ASTVผู้จัดการรายวัน- "ไอ้ตู่" อ้างชุมนุมใหญ่ 14 มี.ค. เพราะกลัวรัฐบาลสร้างสถานการณ์เพื่อนำไปสู่การปฏิวัติ พร้อมปัดความรับผิดชอบหากเกิดเหตุรุนแรงใน 1-2 วันนี้ ด้านส.ส.เพื่อไทย เซ็งให้ระดมคนเสื้อแดงแต่ควักเงินออกเอง ส่วนเสื้อแดงเชียงใหม่ทำพิธีสืบชะตานช.แม้ว พ้นความผิดคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านวันนี้ (26)
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มเสื้อแดง กล่าวถึงการพิจารณาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในวันนี้ (26 ก.พ.) ว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่ไปศาลฎีกา เพราะทราบมาว่าจะมีการสร้างสถานการณ์ โดยเฉพาะการวางระเบิดในช่วง 1-2 วันนี้ เพื่อนำไปสู่การปฏิวัติ และจากกองกำลังทหารที่ทยอยเข้ามาจำนวน 21 กองร้อย ซึ่งเพียงพอที่จะพลิกทำรัฐประหารได้ทันที จึงขอกำชับคนเสื้อแดงว่า อย่าออกมาเคลื่อนไหว ให้รอเวลาจนถึงวันที่ 14 มี.ค. ซึ่งเป็นวันชุมนุมใหญ่ เวลานั้นจะเป็นการสู้กันโดยใช้ความคิด ไม่มีอารมณ์การตัดสินคดีมาเจือปน
ทั้งนี้ หากเกิดเหตุอะไรขึ้นภายในช่วง 1-2 วันนี้ คนที่ต้องรับผิดชอบคือรัฐบาล แต่ถ้าเมื่อใดคนเสื้อแดงชุมนุมในวันที่ 12 -14 มี.ค. เราพร้อมจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า ในวันชุมนุมใหญ่ขอให้ทุกคนอยู่กันเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ 7 วัน แต่ถ้าไม่จบภายใน 7 วัน ก็จะใช้วิธีสลับกันไปพัก โดยมีที่มั่นหลักที่สนามหลวง ถนนราชดำเนิน และ ลานพระบรมรูปทรงม้า หากมีการดาวกระจายก็จะไปยังจุดที่จำเป็นโดยไปกัน 3-5 หมื่นคน ยืนยันว่าจะไม่ให้ซ้ำรอยเหตุการณ์เมษาเลือด เพราะเรามีบทเรียนมาแล้ว
ส่วนกรณีกลุ่มแดงสยาม นำโดยนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ จะชุมนุมที่ท้องสนามหลวงในวันตัดสินคดีนั้น ไม่เกี่ยวกับกลุ่มนปช. เป็นคนละองค์กร และเราจะไม่รับผิดชอบการกระทำใดๆ ของกลุ่มนายสุรชัย
**อัดข่าวติดสินบนศาลเพื่อมติเอกฉันท์
นายจตุพร กล่าวอีกว่า กรณีนายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ระบุถึง กรณีที่มีกระแสข่าวผู้พิพากษา 4 คน ถูกซื้อคนละพันล้าน เป็นเพียงการแจ้งเตือน และคงไม่มีการสอบในเรื่องดังกล่าวนั้น ตนไม่ไว้วางใจนายวิรัช เพราะการที่นายสำราญ รอดเพชร โฆษกพรรคการเมืองใหม่ ออกมาปูดข้อมูลสินบน ซึ่งถือเป็นการหมิ่นศาล แต่ไม่ดำเนินการใดๆ ทำเสมือนว่ามีการสมรู้ร่วมคิด เพราะทราบว่ามีผู้มีบารมีบางคนอยากให้มีมติออกมา 9 ต่อ 0 แต่เมื่อทราบว่าเป็นไปตามนั้นไม่ได้ ก็เลยทำการกุข่าวขึ้นมา เพื่อไม่ต้องการเสียงก้ำกึ่ง 5 ต่อ 4 อยากให้เสียงขาดลอยไปเลย
**อ้างคตส.ใช้นอมินีรับเงินสินบน
ส่วนเงื่อนไขการได้รับเงิน 25 เปอร์เซ็นต์ สำหรับผู้ชี้เบาะแสคดียึดทรัพย์นั้น คตส.เขียนระเบียบไว้เอง เรื่องนี้อดีตกรรมการ คตส.อย่าง นายนาม ยิ้มแย้ม นายแก้วสรร อติโพธิ หรือคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา แม้จะไม่ได้รับเงินนี้ด้วยตัวเอง แต่ที่ผ่านมา มีการใช้นอมินีที่วางไว้ ไปแจ้งข่าว แจ้งเบะแส ปล่อยตัวเลขบัญชี ครั้งละหมื่นล้าน 2 หมื่นล้าน ซึ่งข้อมูลอยู่ในธนาคารแห่งประเทศไทย เสมือนกับเป็นการปล้นกลางแดด
นายจตุพร ยังกล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า คนเสื้อแดงไม่สามารถนำรถกระบะจำนวน 1 แสนคัน มาชุมนุมได้ด้วยว่า ร.ต.อ.เฉลิม เป็นผู้ใหญ่ควรทำตัวให้เหมาะสมกับการเป็นเคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ควรรูจักกาละ เทศะ จะให้สัมภาษณ์อะไร ก็ควรระมัดระวัง
**ส.ส.เซ็งจะให้เกณฑ์คนแต่เงินไม่มา
แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ก่อนการนัดหมายชุมนุมใหญ่คนเสื้อแดงในวันที่ 14 มี.ค. โดยระดมมวลชนเสื้อแดง 1 ล้านคนบุกรุงเทพ ทำให้ ส.ส.เพื่อไทยบางส่วน เข้าร่วมหารือที่ร้านอาหาโฮคิทเช่น ย่านเหม่งจ๋าย ถึงสถานการณ์การเมืองช่วงก่อนและหลังวันที่ 26 ก.พ. รวมทั้งการนัดหมายชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดง ซึ่งก็มีส.ส.บางคนแสดงความอึดอัดใจต่อการทำงานร่วมกับคนเสื้อแดง ที่ไม่รู้ว่าวันนี้ ส.ส.นำคนเสื้อแดง หรือ คนเสื้อแดงนำ ส.ส. และวันนี้แกนนำเสื้อแดงได้ร้องขอให้ ส.ส.นำมวลชนเข้ามา ทำให้เกิดภาระค่าใช้จ่าย ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ในส่วนของส.ส. หากเอาคนมา 5 หมื่นคน ภายใน 1 ชั่วโมงไม่ใช่เรื่องยาก แต่ค่าใช้จ่าย ต้องไม่เข้าเนื้อเหมือนเมื่อตอนเดือนเม.ย. รวมทั้งในการจัดชุมนุมย่อยตามจังหวัดต่างๆ ส.ส.ของพรรค ถูกแกนนำเสื้อแดงขอร้องให้ช่วย ควักกระเป๋าออกเงินทำเวที จัดชุมนุม เป็นจำนวนมาก จนบางรายทะเลาะกับแกนนำเสื้อแดงในจังหวัด เพราะเห็นว่าเงินบางส่วนเข้ากระเป๋าแกนนำ ไม่ได้นำไปใช้จ่ายจริง
ขณะที่บรรดาน้องๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ดูแลพรรค ช่วงหลังก็ไม่ได้ให้เงินสนับสนุนแกนนำเสื้อแดงตามอำเภอใจ ทำให้ ส.ส.ต้องเดือดร้อน เพราะต้องจ่ายสำรองไปก่อน
นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 14 มี.ค.ว่า " ส.ส.คงทำได้แค่ให้กำลังใจ และติดตามสถานการณ์ ส่วนเรื่องมวลชนเป็นการบริหารจัดการของคนเสื้อแดง โดยที่ ส.ส.ของพรรคไม่ได้เข้ามามีส่วนในการจัดตั้งมวลชนมาร่วมชุมนุม"
**ปูดขึ้นบัญชีดำลิ่วล้อแม้ว 200 คน
พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน กมธ.ทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีกลุ่มเสื้อแดง นัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 14 มี.ค.ว่า ทางออกของรัฐบาล คือ ต้องยุบสภา หรือเปิดให้มีการเจรจาจะดีที่สุด อย่าปล่อยให้มีการชุมนุมเกิดขึ้น เพราะมวลชนที่มาชุมนุมนั้น ความคิดไปไกลมาก ไม่กลัวติดคุก ไม่ยอมรัฐบาล สิ่งที่ไม่ได้เห็นอาจได้เห็น เพราะเขาถูกกดขี่มานานจนทำให้อารมณ์ระเบิดออกมาได้ บางคนถึงกับระบายออกมาว่า จะติดระเบิดพลีชีพเข้าไปร่วมชุมนุมด้วย และล่าสุดยังมีคนมาร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการฯ กรณีที่หน่วยงานความมั่นคงขึ้นบัญชีดำคนในระบอบทักษิณ 200 คน ที่จะต้องส่งเจ้าหน้าที่ตามประกบตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เอกสารที่ กมธ. ทหารอ้างว่ามีคนมาร้องเรียนนั้น เป็นเอกสารขนาดเอสี่ จำนวน 7 แผ่น แต่ไม่ปรากฏแหล่งที่มาทั้งนี้ มีข้อความที่สำคัญระบุว่า เอกสารนี้ทำขึ้นเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 53 เป็นการเปิดโฉม 200 รายชื่อบัญชีดำ คนในระบอบทักษิณที่ต้องจับตาใกล้ชิดเป็นพิเศษ เพราะมีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และบางคนเอื้อประโยชน์ให้กับระบอบทักษิณ พิทักษ์ปกป้อง ระบอบทักษิณ แบ่งออกเป็น 2 บัญชี บัญชีที่ 1 มีจำนวน 100 รายชื่อ อาทิ แกนนำ นปช. ชุดที่ 1 มี 9 คนคือ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายจักรภพ เพ็ญแข นายสมยศ พฤษาเกษมสุข นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายอดิศร เพียงเกษ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง น.อ.อนุดิษฐ์ นาครรทรรพ นายการุณ โหสกุล รวมถึงนายลักษณ์ เรขานิเทศ หมอดูชื่อดังด้วย
**ญาติ-คนใกล้ชิดถูกร่างแหด้วย
สำหรับบัญชี 2 จำนวน 100 รายชื่อนั้น ประกอบด้วยญาติ คนใกล้ชิด นักการเมือง นักธุรกิจ นายทุน สื่อ ขรก. อดีต ขรก. ตำรวจ ทหาร อาทิ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ นายพายัพ ชินวัตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ รอง ผบ.ตร. นางเยาวเรศ ชินวัตร พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายนพดล ปัทมะ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายยงยุทธ ติยะไพรัช คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล นายประยุทธ มหากิจศิริ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็นต้น
**จวกแผนเสื้อแดงป้ายผิดรัฐบาล
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้นายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่พาดพิงพรรคและรัฐบาลว่า หากมีอะไรเกิดขึ้นใน 1-2 วันนี้ รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบว่า เป็นการพูดป้องกันตนเอง ดังนั้นยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่รับผิดชอบกับกับสิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอน แต่จะรับผิดชอบตามกรอบกฎหมายเท่านั้น
ส่วนที่นายจตุพร ระบุว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้จะไม่ซ้ำรอยเดือน เม.ย.นั้น ตนคิดว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้ คนเสื้อแดงได้สรุปบทเรียน และข้อผิดพลาดของตัวเองอย่างเต็มที่ จึงน่าหวาดกลัวว่า ถ้าเขาสรุปบทเรียนเดือน เม.ย.แล้ว ก็อาจจะยกระดับการชุมนุมให้รุนแรงกว่านั้นก็ได้
นายเทพไท กล่าวอีกว่ากรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาแสดงความเห็นถึงการชุมนุมของคนเสื้อแดงว่าไม่น่าจะนำรถปิกอัพจำนวน แสนคันเข้ามากทม.ได้ จนทำให้นายจตุพร โกรธเคืองนั้น ตนคิดว่าข้อมูลของ ร.ต.อ.เฉลิม น่าสนใจและเป็นข้อมูลที่อยู่บนฐานความจริง
***สืบชะตาแม้วก็ไม่รอด!
รายงานจากจ.เชียงใหม่วานนี้(25) กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 นำโดยนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ประธานที่ปรึกษากลุ่ม พร้อมแกนนำและกลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่ประมาณ 100 คน ได้ร่วมกันประกอบพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์พร้อมทั้งสะเดาะเคราะห์สืบชะตาให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้พ้นความผิดจากคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มเสื้อแดง กล่าวถึงการพิจารณาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในวันนี้ (26 ก.พ.) ว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่ไปศาลฎีกา เพราะทราบมาว่าจะมีการสร้างสถานการณ์ โดยเฉพาะการวางระเบิดในช่วง 1-2 วันนี้ เพื่อนำไปสู่การปฏิวัติ และจากกองกำลังทหารที่ทยอยเข้ามาจำนวน 21 กองร้อย ซึ่งเพียงพอที่จะพลิกทำรัฐประหารได้ทันที จึงขอกำชับคนเสื้อแดงว่า อย่าออกมาเคลื่อนไหว ให้รอเวลาจนถึงวันที่ 14 มี.ค. ซึ่งเป็นวันชุมนุมใหญ่ เวลานั้นจะเป็นการสู้กันโดยใช้ความคิด ไม่มีอารมณ์การตัดสินคดีมาเจือปน
ทั้งนี้ หากเกิดเหตุอะไรขึ้นภายในช่วง 1-2 วันนี้ คนที่ต้องรับผิดชอบคือรัฐบาล แต่ถ้าเมื่อใดคนเสื้อแดงชุมนุมในวันที่ 12 -14 มี.ค. เราพร้อมจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า ในวันชุมนุมใหญ่ขอให้ทุกคนอยู่กันเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ 7 วัน แต่ถ้าไม่จบภายใน 7 วัน ก็จะใช้วิธีสลับกันไปพัก โดยมีที่มั่นหลักที่สนามหลวง ถนนราชดำเนิน และ ลานพระบรมรูปทรงม้า หากมีการดาวกระจายก็จะไปยังจุดที่จำเป็นโดยไปกัน 3-5 หมื่นคน ยืนยันว่าจะไม่ให้ซ้ำรอยเหตุการณ์เมษาเลือด เพราะเรามีบทเรียนมาแล้ว
ส่วนกรณีกลุ่มแดงสยาม นำโดยนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ จะชุมนุมที่ท้องสนามหลวงในวันตัดสินคดีนั้น ไม่เกี่ยวกับกลุ่มนปช. เป็นคนละองค์กร และเราจะไม่รับผิดชอบการกระทำใดๆ ของกลุ่มนายสุรชัย
**อัดข่าวติดสินบนศาลเพื่อมติเอกฉันท์
นายจตุพร กล่าวอีกว่า กรณีนายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ระบุถึง กรณีที่มีกระแสข่าวผู้พิพากษา 4 คน ถูกซื้อคนละพันล้าน เป็นเพียงการแจ้งเตือน และคงไม่มีการสอบในเรื่องดังกล่าวนั้น ตนไม่ไว้วางใจนายวิรัช เพราะการที่นายสำราญ รอดเพชร โฆษกพรรคการเมืองใหม่ ออกมาปูดข้อมูลสินบน ซึ่งถือเป็นการหมิ่นศาล แต่ไม่ดำเนินการใดๆ ทำเสมือนว่ามีการสมรู้ร่วมคิด เพราะทราบว่ามีผู้มีบารมีบางคนอยากให้มีมติออกมา 9 ต่อ 0 แต่เมื่อทราบว่าเป็นไปตามนั้นไม่ได้ ก็เลยทำการกุข่าวขึ้นมา เพื่อไม่ต้องการเสียงก้ำกึ่ง 5 ต่อ 4 อยากให้เสียงขาดลอยไปเลย
**อ้างคตส.ใช้นอมินีรับเงินสินบน
ส่วนเงื่อนไขการได้รับเงิน 25 เปอร์เซ็นต์ สำหรับผู้ชี้เบาะแสคดียึดทรัพย์นั้น คตส.เขียนระเบียบไว้เอง เรื่องนี้อดีตกรรมการ คตส.อย่าง นายนาม ยิ้มแย้ม นายแก้วสรร อติโพธิ หรือคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา แม้จะไม่ได้รับเงินนี้ด้วยตัวเอง แต่ที่ผ่านมา มีการใช้นอมินีที่วางไว้ ไปแจ้งข่าว แจ้งเบะแส ปล่อยตัวเลขบัญชี ครั้งละหมื่นล้าน 2 หมื่นล้าน ซึ่งข้อมูลอยู่ในธนาคารแห่งประเทศไทย เสมือนกับเป็นการปล้นกลางแดด
นายจตุพร ยังกล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า คนเสื้อแดงไม่สามารถนำรถกระบะจำนวน 1 แสนคัน มาชุมนุมได้ด้วยว่า ร.ต.อ.เฉลิม เป็นผู้ใหญ่ควรทำตัวให้เหมาะสมกับการเป็นเคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ควรรูจักกาละ เทศะ จะให้สัมภาษณ์อะไร ก็ควรระมัดระวัง
**ส.ส.เซ็งจะให้เกณฑ์คนแต่เงินไม่มา
แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ก่อนการนัดหมายชุมนุมใหญ่คนเสื้อแดงในวันที่ 14 มี.ค. โดยระดมมวลชนเสื้อแดง 1 ล้านคนบุกรุงเทพ ทำให้ ส.ส.เพื่อไทยบางส่วน เข้าร่วมหารือที่ร้านอาหาโฮคิทเช่น ย่านเหม่งจ๋าย ถึงสถานการณ์การเมืองช่วงก่อนและหลังวันที่ 26 ก.พ. รวมทั้งการนัดหมายชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดง ซึ่งก็มีส.ส.บางคนแสดงความอึดอัดใจต่อการทำงานร่วมกับคนเสื้อแดง ที่ไม่รู้ว่าวันนี้ ส.ส.นำคนเสื้อแดง หรือ คนเสื้อแดงนำ ส.ส. และวันนี้แกนนำเสื้อแดงได้ร้องขอให้ ส.ส.นำมวลชนเข้ามา ทำให้เกิดภาระค่าใช้จ่าย ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ในส่วนของส.ส. หากเอาคนมา 5 หมื่นคน ภายใน 1 ชั่วโมงไม่ใช่เรื่องยาก แต่ค่าใช้จ่าย ต้องไม่เข้าเนื้อเหมือนเมื่อตอนเดือนเม.ย. รวมทั้งในการจัดชุมนุมย่อยตามจังหวัดต่างๆ ส.ส.ของพรรค ถูกแกนนำเสื้อแดงขอร้องให้ช่วย ควักกระเป๋าออกเงินทำเวที จัดชุมนุม เป็นจำนวนมาก จนบางรายทะเลาะกับแกนนำเสื้อแดงในจังหวัด เพราะเห็นว่าเงินบางส่วนเข้ากระเป๋าแกนนำ ไม่ได้นำไปใช้จ่ายจริง
ขณะที่บรรดาน้องๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ดูแลพรรค ช่วงหลังก็ไม่ได้ให้เงินสนับสนุนแกนนำเสื้อแดงตามอำเภอใจ ทำให้ ส.ส.ต้องเดือดร้อน เพราะต้องจ่ายสำรองไปก่อน
นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 14 มี.ค.ว่า " ส.ส.คงทำได้แค่ให้กำลังใจ และติดตามสถานการณ์ ส่วนเรื่องมวลชนเป็นการบริหารจัดการของคนเสื้อแดง โดยที่ ส.ส.ของพรรคไม่ได้เข้ามามีส่วนในการจัดตั้งมวลชนมาร่วมชุมนุม"
**ปูดขึ้นบัญชีดำลิ่วล้อแม้ว 200 คน
พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน กมธ.ทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีกลุ่มเสื้อแดง นัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 14 มี.ค.ว่า ทางออกของรัฐบาล คือ ต้องยุบสภา หรือเปิดให้มีการเจรจาจะดีที่สุด อย่าปล่อยให้มีการชุมนุมเกิดขึ้น เพราะมวลชนที่มาชุมนุมนั้น ความคิดไปไกลมาก ไม่กลัวติดคุก ไม่ยอมรัฐบาล สิ่งที่ไม่ได้เห็นอาจได้เห็น เพราะเขาถูกกดขี่มานานจนทำให้อารมณ์ระเบิดออกมาได้ บางคนถึงกับระบายออกมาว่า จะติดระเบิดพลีชีพเข้าไปร่วมชุมนุมด้วย และล่าสุดยังมีคนมาร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการฯ กรณีที่หน่วยงานความมั่นคงขึ้นบัญชีดำคนในระบอบทักษิณ 200 คน ที่จะต้องส่งเจ้าหน้าที่ตามประกบตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เอกสารที่ กมธ. ทหารอ้างว่ามีคนมาร้องเรียนนั้น เป็นเอกสารขนาดเอสี่ จำนวน 7 แผ่น แต่ไม่ปรากฏแหล่งที่มาทั้งนี้ มีข้อความที่สำคัญระบุว่า เอกสารนี้ทำขึ้นเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 53 เป็นการเปิดโฉม 200 รายชื่อบัญชีดำ คนในระบอบทักษิณที่ต้องจับตาใกล้ชิดเป็นพิเศษ เพราะมีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และบางคนเอื้อประโยชน์ให้กับระบอบทักษิณ พิทักษ์ปกป้อง ระบอบทักษิณ แบ่งออกเป็น 2 บัญชี บัญชีที่ 1 มีจำนวน 100 รายชื่อ อาทิ แกนนำ นปช. ชุดที่ 1 มี 9 คนคือ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายจักรภพ เพ็ญแข นายสมยศ พฤษาเกษมสุข นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายอดิศร เพียงเกษ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง น.อ.อนุดิษฐ์ นาครรทรรพ นายการุณ โหสกุล รวมถึงนายลักษณ์ เรขานิเทศ หมอดูชื่อดังด้วย
**ญาติ-คนใกล้ชิดถูกร่างแหด้วย
สำหรับบัญชี 2 จำนวน 100 รายชื่อนั้น ประกอบด้วยญาติ คนใกล้ชิด นักการเมือง นักธุรกิจ นายทุน สื่อ ขรก. อดีต ขรก. ตำรวจ ทหาร อาทิ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ นายพายัพ ชินวัตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ รอง ผบ.ตร. นางเยาวเรศ ชินวัตร พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายนพดล ปัทมะ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายยงยุทธ ติยะไพรัช คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล นายประยุทธ มหากิจศิริ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็นต้น
**จวกแผนเสื้อแดงป้ายผิดรัฐบาล
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้นายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่พาดพิงพรรคและรัฐบาลว่า หากมีอะไรเกิดขึ้นใน 1-2 วันนี้ รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบว่า เป็นการพูดป้องกันตนเอง ดังนั้นยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่รับผิดชอบกับกับสิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอน แต่จะรับผิดชอบตามกรอบกฎหมายเท่านั้น
ส่วนที่นายจตุพร ระบุว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้จะไม่ซ้ำรอยเดือน เม.ย.นั้น ตนคิดว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้ คนเสื้อแดงได้สรุปบทเรียน และข้อผิดพลาดของตัวเองอย่างเต็มที่ จึงน่าหวาดกลัวว่า ถ้าเขาสรุปบทเรียนเดือน เม.ย.แล้ว ก็อาจจะยกระดับการชุมนุมให้รุนแรงกว่านั้นก็ได้
นายเทพไท กล่าวอีกว่ากรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาแสดงความเห็นถึงการชุมนุมของคนเสื้อแดงว่าไม่น่าจะนำรถปิกอัพจำนวน แสนคันเข้ามากทม.ได้ จนทำให้นายจตุพร โกรธเคืองนั้น ตนคิดว่าข้อมูลของ ร.ต.อ.เฉลิม น่าสนใจและเป็นข้อมูลที่อยู่บนฐานความจริง
***สืบชะตาแม้วก็ไม่รอด!
รายงานจากจ.เชียงใหม่วานนี้(25) กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 นำโดยนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ประธานที่ปรึกษากลุ่ม พร้อมแกนนำและกลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่ประมาณ 100 คน ได้ร่วมกันประกอบพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์พร้อมทั้งสะเดาะเคราะห์สืบชะตาให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้พ้นความผิดจากคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน