xs
xsm
sm
md
lg

ทักษิณ-ปัญหาความมั่นคงของชาติไทย!

เผยแพร่:   โดย: ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

คดีร่ำรวยผิดปกติ 76,000 ล้านบาทของ นักโทษชายหนีคุก ทักษิณ ชินวัตร ทำให้คนไทยทั้งชาติ “ตาสว่าง-ปัญญาบรรเจิด” ยิ่งขึ้น!

26 กุมภาพันธ์ 2553 องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 9 ท่าน ได้ตัดสินยึดทรัพย์ที่ได้มาโดยมิชอบเข้ารัฐ 46,000 กว่าล้านบาท โดยทักษิณได้คืน 32,000 กว่าล้านบาท จากยอดเงินที่อายัดไว้ทั้งหมด 76,000 กว่าล้านบาท

เป็นเรื่องน่ายินดีที่เงิน 46,000 ล้านบาท ซึ่งศาลตัดสินว่าทักษิณได้มาโดยมิชอบ ได้ถูกยึดให้กลับคืนสู่รัฐ..แม้นศาลจะมิได้ยึดคืนทั้งหมด แต่ก็ยังดีกว่าที่เงินชั่วๆ จะตกไปอยู่ในมือทักษิณทั้ง 76,000 กว่าล้านบาท..จริงไหม?

คดีความยึดทรัพย์ทักษิณครั้งนี้ ทำให้เกิดข้อคิดทั้งบวกและลบมากมาย รวมทั้งยังมองเห็นถึงสถานการณ์ทางการเมืองว่า อะไรกำลังจะเกิดขึ้นกับบ้านนี้เมืองนี้?

บทพิสูจน์ที่สำคัญและชัดเจน คือ เงิน-เป็นต้นทุนสำคัญที่สุด ที่นักธุรกิจการเมืองจะใช้ซื้ออำนาจรัฐมาไว้ในกำมือ ก่อนจะใช้อำนาจรัฐที่ได้มาโดยฉ้อฉล ไปเที่ยวแสวงหาเงินตราเพิ่มขึ้นจากโครงการคอร์รัปชันของรัฐและเอกชน

หากทักษิณไม่มีเงินมากมายล้นฟ้า หรือมีเงินทองแค่ไม่กี่ล้านบาท ทักษิณย่อมไม่มีวันจะได้เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ ไม่มีเงินที่จะซื้อตัว ส.ส.เกรดเอมาเข้าสังกัดพรรคตน ไม่มีปัญญาจะซื้อพรรคการเมืองอื่นมาผสมพันธุ์กับพรรคตน

อีกทั้งทักษิณย่อมไร้ศักยภาพ ที่จะซื้อ ส.ว.ในสภาสูงมาเป็นพรรคพวก เพื่อแทรกแซงการคัดสรรกรรมการเข้าไปอยู่ในองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหาร หรือรัฐบาลอย่างแน่นอน

ที่สำคัญที่สุด..ทักษิณย่อมไม่มีวันที่จะได้เผยอหน้า ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย และนั่นหมายถึง..ทักษิณย่อมไม่มีโอกาสที่จะได้โกงชาติบ้านเมืองไงล่ะครับ

เงิน-เมื่ออยู่ในมือคนชั่วช้า..เงินย่อมถูกใช้ไปเพื่อแสวงหาอำนาจ และผลประโยชน์อย่างสามานย์-ไร้ซึ่งคุณธรรม-จริยธรรม ส่วนใหญ่แล้ว..หากนักการเมืองคนใดไร้เงิน..เขาก็จะไร้อำนาจ เขาไม่อาจเป็นหัวหน้าแก๊ง-หัวหน้าก๊วน-หัวหน้าพรรค หรือหากจะได้เป็นหัวหน้าพรรค..ก็เป็นได้แค่หุ่นเชิดเท่านั้นเอง

บทพิสูจน์ที่ศาลทำได้ดีมากๆ และน่ายกย่อง ก็คือ การจาระไนอย่างละเอียดชัดเจนให้เห็นว่าทักษิณเป็นนายกฯ ที่..รวยแล้วยังโกง แถมโกงมากมายเป็นประวัติการณ์อีกด้วย โกงทั้งแบบซับซ้อน แนบเนียบ และไม่แนบเนียน เพราะการโกงในบางห้วงนั้น..อยู่ในช่วงเหิมเกริม คิดว่ากฎหมายจะยื่นมือมาลงโทษพวกตนไม่ได้ ด้วยมีอำนาจรัฐไว้ในกำมือนั่นเอง

แต่สุดท้ายคดียึดทรัพย์ที่ได้มาแบบผิดปกติ 76,000 กว่าล้านบาทนั้น มิเพียงเงินไม่โปร่งใสจะถูกยึดเกินกว่ากึ่งหนึ่งเท่านั้น หากแต่ยังจะมีคดีความทั้งแพ่งและอาญา ตามไล่ล่าทักษิณกับครอบครัว คณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีบางคน รวมทั้งข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ ที่เกี่ยวข้องมีส่วนได้ส่วนเสียกับทักษิณอย่างมากมายอีกด้วย

เพราะรัฐบาลใดก็ตามที่มีโอกาสเข้ามาบริหารชาติบ้านเมือง ล้วนจะต้องดำเนินคดีความต่อจากคำพิพากษาของศาลฎีกาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะขืนดึงถ่วงหรือไม่ทำอะไรต่อจากคำพิพากษาของศาล ย่อมหนีไม่พ้นที่จะต้องโดนข้อหา..ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือไม่ก็..ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบครับ

สำหรับการยึดทรัพย์เพียง 46,000 กว่าล้านบาทนั้น หลายคนกลับมองว่า..น่าจะยึดทั้งหมด เพราะความเสียหายต่อการกระทำฉ้อฉลครั้งนี้ รัฐจะต้องเสียหายมากกว่าเงิน76,000 กว่าล้านบาทอย่างแน่นอน เพราะรัฐเสียเปรียบ..อีกทั้งยังสูญเสียโอกาส ในการทำธุรกรรมกับเอกชนรายอื่น สูญเสียรายได้ที่รัฐพึงจะได้หรือควรได้ เพราะรัฐไปทำธุรกรรมกับคู่สัญญาที่ไร้คุณภาพ-เอาเปรียบ-ไม่ซื่อสัตย์-ไร้คุณธรรม ไม่ทำตามตัวบทกฎหมายหรือสัญญาที่ได้เซ็นตกลงกันไว้

เปรียบเสมือน..ชาวนาคนหนึ่ง..ทำนาหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินอย่างสุจริต จนเก็บเงินทองได้ 1 ล้านบาท ทว่า..หลังจากนั้น..ชาวนาผู้นี้เปลี่ยนไป เพราะเขาได้นำเงิน 1 ล้านบาท แอบไปซื้อยาบ้ามาขาย..จนร่ำรวยมีเงินหลายสิบล้านบาท สุดท้ายกรรมชั่วก็ตามสนอง ชาวนาผู้นั้นถูกตำรวจจับได้ว่า..เขาค้ายาเสพติด

ชาวนาผู้นี้..ได้ร้องต่อศาลว่า เงิน 1 ล้านบาทแรกของตนนั้น..เป็นเงินบริสุทธิ์ มีหรือได้มาก่อนจะค้ายาบ้า จึงขอให้ศาลคืนเงินจำนวน 1 ล้านบาทให้แก่ตนด้วย เพราะเงินนั้นบริสุทธิ์จะยึดก็ยึดเฉพาะเงินที่ตนได้มา ในภายหลังหรือรวยมาโดยไม่ปกติสิ..

หากไม่มีเงิน 1 ล้านบาท (แม้นจะบริสุทธิ์) ชาวนาผู้นั้นก็จะไม่มีทุนริเริ่ม แน่นอน..สังคมนี้ก็จะไม่มีชาวนาคนนั้นไปซื้อขาย-ยาบ้าใช่หรือไม่? การยึดทรัพย์ชาวนาจะต้องยึดหมด หรือจะต้องยกเว้นการยึดเงินล้านแรกของชาวนาด้วยล่ะ?

สำหรับผมแล้ว..ผมคงมีความเห็นตรงกับผู้พิพากษา 2 ท่าน นั่นคือ ยึดเงินทั้งหมดครับ!

บทพิสูจน์ที่ไม่ต้องเสียเวลาถาม ก็คือ การปล่อยเงินอีก 32,000 กว่าล้านบาทคืนให้กับทักษิณนั้น เสมือนนิทานอีสปเรื่อง “ชาวนากับงูเห่า” เพราะงูเห่า-ทักษิณไม่เคยรู้สำนึกในความกรุณาปรานีของศาลเลย อีกทั้งทักษิณยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่า..เขากระทำกรรมชั่วและเขามีความผิดกับการร่ำรวยผิดปกติคราครั้งเป็นนายกฯ อย่างไรบ้าง?

ทักษิณยังคงก่นด่าประณามศาลอย่างหน้าด้านๆ ว่า ศาลใช้สองมาตราฐานตัดสินคดีความของเขา ศาลกลั่นแกล้งเขา-เพราะศาลไปทำตามคำสั่งเผด็จการและอำมาตย์ รวมทั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์อีกด้วย

ลงท้าย..ทักษิณยังประกาศจะสู้จนกว่าดินกลบหน้า จะยาตรากองทัพแดงทั่วแผ่นดินมาล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ หรือทำให้เกิดการเลือกตั้งครั้งใหม่ ด้วยหวังว่า..จะซื้อเสียงผู้คนในชนบทจนชนะคู่แข่ง ก่อนจะหวนกลับมายึดครองอำนาจรัฐอีกครั้งหนึ่ง

โอกาสที่ทักษิณจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งนั้น..เป็นไปไม่ได้ แต่การใช้เงินมหาศาลที่ซุกซ่อนไว้..ผลักดันให้พรรคการเมืองของตนชนะการเลือกตั้ง..และมีโอกาสตั้งรัฐบาลนั้น..ยังพอมีหวังอยู่บ้าง และความหวังดังกล่าวมิเลื่อนลอยเกินไขว่คว้าเลย

แต่การร่วมรัฐบาลนั้น..อำนาจเด็ดขาดย่อมไม่มี รัฐบาลในระบอบประชาธิปไตย..จะเที่ยวออกกฎหมายนิรโทษกรรมความผิดให้ทักษิณทั้งหมด คงเป็นไปไม่ได้ง่ายๆ ดังปรารถนา อย่างมากทักษิณอาจจะล็อกกระทรวงสำคัญๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีความของตนและครอบครัวอย่างกระทรวงยุติธรรม รวมทั้งอาจจะขอกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฯลฯ

อย่างไรก็ตาม..หากจะนิรโทษกรรม ความผิดทั้งปวงของตนและครอบครัว ก็มีเพียงหนทางเดียวเท่านั้นครับ นั่นคือ ต้องใช้วิธีพิเศษ..วิธีพิเศษนี้จะเกิดขึ้นได้ ต้องมีสถานการณ์รุนแรงเกิดขึ้น และต้องรุนแรง-ร้ายแรงกว่า “สงกรานต์เลือด” ที่ผ่านมาครับ

ต้องยอมรับว่า..คำพิพากษาของศาลครั้งนี้สำคัญยิ่ง เพราะได้ทำร้ายทักษิณและครอบครัวเข้าจังเบอร์ ศาลได้จาระไนรายละเอียดการกระทำความผิดของทักษิณออกมาจนหมดเปลือกรู้กันไปทั่วโลก ทักษิณเองก็รู้ดีว่า..บัดนี้ความน่าเชื่อถือของตนนั้น..แทบหมดสิ้น แถมความผิดที่จะตามมามากมายทั้งคดีแพ่งและอาญา

หากปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินยืดยาวต่อไปเช่นนี้ รัฐบาลอภิสิทธิ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคดีความของทักษิณ จะต้องเดินหน้าดำเนินคดีต่ออย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ นั่นเท่ากับทักษิณและภริยาจะเป็นผู้ก่อภัยให้กับตนเองและลูกๆ ที่ถูกดึงเข้าสู่วงจรแห่งการกระทำความผิดในคดีซุกหุ้นและคดีอื่นๆ จนอาจถึงขั้นติดคุกติดตารางได้ในอนาคต

ทักษิณยามนี้..จึงเคร่งเครียดผ่านจอทวิตเตอร์ เผยให้เห็นทีท่าทุรนทุราย-ฟูมฟาย-ร้อนรน-ลุกลี้ลุกลน-กระวนกระวายใจ เพราะภัยที่ตนและภริยาก่อกรรมทำชั่วไว้ กำลังจะเป็น “กรรมติดจรวด” ยิงมาใส่ครอบครัวตนแล้ว

ยิ่งเข้าตาจน-ยิ่งต้องสู้ ดังนั้น..การเมืองนอกสภา..ทักษิณต้องทุ่มทุนมหาศาล ให้บรรดา ส.ส.และพวก 3 เกลอหัวขวด-ตะกวดเมิน ขนผู้คนเข้ามาป่วนบ้านป่วนเมืองให้มากที่สุด แน่นอน..ทั้งหมดก็เพื่อสร้างสถานการณ์รุนแรง-ร้ายแรง หวังจะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองโดยเร็วที่สุด!

หนทางสู้ในสภา..ก็เหมือนเดิม ต้องเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอภิสิทธิ์ แอบใช้เงินซื้อ ส.ส.และพรรคร่วมรัฐบาลให้พลิกขั้วมาหนุนพรรคตน โดยยกตำแหน่งนายกฯ และกระทรวงสำคัญให้กับพรรคร่วมรัฐบาล ขอเพียงแค่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเท่านั้นก็พอใจแล้ว..

การดึงพรรคร่วมรัฐบาลมาได้ ก็จะมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งในสภากว่า 30 เสียง โดยทิ้งพรรค ปชป.กับพรรคภูมิใจไทยให้เป็นฝ่ายค้าน
แต่นั่น..มิใช่เรื่องง่าย..ทว่า..ก็มิใช่เรื่องเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะนักการเมืองไทยนั้นถือสูตร..ไม่มีมิตรแท้-ไม่มีศัตรูถาวร มีแต่ผลประโยชน์ตนและพวกพ้องเป็นที่ตั้ง

หากพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน..คิดจะหักหลัง ปชป.กับภูมิใจไทยล่ะก้อ เชื่อขนมกินได้เลยว่า..นายกฯ อภิสิทธิ์จะแก้เกมด้วยการยุบสภาอย่างแน่นอน

ถึงพรรคเพื่อไทยจะใช้เงินซื้อเสียงชนะเลือกตั้งมาอย่างฉ้อฉล จนได้กลับมาคุมอำนาจรัฐอีกครั้งหนึ่ง..คิดหรือว่า..บ้านเมืองจะสงบหรือ?

เห็นไหมครับว่า..ปัญหาชาติไทยที่วุ่นวายวินาศสันตะโร ทั้งในอดีต-ปัจจุบัน-อนาคตล้วนเกิดจากคนคนเดียวที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร คนคนเดียวที่ทำให้การเมืองไม่สงบ คนคนเดียวที่ทำให้สถาบันสูงสุดไม่มั่นคง คนคนเดียวที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนไปทั่วทุกหย่อมหญ้า คนคนเดียวที่ทำให้ประเทศชาติไม่มั่นคง ฯลฯ

ทักษิณ..คนเดียว..ที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติไทย!!!
กำลังโหลดความคิดเห็น