xs
xsm
sm
md
lg

มีนาเดือด“แม้ว-เสื้อแดง”ลุยแน่ “เปรม”น่วม“มาร์ค”รับศึกหนัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**แม้ คณะรัฐมนตรีจะอนุมัติประกาศบังคับใช้พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรไปแล้วเมื่อ 9 มีนาคม 2553 ที่ผ่านมา เพื่อควบคุมการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในสุดสัปดาห์นี้
มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 11-23 มีนาคม โดยพื้นที่ภายใต้การบังคับใช้ ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร-นนทบุรี ทั้งจังหวัด, อ.ธัญบุรี อ.สามโคก อ.ลำลูกกา อ.คลองหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว อ.เมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี, อ.กระทุ่มแบน อ.เมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร อ.บางพลี อ.บางเสาธง อ.บางบ่อ อ.พระประแดง อ.เมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ, อ.พุทธมณฑล อ.สามพราน อ.นครชัยศรี จังหวัดนครปฐม, อ.เมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นต้น
**แต่ก็ใช่ว่า สัญญาณการรบแบบแตกหักป่วนบ้านเมือง ดีเดย์ 14 มีนาคม 2553 ของแกนนำเสื้อแดง สถานการณ์จะน่าไว้วางใจ เพราะถึงขณะนี้เห็นชัดว่า มีสัญญาณไม่สู้ดีออกมาเรื่อยๆ
การข่าวของหลายหน่วยราชการที่บอกตรงกันว่า จะเกิดเหตุรุนแรง เช่นการวางระเบิด-การปาอุจจาระใส่สถานที่สำคัญๆ ทางการเมือง–การบุกยึดและปิดล้อมทางเข้าออกสถานที่ราชการ
**ทั้งอาจจะมีการก่อเหตุถึงขั้นก่อวินาศกรรม-ระเบิดป่วนเมือง 30-40 จุด ไม่นับรวมกับระเบิดปลอมป่วนเมือง ที่คาดว่าจะมีอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้ประชาชนแตกตื่น
ยิ่งเมื่อ พจมาน ณ ป้อมเพชร พร้อมลูกๆ นช.ทักษิณ ชินวัตร บินไปต่างประเทศในช่วงสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน ก็ยิ่งเห็นชัดว่า ทุกฝ่ายต้องเตรียมตั้งรับให้ดี เพราะขนาดทักษิณยังให้คนในครอบครัวเผ่นออกนอกประเทศ
**นั่นหมายความว่า ทุกอย่างพร้อมแตกหันกันแล้ว!
อย่างไรก็ตาม เดิมพันสำคัญครั้งนี้ของทักษิณ เห็นชัดว่าเป้าหมายในการหวังเผด็จศึกครั้งนี้ของคนเสื้อแดง หาใช่อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
**แต่คือ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ
เห็นได้จากล่าสุดการเปิดแถลงข่าวของแกนนำเสื้อแดงอย่าง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ออกมาตั้งข้อสังเกตุเงื่อนงำการจัดตั้งมูลนิธิรัฐบุรุษ ของพลเอกเปรม โดยเฉพาะการฮุบที่ นส.3 ที่มูลนิธิได้รับบริจาคที่ดินจากบริษัทเอ็มเอ็มซี สิทธิผล ของนาง กัลยาณี พรรณเชษฐ์ แกนนำคณะ 11 ไปแสวงหากำไร อันเป็นนางกัลยาณี มารดา วัชระ พรรณเชษฐ์ ผู้แทนการค้าไทย ที่ก่อนหน้านี้เสื้อแดงออกมาปูดเรื่องนางกัลยาณี ร่วมบริจาคเงินการกุศลให้พลเอกเปรม เพื่อนำไปจัดสร้างอาคารในวัดสวนแก้ว
การออกมาถล่มป๋าเปรมล่าสุด หลายประเด็นก็ต้องยอมรับความจริงว่า สมควรอย่างยิ่งที่ผู้เกี่ยวข้องโดยเฉพาะคนใกล้ชิดพลเอกเปรม และบุคคลในมูลนิธิรัฐบุรุษ จะต้องออกมาทำความกระจ่างกับสังคม เพื่อเป็นการเคลียร์ข้อกล่าวหาให้กับพลเอกเปรม ด้วย
ทั้งเรื่องที่มาที่ไปของการขายที่ดินที่ สระแก้ว 1,500 ไร่ และการขายบ้านของพลเอกเปรม ที่ท่าแร้ง บางเขน เพื่อยืนยันว่าการทำนิติกรรมการซื้อขายที่ดินและบ้านทั้งสองแห่งที่คนเสื้อแดงตั้งข้อกล่าวหาว่ามีความผิดปกติ ไม่ได้มีเงื่อนงำอย่างที่ถูกใส่ร้าย พลเอกเปรมและมูลนิธิรัฐบุรุษ จะได้ไม่มีจุดด่างพร้อยให้คนโจมตีได้ทั้งต่อหน้า และลับหลัง
อีกทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นว่า ข้อมูลของคนเสื้อแดง เป็นการพูดแบบความจริงครึ่งเดียวเพื่อทำให้สังคมเกิดความสับสนหรือไม่ เพราะหากเป็นเรื่องไม่จริง ก็จะเป็นการทำให้แกนนำคนเสื้อแดงหมดความน่าเชื่อถือ และไม่สามารถจะนำเอาเรื่องเท็จไปปลุกระดมคนเสื้อแดงและประชาชนให้เกิดความรู้สึกว่า
**ระบอบอำมาตย์คือผู้สร้างระบบสองมาตรฐาน อยู่เหนือกฎหมาย ทำอะไรก็ไม่ผิด
จึงควรอย่างยิ่งที่ ผู้เกี่ยวข้องในบ้านสี่เสาฯ และมูลนิธิรัฐบุรุษ ต้องออกมาชี้แจงเรื่องนี้โดยเร็ว และหากไม่ทำ ปล่อยให้เรื่องเลยเถิด ผู้คนก็จะคล้อยตามข้อมูลที่แกนนำเสื้อแดงพยายามปลุกเร้าอย่างหนักเวลานี้ เพื่อหวังให้ประชาชนเกิดความรู้สึกเกลียดชัง พลเอกเปรม อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของเสื้อแดงวันนี้
**เนื่องจากตอนนี้ นช.ทักษิณ ชินวัตร เสื้อแดง และเพื่อไทย เห็นพ้องตรงกันแล้วว่า การศึกในช่วง 14 มีนาคมนี้ ต่อให้ขนคนมาเทเต็มหน้าทำเนียบรัฐบาล ก็ยากที่จะบีบให้ อภิสิทธิ์ ลาออกหรือยุบสภาได้
อีกทั้งอภิสิทธิ์ไม่มีแผลให้เสื้อแดงเล่นงานโจมตี เพื่อสร้างอารมณ์ร่วมกับคนส่วนใหญ่ให้ฮึกเหิม ล้มอภิสิทธิ์ได้ ผิดกลับพลเอกเปรมและคนใกล้ชิด ที่อยู่ในอำนาจยาวนานและอยู่ในหลายวงการโดยเฉพาะธุรกิจ-การเมือง จึงอาจมีข้อผิดพลาดบางอย่างที่ พลเอกเปรมก็อาจไม่เคยรับรู้ ถูกหยิบนำมาโจมตีเพื่อกระทบชิ่งไปถึงพลเอกเปรมได้ง่าย
ทำให้ ทักษิณ เสื้อแดง เพื่อไทย ต้องการถล่มพลเอกเปรมให้ราบคาบพสุธา เพราะคนกลุ่มนี้เชื่อว่าหาก “ล้มเปรม”ได้ แนวร่วมกลุ่มอำนาจปัจจุบัน ก็จะล้มตามเป็นโดมิโนไปด้วย เพราะทั้งหมดล้วนอาศัยบารมี ป๋าเปรม ที่เป็นต้นไม้ใหญ่ คอยให้หลบแดดหลบฝน
**ดังนั้นหากโค่นต้นไม้ใหญ่ต้นนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นทั้ง มาร์ค –สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง -ป๊อก พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.-ป้อม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม- พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ.- เนวิน ชิดชอบ แกนนำภูมิใจไทย และพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ก็ยากจะยืนหยัดอยู่ได้ ยามเมื่อป๋าเปรมไร้บารมี
นี่คือ ความคิดของทักษิณ และแกนนำเสื้อแดงทั้งหมดในวันนี้
มันจึงถือเป็นศึกหนักที่สุดในชีวิตของ “ป๋าเปรม” ที่จะต้องวางแผนให้ตัวเองผ่านพ้นช่วง “มีนาเดือด”นี้ไปให้ได้
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ทุกฝ่าย ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เตรียมการตั้งรับกันมาเป็นอย่างดี กับ “ศึกมีนาเดือด” ครั้งนี้
ทั้งการส่งหน่วยข่าวเฝ้าเกาะติดการเคลื่อนไหวในทุกจังหวัดและอำเภอสำคัญๆ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้รายงานความเคลื่อนไหวเป็นระยะๆ โดยเฉพาะในช่วงการเริ่มนัดรวมตัวกันขึ้นรถโดยสารจากจังหวัด มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร รวมถึงการติดตามความเคลื่อนไหวของแกนนำเสื้อแดงทุกจังหวัดว่ามีอะไรผิดสังเกต เช่น ไปจัดหาหรือเช่ารถกระบะ-รถตู้จากที่ไหน เลขทะเบียนอะไร รถเริ่มออกจากพื้นที่เวลาไหน เพื่อจะได้ประเมินสถานการณ์ได้ถูก เพื่อป้องกันไม่ให้มีคนเข้ามาเยอะมากจนรับมือไม่ไหว
อย่างไรก็ตาม พบว่า ฝ่ายเสื้อแดงและเพื่อไทย ก็มีการเตรียมการมาแล้วเป็นอย่างดี เรื่องเป้ามาเป็นล้าน เต็มราชดำเนิน-สะพานผ่านฟ้านั่นแค่ราคาคุย ของจริงเต็มที่ไม่เกินสองแสนแน่นอน
หลังรัฐบาลสั่งกองทัพ-ตำรวจ-ฝ่ายปกครอง สนธิกำลังสกัดทุกรูปแบบ ยุทธวิธีที่จะใช้ในการทำให้เกิดภาพแดงทั้งแผ่นดินก็ถูกพลิกแพลงกลยุทธ์แบบวันต่อวัน เช่น ภาคกลาง ที่จะโดนสกัดที่วังน้อย อยุธยาฯ อาจใช้วิธีขนคนเข้ากรุงเทพฯ ทางแม่น้ำ เพื่อหลีกหนีการถูกสกัดทางบก
**ทั้งนี้ ส.ส.-อดีตส.ส.เพื่อไทย ที่ประกาศตัวชัดเจนว่า จะขนคนไปร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดง ต้องพยายามเอาคนของตัวเองไปร่วมชุมนุมให้มากที่สุด เพื่อที่จะได้เป็นผลงานให้ ทักษิณ พอใจ และเอายอดต่อหัวต่อคนมาเป็นใบเสร็จเอาไปเบิกเงินกับนายใหญ่ ไม่อย่างงั้นมีหวังกระเป๋าฉีก
เพราะชัดเจนแล้วว่า ทักษิณให้ ส.ส.- ผู้สมัครส.ส.แต่ละพื้นที่ สำรองค่าใช้จ่ายกันไปก่อน แล้วลงบัญชีไว้เพื่อมาเบิกกันทีหลัง โดยมีระบบตรวจสอบกันหลายชั้น ตั้งแต่เริ่มออกจากจังหวัดจนมาถึงสะพานผ่านฟ้า เพื่อไม่ให้มีการปั้นตัวเลขปลอม ประเภทขนมา 5 พันคนแล้วขอเบิก 2 หมื่น เข้ากระเป๋า ครั้งนี้ทักษิณประกาศแล้วว่าไม่ยอมเสียโง่แน่นอน
ยามนี้เลยมีข่าวว่าหลายพื้นที่ บรรดาส.ส.-อดีตส.ส.เพื่อไทย เริ่มขยับเตรียมการกันแล้ว เช่นที่ พิจิตร นำโดยนาวิน บุญเศรษฐ อดีต ส.ส.พิจิตร บุตรชาย พ.ต.ท.อลุดย์ บุญเศรษฐ , ลำพูน สงวน พงษ์มณี , พะเยา วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ปทุมธานี ชูชาติ หาญสวัสดิ์ สมุทรปราการ ประชา ประสพดี สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ อดีต รมช.พาณิชย์ ร้อยเอ็ด นิสิต สินธุไพร นนทบุรี พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย สิงห์บุรี พายัพ ปั้นเกตุ อดีต ส.ส. ส่วนอุทัยธานี ก็ ประแสง มงคลศิริ อดีต ส.ส.เป็นต้น
**แค่ การขนคน-สกัดคน เห็นภาพก็ร้อนแรง เร้าใจ แล้วว่าทั้งสองฝ่ายคือรัฐบาล เสื้อแดง จะแก้เกมกันอย่างไร ส่วนวันเผด็จศึก 14 มีนาคม นี้ จะร้อนแรงเพียงใด จะเป็นศึกไร้คำปราณีหรือไม่ ต้องติดตามด้วยใจระทึก
กำลังโหลดความคิดเห็น