รายงานการเมือง/แสงตะวัน
ตรวจทัพเครือข่ายมือทำงานการเมืองของนช.ทักษิณ ชินวัตร ทุกระดับก่อนเริ่มศึกใหญ่ 14 มีนาคม 2553 พบว่า ขุนศึกรอบตัว ที่เป็นกองหนุน-แบ็คอัพ-ที่ปรึกษา ซึ่งเป็นพวกแกนนำเพื่อไทยและอดีตนักการเมือง-นักเลือกตั้ง-ทหารรับจ้าง
ที่ไม่ใช่พวก ใส่เสื้อแดงขึ้นเวทียืนหลังสามเกลอ
อยู่ในสภาพทัพแตกอย่างหนัก หลายคนตีชิ่งหนีออกห่างจากการเข้ามาร่วมวางแผนล้มรัฐบาล-โค่นอำมาตย์ เอาทักษิณกลับบ้านแบบไม่ต้องรับโทษความผิด เพราะไม่ต้องการเปลืองตัวและเกลือกกลั้วกับแผนชั่วร้ายคนเสื้อแดง
เหตุเป็นเช่นนี้ เพราะคนกลุ่มนี้ได้ประเมินเห็นแล้วว่า หากไม่รีบแยกตัวออกมาห่างและประกาศให้สังคมรับรู้ว่า ไม่ได้ไปช่วยงานทักษิณ-เสื้อแดงในศึกครั้งนี้ ถ้าเกิดเหตุร้ายแรงขึ้น อาจติดร่างแหกลายเป็นพวกร่วมขบวนการก่อการกบฎไปพร้อมๆกับทักษิณ ซึ่งทักษิณเองโดนอีก20 คดีก็ไม่สนใจอะไรแล้ว เพราะไม่มีอะไรสูญเสีย และเป้าหมายวันนี้เห็นชัดว่ามองไปไกลเกินกว่าจะล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์แล้ว
ทั้งนี้ ทักษิณต้องการล้มกระดานโครงสร้างอำนาจ ที่เป็นเสาหลักของแผ่นดินไทยให้สิ้นซาก
การข่าวที่ทีมข่าวการเมือง ASTV สุดสัปดาห์รู้มาก็คือ ขุมพลซ้าย-ขวา ข้างกายทักษิณ รวมถึงพวกรับจ้างป่วนบ้านป่วนเมือง ชิ่งหนีทักษิณกันเป็นแถว หรือไม่ก็อ้างเหตุสารพัดคือช่วยได้เท่าที่จำเป็น แต่ขอไม่ยอมออกหน้าเด็ดขาด เปิดหน้าชกให้สังคมรับรู้
นี่คือข้อเท็จจริงที่คนเพื่อไทย-เสื้อแดงรับรู้กันดี และไม่ได้มีแค่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุงคนเดียวเท่านั้น ที่ทั้งต่อหน้าและลับหลังสื่อมวลชน ยืนกรานว่า
“ไม่ไปยุ่งกับเขาหรอก ไม่เอาด้วยกับพวกเสื้อแดง คิดว่าจะล้มรัฐบาลมันต้องล้มด้วยการอภิปรายไม่ไว้วางใจในรัฐสภา”
นั่นเป็นสุ้มเสียงกระซิบเบาๆ ของ “เป็ดเหลิม”กับคนคุ้นเคยที่เล็ดลอดออกมาจากตึกที่ทำการพรรคเพื่อไทย ที่จับทางได้ว่า เหลิม ก็ไม่เชื่อว่าเสื้อแดง-ทักษิณ จะชนะได้ในสนามรบที่สะพานผ่านฟ้า หลัง 14 มีนาคม 53
แถมทำตัวเป็นนกรู้ รีบเผ่นแนบไปสิงคโปร์ตั้งแต่เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 10 มีนาคม 53 ที่ผ่านมาโดยไม่ระบุวันกลับ ก็ขนาดทักษิณยังสั่งลูกเมียให้โกยแนบไปฮ่องกง-ยุโรปแล้วเหลิมเป็นใคร จะอยู่ทำอะไร
เลยบอก “บิ๊กนูญ”พลตรีมนูญกฤต รูปขจร ที่ตอนนี้เป็นพี่เลี้ยงให้เฉลิม ที่บ้านริมคลองช่วงนี้ให้แยกย้ายกันไปก่อน เสร็จศึกค่อยมาพบกัน เพราะน้องเหลิมก็อยู่ไม่ได้แล้ว โกยแน่บเหมือนกัน
ขณะที่ “บิ๊กจิ๋ว”พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ที่พยายามเล่นบทให้รัฐบาลเปิดทำเนียบเรียกแกนนำเสื้อแดงไปคุย แต่นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะไม่หลงกล รายนี้เห็นเงียบๆ ทำตลกไปวันๆ แต่ก็ประเมินสถานการณ์ออก ขืนไม่ทำอะไรสักอย่าง แล้วเสื้อแดง รบกับป๋าเปรม พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ แบบตายเป็นตาย สุดท้ายพ่ายแพ้หมดรูป จิ๋วคงคิดว่าลำบากแน่
เลยอาศัยมุกอายุมาก-แก่แล้ว หลบภัยเข้าโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ เช็คสุขภาพ แบบนี้คนก็ไม่ติดใจสงสัย แม้ลึกๆ ทักษิณอาจคิดว่า “บิ๊กจิ๋ว”ป่วยการเมือง แต่ก็พูดออกไปตรงๆ ไม่ได้ ทั้งที่ในใจอยากจะถามว่า “พี่จิ๋ว คิดเอาตัวรอดใช่ไหม”!
ด้าน พลเอกพัลลภ ปิ่นมณีที่รู้กันดีว่า เชี่ยวชาญสงครามใต้ดินเพราะมีประสบการณ์มาแล้วตอนพฤษภาทมิฬและก่อนหน้านี้ก็ถูกมองว่า จะเป็นมือทำงานหลักให้ทักษิณ-เสื้อแดงในการยกมวลชนไล่บี้พลเอกเปรมและอภิสิทธิ์
ล่าสุด ก็มีข่าวยืนยันว่าทักษิณพยายามที่จะประสานรอยร้าวระหว่างพัลลภกับสามเกลอเสื้อแดงหลังโดนรุ่นน้อง จตุพร พรหมพันธ์ด่ากราดพัลลภกับเสธ.แดง พลตรีขัตติยะ สวัสดิผลว่าเป็นพวก “หมาเน่าลอยน้ำ”
ถึงตอนนี้ความพยายามยังทำไม่สำเร็จ ทำให้พัลลภ-เสธ.แดง ยังเคลียร์กับสามเกลอไม่ได้ แถมยามนี้พัลลภ-เสธ.แดง เจอทั้งทหาร-ตำรวจประกบติดทุกฝีก้าวตลอด 24 ชม. กระดิกแทบไม่ได้
เลยประกาศชัด ขออยู่ห่างๆ สามเกลอและเวทีชุมนุมใหญ่ สะพานผ่านฟ้าในช่วง 14 มีนาคมนี้ แต่หากมีสายตรงทักษิณ สั่งการพร้อมเงื่อนไขงามๆ ทั้งพี่ลภ-น้องแดง ก็พร้อมร่วมสู้ด้วยแบบไม่ขอตกขบวน แต่มีเงื่อนไขว่าต้องไม่ทำงานใต้คำสั่งสามเกลอให้เสียศักดิ์ศรี แต่พร้อมเข้าไปช่วยหากมีบัญชาสายตรงจากทักษิณ
ขณะที่ฮาร์ดคอร์คนอื่นๆ อย่างพล.ต.ท. ชัชจ์ กุลดิลก อดีตผบช.ก.ที่เป็นกองหนุนมือวางแผนตัวหลักให้เสื้อแดงมาตลอด ก็กำลังหมั่นไส้สามเกลออย่างหนักเพราะโดนสกัดทุกรูปแบบ ขนาดจะไปขอออกทีวีเสื้อแดงหลังเสธ.แดง-เคทอง ถูกจับ ยังโดนสามเกลอที่ไม่เผาผีกับเสธ.แดงสกัดไม่ให้ใช้พีเพิลแชแนลมาช่วยเสธ.แดง เช่นเดียวกับอีกหลายคนอาทิ สุทิน คลังแสง อดีตส.ส.มหาสารคาม3สมัย จะขอใช้ทีวีเสื้อแดงเพื่อเชิญชวนเสื้อแดงอีสานมาร่วมชุมนุม ก็โดนสกัดเช่นกัน
เลยมีเสียงบ่นไล่หลังแบบนี้ ก็สู้กันไปเองแล้วกัน อย่ามาขอให้ช่วย
มือทำงานทักษิณสายฮาร์ดคอร์และมือวางแผนก็พากันหลบหน้าไปอยู่หลังฉาก ร่วมวางแผน ไม่ว่าจะเป็นจาตุรนต์ ฉายแสง หรือ ภูมิธรรม เวชชยชัย จะออกมาหน้าฉากก็เล่นแต่บทเดียวคือ เรียกร้องรัฐบาลอย่าใช้ความรุนแรงปราบประชาชน ประชาชนชุมนุมโดยสันติ อันเป็นลีลาที่แกนนำเสื้อแดงยังเบือนหน้าหนี เพราะพวกนี้เห็นชัดว่าลงแรงด้วยน้ำลายอย่างเดียว จะขึ้นเวทีหรือปรากฏตัวก็ต่อเมื่อดูแล้ว สถานการณ์เป็นต่อหรือมีสิทธิ์พลิกชนะเท่านั้น
ไม่เว้นแม้แต่ยงยุทธ ติยะไพรัช หรือยุทธ ตู้เย็น จอมโหด ผู้เคยก่อวีรกรรมขนป่าไม้จังหวัดภาคเหนือเข้ามาป่วนพันธมิตรฯหลายรอบโดยเฉพาะช่วงชุมนุมที่สวนลุมพินี ข่าวแว่วมาว่า ถูกทักษิณ เรียกใช้มาตั้งแต่หลังศาลฎีกาฯตัดสินคดียึดทรัพย์ให้ออกมาช่วยประสานงานกับสามเกลอในการดูแลเสื้อแดงภาคเหนือ
ทำเอายุทธ เครียดหนักเพราะคิดดูแล้วตอนนี้เจอทั้งคดียุบพรรค-ปกปิดบัญชีทรัพย์สิน เว้นวรรคการเมืองยาวกลับมาอีกทีก็แก่มากแล้ว เลยไม่รู้จะสู้ไปเพื่ออะไรในสงครามที่มองไม่เห็นชัยชนะ แต่เมื่อนายใหญ่ขอร้องก็ขัดไม่ได้
จึงมีข่าวเปิดบ้านพักในกรุงเทพฯเรียกแกนนำเสื้อแดงอีสาน-เหนือ 2-3 คนไปกินนอนที่บ้านพัก 3 วัน 3 คืนเพื่อให้สรุปย่อยุทธศาสตร์การต่อสู้ให้ฟัง พอว่ากันเสร็จ ยงยุทธยังถามกันตรงๆ ว่า
มีโอกาสชนะไหม ?
คำตอบที่ได้คือ มี แต่น้อยมาก ยิ่งหากไม่มีเหตุปลุกเร้าเช่นเสื้อแดงโดนทหาร-ตำรวจ ล้อมปราบ จนเลือดตกยากออก ก็ยากที่จะมีเหตุอะไรไปกดดันให้อภิสิทธิ์ลาออกหรือยุบสภาได้
แต่เมื่อนายขอมา ยุทธ ก็ขัดไม่ได้ เลยต้องยอมไปปรากฏตัว ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อร่วมฟังท่าทีของส.ส.เพื่อไทยและแกนนำพรรคในการวางแผนก่อนทำการใหญ่ แต่ก็แค่คอยให้คำปรึกษาเท่านั้น เรื่องอื่นๆ เช่น ร่วมขนคนเชียงรายมากรุงเทพฯหรือช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการชุมนุม ยุทธ ไม่เอาด้วย และที่ไม่เอาด้วย ไม่ใช่อะไร บ่จี๊หนักเหมือนกัน
ส่วน “หญิงหน่อย”คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ รายนี้ ก็น่าแกะรอยความเคลื่อนไหว เพราะฉายา เจ้าแม่ กทม.ในอดีตที่คุมพื้นที่กทม.ทั้งการเมืองระดับชาติ-ท้องถิ่น อย่างสก.-สข.ให้เพื่อไทยและทักษิณ แถมมีสายสัมพันธ์อันดีกับบิ๊กๆในกองทัพอีกเป็นพรวนโดยเฉพาะพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม แต่ข่าวที่ได้มาพบเจ๊หน่อย เก็บตัวเงียบ เวลามีส.ส.กทม.-สก.-สข.ไปสอบถามจะให้ทำอย่างไร เจ๊หน่อยก็ไม่สั่งลุยอะไร บอกให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติคนเสื้อแดงในพื้นที่เป็นพอ
แต่เบื้องหน้าเบื้องหลังจะเป็นอย่างไร คงรู้กันแค่ ทักษิณ-สุดารัตน์
กระนั้นก็เชื่อว่าทั้งสองคนที่ร่วมหัวจมท้ายมาด้วยกันเกือบยี่สิบปี สุดารัตน์ก็ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลในยามที่ทักษิณกำลังลำบาก
โปรย
ตรวจทัพเครือข่ายมือทำงานการเมืองของนช.ทักษิณ ชินวัตร ทุกระดับก่อนเริ่มศึกใหญ่ 14 มีนาคม 2553 พบว่า ขุนศึกรอบตัว ที่เป็นกองหนุน-แบ็คอัพ-ที่ปรึกษา ซึ่งเป็นพวกแกนนำเพื่อไทยและอดีตนักการเมือง-นักเลือกตั้ง-ทหารรับจ้าง
ที่ไม่ใช่พวก ใส่เสื้อแดงขึ้นเวทียืนหลังสามเกลอ
อยู่ในสภาพทัพแตกอย่างหนัก หลายคนตีชิ่งหนีออกห่างจากการเข้ามาร่วมวางแผนล้มรัฐบาล-โค่นอำมาตย์ เอาทักษิณกลับบ้านแบบไม่ต้องรับโทษความผิด เพราะไม่ต้องการเปลืองตัวและเกลือกกลั้วกับแผนชั่วร้ายคนเสื้อแดง
เหตุเป็นเช่นนี้ เพราะคนกลุ่มนี้ได้ประเมินเห็นแล้วว่า หากไม่รีบแยกตัวออกมาห่างและประกาศให้สังคมรับรู้ว่า ไม่ได้ไปช่วยงานทักษิณ-เสื้อแดงในศึกครั้งนี้ ถ้าเกิดเหตุร้ายแรงขึ้น อาจติดร่างแหกลายเป็นพวกร่วมขบวนการก่อการกบฎไปพร้อมๆกับทักษิณ ซึ่งทักษิณเองโดนอีก20 คดีก็ไม่สนใจอะไรแล้ว เพราะไม่มีอะไรสูญเสีย และเป้าหมายวันนี้เห็นชัดว่ามองไปไกลเกินกว่าจะล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์แล้ว
ทั้งนี้ ทักษิณต้องการล้มกระดานโครงสร้างอำนาจ ที่เป็นเสาหลักของแผ่นดินไทยให้สิ้นซาก
การข่าวที่ทีมข่าวการเมือง ASTV สุดสัปดาห์รู้มาก็คือ ขุมพลซ้าย-ขวา ข้างกายทักษิณ รวมถึงพวกรับจ้างป่วนบ้านป่วนเมือง ชิ่งหนีทักษิณกันเป็นแถว หรือไม่ก็อ้างเหตุสารพัดคือช่วยได้เท่าที่จำเป็น แต่ขอไม่ยอมออกหน้าเด็ดขาด เปิดหน้าชกให้สังคมรับรู้
นี่คือข้อเท็จจริงที่คนเพื่อไทย-เสื้อแดงรับรู้กันดี และไม่ได้มีแค่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุงคนเดียวเท่านั้น ที่ทั้งต่อหน้าและลับหลังสื่อมวลชน ยืนกรานว่า
“ไม่ไปยุ่งกับเขาหรอก ไม่เอาด้วยกับพวกเสื้อแดง คิดว่าจะล้มรัฐบาลมันต้องล้มด้วยการอภิปรายไม่ไว้วางใจในรัฐสภา”
นั่นเป็นสุ้มเสียงกระซิบเบาๆ ของ “เป็ดเหลิม”กับคนคุ้นเคยที่เล็ดลอดออกมาจากตึกที่ทำการพรรคเพื่อไทย ที่จับทางได้ว่า เหลิม ก็ไม่เชื่อว่าเสื้อแดง-ทักษิณ จะชนะได้ในสนามรบที่สะพานผ่านฟ้า หลัง 14 มีนาคม 53
แถมทำตัวเป็นนกรู้ รีบเผ่นแนบไปสิงคโปร์ตั้งแต่เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 10 มีนาคม 53 ที่ผ่านมาโดยไม่ระบุวันกลับ ก็ขนาดทักษิณยังสั่งลูกเมียให้โกยแนบไปฮ่องกง-ยุโรปแล้วเหลิมเป็นใคร จะอยู่ทำอะไร
เลยบอก “บิ๊กนูญ”พลตรีมนูญกฤต รูปขจร ที่ตอนนี้เป็นพี่เลี้ยงให้เฉลิม ที่บ้านริมคลองช่วงนี้ให้แยกย้ายกันไปก่อน เสร็จศึกค่อยมาพบกัน เพราะน้องเหลิมก็อยู่ไม่ได้แล้ว โกยแน่บเหมือนกัน
ขณะที่ “บิ๊กจิ๋ว”พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ที่พยายามเล่นบทให้รัฐบาลเปิดทำเนียบเรียกแกนนำเสื้อแดงไปคุย แต่นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะไม่หลงกล รายนี้เห็นเงียบๆ ทำตลกไปวันๆ แต่ก็ประเมินสถานการณ์ออก ขืนไม่ทำอะไรสักอย่าง แล้วเสื้อแดง รบกับป๋าเปรม พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ แบบตายเป็นตาย สุดท้ายพ่ายแพ้หมดรูป จิ๋วคงคิดว่าลำบากแน่
เลยอาศัยมุกอายุมาก-แก่แล้ว หลบภัยเข้าโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ เช็คสุขภาพ แบบนี้คนก็ไม่ติดใจสงสัย แม้ลึกๆ ทักษิณอาจคิดว่า “บิ๊กจิ๋ว”ป่วยการเมือง แต่ก็พูดออกไปตรงๆ ไม่ได้ ทั้งที่ในใจอยากจะถามว่า “พี่จิ๋ว คิดเอาตัวรอดใช่ไหม”!
ด้าน พลเอกพัลลภ ปิ่นมณีที่รู้กันดีว่า เชี่ยวชาญสงครามใต้ดินเพราะมีประสบการณ์มาแล้วตอนพฤษภาทมิฬและก่อนหน้านี้ก็ถูกมองว่า จะเป็นมือทำงานหลักให้ทักษิณ-เสื้อแดงในการยกมวลชนไล่บี้พลเอกเปรมและอภิสิทธิ์
ล่าสุด ก็มีข่าวยืนยันว่าทักษิณพยายามที่จะประสานรอยร้าวระหว่างพัลลภกับสามเกลอเสื้อแดงหลังโดนรุ่นน้อง จตุพร พรหมพันธ์ด่ากราดพัลลภกับเสธ.แดง พลตรีขัตติยะ สวัสดิผลว่าเป็นพวก “หมาเน่าลอยน้ำ”
ถึงตอนนี้ความพยายามยังทำไม่สำเร็จ ทำให้พัลลภ-เสธ.แดง ยังเคลียร์กับสามเกลอไม่ได้ แถมยามนี้พัลลภ-เสธ.แดง เจอทั้งทหาร-ตำรวจประกบติดทุกฝีก้าวตลอด 24 ชม. กระดิกแทบไม่ได้
เลยประกาศชัด ขออยู่ห่างๆ สามเกลอและเวทีชุมนุมใหญ่ สะพานผ่านฟ้าในช่วง 14 มีนาคมนี้ แต่หากมีสายตรงทักษิณ สั่งการพร้อมเงื่อนไขงามๆ ทั้งพี่ลภ-น้องแดง ก็พร้อมร่วมสู้ด้วยแบบไม่ขอตกขบวน แต่มีเงื่อนไขว่าต้องไม่ทำงานใต้คำสั่งสามเกลอให้เสียศักดิ์ศรี แต่พร้อมเข้าไปช่วยหากมีบัญชาสายตรงจากทักษิณ
ขณะที่ฮาร์ดคอร์คนอื่นๆ อย่างพล.ต.ท. ชัชจ์ กุลดิลก อดีตผบช.ก.ที่เป็นกองหนุนมือวางแผนตัวหลักให้เสื้อแดงมาตลอด ก็กำลังหมั่นไส้สามเกลออย่างหนักเพราะโดนสกัดทุกรูปแบบ ขนาดจะไปขอออกทีวีเสื้อแดงหลังเสธ.แดง-เคทอง ถูกจับ ยังโดนสามเกลอที่ไม่เผาผีกับเสธ.แดงสกัดไม่ให้ใช้พีเพิลแชแนลมาช่วยเสธ.แดง เช่นเดียวกับอีกหลายคนอาทิ สุทิน คลังแสง อดีตส.ส.มหาสารคาม3สมัย จะขอใช้ทีวีเสื้อแดงเพื่อเชิญชวนเสื้อแดงอีสานมาร่วมชุมนุม ก็โดนสกัดเช่นกัน
เลยมีเสียงบ่นไล่หลังแบบนี้ ก็สู้กันไปเองแล้วกัน อย่ามาขอให้ช่วย
มือทำงานทักษิณสายฮาร์ดคอร์และมือวางแผนก็พากันหลบหน้าไปอยู่หลังฉาก ร่วมวางแผน ไม่ว่าจะเป็นจาตุรนต์ ฉายแสง หรือ ภูมิธรรม เวชชยชัย จะออกมาหน้าฉากก็เล่นแต่บทเดียวคือ เรียกร้องรัฐบาลอย่าใช้ความรุนแรงปราบประชาชน ประชาชนชุมนุมโดยสันติ อันเป็นลีลาที่แกนนำเสื้อแดงยังเบือนหน้าหนี เพราะพวกนี้เห็นชัดว่าลงแรงด้วยน้ำลายอย่างเดียว จะขึ้นเวทีหรือปรากฏตัวก็ต่อเมื่อดูแล้ว สถานการณ์เป็นต่อหรือมีสิทธิ์พลิกชนะเท่านั้น
ไม่เว้นแม้แต่ยงยุทธ ติยะไพรัช หรือยุทธ ตู้เย็น จอมโหด ผู้เคยก่อวีรกรรมขนป่าไม้จังหวัดภาคเหนือเข้ามาป่วนพันธมิตรฯหลายรอบโดยเฉพาะช่วงชุมนุมที่สวนลุมพินี ข่าวแว่วมาว่า ถูกทักษิณ เรียกใช้มาตั้งแต่หลังศาลฎีกาฯตัดสินคดียึดทรัพย์ให้ออกมาช่วยประสานงานกับสามเกลอในการดูแลเสื้อแดงภาคเหนือ
ทำเอายุทธ เครียดหนักเพราะคิดดูแล้วตอนนี้เจอทั้งคดียุบพรรค-ปกปิดบัญชีทรัพย์สิน เว้นวรรคการเมืองยาวกลับมาอีกทีก็แก่มากแล้ว เลยไม่รู้จะสู้ไปเพื่ออะไรในสงครามที่มองไม่เห็นชัยชนะ แต่เมื่อนายใหญ่ขอร้องก็ขัดไม่ได้
จึงมีข่าวเปิดบ้านพักในกรุงเทพฯเรียกแกนนำเสื้อแดงอีสาน-เหนือ 2-3 คนไปกินนอนที่บ้านพัก 3 วัน 3 คืนเพื่อให้สรุปย่อยุทธศาสตร์การต่อสู้ให้ฟัง พอว่ากันเสร็จ ยงยุทธยังถามกันตรงๆ ว่า
มีโอกาสชนะไหม ?
คำตอบที่ได้คือ มี แต่น้อยมาก ยิ่งหากไม่มีเหตุปลุกเร้าเช่นเสื้อแดงโดนทหาร-ตำรวจ ล้อมปราบ จนเลือดตกยากออก ก็ยากที่จะมีเหตุอะไรไปกดดันให้อภิสิทธิ์ลาออกหรือยุบสภาได้
แต่เมื่อนายขอมา ยุทธ ก็ขัดไม่ได้ เลยต้องยอมไปปรากฏตัว ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อร่วมฟังท่าทีของส.ส.เพื่อไทยและแกนนำพรรคในการวางแผนก่อนทำการใหญ่ แต่ก็แค่คอยให้คำปรึกษาเท่านั้น เรื่องอื่นๆ เช่น ร่วมขนคนเชียงรายมากรุงเทพฯหรือช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการชุมนุม ยุทธ ไม่เอาด้วย และที่ไม่เอาด้วย ไม่ใช่อะไร บ่จี๊หนักเหมือนกัน
ส่วน “หญิงหน่อย”คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ รายนี้ ก็น่าแกะรอยความเคลื่อนไหว เพราะฉายา เจ้าแม่ กทม.ในอดีตที่คุมพื้นที่กทม.ทั้งการเมืองระดับชาติ-ท้องถิ่น อย่างสก.-สข.ให้เพื่อไทยและทักษิณ แถมมีสายสัมพันธ์อันดีกับบิ๊กๆในกองทัพอีกเป็นพรวนโดยเฉพาะพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม แต่ข่าวที่ได้มาพบเจ๊หน่อย เก็บตัวเงียบ เวลามีส.ส.กทม.-สก.-สข.ไปสอบถามจะให้ทำอย่างไร เจ๊หน่อยก็ไม่สั่งลุยอะไร บอกให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติคนเสื้อแดงในพื้นที่เป็นพอ
แต่เบื้องหน้าเบื้องหลังจะเป็นอย่างไร คงรู้กันแค่ ทักษิณ-สุดารัตน์
กระนั้นก็เชื่อว่าทั้งสองคนที่ร่วมหัวจมท้ายมาด้วยกันเกือบยี่สิบปี สุดารัตน์ก็ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลในยามที่ทักษิณกำลังลำบาก
โปรย