xs
xsm
sm
md
lg

“กรรมติดจรวด” ตามยิง “ตะกวด” จนตาย!!!

เผยแพร่:   โดย: ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

ทำดีได้ดี..ทำชั่วได้ชั่ว..เป็นเรื่องที่มนุษย์รุ่นใหม่ไม่ยึดถือ เพราะสังคมไทยเห็นแต่“คนทำดี-ได้ดี-มีที่ไหน คนทำชั่ว-ได้ดี-มีถมไป”ในประเทศไทยครับ

ยิ่งเรื่อง “เวรกรรม” ด้วยแล้ว...คนไทยรุ่นใหม่ยิ่งไม่เชื่อใหญ่ เพราะเห็นคนทำชั่ว-ยังอยู่ดี-ยังกินดี-ยังร่ำรวย-ยังลอยนวล อยู่ในโลกกลมๆ ใบนี้อย่างมี “ความสุข”มากมาย

รูปธรรมที่เห็นกันโต้งๆ ตอนนี้หนีไม่พ้น กระทาชายนักโทษหนีคุก ทักษิณ ชินวัตร ครับ!

ทักษิณ ชินวัตร มีเงินทองร่ำรวยล้นฟ้า เป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีของโลก ที่ควรจะมีความสุขสมหวังในชีวิต แต่ไม่รู้จักคำว่า “พอเพียง” อย่างแท้จริง หัวใจทักษิณจึงเต็มไปด้วยความละโมบถึงกับใช้เงินซื้ออำนาจกรุยทางสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย

พอมีอำนาจบริหารชาติ..แทนที่จะทำความดีให้ผู้คนสรรเสริญ กลับดันใช้อำนาจอย่างมัวเมากับการหาเงินทองเข้ากระเป๋าตนเองและพรรคพวกไม่กี่คน ยุคทักษิณ..จึงเกิดการโกงกินสารพัดรูปแบบ ทั้งคอร์รัปชันเชิงนโยบาย..กินคำโตโดยไม่กลัวติดคอ และคอร์รัปชันแบบจิ๊บๆ จ๊อยๆ เล็กๆ
น้อยๆอีกด้วย

ที่สำคัญก็คือ..ความเหิมเกริมทางการเมืองของทักษิณ ที่เชื่อว่าทุกสิ่งในโลกนี้..ซื้อได้และสั่งได้ด้วยเงิน จนเกิดความคิดอยากขึ้นเป็นใหญ่ที่สุดในผืนแผ่นดินไทย

ทักษิณเริ่มต้นด้วยการใช้นักวิชาการซ้ายๆ ใช้นักเคลื่อนไหวทางการเมืองซ้ายๆ ใช้นักการเมืองซ้ายๆ รวมทั้งใช้อดีตคอมมิวนิสต์ไร้เดียงสาบางคน ที่กินเงินเดือนอยู่ในและนอกแก๊งชินคอร์ป วิเคราะห์สภาพสังคมไทยอย่างผิดๆ ด้วยข้อสรุปที่ว่า...

ยุคศักดินาอ่อนแอใกล้ล้มลงแล้ว สังคมไทยจะเปลี่ยนเป็นทุนนิยมนั้น..อยู่แค่เอื้อม ระบอบทุนนิยมผูกขาดสามานย์แบบทักษิณ จะต้องเติบโตเข้ายึดครองผืนแผ่นดินไทย แทนระบอบศักดินาในอนาคตอันใกล้นี้อย่างแน่นอน

ยุคทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีนั่นเอง จึงเกิดขบวนการโค่นล้มเจ้าหรือสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่เบื้องหลังมีอภิมหาเศรษฐีบางคนหนุนหลังทั้งลับและเปิดเผย อย่างเป็นระบบและต่อเนื่องโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง

ที่สำคัญ..คนในขบวนการล้มเจ้าบางคน ยังได้ดิบได้ดีได้เป็นถึงข้าราชการการเมืองในยุคที่ทักษิณครองอำนาจล้นฟ้าอีกต่างหาก โดยเฉพาะยุครัฐบาลนอมินีทักษิณอย่าง นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายจักรภพ เพ็ญแข บุคคลผู้จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ถึงกับได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรี เรียกว่า..เป็นยุคของ..วันฟ้าสีทองผ่องอำไพ สำหรับบรรดาสหายล้มเจ้ากันเลยทีเดียวเชียวแหละ

วันที่รัฐบาลนอมินี สมัคร สุนทรเวช และสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ยึดอำนาจรัฐไว้ในกำมือนั้น มิใช่มีเพียงบรรดาสหายล้มเจ้าออกมากระทำกรรมชั่วเท่านั้น หากแต่ยังมีข้าราชการที่เห็นแก่อำนาจลาภยศอีกไม่น้อย ที่หลับหูหลับตารับใช้ระบอบทักษิณ โดยไม่ใช้สติสัมปชัญญะในการจำแนกถูก-ผิด-ชั่ว-ดีแม้แต่น้อย

หนึ่งในความหฤโหดที่นักการเมืองสามานย์กับข้าราชการชั่วของระบอบทักษิณ ชินวัตร กลุ่มหนึ่ง จงใจร่วมกันฆ่าผู้คนที่มาชุมนุมอย่างสงบ ตามสิทธิกฎหมายรัฐธรรมนูญด้วยอาวุธสงครามกลางกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551

เพียงเพราะรัฐบาลนอมินีทักษิณ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ดึงดันจะเข้าแถลงนโยบายก่อนบริหารราชการแผ่นดินที่รัฐสภา รัฐบาลฆาตกรสมชายจึงได้สั่งการให้ตำรวจที่มาดูแลการชุมนุมอย่างสงบด้วยสองมือเปล่าของประชาชนชาวพันธมิตรฯ ด้วยการใช้อาวุธสงครามนานาชนิด ระดมยิงกระหน่ำใส่ตั้งแต่เช้ามืด..จนสาย..บ่ายคล้อย..จรดค่ำ!

การสั่งตำรวจปราบปรามประชาชนอย่างโหดเหี้ยมของรัฐบาลนอมินี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในครั้งนั้น ทำให้ประชาชนตาย 2 ศพ พิการ-บาดเจ็บมากมายกว่า 800 คน!!

ยุคดิจิตอล..ได้ทำให้หลักฐานการปราบปรามประชาชนอย่างป่าเถื่อนครั้งนี้ ถูกบันทึกเป็นทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยสารพัดกล้องของผู้สื่อข่าวจากทุกค่าย ก่อนภาพหฤโหดเหล่านั้นจะได้รับการเผยแพร่ทุกแง่มุมสู่สายตาชาวไทยและชาวโลกในทันที!!!

7 ตุลาคม 2551 มนุษย์ทั้งโลกจึงเห็นภาพ..มนุษย์ล้มตายต่อหน้าต่อตา ก่อนเวลาอันสมควรกลางห่ากระสุนสารพัดชนิด ที่ระดมยิงเข้าใส่ราวห่าฝนจากน้ำมือฆาตกรสีกากี! ภาพ..เลือดสดๆ มากมายก่ายกองไหลหลั่งจากร่างกายมนุษย์นับไม่ถ้วน ราดรดทาบทาสู่ท้องถนน..ด้วยห่ากระสุนและระเบิดนานาชนิด ได้เชือดเฉือนอวัยวะมนุษย์คนแล้วคนเล่า จนเสียงครวญครางอย่างเจ็บปวดดังระงมทั่วอาณาบริเวณ มนุษย์จำนวนไม่น้อยต้องพบกับความพิกลพิการในทันทีทันใด! ภาพ..มนุษย์นับไม่ถ้วนร้องไห้สะอึกสะอื้น โดยมีน้ำตาเค็มปร่าไหลนองผ่านใบหน้า..ก่อนจะหยาดหยดลงสู่ท้องถนน ด้วยความคับแค้น-อัดอั้น-ตันใจกับภาพหฤโหดที่ “ฆาตกรสีกากี” ทั้งยิงทั้งขว้างระเบิดทำร้ายผู้คนที่มีเพียงสองมือเปล่า..ตั้งแต่เช้ามืด..จรดค่ำคืน...!

ความผิดที่ ป.ป.ช.ชี้มูลครั้งนี้มี 4 คน หนึ่ง - ผัวซาลาเปาแดงแรงฤทธิ์ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีนอมินีทักษิณ สอง - พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรีรัฐบาลนอมินีทักษิณยุคสมชาย สาม - พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สี่ - พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ทำตามคำสั่งรัฐบาลนอมินีทักษิณ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์

ความผิดนี้..นักการเมือง 2 คน โดนคดีอาญาเต็มๆ ส่วนข้าราชการสองหน่อโดนลงโทษ ทั้งวินัยร้ายแรงและคดีอาญาไปพร้อมๆ กัน

ผมนึกถึงบทกวีชาวบ้านที่ว่า..กรรมติดจรวด-ตามยิง “ตะกวด” จนตาย! ในขณะนี้ชาวบ้านร้านถิ่นระบุว่า..เวรกรรมติดจรวด-ตามสนองพวกนักการเมืองและข้าราชการตำรวจกลุ่มนี้ ซึ่งจงใจ-ตั้งใจเข่นฆ่าคนไทยผู้บริสุทธิ์กลางเมืองหลวงอย่างไร้ความปรานี เพียงเพราะหลงมัวเมาในอำนาจอย่างผิดๆ ไงล่ะครับ

ส่วนบรรดาตำรวจอีกมากมายหลายคนที่เห็นตำตาในภาพ ที่มีการกระทำเป็นพวกหมาหมู่กระหายเลือดรุมฆ่าคนอย่างป่าเถื่อนนั้น ป.ป.ช.ได้ตัดสินใจยกประโยชน์ให้จำเลย ในฐานะปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา ด้วยการปล่อยให้เวรกรรม..ตามล้างตามเช็ดเอง!

แต่ประชาชนชาวพันธมิตรฯ จะยอมให้ตำรวจชั่วบางคนที่ ป.ป.ช.ปล่อยให้ลอยนวลนั้น..ยังคงใช้ชีวิตอย่างไร้ความผิดใดๆ จากการฆ่าคนกระนั้นหรือ?

กรณีการใช้อำนาจอย่างไม่ถูกต้องสังหารประชาชน เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 นั้น เป็นอุทาหรณ์ให้กับสังคมไทยโดยเฉพาะผู้คุมอำนาจรัฐต้องคิดว่า อำนาจนั้น..เป็นดาบสองคม..

อำนาจอยู่ในมือคนชั่ว คนดีจะถูกรังแกเข่นฆ่า..ชาติบ้านเมืองจะเกิดกลียุค แต่หากอำนาจอยู่ในมือคนดี-เก่ง-กล้า อำนาจจะนำสันติสุขมาสู่ชาติบ้านเมือง เพราะคนดีจะได้รับการส่งเสริมยกย่อง ในขณะที่คนชั่วจะต้องถูกสังคมกีดกันมิให้ขึ้นเป็นใหญ่เป็นโตในทุกหัวระแหง

วันนี้...หากคนดีมานั่งพิเคราะห์สังคมไทยจะพบว่า คนชั่วได้เข้ามายึดครองเวทีทางการเมืองไว้ในกำมือเรียบร้อยแล้ว คนดี-ที่แม้จะมีมากกว่าคนชั่วอย่างเทียบกันไม่ได้ แต่คนดีกลับเร้นกาย-ไม่กล้า-รักสงบ-รักสันติเกินไป ทำให้คนชั่วผยอง..จนเข้ายึดครองทุกมิติทางการเมืองไทยไว้แทบไม่เหลือหรออีกแล้ว

เดี๋ยวนี้...ท่านผู้อ่านทราบหรือไม่ว่า พวกนักการเมืองชั่วแทบทุกแห่งในประเทศ ได้ส่งคนของตนลงซื้อเสียงและโกงการเลือกตั้ง ทั้งในระดับผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ผู้บริหารอบต. อบจ. เพราะตำแหน่งเหล่านั้นสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประชาชน ที่สำคัญ..กฎหมายรัฐธรรมนูญได้ระบุให้รัฐส่วนกลางต้องกระจายเงินงบประมาณลงสู่ท้องถิ่น

ดังนั้น..นักการเมืองชั่วจึงตาโตดังไข่ห่าน เพราะเงิน-เงิน-เงินงบประมาณมากมายมหาศาลจะต้องไหลจากส่วนกลางลงสู่องค์กรท้องถิ่น ผู้บริหารทั้ง อบจ.และอบต.จำนวนไม่น้อย จึงกลายเป็นพวกร่ำรวย..รวยกันจนพุงปลิ้นเป็นแถบๆ เลยครับ

การเลือกตั้ง อบต.ทั่วประเทศที่ผ่านมา จึงเต็มไปด้วยข่าวการใช้เงินซื้อเสียง และโกงเลือกตั้งตามหน้าสื่อมวลชนไงล่ะครับ

การจะปราบหรือขจัดคนชั่วทางการเมืองนั้น..จะทำยังไงล่ะ? นั่นเป็นคำถามที่หลายคนถามผมแบบตรงไปตรงมา และผมก็ตอบแบบตรงไปตรงมาเช่นกันว่า..

สังคมไทยเหมือนน้ำในแก้ว หากน้ำดีมีมาก..น้ำในแก้วก็เป็น-น้ำดี แต่หากน้ำในแก้ว..มีน้ำเสียมากกว่า-น้ำดี น้ำในแก้วก็เป็น-น้ำเน่า สังคมไทยตอนนี้..เป็นน้ำอะไรน่ะหรือ? แหม..ไม่น่าถามให้เสียเวลาตอบเลย..น้ำเน่า..น้ำเน่าแน่นอน 100% ครับ

ดูสิ..สังคมไทยตอนนี้-ขณะนี้-เดี๋ยวนี้ เวทีการเมือง..มีนักการเมือง-น้ำเน่า มากกว่านักการเมือง-น้ำดี ยิ่งมีการใช้เงินซื้อเสียงและโกงการเลือกตั้งด้วยแล้ว สังคมการเมืองของประเทศไทย..ยิ่งเน่าเฟะใหญ่ จึงไม่แปลกใจที่เราจะเห็นนักการเมืองดีในสนามเลือกตั้ง ซึ่งมีน้อยอยู่แล้ว..ต้องตกกระป๋องกันเป็นทิวแถว ในขณะที่นักการเมืองชั่วจำนวนมากมาย เรียงแถวเข้าสภา-เสวยอำนาจโกงบ้านโกงเมืองกันอย่างไม่อายต่อฟ้าและดินไงล่ะครับ

ดังนั้น หนทางแก้ไขเบื้องต้น สังคมไทยจำเป็นต้องมีพรรคการเมืองที่ดี เพื่อให้คนดีมีอุดมการณ์รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน จะได้มารวมพล-ร่วมกันคิด-ร่วมกันทำงานการเมือง หากมีการเลือกตั้งเมื่อใด..พรรคการเมืองของประชาชน ก็จะต้องส่งนักการเมืองที่ดีลงสู่สนามเลือกตั้งให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ที่ดีกว่าให้ประชาชนคนไทยได้พิจารณา

ทางด้านประชาชนคนไทย..ก็ต้องแสดงให้เห็นกันเสียทีว่า คนไทยทุกหนแห่งไม่เห็นแก่เงินและผลประโยชน์เฉพาะหน้า และต้องช่วยกันเลือกคนดีเข้ารัฐสภา ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้กันเสียที

หากประชาชนลงมติเลือกคนดีเข้าสภาเป็นเสียงข้างมาก มือนักการเมืองที่ดีในสภาจะได้เลือกคนดีเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรี เป็นผู้บริหารบ้านเมือง เพื่อทำคุณประโยชน์ให้กับชาติบ้านเมืองและประชาชนอย่างจริงจังไงล่ะครับ

เสียงหนึ่งเสียง..เสียงล้านๆ เสียง..เสียงที่ดีของคนไทยทั้งชาติ ต้องช่วยกันเลือกนักการเมืองที่ดีเข้าสภาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

ถึงเวลา..มือดี-สร้าง-คนดีเข้าสภา และคนดีในสภา-ใช้มือดี-สร้างรัฐบาลดีๆ เพื่อชาติและประชาชนแล้วครับ!!!
กำลังโหลดความคิดเห็น