“ผ่าประเด็นร้อน”
ช่วงสายวันจันทร์ที่ 15 มีนาคม 2553 คาดการณ์กันไว้ล่วงหน้าได้ว่า สภาพการจราจร-คมนาคมในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะพื้นที่ชั้นในกรุงเทพมหานคร คงอยู่ในสภาพโกลาหลแน่นอน หลังจากกลุ่มเสื้อแดงยึดใจกลางเกาะรัตนโกสินทร์เป็นที่ชุมนุมทางการเมือง
ขณะนี้ถนนสายหลัก คือ ถนนราชดำเนินใน กลางและนอกตั้งแต่สนามหลวง-ปิ่นเกล้า ไปจนถึงลานพระบรมรูปทรงม้า ถูกคนเสื้อแดงยึดเป็นพื้นที่แดงทั่วบริเวณไปแล้ว
ทั้งที่คนเสื้อแดงที่มาร่วมชุมนุมจากวันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม 2553 แม้จะหลายหมื่นแต่ก็น้อยกว่าที่แกนนำ นปช.คุยโวโอ้อวดมานานหลายเดือนว่าจะมากันเป็นล้าน จึงไม่มีความจำเป็นใดๆ เลยที่ต้องปิดถนน-ปิดการจราจรยาวเหยียดถึงเพียงนี้ คือตั้งแต่หน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลไปจนถึงลานพระบรมรูปทรงม้า
ตั้งใจโยนทุกข์ให้คนกรุง และสร้างภาพให้ดูยิ่งใหญ่
โดยแกนนำเสื้อแดงหยิบเอาไปโฆษณาชวนเชื่อผ่านทีวีเสื้อแดงให้กับคนที่ไม่เห็นภาพที่แท้จริงของผู้มาร่วมชุมนุม จะพากันตกอกตกใจคิดว่า คนมาเป็นล้านจนต้องปิดถนนยาวเหยียดถึงเพียงนั้น
ข้อเท็จจริงก็คือ คนเข้ามาชุมนุมแน่นเฉพาะหน้าเวทีปราศรัยใหญ่ตรงสะพานผ่านฟ้าเท่านั้น แต่พื้นที่บริเวณรอบๆ ไม่ว่าจะทางไปลานพระบรมรูปทรงม้าหรือทางไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก็จะพบแต่เต้นท์ขายของ-เต้นท์ว่างเปล่าที่เอาไว้หลบแดดหลบฝนคนเสื้อแดงเท่านั้น ไม่ได้มีประชาชนมาร่วมชุมนุมนั่งกันเนืองแน่นจนไม่มีที่จะเดินอย่างที่กล้องทีวีคนเสื้องแดงเลือกมุมถ่ายทอด จนคนคิดว่ามากันเป็นแสนเป็นล้าน
ดังนั้น ที่มาอ้างกันว่าเมื่อคนมาร่วมชุมนุมมากเช่นนี้เลยต้องปิดถนนใจกลางกรุงเทพมหานครยาวหลายกิโลเมตร จึงเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง และหากแกนนำเสื้อแดงไม่แก้ไขปัญหานี้ คาดได้ว่าจะกลายเป็นแรงกดดันเหวี่ยงกลับไปหาคนเสื้อแดงต่อไป
เนื่องจาก คนกรุงเทพฯ ที่ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับคนเสื้อแดงที่ มาเคลื่อนไหวทำให้บ้านเมืองปั่นป่วนวุ่นวายเพียงเพื่อ นช.ทักษิณ ชินวัตร คนเดียว ที่จนถึงขณะนี้ก็ยังดิ้นรนทุกอย่างเพื่อจะทำลายประเทศชาติแผ่นดินเกิด ทั้งที่กระบวนการยุติธรรมได้ตัดสินไปแล้วสองคดีคือ คดีทุจริตที่ดินรัชดาฯและคดียึดทรัพย์ว่ามีความผิดจริง ทำให้คนหลายกลุ่มที่ก่อนหน้านี้อาจไม่ได้รู้สึกต่อต้านคนเสื้อแดง แต่เมื่อเห็นว่าทักษิณกับเสื้อแดงเล่นไม่เลิก ก็ชักทนไม่ไหวหลังทำให้คนส่วนใหญ่ในสังคมได้รับความเดือดร้อน
วันนี้ จึงเห็นชัดแล้วว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดง ปราศจากซึ่งแนวร่วมของคนส่วนใหญ่ในสังคม ที่อยู่ในสภาวะ
ไม่เอาด้วย ไม่สนับสนุน และต่อต้าน
ส่งผลให้ความพยายามระดมคน ขนคนเข้ากรุงเทพมหานครของบรรดา ส.ส.-ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย-แกนนำ นปช.ต่างจังหวัด ไม่เข้าเป้าและเหนื่อยกว่าทุกครั้ง เพราะแม้จะพยายามเชิญชวนให้เข้ามาร่วมชุมนุมด้วยการรับปากว่า จะอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้ทุกอย่าง ตั้งแต่รถรับส่ง-ที่พัก
แต่เมื่อประชาชนเห็นแล้วว่า ต้องมาลำบากนอนกลางถนน กินกลางแดด แถมต้องเสี่ยงจะถูกดำเนินคดีเอาผิดทางกฎหมายเพราะถูกแกนนำเสื้อแดงหลอกใช้พาไปป่วนบ้านป่วนเมืองตามสถานที่ต่างๆ จึงปฏิเสธเข้าร่วม
ยิ่ง ทักษิณ ชินวัตร สั่งให้อดีตเมียรัก ลูก พี่สาว-น้องสาว เดินทางออกนอกประเทศเป็นการด่วนเพราะเกรงจะได้รับผลกระทบจากการชุมนุม ก็คือหนีเอาตัวรอด แล้วหลอกลวงให้ประชาชนลำบากต่อสู้ให้แทน แนวร่วมเสื้อแดงที่ไม่ชอบประชาธิปัตย์และห่วงทักษิณ เลยขอเป็นคนดูอยู่กับบ้านดีกว่า
ก็ในเมื่อเห็นชัดแล้วว่า ตัวแม่ทัพ ผู้นำการต่อสู้ ยังรักตัวกลัวตาย เอาเปรียบประชาชน มันจึงเป็นการเคลื่อนไหวที่ปราศจากความชอบธรรม ตั้งแต่ยังไม่ทันจะนับหนึ่งเสียด้วยซ้ำ
ทันทีที่เสื้อแดงออกมาชุมนุมครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศให้เสียหายอย่างหนัก เพราะการยกทัพที่ถูกออกแบบสร้างภาพให้น่าหวาดกลัว ดูแล้วไม่ใช่การรวมตัวชุมนุมอย่างสันติอหิงสาอย่างที่พูด
ดึงเรตติ้งประเทศหล่นวูบ การค้าการลงทุนทุกตลาดสะดุด ทั้งที่ระบบเศรษฐกิจของประเทศกำลังฟื้นตัวและไปได้ด้วยดี พอจะเห็นความหวังได้ว่าไทยจะผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจได้เร็วกว่าหลายประเทศในแถบเอเชียด้วยกันเอง ก็ต้องมาอยู่ในสภาพติดหล่มอีกแล้ว เพราะนักลงทุนทั้งไทย-ต่างประเทศ พากันหยุดชะงักไม่กล้าตัดสินใจลงทุนอะไรในช่วงนี้
ทุกฝ่ายต้องการรอดูผลการชุมนุมของคนเสื้อแดงในช่วงนี้ไปก่อน ว่าจะพัฒนาไปสู่เหตุรุนแรงใดๆ หรือทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองแบบฉับพลันและรุนแรงอะไรหรือไม่ แน่นอนย่อมส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศต้องหยุดชะงักไประยะหนึ่ง
โดยเฉพาะ ที่ชัดเจนก็คือเรื่องการท่องเที่ยว ซึ่งก่อนหน้านี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจำนวนมาก เพราะเชื่อมั่นในบรรยากาศการเมืองไทยในห้วงเวลาที่ผ่านมา แต่เมื่อเริ่มการชุมนุม สถานทูตประเทศต่างๆ ในไทยหลายสิบประเทศประกาศเตือนคนของตนว่า ประเทศไทยและกรุงเทพฯเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการไม่ปลอดภัย
จึงทำให้นักท่องเที่ยวลังเลใจ และเปลี่ยนใจเข้ามาเที่ยวเมืองไทยจำนวนมากในช่วงนี้ ซึ่งประเมินว่านักท่องเที่ยวที่หดหายไปจำนวนมาก ทำให้รายได้ลดฮวบไปเยอะ รวมทั้งส่งผลให้ธุรกิจส่วนอื่นๆ ก็จะได้รับผลกระทบตามเป็นลูกโซ่
แค่เริ่มต้นก็เห็นความเสียหายที่ประเทศได้รับแล้ว และจะบอบช้ำอีกแค่ไหน หากเกมนี้ที่ประเมินว่าจะยืดเยื้อออกไปแน่ ไม่มีโอกาสปิดเกมเร็วได้อย่างที่คนเสื้อแดงต้องการ
และจะเป็นวิกฤติที่กลับมาหลอกหลอนสังคมต่อไปอีกนานแค่ไหนไม่มีใครรู้ และความสูญเสียที่จะเกิดตามมาจะมากมายมหาศาลแค่ไหนก็ยากประเมินได้
เป็นค่าความสูญเสียของคนทั้งประเทศที่ต้องจ่าย เพื่อความสะใจของทักษิณ ชินวัตร คนเดียว