xs
xsm
sm
md
lg

หาคนผิดงัด"คลังแสง" ส.ว.ชี้เกลือเป็นหนอน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - “สุเทพ”ลั่น “คลังแสงกองพันทหารช่างที่ 401 พัทลุง” ถูกงัดต้องมีคนรับผิดชอบ ชี้รออีก 3-4 วันรู้ “เลิศรัตน์” ชี้อาวุธหายจากคลังแสง “เกลือเป็นหนอน” จี้ ผบ.จัดการขั้นเด็ดขาด จวกระบบ รปภ.หละหลวม เชื่อมีใบสั่งจากพ่อค้าอาวุธ ด้านบิ๊กทหารภาค 4 ปิดปากเงียบ มีแค่คุมตัวทหารยศจ่า 8 นายที่เข้าเวรไปสอบสวนเท่านั้น


วานนี้ (8 มี.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีการขโมยอาวุธในคลังแสงของกองพันทหารช่างที่ 401 จ.พัทลุงไปหลายรายการเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ตนไม่สามารถพูดได้ว่าเชื่อมโยงกับผู้ที่จะมาชุมนุมใน กทม.หรือไม่ แต่ในฐานะที่ตนรับผิดชอบด้านความมั่นคง ก็รู้สึกกังวลใจ จึงได้สั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดมีการตั้งด่านตรวจค้นอาวุธ พาหนะ ที่จะเดินทางเข้ามา กทม.ทุกเส้นทางเพื่อป้องกันอย่างเต็มที่แล้ว

"กรณีที่อาวุธหายไปจากคลังแสงนั้น ผมได้สั่งให้กองทัพไปสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อรายงานมาแล้ว ขอให้สบายใจได้ว่าเรื่องจะต้องมีคนที่รับผิดชอบ เพราะอยู่ๆ อาวุธยุทโธปกรณ์ของหลวงจะหายไปโดยไม่มีคนรับผิดชอบไม่ได้ แต่ต้องรอให้เขาสืบสวนสอบสวนให้ชัดเจนเสียก่อน ซึ่งคงจะใช้เวลา 3-4 วัน จากนั้นก็จะมาเรียนให้ทราบ" นายสุเทพ กล่าว

“เลิศรัตน์” ชี้อาวุธหาย“เกลือเป็นหนอน”

ด้าน พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา กล่าวในประเด็นเดียวกันว่า อาวุธที่หายในหน่วยทหารมีขึ้นเป็นระยะ คิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัย ผู้บังคับบัญชาต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นการย้ายออกจากตำแหน่งไปก่อน เพื่อดำเนินการสอบสวนอย่างจริงจัง จะต้องไม่รอมชอม ส่วนใหญ่อาวุธที่หายลักษณะเช่นนี้ จะมีใบสั่งเข้ามา เพื่อนำไปขายในต่างประเทศส่วนใหญ่ เป็นขบวนการค้าอาวุธข้ามชาติ คงไม่ใช่การเข้ามาปั่นป่วนในบ้านเรา เพราะว่าอาวุธสงครามที่มีกระจัดกระจายในบ้านเรา ส่วนใหญ่ก็มาจากต่างประเทศและชายแดน ซึ่งส่วนใหญ่และส่วนหนึ่งก็เป็นการเก็บมาจากการฝึกของหน่วยทหาร หรือตำรวจ แต่ก็ไม่ได้มีจำนวนมาก แต่ก็ทำการอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้มีผู้ครอบครองอาวุธสงครามเหล่านี้จำนวนหนึ่ง ถือว่าเป็นเรื่องที่อันตราย ต้องกำชับตรงนั้นด้วย ซึ่งมีการรั่วไหลมาจากหน่วยทหาร หรือตำรวจ ที่ถือว่าได้จำหน่ายใช้ไปในการฝึกแล้ว แต่ในความเป็นจริงไม่ได้ฝึกทั้งหมด แต่มีการลักลอบนำออกมา

พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวต่อว่า ส่วนอาวุธที่หายจากคลังแสงก็มีบ้างเป็นครั้งคราว ไม่บ่อยนัก แต่ถือว่ามีความหละหลวมเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ไม่น่าให้อภัย ต้องให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นจัดการอย่างเด็ดขาด เพราะว่าถ้าไม่มีการร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ภายในกองรักษาการ เจ้าหน้าที่ประจำเวร กองร้อยต่างๆ คงไม่สามารถนำอาวุธเหล่านี้ออกมาได้ จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นในหน่วยทหารของเรา

เมื่อถามว่าเป็นฝีมือคนในใช่หรือไม่ พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวว่า แน่นอน ทุกครั้งที่มีอาวุธหายจากคลังแสง ต้องมีคนในมีส่วนรับรู้ ยกเว้นที่ถูกปล้นเช่นจากเหตุการณ์ที่นราธิวาส แต่หายในลักษณะเช่นนี้แสดงว่าต้องมีคนในหรือคนในครอบครัวล่วงรู้

"ยืนยันว่าไม่ใช่ฝีมือของผู้ที่จะนำมาก่อความรุนแรง คงไม่มีใครขนกระสุนอาวุธ ระเบิดจำนวนมากมาสู้กันบนถนนอย่างแน่นอน แต่ไม่ได้หมายความว่าคนที่เคลื่อนไหวในรูปแบบต่างๆ จะไม่ครอบครองอาวุธสงคราม ไม่อยากให้เราโยงเรื่องที่มันไม่มีเหตุมีผล จะเพิ่มความแตกแยกความรู้สึกที่จะเป็นปฏิปักษ์ต่อกันมากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนที่ปัญหาสำคัญของบ้านเมืองเรา ถ้าเราไม่หาทางออมชอม หรือสร้างความปรองดองกันมากขึ้น ซึ่งเมื่อสิ้นการชุมนุมในสับดาห์ที่จะถึงนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าคนไทยจะกลับมารักใคร่กัน ซึ่งก็ไม่ใช่การแก้ปัญหาในระยะยาวที่ยั่งยืน เราจะต้องช่วยกัน โดยเฉพาะรัฐบาลที่มีอำนาจ มีสิทธิที่จะดำเนินการเรื่องเหล่านี้ได้"

โจรในเครื่องแบบ!

ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงความคืบหน้าในเรื่องนี้ว่า พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ชี้แจงว่าระเบิดและกระสุนปืนที่หายไปนั้นมีความเป็นไปได้ว่า จะเป็นคนในกองทัพที่ขโมยไป เนื่องจากการตรวจสอบใช้เวลาไม่มากนัก และมีความเป็นไปได้ว่าใช้เวลารีบเร่งพอสมควร ซึ่งสิ่งที่แม่ทัพภาคที่ 4 กระทำได้ในขณะนี้ คือ การตั้งคณะกรรมการสอบสวน และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบและเก็บข้อมูลหลักฐาน นอกจากนี้ประสานกับนิติวิทยาศาสตร์ ในการเก็บข้อมูลหลักฐานที่หลงเหลืออยู่ รวมทั้งอะไรที่สามารถตรวจสอบดีเอ็นเอ.ได้ก็จะดำเนินการ

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งให้กักบริเวณเจ้าหน้าที่ที่เข้าเวรยามทั้งหมด ที่เกี่ยวข้องไม่เฉพาะคลังกระสุนเท่านั้น รวมถึงเวรยามคลังน้ำมัน กองร้อยโรงรถทั้งในพลัดเวลาเดียวกันนั้นและพลัดเวลาใกล้เคียงกัน ซึ่งเชื่อว่าบุคคลทั้งหลายเหล่านี้มีเบาะแสมากพอสมควร

"สุริยะใส"ชี้อาจมีไส้ศึกของคนมีสี

นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า จ.พัทลุง มีเครือข่ายคนเสื้อแดงที่เข้มแข็งสุดในพื้นที่ภาคใต้ เพราะมีสหายเก่าค่อนข้างเข้มแข็งเป็นรูปธรรรมและจากการตรวจสอบที่ตนได้รับทราบนั้น อาจมีไส้ศึกของคนมีสี ที่เป็นเสื้อแดงเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกรณีอาวุธคลังแสง จ.พัทลุงสูญหาย โดยไม่น่าจะเป็นการงัดไปเพื่อค้าขายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และควรตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมต้องสูญหายไปช่วงใกล้ชุมนุมด้วย

"ผมไม่เชื่อว่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ของรัฐบาลเองตามที่กลุ่มเสื้อแดงอ้าง"

บิ๊กทหารภาค 4 ต่างปิดปากกันเงียบ

วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่บริเวณค่ายอภัยบริรักษ์ ต.ชุมพล อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง ที่คลังแสงถูกโจรกรรมบริเวณด้านหน้าของค่าย พบเจ้าหน้าที่ทหารได้เพิ่มความเข้มในการรักษาความปลอดภัย โดยตรวจตรารถเข้าออกทุกคัน พร้อมห้ามบุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าโดยเด็ดขาด ส่วนข้อมูลการสูญหายของระเบิดและเครื่องกระสุน ผบ.กองพันยังคงปิดปากเงียบไม่ยอมให้ข้อมูลแต่อย่างใด

แหล่งข่าวจากกองทัพภาค 4 เผยว่า หลังจาก พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาค 4 ลงพื้นที่เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา ก็ได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นชุดหนึ่งในการตรวจสอบอาวุธที่หายไปจากคลังแสงของกองพันทหารช่าง 401 ค่ายอภัยบริรักษ์ฯ โดยมี พล.ต.สุวิช วิชิตการ ผบ.ร.5 เป็นประธานฯ และแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ เป็นกรรมการ
กำลังโหลดความคิดเห็น