เรื่องของฟ้านั้นแปลกแต่จริง ดูเหมือน “ฟ้ามีตาวิเศษ” จึงรู้ว่า ใครหรือกลุ่มใดทำเพื่อชาติใครหรือกลุ่มไหนทำเพื่อคนเพียงคนเดียว แถมเป็นคนคนเดียวที่ทำร้ายชาติบ้านเมืองอีกต่างหาก
ก่อนลมหนาวจะมาเยือนโลกกลมๆ ใบนี้ มักมีพายุสารพัดชนิด-สารพัดชื่อ โหมกระหน่ำใส่ทั้งกิสน่า ป้าหม่า ฯลฯ ทำให้บ้านเรือนพังวินาศสันตะโร มีผู้คนล้มตายไปมากมายก่ายกอง
ความประหลาดอยู่ตรงกองกำลังส่วนตัวของทักษิณหรือสมุน “ไข่แม้ว” ที่สวมใส่ “เสื้อแดง” ออกมาชุมนุมเพื่อ “คนหน้าเหลี่ยม” ทีไร เป็นต้องเจอะเจอพายุฝนโหมกระหน่ำใส่อย่างหนัก จนเวทีพังครืนลงมาหลายครั้งหลายครา แถมบางทียังมีฟ้าแลบแปลบปลาบ ฟ้าร้องโครมครืน ฟ้าผ่าเปรี้ยงปร้าง ทำเอาคนเสื้อแดงขวัญกระเจิงหนีกระจายไปเลย
โดยเฉพาะนายตำรวจใหญ่กับพรรคพวกกลุ่มหนึ่ง อยู่ดีไม่ว่าดี..ดันทะลึ่งไปทำพิธีเอาฤกษ์เอาชัยที่ลานพระบรมรูปทรงม้า รัชกาลที่ 5 เพื่อประกาศวัน น. เวลา น.ในการยกพลพรรคตำรวจนอกราชการ ที่เฒ่าชะแรแก่ชราจะเดินโขยกเขยกดาหน้าบุกมายึดทำเนียบฯ ที่มีกองทัพชายหญิงของพันธมิตรฯ ปักหลักชุมนุมขับไล่รัฐบาลนอมินีของ “คนหน้าเหลี่ยม” กันอยู่
ครั้งนั้น..ทั้งๆ ที่ไม่มีฝนตกสักหยาดหยด จู่ๆ..ฟ้าก็ผ่าเปรี้ยงปร้างหลายครั้งลงกลางพานใส่ข้าวของทำพิธีและเต็นท์ล้มไปทับรถรา เล่นเอานายตำรวจใหญ่นอกราชการเหล่านั้น ต๊กกะใจหัวใจแทบวายปราณ จนต้องหนีกันกระเจิดกระเจิงไปเลย
ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเชื่อมั่นว่า พระสยามเทวาธิราชมีอยู่จริงในผืนแผ่นดินไทยแห่งนี้ ลงมติตรงกันว่า.. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว ต้องถือว่าโดน “ฟ้า” ลงโทษ เพราะดันไปสนับสนุน “ไข่แม้ว” กับสมุนบางคน ซึ่งมีพฤติกรรมทำร้ายทำลายสถาบันสำคัญของชาติ
แต่นายตำรวจชราที่เคยเป็นข้าในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กินเงินเดือนจากภาษีประชาชนจนเกษียณ ทว่าดันตามืด-ตามัว-ตาถั่ว-ไม่รู้ดี-ไม่รู้ชั่ว-ไม่รู้ถูก-ไม่รู้ผิด เอาตอนแก่ใกล้ตายหรืออยู่ในวัยไม้ใกล้ฝั่งกันแล้วไงล่ะครับ
แล้วอะไรล่ะ..ที่ทำให้นายตำรวจใหญ่นอกราชการเหล่านั้น กล้าออกมารับใช้ “คนหน้าเหลี่ยม” อย่างผิดๆ เช่นนี้ คำตอบง่ายมาก..เพราะ “คนหน้าเหลี่ยม” ส่งสัญญาณว่า เมื่อใดก็ตามที่นายตำรวจนอกราชการคนนี้ นำพวกบุกเข้ายึดทำเนียบฯ คืนจากพันธมิตรฯ ได้ จะแต่งตั้งให้เป็นรองนายกฯ ดูแลด้านตำรวจเลย
แต่ “คนหน้าเหลี่ยม” กำหนด..มิเท่า “ฟ้าลิขิต” ฟ้าที่มีตาจึงผ่าเปรี้ยงปร้างลงกลางวงดังกล่าว เล่นเอานายตำรวจเฒ่าชะแรแก่ชราจำนวนไม่น้อยขวัญหนีดีฝ่อ งานยึดทำเนียบฯ ที่ตอนแรกดูท่าดี เลยกลายเป็นทีเหลวเป๋วราวอุจจาระเสียไปเล้ย..
นั่นเป็นเรื่องแปลกแต่จริง เป็นเรื่องฟ้าฝนลงทัณฑ์พวกป่วนบ้านป่วนเมือง จนแกนนำกองกำลังส่วนตัว “คนหน้าเหลี่ยม” เสื้อแดงบางคนคร่ำครวญว่า โดนกลั่นแกล้งด้วยฝนเทียมบ้างล่ะ ฟ้าฝนไม่เป็นใจทำร้ายการชุมนุมบ้างล่ะ ทั้งๆ ที่หากหยุดคิดสักนิด..จะหนาว เพราะเห็นกันชัดๆ จะจะว่า..เรื่องบังเอิญแบบนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้เลย นี่ยังโชคดีนะที่ “ฟ้า-เมตตาปรานี” มิเช่นนั้นฟ้าคงได้ผ่าเปรี้ยงลงกลางกบาลพวกช่วย “โจรหน้าเหลี่ยม” แล้วล่ะ!
ส่วนพวกที่เชื่อว่า..เวรกรรมมีจริงนั้น ตอนนี้ก็งานเข้าชวนให้ติดตามชนิดกะพริบตาไม่ได้เช่นกัน เพราะ“กรรมติดจรวด” กำลังตามจองล้างจองผลาญ ชีวิตอดีตผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมืองรายหนึ่ง ที่ตอนนี้ได้แต่นอนพะงาบๆ อยู่บนเตียงพยาบาลในห้องไอซียู ไม่รู้เนื้อรู้ตัว..ร่างกายไม่ตอบรับอาหารใดๆ อีกแล้ว รูปร่างจึงผอมโกรกจนจำไม่ได้ ยกเว้นจมูกเท่านั้น..ที่ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เรียกว่า..เขาคนนี้พร้อมจะสิ้นใจตายได้ทุกเวลานาทีแล้วครับ
อ้อ..หากทรหดหน่อย..อดีตผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ ก็อาจยื้อชีวิตให้อยู่กับตัวได้นานขึ้น ทว่า..ญาติพี่น้องนักการเมืองคนนี้ ได้แอบไปติดต่อจองวัดในกรุงแห่งหนึ่งไว้แล้วครับ
มาถึงอดีตนายกรัฐมนตรี “จอมยุทธ์ตู้เย็น ณ ม่านรูด” รายนี้ถูกกรรมติดจรวดสนองถึงขั้นอาจติดคุกหัวโตตอนแก่ เพราะได้สั่งปราบปรามประชาชนคนไทยผู้บริสุทธิ์ ที่ชุมนุมกันอย่างสันติตามสิทธิรัฐธรรมนูญ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ในเหตุการณ์ 7 ตุลาคม2551
นอกจากหวานใจ “เจ๊ซาลาเปาแดง” จะผิดแล้ว ยังมีอดีตรองนายกรัฐมนตรี “จิ๋วเยสเซอร์” ตามด้วยอดีต ผบ.ตร.เจ้าของรีสอร์ตไม้สักทอง “ดาวประดับบ่า” แถวบางพลี กับ ผบ.ตร.กองบัญชาการตำรวจนครบาลอีกคน ทั้งหมดผิด..โดนคดีอาญาและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบครับ
เรียกว่างานนี้..โดน “กรรมติดจรวด” ตามสนองกันแบบยกพวงเลยครับ!
ครานี้ก็มาถึง “คนหน้าเหลี่ยม” ที่เวรกรรมต้องลงทุนบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปตามล้างตามเช็ดกันถึงเมืองดูไบโน่นแน่ะ
ต้องยอมรับว่า..กรรมเวรที่นักโทษ “หน้าเหลี่ยม” สร้างไว้นั้น มันมากมายมหาศาลชนิดจารนัยความผิดเท่าไหร่..ก็จารนัยไม่หมดครับ
ก็โถ..เมืองไทยยุค “คนหน้าเหลี่ยม” เถลิงอำนาจนั้น เกิดเรื่องใหญ่โตที่ไม่เคยเกิดและไม่ถูกต้องมากมายเหลือเกิน นับตั้งแต่ตำรวจตั้งศาลเตี้ยไล่ฆ่าผู้คน ด้วยข้ออ้างปราบปรามยาเสพติดกว่า 2 พันคน อีกทั้งรัฐบาล “คนหน้าเหลี่ยม” ยังเข่นฆ่าชาวไทยมุสลิมอย่างป่าเถื่อนทางภาคใต้มากมายเป็นประวัติการณ์อย่างทารุณอีกด้วย
แต่ประเด็นสำคัญ คือ เกิดอาการเหิมเกริมไม่กลัวฟ้ากลัวดิน ด้วยการคอร์รัปชันเชิงนโยบายในโครงการใหญ่ๆ มากมาย รวมทั้งเกิดขบวนการจาบจ้วงสถาบันสำคัญของชาติอย่างเปิดเผยเป็นระบบต่อเนื่อง ชนิดไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทยเลยครับ
การปกครองที่ฉ้อฉลไม่ชอบธรรมของ “คนหน้าเหลี่ยม” จึงเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ สนธิ ลิ้มทองกุล ก่อนจะเติบโตเป็นขบวนการพันธมิตรฯ กู้ชาติ-พิชิตมารหน้าเหลี่ยม จนในที่สุด..ละครการเมืองเรื่อง “ตะกวดหน้าเหลี่ยม-นั่งวอทอง” ก็ต้องปิดฉากลงชั่วคราวอย่างกะทันหัน เมื่อคณะนายทหารอดรนทนไม่ไหวจำต้องก่อการรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาล “คนหน้าเหลี่ยม” ได้สำเร็จ!
แต่ “คนหน้าเหลี่ยม” ก็ยังคงสร้างเวรกรรมให้กับตนเอง ด้วยการใช้เงินทองที่ได้มาโดยไม่โปร่งใส เที่ยวตั้งกองกำลังอันธพาลการเมืองเสื้อแดงออกมาตามล่าเข่นฆ่านายกฯ รูปหล่อ รวมทั้งล้มการประชุมใหญ่ระดับอาเซียน และป่วนบ้านเผาเมืองเมื่อวันที่ 12-13 เมษายน 2552 จนถึงทุกวันนี้..กองกำลังส่วนตัวเสื้อแดงของ “คนหน้าเหลี่ยม” ก็ยังคงปฏิบัติการป่วนชาติไม่ยอมหยุดครับ
สำหรับ “คนหน้าเหลี่ยม” นั้น เวรกรรม-อาจตามสนองช้ากว่าปกติ แต่ช้าก็ดีกว่าไม่มาใช่ไหมครับ?
ตอนนี้-ขณะนี้-เวลานี้จึงมีข่าวกระเส็นกระสาย ทั้งข่าวลึก-ข่าวลับ-ข่าวล่ามาไว ยืนยันนอนยันว่า “คนหน้าเหลี่ยม” มีปัญหาเกี่ยวกับเลือดในกายไม่ปกติครับ
นอกจากนั้นแถว “ไข่เจียว” ก็มี “พี่มะเร็ง” ออกมาอาละวาด อ้อ..ต่อมน้ำเหลืองบางแห่งก็มี “ลุงมะเร็ง” ยึดพื้นที่ขยายอาณาจักรมะเร็งกันแล้วครับ
แน่นอน..“คนหน้าเหลี่ยม” มีเงินทองมากมาย ย่อมต้องใช้จ่ายไปกับการยื้อหรือต่อสู้กับบรรดาพี่น้องชาวมะเร็งเป็นการด่วน แต่เวรกรรมใหม่บวกกรรมเวรเก่าเป็นดัชนีชี้ขาด เพราะคนรวยกว่า “คนหน้าเหลี่ยม” หลายเท่า ก็ยังจำต้องจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับมาแล้วครับ
แน่นอนอีกนั่นแหละ..ที่ “คนหน้าเหลี่ยม” จะต้องปฏิเสธเสียงแข็งว่า..ผม (กู)ไม่ได้เป็นมะเร็ง (โว้ย) ผมยังแข็งแรงฟิตเปรี๊ยะ (โว้ย) ผมยังเตะปี๊บดัง..และเตะปี๊บได้วันละหลายครั้งซะด้วย (โว้ย)
แต่ความลับไม่มีในโลก..แค่ความจริงถูกเปิดเผยช้าไปสักหน่อย หากใครสังเกตหน้าตา “คนหน้าเหลี่ยม” ที่วิดีโอลิงก์มาเมื่อวันวาน แม้นจะมีการพอกและแต่งหน้ากันพอสมควร แต่ก็ยังพอเห็นเค้าลางอันไม่เป็นมงคลบางอย่างระบายอยู่บนใบหน้าของ “คนหน้าเหลี่ยม” อย่างชัดเจนขอรับกระผม
หลายจุดบนหน้า “คนหน้าเหลี่ยม” เปลี่ยนไป๋ ร่างกายของ “คนหน้าเหลี่ยม” ก็ผอมไป๋ ไม่ยอมใส่เสื้อแขนสั้นอีกตามเคย แม้น “คนหน้าเหลี่ยม” จะมีเงินทองมากมายล้นฟ้า แต่เขากลับจมอยู่ในความทุกข์ระทมที่บอกใครไม่ได้ เพราะเวลาของความเป็น“คน” ของ “คนหน้าเหลี่ยม” นั้น ลดน้อยถอยลงในทุกวินาทีแล้วครับ..
ส่วนความเป็น “คน” ของ “คนหน้าเหลี่ยม” จะจบลงตรง..ตายแบบไหน? ตายเพราะอะไรนั้น..เป็นหน้าที่ของเวรกรรมตามกำหนดขอรับกระผม!
ภาพวันนี้ของ “คนหน้าเหลี่ยม” มีทั้งจริงและปลอม บางมุมดูราวกับ “คนหน้าเหลี่ยม” ยังแข็งแรง-แข็งแกร่งทางการเมือง แต่เบื้องหลังแห่งชีวิตจริงนั้น “คนหน้าเหลี่ยม” กำลังเหนื่อยล้า เขาเหงา-เขาท้อแท้-เขาอารมณ์ผันผวน-ผันแปร เขาไม่อยู่กับร่องกับรอย-อารมณ์แปรปรวน-เดี๋ยวดี-เดี๋ยวร้าย ฯลฯ
ที่สำคัญอาการหูเบาของเขาหนักขึ้น อาการไม่ไว้วางใจคนหรือระแวงก็หนักขึ้น อาการโดนต้มเงินทองจากพวกเปรตการเมืองในประเทศไทย..ยิ่งหนักใหญ่ อาการจะไม่ได้กลับบ้านเกิดเมืองนอนแบบตัวเป็นๆ ก็ตามหลอกหลอนทั้งวันทั้งคืนไม่หยุดหย่อน เฮ้อ..บอกได้เลยว่าตอนนี้ “คนหน้าเหลี่ยม” ใกล้สติเสีย หรือพร้อมบ้าอย่างกะทันหันเพราะเครียดจัดได้ทุกเมื่อเชื่อวันครับ
เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับ “คนหน้าเหลี่ยม” นั้น ไม่มีใครไปทำร้ายทำลาย“คนหน้าเหลี่ยม” เลย หากเป็นเพราะ“คนหน้าเหลี่ยม” นั่นแหละทำร้ายตัวเอง กรรมเวรที่เขาก่อ..จึงกลายเป็นเวรกรรมที่ตามสนองเขาอยู่ในตอนนี้ไงล่ะครับ
ฝนตกกระหน่ำในบางที่..ขี้หมูก็มักจะไหล..คนจัญไรเป็นต้องมาพบกันทุกที!
ดีครับ..ตอนนี้พายุฝนตกหนัก คนจัญไรเลยมารวมตัวทำกรรมชั่วกันมากหน่อย เดี๋ยวเถอะน่า..กรรมจะได้ติดจรวด พุ่งพรวดเข้าตามล้างตามเช็ดจนเผ่าพันธุ์มนุษย์ชั่วๆ จนหมดล่ะน่า..ฮ่าฮ่าฮ่า!
ก่อนลมหนาวจะมาเยือนโลกกลมๆ ใบนี้ มักมีพายุสารพัดชนิด-สารพัดชื่อ โหมกระหน่ำใส่ทั้งกิสน่า ป้าหม่า ฯลฯ ทำให้บ้านเรือนพังวินาศสันตะโร มีผู้คนล้มตายไปมากมายก่ายกอง
ความประหลาดอยู่ตรงกองกำลังส่วนตัวของทักษิณหรือสมุน “ไข่แม้ว” ที่สวมใส่ “เสื้อแดง” ออกมาชุมนุมเพื่อ “คนหน้าเหลี่ยม” ทีไร เป็นต้องเจอะเจอพายุฝนโหมกระหน่ำใส่อย่างหนัก จนเวทีพังครืนลงมาหลายครั้งหลายครา แถมบางทียังมีฟ้าแลบแปลบปลาบ ฟ้าร้องโครมครืน ฟ้าผ่าเปรี้ยงปร้าง ทำเอาคนเสื้อแดงขวัญกระเจิงหนีกระจายไปเลย
โดยเฉพาะนายตำรวจใหญ่กับพรรคพวกกลุ่มหนึ่ง อยู่ดีไม่ว่าดี..ดันทะลึ่งไปทำพิธีเอาฤกษ์เอาชัยที่ลานพระบรมรูปทรงม้า รัชกาลที่ 5 เพื่อประกาศวัน น. เวลา น.ในการยกพลพรรคตำรวจนอกราชการ ที่เฒ่าชะแรแก่ชราจะเดินโขยกเขยกดาหน้าบุกมายึดทำเนียบฯ ที่มีกองทัพชายหญิงของพันธมิตรฯ ปักหลักชุมนุมขับไล่รัฐบาลนอมินีของ “คนหน้าเหลี่ยม” กันอยู่
ครั้งนั้น..ทั้งๆ ที่ไม่มีฝนตกสักหยาดหยด จู่ๆ..ฟ้าก็ผ่าเปรี้ยงปร้างหลายครั้งลงกลางพานใส่ข้าวของทำพิธีและเต็นท์ล้มไปทับรถรา เล่นเอานายตำรวจใหญ่นอกราชการเหล่านั้น ต๊กกะใจหัวใจแทบวายปราณ จนต้องหนีกันกระเจิดกระเจิงไปเลย
ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเชื่อมั่นว่า พระสยามเทวาธิราชมีอยู่จริงในผืนแผ่นดินไทยแห่งนี้ ลงมติตรงกันว่า.. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว ต้องถือว่าโดน “ฟ้า” ลงโทษ เพราะดันไปสนับสนุน “ไข่แม้ว” กับสมุนบางคน ซึ่งมีพฤติกรรมทำร้ายทำลายสถาบันสำคัญของชาติ
แต่นายตำรวจชราที่เคยเป็นข้าในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กินเงินเดือนจากภาษีประชาชนจนเกษียณ ทว่าดันตามืด-ตามัว-ตาถั่ว-ไม่รู้ดี-ไม่รู้ชั่ว-ไม่รู้ถูก-ไม่รู้ผิด เอาตอนแก่ใกล้ตายหรืออยู่ในวัยไม้ใกล้ฝั่งกันแล้วไงล่ะครับ
แล้วอะไรล่ะ..ที่ทำให้นายตำรวจใหญ่นอกราชการเหล่านั้น กล้าออกมารับใช้ “คนหน้าเหลี่ยม” อย่างผิดๆ เช่นนี้ คำตอบง่ายมาก..เพราะ “คนหน้าเหลี่ยม” ส่งสัญญาณว่า เมื่อใดก็ตามที่นายตำรวจนอกราชการคนนี้ นำพวกบุกเข้ายึดทำเนียบฯ คืนจากพันธมิตรฯ ได้ จะแต่งตั้งให้เป็นรองนายกฯ ดูแลด้านตำรวจเลย
แต่ “คนหน้าเหลี่ยม” กำหนด..มิเท่า “ฟ้าลิขิต” ฟ้าที่มีตาจึงผ่าเปรี้ยงปร้างลงกลางวงดังกล่าว เล่นเอานายตำรวจเฒ่าชะแรแก่ชราจำนวนไม่น้อยขวัญหนีดีฝ่อ งานยึดทำเนียบฯ ที่ตอนแรกดูท่าดี เลยกลายเป็นทีเหลวเป๋วราวอุจจาระเสียไปเล้ย..
นั่นเป็นเรื่องแปลกแต่จริง เป็นเรื่องฟ้าฝนลงทัณฑ์พวกป่วนบ้านป่วนเมือง จนแกนนำกองกำลังส่วนตัว “คนหน้าเหลี่ยม” เสื้อแดงบางคนคร่ำครวญว่า โดนกลั่นแกล้งด้วยฝนเทียมบ้างล่ะ ฟ้าฝนไม่เป็นใจทำร้ายการชุมนุมบ้างล่ะ ทั้งๆ ที่หากหยุดคิดสักนิด..จะหนาว เพราะเห็นกันชัดๆ จะจะว่า..เรื่องบังเอิญแบบนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้เลย นี่ยังโชคดีนะที่ “ฟ้า-เมตตาปรานี” มิเช่นนั้นฟ้าคงได้ผ่าเปรี้ยงลงกลางกบาลพวกช่วย “โจรหน้าเหลี่ยม” แล้วล่ะ!
ส่วนพวกที่เชื่อว่า..เวรกรรมมีจริงนั้น ตอนนี้ก็งานเข้าชวนให้ติดตามชนิดกะพริบตาไม่ได้เช่นกัน เพราะ“กรรมติดจรวด” กำลังตามจองล้างจองผลาญ ชีวิตอดีตผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมืองรายหนึ่ง ที่ตอนนี้ได้แต่นอนพะงาบๆ อยู่บนเตียงพยาบาลในห้องไอซียู ไม่รู้เนื้อรู้ตัว..ร่างกายไม่ตอบรับอาหารใดๆ อีกแล้ว รูปร่างจึงผอมโกรกจนจำไม่ได้ ยกเว้นจมูกเท่านั้น..ที่ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เรียกว่า..เขาคนนี้พร้อมจะสิ้นใจตายได้ทุกเวลานาทีแล้วครับ
อ้อ..หากทรหดหน่อย..อดีตผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ ก็อาจยื้อชีวิตให้อยู่กับตัวได้นานขึ้น ทว่า..ญาติพี่น้องนักการเมืองคนนี้ ได้แอบไปติดต่อจองวัดในกรุงแห่งหนึ่งไว้แล้วครับ
มาถึงอดีตนายกรัฐมนตรี “จอมยุทธ์ตู้เย็น ณ ม่านรูด” รายนี้ถูกกรรมติดจรวดสนองถึงขั้นอาจติดคุกหัวโตตอนแก่ เพราะได้สั่งปราบปรามประชาชนคนไทยผู้บริสุทธิ์ ที่ชุมนุมกันอย่างสันติตามสิทธิรัฐธรรมนูญ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ในเหตุการณ์ 7 ตุลาคม2551
นอกจากหวานใจ “เจ๊ซาลาเปาแดง” จะผิดแล้ว ยังมีอดีตรองนายกรัฐมนตรี “จิ๋วเยสเซอร์” ตามด้วยอดีต ผบ.ตร.เจ้าของรีสอร์ตไม้สักทอง “ดาวประดับบ่า” แถวบางพลี กับ ผบ.ตร.กองบัญชาการตำรวจนครบาลอีกคน ทั้งหมดผิด..โดนคดีอาญาและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบครับ
เรียกว่างานนี้..โดน “กรรมติดจรวด” ตามสนองกันแบบยกพวงเลยครับ!
ครานี้ก็มาถึง “คนหน้าเหลี่ยม” ที่เวรกรรมต้องลงทุนบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปตามล้างตามเช็ดกันถึงเมืองดูไบโน่นแน่ะ
ต้องยอมรับว่า..กรรมเวรที่นักโทษ “หน้าเหลี่ยม” สร้างไว้นั้น มันมากมายมหาศาลชนิดจารนัยความผิดเท่าไหร่..ก็จารนัยไม่หมดครับ
ก็โถ..เมืองไทยยุค “คนหน้าเหลี่ยม” เถลิงอำนาจนั้น เกิดเรื่องใหญ่โตที่ไม่เคยเกิดและไม่ถูกต้องมากมายเหลือเกิน นับตั้งแต่ตำรวจตั้งศาลเตี้ยไล่ฆ่าผู้คน ด้วยข้ออ้างปราบปรามยาเสพติดกว่า 2 พันคน อีกทั้งรัฐบาล “คนหน้าเหลี่ยม” ยังเข่นฆ่าชาวไทยมุสลิมอย่างป่าเถื่อนทางภาคใต้มากมายเป็นประวัติการณ์อย่างทารุณอีกด้วย
แต่ประเด็นสำคัญ คือ เกิดอาการเหิมเกริมไม่กลัวฟ้ากลัวดิน ด้วยการคอร์รัปชันเชิงนโยบายในโครงการใหญ่ๆ มากมาย รวมทั้งเกิดขบวนการจาบจ้วงสถาบันสำคัญของชาติอย่างเปิดเผยเป็นระบบต่อเนื่อง ชนิดไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทยเลยครับ
การปกครองที่ฉ้อฉลไม่ชอบธรรมของ “คนหน้าเหลี่ยม” จึงเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ สนธิ ลิ้มทองกุล ก่อนจะเติบโตเป็นขบวนการพันธมิตรฯ กู้ชาติ-พิชิตมารหน้าเหลี่ยม จนในที่สุด..ละครการเมืองเรื่อง “ตะกวดหน้าเหลี่ยม-นั่งวอทอง” ก็ต้องปิดฉากลงชั่วคราวอย่างกะทันหัน เมื่อคณะนายทหารอดรนทนไม่ไหวจำต้องก่อการรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาล “คนหน้าเหลี่ยม” ได้สำเร็จ!
แต่ “คนหน้าเหลี่ยม” ก็ยังคงสร้างเวรกรรมให้กับตนเอง ด้วยการใช้เงินทองที่ได้มาโดยไม่โปร่งใส เที่ยวตั้งกองกำลังอันธพาลการเมืองเสื้อแดงออกมาตามล่าเข่นฆ่านายกฯ รูปหล่อ รวมทั้งล้มการประชุมใหญ่ระดับอาเซียน และป่วนบ้านเผาเมืองเมื่อวันที่ 12-13 เมษายน 2552 จนถึงทุกวันนี้..กองกำลังส่วนตัวเสื้อแดงของ “คนหน้าเหลี่ยม” ก็ยังคงปฏิบัติการป่วนชาติไม่ยอมหยุดครับ
สำหรับ “คนหน้าเหลี่ยม” นั้น เวรกรรม-อาจตามสนองช้ากว่าปกติ แต่ช้าก็ดีกว่าไม่มาใช่ไหมครับ?
ตอนนี้-ขณะนี้-เวลานี้จึงมีข่าวกระเส็นกระสาย ทั้งข่าวลึก-ข่าวลับ-ข่าวล่ามาไว ยืนยันนอนยันว่า “คนหน้าเหลี่ยม” มีปัญหาเกี่ยวกับเลือดในกายไม่ปกติครับ
นอกจากนั้นแถว “ไข่เจียว” ก็มี “พี่มะเร็ง” ออกมาอาละวาด อ้อ..ต่อมน้ำเหลืองบางแห่งก็มี “ลุงมะเร็ง” ยึดพื้นที่ขยายอาณาจักรมะเร็งกันแล้วครับ
แน่นอน..“คนหน้าเหลี่ยม” มีเงินทองมากมาย ย่อมต้องใช้จ่ายไปกับการยื้อหรือต่อสู้กับบรรดาพี่น้องชาวมะเร็งเป็นการด่วน แต่เวรกรรมใหม่บวกกรรมเวรเก่าเป็นดัชนีชี้ขาด เพราะคนรวยกว่า “คนหน้าเหลี่ยม” หลายเท่า ก็ยังจำต้องจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับมาแล้วครับ
แน่นอนอีกนั่นแหละ..ที่ “คนหน้าเหลี่ยม” จะต้องปฏิเสธเสียงแข็งว่า..ผม (กู)ไม่ได้เป็นมะเร็ง (โว้ย) ผมยังแข็งแรงฟิตเปรี๊ยะ (โว้ย) ผมยังเตะปี๊บดัง..และเตะปี๊บได้วันละหลายครั้งซะด้วย (โว้ย)
แต่ความลับไม่มีในโลก..แค่ความจริงถูกเปิดเผยช้าไปสักหน่อย หากใครสังเกตหน้าตา “คนหน้าเหลี่ยม” ที่วิดีโอลิงก์มาเมื่อวันวาน แม้นจะมีการพอกและแต่งหน้ากันพอสมควร แต่ก็ยังพอเห็นเค้าลางอันไม่เป็นมงคลบางอย่างระบายอยู่บนใบหน้าของ “คนหน้าเหลี่ยม” อย่างชัดเจนขอรับกระผม
หลายจุดบนหน้า “คนหน้าเหลี่ยม” เปลี่ยนไป๋ ร่างกายของ “คนหน้าเหลี่ยม” ก็ผอมไป๋ ไม่ยอมใส่เสื้อแขนสั้นอีกตามเคย แม้น “คนหน้าเหลี่ยม” จะมีเงินทองมากมายล้นฟ้า แต่เขากลับจมอยู่ในความทุกข์ระทมที่บอกใครไม่ได้ เพราะเวลาของความเป็น“คน” ของ “คนหน้าเหลี่ยม” นั้น ลดน้อยถอยลงในทุกวินาทีแล้วครับ..
ส่วนความเป็น “คน” ของ “คนหน้าเหลี่ยม” จะจบลงตรง..ตายแบบไหน? ตายเพราะอะไรนั้น..เป็นหน้าที่ของเวรกรรมตามกำหนดขอรับกระผม!
ภาพวันนี้ของ “คนหน้าเหลี่ยม” มีทั้งจริงและปลอม บางมุมดูราวกับ “คนหน้าเหลี่ยม” ยังแข็งแรง-แข็งแกร่งทางการเมือง แต่เบื้องหลังแห่งชีวิตจริงนั้น “คนหน้าเหลี่ยม” กำลังเหนื่อยล้า เขาเหงา-เขาท้อแท้-เขาอารมณ์ผันผวน-ผันแปร เขาไม่อยู่กับร่องกับรอย-อารมณ์แปรปรวน-เดี๋ยวดี-เดี๋ยวร้าย ฯลฯ
ที่สำคัญอาการหูเบาของเขาหนักขึ้น อาการไม่ไว้วางใจคนหรือระแวงก็หนักขึ้น อาการโดนต้มเงินทองจากพวกเปรตการเมืองในประเทศไทย..ยิ่งหนักใหญ่ อาการจะไม่ได้กลับบ้านเกิดเมืองนอนแบบตัวเป็นๆ ก็ตามหลอกหลอนทั้งวันทั้งคืนไม่หยุดหย่อน เฮ้อ..บอกได้เลยว่าตอนนี้ “คนหน้าเหลี่ยม” ใกล้สติเสีย หรือพร้อมบ้าอย่างกะทันหันเพราะเครียดจัดได้ทุกเมื่อเชื่อวันครับ
เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับ “คนหน้าเหลี่ยม” นั้น ไม่มีใครไปทำร้ายทำลาย“คนหน้าเหลี่ยม” เลย หากเป็นเพราะ“คนหน้าเหลี่ยม” นั่นแหละทำร้ายตัวเอง กรรมเวรที่เขาก่อ..จึงกลายเป็นเวรกรรมที่ตามสนองเขาอยู่ในตอนนี้ไงล่ะครับ
ฝนตกกระหน่ำในบางที่..ขี้หมูก็มักจะไหล..คนจัญไรเป็นต้องมาพบกันทุกที!
ดีครับ..ตอนนี้พายุฝนตกหนัก คนจัญไรเลยมารวมตัวทำกรรมชั่วกันมากหน่อย เดี๋ยวเถอะน่า..กรรมจะได้ติดจรวด พุ่งพรวดเข้าตามล้างตามเช็ดจนเผ่าพันธุ์มนุษย์ชั่วๆ จนหมดล่ะน่า..ฮ่าฮ่าฮ่า!