถอดออกจากบัญชีค่อนข้างมาก จึงมีแนวโน้มว่าบัญชีที่ 19 นี้ ค่อนข้างไปในทิศทางที่จะสามารถถอดออกจากบัญชีกิจการรุนแรงได้
นอกจากนี้ ยังมีการเสนอบัญชีประเภทกิจการรุนแรงเพิ่มเติมจาก 19 บัญชีที่กำหนดไว้ ได้แก่ กรณีการสร้างประตูกั้นแม่น้ำเนื่องจากชาวบ้านได้รับผลกระทบทั้งด้านปริมาณน้ำท้ายประตูและการทำประมง ขณะเดียวกันยังเสนอให้จัดสวนผลไม้ขนาดใหญ่เป็นกิจการรุนแรงเนื่องจากมีการใช้สารฆ่าแมลงและสารเคมีจำนวนมาก
“เวทีรับฟังความเห็นวางไว้ทั้งหมด 6 ครั้ง ก็จะมีการสรุปเพื่อนำเสนอคณะกรรมการ 4 ฝ่ายที่มีอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธานพิจารณา หากเห็นชอบอย่างไร จะต้องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติต่อไป”นายธงชัยกล่าว
นายสุทธิ อัชฌาศรัย กรรมการในคณะกรรมการ 4 ฝ่ายแก้ไขปัญหามาบตาพุด กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการ 4 ฝ่ายวันที่ 19 มี.ค.นี้ ต้องเลื่อนออกไปเป็นสัปดาห์หน้าแทน เนื่องจากมีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานในภาพรวมให้ต้องล่าช้าไปจากแผนเดิมแต่อย่างใด
“เดิมจะหารือเกี่ยวกับประเด็นของพระราชบัญญัติการจัดตั้งองค์การอิสระ (ถาวร) ที่ได้มีการแก้ไขจากกฤฎีกาบางส่วนเพื่อให้สอดคล้องกัน ก็คงจะต้องเลื่อนไปเป็นวันที่ 22 มี.ค.แทนหากเหตุการณ์การชุมนุมสู่ภาวะปกติ”นายสุทธิกล่าว
นายธงชัย พรรณสวัสดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ ในฐานะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นประชาชนเพื่อการปรับปรุงรายการ โครงการ หรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อม ทรัพยากร และสุขภาพ ภายใต้คณะกรรมการ 4 ฝ่ายแก้ไขปัญหามาบตาพุด เปิดเผยว่า จากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงส่งผลให้คณะอนุกรรมการฯ ต้องเลื่อนเปิดรับฟังความเห็นของประชาชนเวทีที่กรุงเทพฯ วันที่ 17 มี.ค. ออกไปเป็นวันที่ 26 มี.ค. และเลื่อนการสรุปความเห็นทั้งหมดวันที่ 26 มี.ค. ไปเป็นวันที่ 2 เม.ย.แทน โดยคาดว่าการจัดประเภทกิจการรุนแรงจะได้ข้อสรุปช้าสุดปลายเม.ย.นี้
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้นำ 19 กิจการที่เข้าข่ายกระทบสิ่งแวดล้อมและชุมชนรุนแรงมาเป็นต้นร่างในการเปิดรับฟังความเห็นที่ผ่านมาแล้ว 4 ครั้งใน 4 ภาคคือ เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี และนครศรีธรรมราช ภาพรวมยอมรับว่ายังมีจุดยืนที่ต่างกันระหว่างผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมกับภาคประชาชน โดยมีทั้งประเภทกิจการที่เห็นต่างขั้วมาก คือ บัญชีลำดับที่ 18 การดัดแปลงสารพันธุกรรม หรือพืชจีเอ็มโอ ซึ่งผู้ประกอบการต้องการถอดออกขณะที่ภาคประชาชนต้องการให้จัดเป็นกิจการรุนแรง นอกจากนี้ ยังมีบัญชีลำดับที่ 5 เหมืองแร่โลหะทุกชนิดที่ผู้ประกอบการต้องการให้แยกเหมืองว่าเป็นโลหะใด แต่ภาคประชาชนต้องการเหมารวมหมด
ส่วนความเห็นที่ยังไม่มีข้อยุติ แต่ไม่ถึงกับสุดขั้ว คือ บัญชีลำดับที่ 12 โครงการสร้างท่าเรือ ซึ่งผู้ประกอบการระบุไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดของท่าเรือ แต่อยู่ที่ว่าท่าเรือนั้นขนสินค้าประเภทใดมากกว่า ส่วนกิจการที่ไม่มีการคัดค้านมากสุด คือ บัญชีลำดับที่ 16 โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ควรจะถูกจัดอยู่ในประเทกิจการรุนแรงชัดเจน ส่วนบัญชีลำดับที่ 19 คือ สนามกอล์ฟ ตั้งแต่ 9 หลุมมาตรฐานขึ้นไปที่ถูกจัดเป็นบัญชีกิจการรุนแรงนั้น มีการถกเถียงน้อยสุด ขณะที่มีผู้เสนอให้ถอดออกจากบัญชีค่อนข้างมาก จึงมีแนวโน้มว่าบัญชีที่ 19 นี้ ค่อนข้างไปในทิศทางที่จะสามารถถอดออกจากบัญชีกิจการรุนแรงได้
นอกจากนี้ ยังมีการเสนอบัญชีประเภทกิจการรุนแรงเพิ่มเติมจาก 19 บัญชีที่กำหนดไว้ ได้แก่ กรณีการสร้างประตูกั้นแม่น้ำเนื่องจากชาวบ้านได้รับผลกระทบทั้งด้านปริมาณน้ำท้ายประตูและการทำประมง ขณะเดียวกันยังเสนอให้จัดสวนผลไม้ขนาดใหญ่เป็นกิจการรุนแรงเนื่องจากมีการใช้สารฆ่าแมลงและสารเคมีจำนวนมาก
“เวทีรับฟังความเห็นวางไว้ทั้งหมด 6 ครั้ง ก็จะมีการสรุปเพื่อนำเสนอคณะกรรมการ 4 ฝ่ายที่มีอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธานพิจารณา หากเห็นชอบอย่างไร จะต้องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติต่อไป”นายธงชัยกล่าว
นายสุทธิ อัชฌาศรัย กรรมการในคณะกรรมการ 4 ฝ่ายแก้ไขปัญหามาบตาพุด กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการ 4 ฝ่ายวันที่ 19 มี.ค.นี้ ต้องเลื่อนออกไปเป็นสัปดาห์หน้าแทน เนื่องจากมีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานในภาพรวมให้ต้องล่าช้าไปจากแผนเดิมแต่อย่างใด
“เดิมจะหารือเกี่ยวกับประเด็นของพระราชบัญญัติการจัดตั้งองค์การอิสระ (ถาวร) ที่ได้มีการแก้ไขจากกฤฎีกาบางส่วนเพื่อให้สอดคล้องกัน ก็คงจะต้องเลื่อนไปเป็นวันที่ 22 มี.ค.แทนหากเหตุการณ์การชุมนุมสู่ภาวะปกติ”นายสุทธิกล่าว