ASTVผู้จัดการรายวัน - สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนค้านคำสั่งศาลปกครองกลางที่อนุญาตให้ 9 โครงการในมาบตาพุดเดินหน้าก่อสร้างต่อไปได้ ทั้งที่ไม่ดำเนินการตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญให้ครบถ้วนก่อน ชี้คำสั่งดังกล่าวอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ เตรียมยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ พร้อมฟ้องอีก 12 โครงการ ในวันที่ 1 มี.ค.นี้
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า ภายหลังทราบคำสั่งศาลปกครองกลางอนุญาตให้ 9 โครงการประเภทรุนแรงในพื้นที่มาบตาพุดสามารถเดินหน้าก่อสร้างและทดลองเครื่องจักรต่อไปได้นั้น สุ่มเสี่ยงว่าคำสั่งดังกล่าวอาจขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 67 วรรคสอง เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดเจนว่าโครงการที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพจะกระทำมิได้ เว้นแต่จะดำเนินการจัดทำ EIA, HIA, การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้ส่วนได้เสีย และการให้องค์การอิสระให้ความเห็นประกอบ “ก่อนดำเนินโครงการ” ดังกล่าว แต่การที่ศาลอนุญาตให้โครงการทั้ง 9 โครงการดำเนินโครงการต่อไปได้ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าวให้ครบถ้วนเสี่ยก่อน จึงอาจถือว่าเป็นการละเมิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
สมาคมฯในฐานะผู้ฟ้องคดีจะต้องหาข้อยุติในทางกฎหมายเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานในทางกฎหมาย อาจจะต้องยื่นเรื่องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การที่ศาลปกครองอนุญาตให้ 9 โครงการดังกล่าวก่อสร้างและทดลองเครื่องจักรต่อไปได้ โดยที่ยังไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสองให้ครบถ้วนเสียก่อนนั้น “ขัดหรือแย้ง” ต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ และหาก 9 โครงการดังกล่าวเดินหน้าดำเนินการก่อสร้างและเดินเครื่องจักรต่อไปได้ตามคำสั่งของศาลแล้ว หากเกิดเหตุอุบัติภัยหรือเกิดเหตุใด ๆ เกิดขึ้นจนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพของชาวบ้าน ใครจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายดังกล่าวระหว่างศาลปกครองกับผู้ประกอบการ
ทั้งนี้ในวันจันทร์ที่ 1 มี.ค. 2553 เวลา 10.30 น. สมาคมฯจะไปยื่นฟ้องร้องเพิ่มเติมเพื่อขอให้ศาลปกครองระงับ 12 โครงการในมาบตาพุด-บ้านฉางและใกล้เคียงเพิ่มเติม ภายหลังที่ สผ. เห็นชอบ EIA ไปแล้วหลังจากที่สมาคมฯยื่นฟ้องขอให้ระงับ 76 โครงการในพื้นที่ดังกล่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว และขอให้ศาลสั่งให้หน่วยงานอนุญาตต่าง ๆยุติการให้ความเห็นชอบโครงการต่าง ๆ ทั่วประเทศ จนกว่าจะกลับไปดำเนินการและปฏิบัติให้ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสองเสียก่อน
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า ภายหลังทราบคำสั่งศาลปกครองกลางอนุญาตให้ 9 โครงการประเภทรุนแรงในพื้นที่มาบตาพุดสามารถเดินหน้าก่อสร้างและทดลองเครื่องจักรต่อไปได้นั้น สุ่มเสี่ยงว่าคำสั่งดังกล่าวอาจขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 67 วรรคสอง เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดเจนว่าโครงการที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพจะกระทำมิได้ เว้นแต่จะดำเนินการจัดทำ EIA, HIA, การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้ส่วนได้เสีย และการให้องค์การอิสระให้ความเห็นประกอบ “ก่อนดำเนินโครงการ” ดังกล่าว แต่การที่ศาลอนุญาตให้โครงการทั้ง 9 โครงการดำเนินโครงการต่อไปได้ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าวให้ครบถ้วนเสี่ยก่อน จึงอาจถือว่าเป็นการละเมิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
สมาคมฯในฐานะผู้ฟ้องคดีจะต้องหาข้อยุติในทางกฎหมายเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานในทางกฎหมาย อาจจะต้องยื่นเรื่องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การที่ศาลปกครองอนุญาตให้ 9 โครงการดังกล่าวก่อสร้างและทดลองเครื่องจักรต่อไปได้ โดยที่ยังไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสองให้ครบถ้วนเสียก่อนนั้น “ขัดหรือแย้ง” ต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ และหาก 9 โครงการดังกล่าวเดินหน้าดำเนินการก่อสร้างและเดินเครื่องจักรต่อไปได้ตามคำสั่งของศาลแล้ว หากเกิดเหตุอุบัติภัยหรือเกิดเหตุใด ๆ เกิดขึ้นจนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพของชาวบ้าน ใครจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายดังกล่าวระหว่างศาลปกครองกับผู้ประกอบการ
ทั้งนี้ในวันจันทร์ที่ 1 มี.ค. 2553 เวลา 10.30 น. สมาคมฯจะไปยื่นฟ้องร้องเพิ่มเติมเพื่อขอให้ศาลปกครองระงับ 12 โครงการในมาบตาพุด-บ้านฉางและใกล้เคียงเพิ่มเติม ภายหลังที่ สผ. เห็นชอบ EIA ไปแล้วหลังจากที่สมาคมฯยื่นฟ้องขอให้ระงับ 76 โครงการในพื้นที่ดังกล่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว และขอให้ศาลสั่งให้หน่วยงานอนุญาตต่าง ๆยุติการให้ความเห็นชอบโครงการต่าง ๆ ทั่วประเทศ จนกว่าจะกลับไปดำเนินการและปฏิบัติให้ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสองเสียก่อน