ASTVผู้จัดการรายวัน - ศาลปกครองกลางนัดเดินเผชิญสืบ 12 โครงการมาบตาพุดจันทร์ 22 ก.พ.นี้ ก่อนตัดสินอนุญาตให้ก่อสร้างโครงการหรือไม่
วานนี้ ( 18 ก.พ.) องค์คณะตุลาการศาลปกครองกลางที่มีนายภานุพันธ์ ชัยรัต ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง ในฐานะตุลาการเจ้าของสำนวน ได้ไต่สวนนัดแรกกรณีที่อัยการสูงสุดยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองสูงสุดโดยขอให้ 12 โครงการในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดที่ศาลฯมีคำสั่งระงับการดำเนินการไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีคำพิพากษานั้น สามารถดำเนินการก่อสร้างโครงการให้แล้วเสร็จได้ ภายหลังการไต่สวนใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวว่า ในการไต่สวนตัวแทนจาก 12 โครงการได้ชี้แจงต่อศาลว่า ต้องการขออนุญาตศาลในการก่อสร้างโครงการฯให้แล้วเสร็จก่อน โดยอ้างเรื่องผลกระทบทางเศรษฐกิจ และเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จก็พร้อมจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสอง พร้อมกับระบุว่าในอนาคตหากศาลมีคำพิพากษาออกมาไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ก็พร้อมที่จะน้อมรับ จะไม่เรียกค่าเสียหายกับรัฐ
แต่ทางสมาคมฯได้โต้แย้งว่า หากปล่อยให้ทั้ง 12 โครงการมีการก่อสร้างไปก่อนนั้น ไม่ได้มีหลักประกันที่จะเป็นการดูแลสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาก็เกิดเหตุขึ้นหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการรั่วของแก๊ส โดยไม่มีหน่วยงานรัฐมารับผิดชอบ ดังนั้นถ้าศาลอนุญาตให้ 12 โครงการเดินหน้าก่อสร้าง ก็อาจเกิดเหตุซ้ำรอยได้
ดังนั้นองค์คณะตุลาการศาลปกครองกลางจะเดินเผชิญสืบสถานที่จริงทั้ง 12 โครงการที่มาบตาพุดในวันจันทร์ที่ 22 ก.พ.นี้ เวลา 09.00 น. เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้องครบถ้วน ก่อนจะตัดสินให้ก่อสร้างโครงการต่อหรือไม่
นายชายน้อย เผื่อนโกสุม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีที่องค์คณะตุลาการศาลปกครองกลางจะเดินทางลงดูพื้นที่12 โครงการในมาบตาพุด เพื่อจะได้เห็นด้วยตาหลังจากที่ผู้ประกอบการได้มีการลงทุนมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม ซึ่งผู้ประกอบการพร้อมพาชมสถานที่เพื่อยืนยันสิ่งที่เคยกล่าวไว้ .
วานนี้ ( 18 ก.พ.) องค์คณะตุลาการศาลปกครองกลางที่มีนายภานุพันธ์ ชัยรัต ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง ในฐานะตุลาการเจ้าของสำนวน ได้ไต่สวนนัดแรกกรณีที่อัยการสูงสุดยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองสูงสุดโดยขอให้ 12 โครงการในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดที่ศาลฯมีคำสั่งระงับการดำเนินการไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีคำพิพากษานั้น สามารถดำเนินการก่อสร้างโครงการให้แล้วเสร็จได้ ภายหลังการไต่สวนใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวว่า ในการไต่สวนตัวแทนจาก 12 โครงการได้ชี้แจงต่อศาลว่า ต้องการขออนุญาตศาลในการก่อสร้างโครงการฯให้แล้วเสร็จก่อน โดยอ้างเรื่องผลกระทบทางเศรษฐกิจ และเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จก็พร้อมจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสอง พร้อมกับระบุว่าในอนาคตหากศาลมีคำพิพากษาออกมาไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ก็พร้อมที่จะน้อมรับ จะไม่เรียกค่าเสียหายกับรัฐ
แต่ทางสมาคมฯได้โต้แย้งว่า หากปล่อยให้ทั้ง 12 โครงการมีการก่อสร้างไปก่อนนั้น ไม่ได้มีหลักประกันที่จะเป็นการดูแลสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาก็เกิดเหตุขึ้นหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการรั่วของแก๊ส โดยไม่มีหน่วยงานรัฐมารับผิดชอบ ดังนั้นถ้าศาลอนุญาตให้ 12 โครงการเดินหน้าก่อสร้าง ก็อาจเกิดเหตุซ้ำรอยได้
ดังนั้นองค์คณะตุลาการศาลปกครองกลางจะเดินเผชิญสืบสถานที่จริงทั้ง 12 โครงการที่มาบตาพุดในวันจันทร์ที่ 22 ก.พ.นี้ เวลา 09.00 น. เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้องครบถ้วน ก่อนจะตัดสินให้ก่อสร้างโครงการต่อหรือไม่
นายชายน้อย เผื่อนโกสุม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีที่องค์คณะตุลาการศาลปกครองกลางจะเดินทางลงดูพื้นที่12 โครงการในมาบตาพุด เพื่อจะได้เห็นด้วยตาหลังจากที่ผู้ประกอบการได้มีการลงทุนมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม ซึ่งผู้ประกอบการพร้อมพาชมสถานที่เพื่อยืนยันสิ่งที่เคยกล่าวไว้ .