xs
xsm
sm
md
lg

จ่อออกพรก.ฉุกเฉิน หวั่นแดงวินาศกรรมกรุง ครม.รับทราบใช้พรบ.ความมั่นคงคุมแดงม็อบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- ครม.รับทราบใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 7 จังหวัด 21 อำเภอ พร้อมกฎหมายอื่นอีก 18 ฉบับ คุมม็อบแดง แฉแผนปฏิบัติการจ้องก่อวินาศกรรมทำเมืองกรุงอัมพาต “มาร์ค” สั่งรัฐมนตรีเตรียมพร้อมออกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากบานปลาย “แม้ว”โฟนอินลั่นไม่ขอกลับไทยแบบเถ้ากระดูก


นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (9 มี.ค.) ว่า ครม.มีมติตามที่คณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง (คตม.) เสนอให้มีการประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 11-23 มี.ค. เนื่องจากจะมีสถานการณ์ที่กระทบต่อความมั่นคง ในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งหมด และปริมณฑล 7 จังหวัด หรือ 21 อำเภอ คือ จ.นนทบุรี ทั้งจังหวัด จ.ปทุมธานี 6 อำเภอ คือ อ.เมือง ธัญญบุรี สามโคก ลำลูกกา คลองหลวง ลาดหลุมแก้ว
ส่วน จ.สมุทรสาคร 2 อำเภอ คือ อ.เมือง และกระทุ่มแบน จ.สมุทรปราการ 5 อำเภอ คือ อ.เมือง บางพลี บางเสาธง บางบ่อ พระประแดง จ.นครปฐม 3 อำเภอ คือ พุทธมณฑล สามพราน นครชัยศรี จ.ฉะเชิงเทรา คือ อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา อีก 4 อำเภอ คือ บางปะอิน บางไทร ลาดบัวหลวง และวังน้อย

ใช้ กม.18 ฉบับคุมสถานการณ์

นอกจากนี้ ยังประกาศให้เจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร เป็นเจ้าหน้าที่พนักงานตามกฎหมาย มีอำนาจหน้าที่ในการบังคับบัญชา สั่งการ อนุญาต หรือช่วยป้องกันแก้ไขปราบปราม ระงับ ยับยั้งสถานการณ์ และช่วยเหลือประชาชนในเขตท้องที่ที่มีการประกาศ โดยให้ใช้กฎหมายประมาณ 18 ฉบับ ในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ได้แก่

1. พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการ กระทรวงกลาโหม 2551 , 2. พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ 2547 3. พ.ร.บ.คนเข้าเมือง 2522 , 4. พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ 2530 5. พ.ร.บ.การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 2550 , 6. พ.ร.บ.การควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง 2493 , 7. พ.ร.บ.การจราจรทางบก 2522 , 8. พ.ร.บ.รถยนต์ 2522 , 9. พ.ร.บ.วัตถุอันตราย 2535 , 10. พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน 2490 11. พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 12.ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เฉพาะบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับมูลนิธิสมาคม ,13.ประมวลกฎหมายอาญา 14.ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เฉพาะบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจสืบสวน และสอบสวน และการใช้อำนาจของพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจ

พร้อมกันนี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 เป็นพนักงาน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย จำนวน 18 ฉบับ โดยเพิ่มจากการประกาศในพื้นที่ กทม. ที่ผ่านมาจำนวน 4 ฉบับ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติงานครอบคลุมสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย 15. .ร.บ.การแพทย์ฉุกเฉิน 2551 , 16. พ.ร.บ.ควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง 2550 , 17. พ.ร.บ.เครื่องวิทยุคมนาคม 2498 และ 18. พ.ร.บ.การเดินเรือในน้ำไทย 2456

หารือกำหนดพื้นที่ควบคุมวันนี้

ทั้งนี้ จะมีการออกข้อกำหนดที่จะมาบังคับใช้ หลังจากที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จะประชุมกันในวันนี้ (10 มี.ค.) โดยจะเป็นเรื่องของการห้ามบุคคลใดเข้า-ออก จากบริเวณพื้นที่ที่กำหนด การห้ามอาวุธออกนอกเคหะสถาน การห้ามใช้เส้นทางคมนาคม หรือการใช้ยานพาหนะ และการปฏิบัติ หรืองดเว้นการปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งอันเกี่ยวกับเครื่องมือ หรืออุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ ตามชนิดประเภทที่ได้มีการกำหนดไว้

สำหรับวัตถุประสงค์หลักของการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ก็เพื่อดูแลรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้กับประชาชนคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มาชุมนุม ประชาชนตามชุมชนต่างๆ ประชาชนที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ หรือปริมณฑล รวมถึงชาวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวด้วย โดยเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่นั้นจะไม่มีอาวุธ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังตามขั้นตอนกระบวนการที่ทาง กอ.รมน. และศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อยจะได้กำหนดขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนที่อยู่ในการปฏิบัติงาน จะอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. และจะทำงานร่วมกับหลายฝ่าย รวมทั้งฝ่ายประชาชนที่จะดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย

ทั้งนี้ ครม.มีความคิดเห็นว่า ในขณะที่มีการชุมนุมทางการเมือง จำเป็นต้องมีการสื่อสาร และให้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงในเรื่องของการปฏิบัติ ขั้นตอนตามกฎหมาย ซึ่งฝ่ายรัฐบาล จะได้นำแนวทางนี้ไปใช้ โดยเฉพาะในเรื่องคำพิพากษาของศาลปกครอง และในเรื่องเกี่ยวกับข้อกฎหมายต่างๆ ในการจัดการบริหารการชุมนุม ตามบรรทัดฐานอยู่แล้ว

12 มี.ค.ไม่หยุดราชการ

ส่วนจะให้วันที่ 12 มี.ค. เป็นวันหยุดหรือไม่นั้น ครม.พิจารณาว่า จะไม่ให้หยุด เพราะเกรงว่าจะกระทบกระเทือนกับผู้ประกอบการ ประชาชน และเกรงว่าจะทำให้เกิดความรู้สึกเป็นกังวล เพราะสถานการณ์ขณะนี้ ยังอยู่ในสภาวะที่สามารถบริหารจัดการได้ แต่รัฐมนตรี ได้ให้กระทรวงที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงศึกษาธิการไปพิจารณา หากสามารถเลื่อนวันสอบในบางกรณีได้ และบางโรงเรียนก็เริ่มปิดแล้ว ดังนั้น ผู้ปกครองไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกังวล

คาด"ม็อบแดง" 1 แสนขึ้น

นายปณิธาน กล่าวด้วยว่า รัฐบาลประเมินว่า ผู้ชุมนุมจะมีเกิน 1 แสนคน โดยคาดว่าเป้าหมายการชุมนุมจะอยู่ที่ 3-5-7 วัน แต่จะมากกว่านั้นหรือไม่ ต้องประเมินจากเสบียงอาหารและที่พัก ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งให้แต่ละกระทรวง ตั้งศูนย์เฝ้าระวังความรุนแรงขึ้นมา สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังนั้นมี 3 ประเภท คือ 1. สถานที่ราชการ ทำเนียบรัฐบาล ศาล กระทรวง ทบวงกรม 2. สถานประกอบการของเอกชน เช่น ธนาคาร และ 3. สำนักงานของสื่อต่างๆ ทั้งรัฐและเอกชน ซึ่งขณะนี้มีสื่อบางแห่งประสานงานให้เจ้าหน้าที่ไปดูแลแล้ว

แฉแผนวินาศกรรม-ปิดการจราจร

รายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงท้ายการประชุมครม. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สรุปการประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ให้ครม.รับทราบ โดยได้แจกเอกสารของ คตม. และเมื่อการประชุมเสร็จสิ้นได้สั่งเก็บ ไม่ให้นำออกมาเผยแพร่

เอกสารระบุว่า แผนการของกลุ่มเสื้อต้องการที่จะทำให้จราจรในกทม. เป็นอัมพาต และจะมีคนกลุ่มเล็กๆ ที่จะก่อวินาศกรรม มีการขว้างระเบิด เผาสถานที่ราชการ โดยการดูแล จะมีกำลังพลของทหาร และตำรวจที่จะควบคุมสถานการณ์ประมาณ 3.3 หมื่นนาย ภารกิจหลักคือควบคุมไม่ให้เกิดความรุนแรงโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะไม่มีอาวุธ มีเพียงโล่และกระบองป้องกันตัวเองเท่านั้น แต่หากมีการทำร้ายประชาชน หรือมีการเผาหน่วยงานราชการเกิดขึ้นจะมีชุดเคลื่อนที่เร็วซึ่งติดอาวุธเข้าไปทันที

ตั้งครม.ฉุกเฉินเตรียมออกพ.ร.ก.

ข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุมนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กำชับรัฐมนตรีทุกคนว่า ให้ดูแลกระทรวงของตัวเอง เพราะมีข่าวว่านอกจากจะทำให้จราจรเป็นอัมพาตแล้ว ยังจะมีการปิดล้อมกระทรวง เพื่อให้ทำงานไม่ได้ แต่นายกฯ ต้องสามารถติดต่อรัฐมนตรีได้ตลอดเวลา เพื่อไม่ให้การบริหารยุติ ซึ่งจะเป็นไปตามเป้าหมายของกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินจะเรียกประชุมครม. ก่อนวันอังคาร โดยกำหนดรัฐมนตรีคณะเล็ก จำนวน 9 คน เพื่อประชุมประเมินสถานการณ์ในการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี 3 คน รมว.มหาดไทย รมว.กลาโหม และรัฐมนตรีที่เป็นตัวแทนพรรคร่วมอีก 3 คน ทั้งน.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคกิจสังคม และนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนา มี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองหัวหน้าพรรค ชทพ. เข้าร่วมในฐานะรองนายกฯ อยู่แล้ว จึงไม่ต้องมีหัวหน้าพรรคอีกคน

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการกำหนดที่ประชุมครม.ชั่วคราวในกรณีที่ไม่สามารถเข้าทำเนียบรัฐบาลได้ โดยต้องประเมินหน้างานแบบวันต่อวัน

ปาอึหมื่นถุงใส่ทำเนียบฯ

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ในวันที่ 12-14 มี.ค. และหลังจากนั้นว่า จะมีการออกปฏิบัติการของกลุ่มเสื้อแดงหลายสาย โดยจะมีการปาระเบิดในกรุงเทพ 2 จุดใหญ่ และมีระเบิดมือดาวกระจาย ออกไป ซึ่งสอดคล้องกับหนวยข่าวกรองของต่างประเทศ ที่ให้ระวังแผนวินาศกรรมของกลุ่มที่ไม่เปิดเผย โดยจะมีการปิดล้อมสถานที่ราชการ จับตัวบุคคลสำคัญของประเทศ

นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานจากผู้ที่เข้าร่วมประชุมกับกลุ่มเสื้อแดงเพื่อเตรียมการชุมนุมว่ามีการสั่งให้ผู้ชุมนุมเตรียมนำถุงดำ และถุงพลาสติก ติดตัวมาเพื่อบรรจุ ปัสสาวะ และอุจจาระ เพื่อใช้ปาเข้าสถานที่ราชการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อมุ่งหวังให้เกิดความอับอายไปทั่วโลก โดยเฉพาะที่ทำเนียบรัฐบาลจะถูกถุงอุจจาระปาหมื่นถุง

ผบ.ทบ.เชื่อแค่พ.ร.บ.มั่นคงก็เอาอยู่

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวว่า หลังครม.มีมติให้ประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง ก็ต้องมาเตรียมองค์กร ตั้งผู้ที่รับผิดชอบรวมถึงโครงสร้างต่างๆ เนื่องจากสถานการณ์เปลี่ยนไปจากเดิม เช่น การใช้ยานพาหนะเข้ามาชุมนุมจำนวนมาก ก็ต้องมาปรับวิธีการ ซึ่งผู้ที่รับผิดชอบจะต้องมาให้นโยบายว่า ต้องดูแลกันอย่างไร รวมถึงขั้นตอนการปฏิบัติด้วย อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ไม่น่าจะพัฒนาไปถึงขั้นต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แค่ พ.ร.บ.ความมั่นคง ก็น่าจะดูแลได้

ตำรวจซ้อมปราบจลาจล

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ปรึกษา (สบ10) ฝ่ายความมั่นคงและกิจการพิเศษ ได้ควบคุมการฝึกอบรมด้านยุทธวิธีแก่ข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการ ในสังกัด ตร. จำนวน 1,500 นาย โดยจัดกำลังออกเป็น 10 กองร้อย ทั้งตำรวจชาย และหญิง โดยมีการสอนการใช้โล่ กระบอง การฝึกยิงกระสุนยาง การทำความเข้าใจ การปฏิบัติต่อเหตุการณ์การชุมนุมต่างๆ เพื่อเป็นกองร้อยปราบจลาจล และป้องกันตนเอง ซึ่งในกรณีนี้สามารถเข้ารักษาความสงบในพื้นที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งตั้งอยู่ติดกันได้ด้วย

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า การประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานง่ายขึ้น เนื่องจากมีกฎหมายรองรับหลายฉบับ ทั้งนี้ ตำรวจจะทำงานอย่างเต็มที่ และฝึกกำลังพล ระดับครูฝึกไว้เป็นจำนวนมาก ฉะนั้นการส่งมอบกำลังพลต่างๆ จึงไม่น่าจะมีปัญหา

นครบาลถกรับสถานการณ์ฉุกเฉิน

พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมเตรียมความพร้อม เจ้าหน้าที่ฝ่ายอำนวยการ เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยกล่าวว่า การฝึกอบรมในครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากสถานการณ์ทางการข่าวที่ไม่ดี แต่เป็นเพราะสถานที่แห่งนี้ ติดกับถนนราชดำเนินกลาง และลานพระบรมรูปทรงม้า ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมอยู่บริเวณนี้เป็นหลัก ซึ่งต้องมีผลกระทบต่อ บช.น. อยู่แล้ว จึงต้องมีการเตรียมความพร้อม เพราะไม่สามารถคาดเดาได้ว่า จะมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น กำลังที่อยู่ตรงนี้ต้องเข้มแข็ง

กรมคุกจัดที่คุมขัง"แดงเถื่อน"

นายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 12 -14 มี.ค.นี้ อาจเกิดความวุ่นวาย และมีผู้กระทำผิดถูกส่งตัวเข้ามาเรือนจำจำนวนมากนั้น เบื้องต้นทางเรือนจำได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว โดยเรือนจำพิเศษกรุงเทพ และเรือนจำใกล้เคียงหลายแห่ง มีความพร้อม และสามารถรองรับผู้ต้องหาได้จำนวนมาก ส่วนการดำเนินการต่างๆ ของเรือนจำขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในขณะนั้น

"ชัย"สั่งเลขาสภา เก็บเอกสารสำคัญ

นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ออกหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 9 มี.ค.2553 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องการดำเนินการรักษาความปลอดภัยในบริเวณรัฐสภา โดยหนังสือระบุว่า สถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน ที่จะเกิดเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง และอาจลุกลามบานปลายจนเกิดเหตุรุนแรงได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมการป้องกัน และรักษาบรรดาสรรพเอกสาร อาคารสถานที่ วัสดุอุปกรณ์ และทรัพย์สินมีค่าของทางราชการ จึงมีคำสั่งให้เลขาธิการสภาฯ ดำเนินการ คือ ให้ตรวจสอบและจัดหาสถานที่เก็บให้ปลอดภัย รวมทั้งเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย

"เพื่อไทย" ตั้งศูนย์สนับสนุนแดงถ่อย

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงว่า พรรคได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือดูแลความปลอดภัยประชาชน (ศชปป.) ขึ้นเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชน ที่เป็นคนไทย ซึ่งหลายคนเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่เดินทางชุมนุม ซึ่งอาจประสบภัยอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สิน รวมถึงรับเรื่องราวร้องทุกข์ กรณีเกิดผลัดหลง และสูญหาย อีกทั้งให้คำปรึกษาข้อกฎหมายกับประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือถูกกลั่นแกล้ง โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. จนกว่าการชุมนุมจะยุติ ซึ่งจะทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ถือเป็นการดำเนินการเชิงสิทธิมนุษยชน ไม่ใช่วอร์รูม เพื่อไปทำร้ายใคร

"เหลิม" เย้ยรัฐตื่นตูม

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ วันนี้ จะเป็นผลดีกับพรรคเพื่อไทยในวันหน้า เพราะเท่ากับว่ารัฐบาลหาเสียงให้กับพรรคเพื่อไทยล่วงหน้า ทั้งๆ ที่กลุ่มคนเสื้อแดงก็บอกแล้วว่า จะชุมนุมโดยสงบ สันติ ดังนั้น การกระทำของรัฐบาล จึงเท่ากับเป็นการคิดสั้น ไม่มีสติปัญญา คิดแต่จะออกกฎหมายเพื่อเอาชนะกลุ่มผู้ชุมนุม ไม่คำนึงถึงผลกระทบทั้งต่อการลงทุน และการท่องเที่ยว

"คนเสื้อแดงยังไม่ทันจะมา เหตุก็ยังไม่เกิด แต่รีบประกาศใช้ เพื่ออะไร รัฐบาลคุกคาม ข่มขู่ บังคับไม่ให้คนมาชุมนุม แค่คิดก็ผิดแล้ว เป็นรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยจริงหรือเปล่า" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

ปูดตั้งวอร์รูมที่ลอนดอนทำลาย“แม้ว”

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า มีแหล่งข่าวโทรมาบอกตนว่า มีการตั้งกองบัญชาการอยู่ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อทำลาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่คนที่ตั้งไม่ใช่รัฐบาล และไม่ใช่คนเสื้อแดง

นอกจากนี้ ยังมีแหล่งข่าวบอกตนด้วยว่า มีการวางแผนไว้ 3 ส่วน คือ 1. จะมีการก่อเหตุที่ถนนราชวิถี 2. ให้คนสวมเสื้อแดงทำหน้าเหมือนวิ่งข้ามสะพานปิ่นเกล้า ไปที่โรงพยาบาลศิริราช และ 3.ให้คนเสื้อแดงเทียม 7 ทีมๆ ละ 20 คนไปยิงตามมัสยิดต่างๆ แล้วมีการบันทึกภาพไว้หมดทั้ง 3 ส่วน

เมื่อถามว่า กองบัญชาการที่ตั้งอยู่ที่ลอนดอนนั้นเป็นฝ่ายใด ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เป็นนักการเมือง รับรองว่าข่าวของตนไม่มีผิด เพราะคนกลุ่มนี้ไปพูดกันที่ห้องอาหารไทย แล้วนักเรียนไทยที่นั่นเขาได้ยิน ก็เลยโทรมาบอก

"ห้อย"ขู่ฟ้อง"เหลิม"หมิ่นประมาท

นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วานนี้ นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้โทรศัพท์จากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มาถึงตน ว่า กรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่ามีการตั้งกองบัญชาการที่กรุงลอนดอนเพื่อทำร้ายพ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยการทำแผนป่วนย่านราชวิถี และโรงพยาบาลศิริราชนั้น นายเนวิน ฝากให้ ร.ต.อ.เฉลิม ยืนยันว่า คนที่พูดถึงนั้น หมายถึงนายเนวิน หรือไม่ เพราะเมื่อทำการเช็คล่าสุด มีเพียงนายเนวินที่อยู่ประเทศอังกฤษ ซึ่งการเดินทางไปอังกฤษเพื่อไปทำภารกิจส่วนตัวกับครอบครัว ไปเยี่ยมลูกๆ ซึ่งทางโรงเรียนมีการจัดกิจกรรม และไปดูการแข่งขันฟุตบอล เพื่อนำมาพัฒนาฟุตบอลไทย ในฐานะประธานสโมสรบุรีรัมย์ โดยนายเนวิน เดินทางไปตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. และจะเดินทางกลับประเทศไทย วันที่ 27 มี.ค.

"วันนี้ไม่อยากด่าว่าเอาความเป็นด็อกเตอร์ทางกฎหมายมาพลิกแพลง แต่ถ้าการพูดของ ร.ต.อ.เฉลิม ทำให้สื่อความหมาย จนสังคมเข้าใจผิด คิดว่าบุคคลที่อ้างถึงหมายถึงนายเนวิน ดังนั้น นายเนวินจึงได้มอบหมายให้ผม เตรียมดำเนินการฟ้องแจ้งความหมิ่นประมาท ซึ่งการฟ้องคดีเป็นการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนายเนวิน โดยขอให้ร.ต.อ.เฉลิม พูดให้ชัดว่าหมายถึงใคร" โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว

แฉกว้านซื้อชุดทหาร-กระสุนปืน

นายศุภชัย กล่าวว่า ได้รับทราบว่า ขณะนี้ชุดทหารขาดตลาด มีการไปกวาดซื้อจนหมดเกลี้ยง และกระสุนปืนแถววังบูรพา ก็มีการซื้อขายกันจำนวนมาก จึงเป็นห่วงว่า ประชาชนจะเกิดอันตรายขึ้น รวมถึงผู้ชุมนุม อาจจะตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ โดยการกระทำของฝ่ายเดียวกันเอง

"แม้ว"วีดีโอลิงค์ลั่นไม่แบบเถ้ากระดูก

ส่วนความเคลื่อนไหวที่พรรคเพื่อไทย เมื่อวานนี้ มีการประชุมส.ส.พรรค โดยมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตุว่า ก่อนจะถึงวันชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดง ในวันที่ 14 มี.ค. แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง และแกนนำของพรรคเพื่อไทยสายฮาร์ดคอร์ ต่างเดินทางมาที่ทำการพรรคกันอย่างคึกคัก อาทิ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภา นายชินวัฒน์ หาญบุญพาด แกนนำกลุ่มวิทยุชุมนุมแท็กซี่เรดิโอ นายนิสิต สินธุไพร ผู้ประสานงานเครือข่ายคนเสื้อแดงภาคอีสาน

ในช่วงท้ายการประชุม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้วิดีโอลิงค์ เข้ามาพูดคุยกับ ส.ส.ประมาณ 10 นาที โดยพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวขอบคุณ ส.ส.ทุกคนที่ให้กำลังใจ และให้การสนับสนุนคนเสื้อแดง โดยตนจะขอต่อสู้ต่อไป ไม่หนีไปไหน บางคนชอบกระทำคนอื่นเขาเรียกว่า ซาดิสม์ แต่ตนถูกกระทำตลอดจนชินเสียแล้ว จะขอสู้ต่อไปไม่หนีไปไหน ยิ่งโดนก็ต้องสู้ หากไม่สู้จะเหมือนผู้นำที่เป็นกบฎหลายคนที่ไปเสียชีวิตนอกประเทศ กลับเข้ามาได้แค่เถ้ากระดูก ดังนั้น ต้องต่อสู้จะได้กลับมากกว่านั้น

"พายัพ"เซ็งแดงอีสานบุกขอเงิน 30 ล.

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นายพายัพ ชินวัตร น้องชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะประธานส.ส. ภาคอีสาน ได้ร่วมหารือกับส.ส.อีสาน และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงในสายอีสาน ทั้งนี้ ในช่วงหนึ่งได้มีการหารือถึงการเตรียมความพร้อมในการชุมนุมใหญ่ วันที่ 14 มี.ค. โดย ส.ส.แต่ละคนได้รายงานความเคลื่อนไหวให้ที่ประชุมทราบ ซึ่งส่วนใหญ่ระบุว่ามีความพร้อมอย่างเต็มที่ แต่ปัญหาขณะนี้คือเงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายที่ต้องอยู่ชุมนุมอย่างน้อย 3 วัน จึงมีการขอเงินสนับสนุนจากนายพายัพ จำนวน 30 ล้านบาท ทำให้นายพายัพ ถึงกับตกใจก่อนจะสอบถามว่าจะเอาไปทำอะไร

นายนิสิต สินธุไพร ในฐานะแกนนำกลุ่ม นปช. สายอีสาน ชี้แจงว่า เงินดังกล่าวเป็นค่าน้ำมันในการขนคน ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าอาหาร และค่าอำนวยความสะดวก เพราะแต่ละจังหวัดมีค่าน้ำมันรถที่แตกต่างกัน เช่น ภาคอีสานตอนบนค่าน้ำมันไปกลับจะอยู่ที่ 6,000 บาท แต่ จ.นครราชสีมา และสกลนครนั้น เดินทางไม่ไกลมาก ค่าน้ำมันไปกลับต่อคันจึงอยู่ที่ประมาณ 3,000-4,000 บาท

"จิ๋ว-พัลลภ-เสธ.แดง"เริ่มชิ่ง

มีรายงานข่าวแจ้งด้วยว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย พล.อ.พัลลภ ปื่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย และพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ที่เคยบาดหมางกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่ม นปช.ในเรื่องแนวทางการเคลื่อนไหวนั้น ขณะนี้ต่างไม่มีใครโผล่หน้ามาให้การสนับสนุนการเคลื่อนไหวกับคนเสื้อแดงเลย

"เยาวเรศ"ทอดผ้าป่าค่าน้ำมัน

นายชินวัฒน์ หาญบุญพาด แกนนำกลุ่มเสื้อแดง กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายในการชุมนุมใหญ่ครั้งนี้มีการเปิดรับบริจาคผ่านทางทีวี ตลอด ขณะที่ในต่างจังหวัดก็มีการทอดกฐิน และจัดคอนเสิร์ต เพื่อระดมทุน

นอกจากนี้ ในวันที่ 10 มี.ค.กลุ่มนปช.จะจัดงานทอดผ้าป่าค่าน้ำมัน ในเวลา 10.00 น. ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว โดยจะมีนางเยาวเรศ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณเป็นประธาน คาดว่าน่าจะได้เงินประมาณ 10 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น