ASTVผู้จัดการรายวัน - เพื่อไทยคึกคัก แกนนำพรรค พร้อมอดีตแกนนำไทยรักไทย-พลังประชาชน และสมุนเสื้อแดงยกพลเชียร์ลูกพี่ “นช.แม้ว” วีดีโอลิงค์ตั้งแต่บ่ายโอดน้อยใจโชคชะตา ทำใจรับกรรม ให้สาวกตั้งสติสู้ต่อ ส่วน “หญิงอ้อ” หอบลูกเข้าเซฟเฮาส์ “สมชาย” รับนช.แม้ว กลัวคุกไม่กล้ากลับไทย สมุนเสื้อแดงดิ้นพล่านวิจารณ์ศาลรุนแรงหลังนายใหญ่ถูกยึด 4.6 หมื่นล้าน ขู่ผลตัดสินยึดทรัพย์ปลุกม็อบเสื้อแดงสู้แรง "สุเทพ" เชื่อประชาชนเข้าใจเหตุผลในการตัดสินยึดทรัพย์แค่บางส่วน พร้อมสั่งตรึงกำลังเข้ม ทั้งในกทม.และต่างจังหวัดเพื่อให้ประชาชนอุ่นใจ "มาร์ค" ขอพักผ่อนงดให้สัมภาษณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศที่พรรคเพื่อไทย ย่านถ.พระราม 4 วานนี้ (26 ก.พ.) ซึ่งเป็นวันพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทเศษ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บรรดาแกนนำ และส.ส.พรรคเพื่อไทย พร้อมอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน ได้เดินทางมาร่วมติดตามฟังคำพิพากษากันอย่างคึกคัก อาทิ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประะานพรรคเพื่อไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรมว.ยุติธรรม นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายสุขุมพงษ์ โง่นคำ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งเป็นเครือข่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ จำนวนมาก ได้เดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษาครั้งนี้ด้วย ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้วิดีโอลิงเข้ามายังพรรคเพื่อไทย เพื่อทักทายผู้สนับสนัน
***แม้วตั้งสมาธิพร้อมรับทุกสถานการณ์
เมื่อเวลา 13.13 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ได้วีดีโอลิงค์เข้ามายังชั้น 4 ที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ กล่าวต้อนรับและให้กำลังใจ ขณะที่พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวขอบคุณแกนนำพรรคและกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาให้กำลังใจ ตนและครอบครัวจะไม่มีวันลืม บางทีก็น้อยใจกับโชคชะตาว่าทำไมเล่นกันแรงอย่างนี้ วันนี้จะเป็นวันประวัติศาสตร์ของกระบวนการยุติธรรม ประวัติศาสตร์ทางการเมืองของพรรคการเมือง 2 พรรคที่แบ่งออกเป็น 2 สี เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของประเทศไทย แต่ไม่ว่าผลการตัดสินจะออกมาอย่างไรตนและครอบครัวได้เตรียมใจพร้อมรับสถานการณ์ทุกรูปแบบ
“วันนี้เรามาดูกันว่าผลจะเป็นอย่างไร และไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรผมก็รับได้ วันนี้กำลังใจพวกเราเข้มแข็งพอ ต้องขอขอบคุณที่มารวมตัวกันที่นี่จำนวนมาก และไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็ขอให้ทุกคนตั้งสติ ดำเนินกิจกรรมต่อไปเพื่อประโยชน์ของประชาชน เพื่อให้เกิดความสงบสุขในสังคมไทย และเพื่อให้เกิดประชาธิปไตยขึ้นอย่างแท้จริง วันนี้ลูกบอลไม่ได้อยู่ข้างเรา มันอยู่ข้างเขา ก็ต้องแล้วแต่ว่าเขาจะเสิร์ฟไปทางไหน แต่ตนก็จะสู้จนกว่าความยุติธรรมจะเกิดขึ้น”?
***ก๊กแดงปิดถ.พระราม4แจกใบปลิว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศที่บริเวณห้องโถงชั้น 1 ที่ทำการพรรคเพื่อไทยนั้น ทันทีที่พ.ต.ท. ทักษิณวิดีโอลิงค์เข้ามาที่จอโปรเจคเตอร์ ที่พรรคนำมาติดตั้งไว้ให้ประชาชนคนเสื้อแดงที่มาร่วมฟังผลการตัดสินคดียึดทรัพย์นั้น กลุ่มคนเสื้อแดงต่างปรบมือด้วยความดีใจกันอย่างคึกคัก บางรายก็โบกมือให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ในขณะที่คนเสื้อแดงบางคนตะโกนว่า “ทักษิณสู้ๆ? สลับกับ ทักษิณกลับมา”? อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่พ.ต.ท.ทักษิณพูดจบ คนเสื้อแดงต่างพากันโห่ร้องและปรบมือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างฟังคำพิพากษา กลุ่มคนเสื้อแดงที่มาชุมนุมกันที่พรรคเพื่อไทย ได้นำรถเครื่อขขายเสียงมาจอดบริเวรหน้าที่ทำการพรรค ข้างถ.พระราม 1 โดยมีการร้องเพลงให้กำลังใจกันเป็นระยะๆ นอกจากนี้กลุ่มคนเสื้อแดง จำนวนหนึ่งได้ยึด ถ.พระราม 4 หน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย แจกจ่ายเอกสารชี้แจง คดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้กับผู้ขับรถสัญจรผ่านไปมา จนทำให้การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัดอย่างหนัก
***“หญิงอ้อ” พาลูกเข้าเซฟเฮาท์
สำหรับความเคลื่อนไหวของคนในตระกูลชินวัตรนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร์ อดีตภริยาพ.ต.ท.ทักษิณและนายพานทองแท้ น.ส.พินทองทาและน.ส.แพรทองธาร ชินวัตร บุตรสาว และบุตรชาย ได้เก็บตัวอยู่ที่เซฟเฮาท์แห่งหนึ่งในกทม.เพื่อติดตามผลการพิพากษาคดียึดทรัพย์ โดยมี พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. และพี่ชายคุณหญิงพจมาน คอยให้การดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยานายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และนายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยนั้น คอยติดตามผลการตัดสินของศาลอยู่ที่ชั้น 33 อาคารชินวัตร 3
***“สมชาย” รับ “แม้ว” กลัวคุกไม่กล้ากลับ
นายสมชาย วงสวัสดิ์ ให้สัมภาษณ์ระหว่างฟังคำพิพากษาว่า ได้พูดคุยโทรศัพท์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยประเมินตรงกันว่าทรัพย์สินที่มีนั้นได้มาก่อนเป็นนายกรัรฐมนตรี จึงต้องการขอความยุติธรรม หากผลออกมาแสดงให้เห็นถึงความยุติธรรม สังคมก็จะรับได้ อย่างไรก็ตาม หากผลการพิพากษาออกมาไม่ตรงกับความรู้สึกเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คงไม่โกรธ แต่คนที่รัก พ.ต.ท.ทักษิณในเมืองไทยจะโกรธหรือไม่ตนไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีโอกาสที่จะกลับมาเมืองไทยอีกหรือไม่ หากศาลสั่งยึดทรัพย์ นายสมชาย กล่าวว่า ใครๆ ก็อยากกลับบ้าน แต่ไม่อยากกลับมาแล้วติดคุกหรอก อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณ คิดว่า กลับมาอาจถูกจำคุกในคดีอื่นก็เป็นได้ เพราะยังมีคดีที่ดินรัชดา เป็นต้น
***ระบุ “พจมาน” เจรจาแล้วแต่ไม่สำเร็จ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาคุณหญิงพจมาน พยายามแจรจาแต่ไม่สำเร็จ นายสมชายกล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าคุณหญิงพจมาน เจรจาล้มเหลวเพราะอะไร ซึ่งถึงวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็อยากให้มีการเจรจาอยู่ เพราะไม่มีใครเคยติดคุกด้วยคดีบัตรประชาชนใบเดียว เพราะไปเป็นหลักประกันในการซื้อที่ดินให้คุณหญิงพจมาน
ส่วนที่ น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย บุตรสาวเป็นหนึ่งในบุคคลที่คัดค้านข้อกล่าวหา และน.ส.ชินณิชา มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะได้ยืมเงินในเครือบริษัทชินคอร์เปอเรชั่น นายสมชาย กล่าวว่า บุตรสาวของตน ไปเป็นพยานให้พ.ต.ท.ทักษิณจริง แต่เรื่องการยืมเงินนั้นได้คืนไปเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม หาก พ.ต.ท.ทักษิณถูกยึดทรัพย์ ก็ไม่เกี่ยวกับครอบครัวของตน เพราะเป็นคนละส่วนกัน
***เตรียมทนายต่างประเทศสู้ศาลโลก
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากศาลสั่งยึดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณทั้งหมด จะยังมีในส่วนอื่นอีก หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่คิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณ คงมีทางหาได้ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีธุรกิจอื่นๆ อยู่อีก เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะอุทธรณ์หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ทราบว่าหากเป็นคดีในเมืองไทย พ.ต.ท.ทักษิณ มีทีมทนาย ที่ดูแลอยู่ แต่รายละเอียดเรื่องการยื่นหลักฐานใหม่เพื่อขออุทธรณ์ไม่ทราบว่า มีอะไรบ้าง
ต่อข้อถามว่า ตามหลักการแล้วผู้ถูกร้องในคดีนี้ สามารถจะยื่นถอดถอน องค์คณะผู้พิพากษาที่ตัดสินคดีหรือไม่ นายสมชาย ปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว
ส่วนความเป็นไปได้ที่พ.ต.ท.ทักษิณจะยื่นฟ้องต่อศาลโลกนายสมชาย กล่าวว่า ทราบเพียงว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีที่ปรึกษาด้านกฎหมายระหว่างประเทศอยู่แล้ว
สำหรับข่าวรัฐบาลขึ้นแบล็กลิสต์คนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ขอถามว่า 200 รายชื่อที่ออกมาตนก็ไม่ทราบว่า มีใครบ้าง เขาทำอะไรผิด มีกฎหมายข้อไหน มาเอาผิด ที่เขาออกมาชุมนุมก็เป็นสิทธิทางกฎหมาย บ้านเรามีกฎหมายมีขื่อมีแป
***“จิ๋ว” นำทีมแถลงท่าทีคำตัดสินศาลวันนี้
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ทุกคนพอที่จะมองออกและรู้ว่าผลการตัดสินคดีดังกล่าวจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะทุกอย่าง ค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้ว เหมือนหลายคดีที่ผ่านมา ขณะนี้ทุกคนเพียงรอนั่งฟังในรายละเอียดว่า ในการตัดสินคดีครั้งนี้มีวิธีคิดอย่างไร เพราะบางเรื่องอย่างการออก กฎหมายสรรพสามิตที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยไปแล้วนั้น มีการนำมาตัดสินอีกครั้งได้หรือไม่ ซึ่งดูแล้วแปลกๆ ดังนั้นแกนนำของพรรคเพื่อไทยพร้อมทั้งส.ส.จะปรึกษาหารือเพื่อแถลงถึงความเห็น ท่าที และมุมมองของพรรคต่อคำตัดสินในคดีดังกล่าวต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.00 น.ทีมงานพรรคเพื่อไทยได้แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า คณะผู้บริหารพรรคเพื่อไทย และส.ส.ของพรรคจะงดแถลงข่าวภายหลังคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของพ.ต.ท.ทักษิณ วานนี้ (26 กพ.) โดยจะมีเพียงการวิดีโอลิงค์แถลงของพ.ต.ท.ทักษิณเพียงคนเดียวผ่านทาง พีเพิลชาแนล ในรายการท็อคอะราวน์เดอะเวิร์ล
อย่างไรก็ตามแกน นำพรรคเพื่อไทยนำโดย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรค นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคจะร่วมแถลงข่าวถึงผลการตัดสินคดียึดทรัพย์ในวันี้ (27ก.พ.) เวลา 10.00 น.ที่พรรคเพื่อไทยแทน
***แก๊งแดงสติแตกหลัง “แม้ว” ถูกยึดทรัพย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.30 น. ระหว่างองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกา แผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษามาถึงช่วงท้าย ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ กลุ่มคนเสื้อแดงที่นั่งฟังผ่านจอโปรเจ็คเตอรร์ขนาดใหญ่บริเวณห้องโถงขั้น 1 พรรคเพื่อไทยถึงกับน้ำตาซึม และเมื่อศาลอ่านลงลึกไปถึงการยึดทรัพย์ทำให้กองเชียร์หลายคนคุมสติไม่อยู่ตะโกนวิพากษ์วิจารณ์ศาลอย่างรุนแรง บางคนถึงกับล้มตัวลงไปกับพื้นดินไปดิ้นมา พร้อมตะโกนโวกเหวกหลายครั้งว่า “เพื่อท่านทักษิณ ชีวิตนี้จะยอมตาย?”
ขณะที่บางคนตะโกนว่า พร้อมที่จะจะพลีชีพ และอยากให้ลุยกันตั้งแต่คืนนี้เลย บางคนตะโกนว่า “เอามันให้หมดตั้งแต่คืนนี้ไปเลย”? ทำเอาเจ้าหน้าที่พรรคเพื่อไทย ต้องระดมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมารักษาการบริเวณหน้าที่ทำการพรรค เพราะเกรงว่าบรรดากลุ่มคนเสื้อแดงจะควบคุมสติไม่ได้ จนทำลายข้าวของสาธารณะที่อยู่บริเวณใกล้ๆ ที่ทำการพรรค และหลังศาลฎีกาฯพิพากษา ยึดทรัพย์ยึด 46373 ล้านบาทเศษ จากที่อายัดไว้ 76,000 ล้านบาทเศษตกเป็นของแผ่นดิน กลุ่มคนเสื้อแดงยังไม่สงบสติอารมย์ ผลักกันตะโกนวิจารณ์ศาลอย่างวุ่นวาย จน พ.ต.ท.ทักษิณ วีดีโอลิงก์แถลงผ่าน พีเพิลชาแนล ในรายการท็อคอะราวน์เดอะเวิร์ล กลุ่มคนเสือแดงจึงสงบสติอารมย์หันมาฟังคำแถลงของ พ.ต.ท.ทักษิณ
***ส.ส.พท.ขู่ผลคดีทำม็อบเสื้อแดงแรง
นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การพิจารณาคดียึดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นชัดเจนว่าเป็นการใช้กฎหมายที่ไม่ได้รับการยอมรับ เป็นกฎหมายที่ออกมาหลังการยึดอำนาจ เมื่อยังแก้ปัญหาเรื่องการใช้กฎหมาย ที่ไม่เป็นธรรมไม่ได้บ้านเมืองเราก็อยู่ลำบาก การแก้ปัญหาการเมืองจะใช้กฎหมายไม่ได้ เพราะจะเป็นการตัดสินที่มีอคติ การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง จากผลการตัดสินอย่างนี้เชื่อว่าสถานการณ์การเมืองจะแรงขึ้นแน่นอน แต่จะแรงถึงขั้นไหนก็ต้องดูจำนวนคนเสื้อแดงที่จะมาร่วมชุมนุม หากประชาชนมาร่วมกันเยอะ 4-5 แสนคน รัฐบาลจะอยู่ไหวหรือ จะไม่ฟังเขาบ้างหรืออย่างไร
ด้านนายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เมื่อคำตัดสินออกมาอย่างนี้ในทางการเมืองก็คงต้องขับเขี้ยว ต้องสู้กันต่อไป ในสภาฯยืนยันว่า จะมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่นอน และในส่วนของนอกสภาคือการชุมนุมของ กลุ่มคนเสื้อแดงนั้นก็คงจะแรงขึ้น เพราะเหมือนเป็นการยุให้คนเสื้อแดงออกมาชุมนุม เพิ่มมากขึ้น ออกมาต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรม ที่วันนี้คนเสื้อแดงต้องหลั่งน้ำตาให้กับความไม่ยุติธรรม
***“เทพ”หวังประชาชนเข้าใจ
เมี่อเวลา 21.00 น. วานนี้ ( 26 ก.พ.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฐานะประธาน คณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง (คตม.) ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังรับทราบคำพิพากษาว่า คิดว่าจากนี้ไปปัญหาควรจะน้อยลง เพราะประชาชนคงจะเข้าใจ และเห็นเหตุผลพร้อมกัน และควรจะรับได้ หลังจากได้ฟังพิพากษาที่ละเอียด
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความอุ่นใจ ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรทุกภาค และตำรวจทุกจังหวัด ดูแลเฝ้าระวังสถานที่ราชการ และสถานที่ที่เป็นสาธารณูปโภค รวมถึงเส้นทางคมนาคม เพื่อป้องกันเหตุไม่ให้มีการสวมรอยสร้างสถานการณ์ ส่วนพื้นที่กทม.นั้น ตั้งแต่เวลา 22.00 น. จะมีตำรวจ และทหารจำนวน 20 กองร้อยดูแลพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนได้สบายใจจึงสนธิกำลัง ส่วนการติดตามของ คตม. ก็จะดูแล และประเมินสถานการณ์ไปเรื่อยๆ แต่คิดว่าคงไม่มีเหตุอะไร ส่วนในพื้นที่ทำเนียบฯไม่จำเป็นต้องมีการทหารมาดูแลแต่อย่างใด
"คิดว่ามันควรจะเบาลง และขอให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา ถ้าเห็นอะไรที่ผิดปกติ ผิดสังเกต ให้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ"นายสุเทพกล่าว
**พบ"อนุพงษ์"เตรียมรับมือป่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น.วันเดียวกันนี้ นายสุเทพได้เดินทางเข้าพบพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เพื่อเข้ามาร่วมรับประทานอาหารกลางวัน และหารือสถานการณ์บ้านเมืองที่อาจมีผลต่อเนื่องมาจากการตัดสินคดียึดทรัพย์ โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ. และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ร่วมด้วย โดยใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม. ก่อนที่จะเดินทางกลับไปยังทำเนียบรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสุเทพ ได้พูดคุยกับพล.อ.อนุพงษ์ ให้ติดตามสถานการณ์การพิจารณาพิพากษาของศาลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะติดตามกลุ่มคนเสื้อแดง ที่เดินทางมาเป็นกองเชียร์ในครั้งนี้ด้วย รวมถึงให้ติดตามหลังการอ่านคำพิพากษาภายใน 5 ชั่วโมง พร้อมให้เตรียมกำลังไว้หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคตม. ยังไม่มีความชัดเจนที่จะเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องหรือไม่ เนื่องจากนายสุเทพมีภารกิจต่อเนื่องในช่วงเย็น ขณะที่ผู้บัญชาการทหารบก ยังคงปฏิบัติงานภายในกองบัญชาการกองทัพบก และประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา
**"มาร์ค"ยังไม่แสดงความเห็น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.40 น. นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล กลับบ้านพักซอยสวัสดิ์ สุขุมวิท 31 ถึง เมื่อเวลา 19.00 น. โดยนายกฯ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยอ้างว่าเนื่องจากไม่ได้ฟังคำตัดสินของศาล อีกทั้งศาลยังพิจารณาคดีไม่จบ
ทั้งนี้ คณะสื่อมวลชนยังติดตามเฝ้ารออยู่บริเวณหน้าบ้าน ส่วนการรักษาความปลอดภัย ยังคงเป็นไปอย่างเข้มงวด มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ทองหล่อ ประมาณ 10 นาย สารวัตรทหาร หน่วยปฎิบัติการพิเศษ ติดอาวุธเอ็ม 16 รักษาความปลอดภัยบริเวณรอบบ้าน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ นายกฯ ก็ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวโดยบอกว่า ขอให้หลังศาลมีคำตัดสินก่อน และตลอดทั้งวันนายกฯ มีภารกิจตลอด ทำให้ไม่ได้ติดตามการอ่านคำพิพากษาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นายกฯได้กลับเข้าบ้าน เพื่อติดตามคำพิพากษาต่อ
ต่อมาเวลา 19.40 น. นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์ว่า จะยังไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน แม้ศาลจะอ่านคำคำพิพากษาเสร็จสิ้นแล้วก็ตาม ขอพักผ่อน
**เตรียมชี้แจงทั้งสื่อไทย-เทศ
ขณะที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้นั่งมอนิเตอร์ ติดตามการอ่านคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณตลอดทั้งวัน
นายสาทิตย์ กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกมาระบุว่าการที่รัฐบาลจัดรายการพิเศษ ก่อนที่ศาลจะตัดสินคดียึดทรัพย์ก่อนหน้า 1 ชั่วโมง เหมือนรู้คำพิพากษาก่อนแล้วว่า ไม่มีการรู้ผลล่วงหน้าและไม่ว่าผลคำพิพากษาจะออกมาอย่างไร รายการก็คงจัดอยู่ เพราะคดีนี้ถือเป็นคดีสำคัญ อยู่ในความสนใจของประชาชน ซึ่งมีรายละเอียดของคดีมาก และ มีคนพยายามที่จะใช้ผลของคดีนี้นำไปสู่การสร้างเงื่อนไขในการปลุกระดมให้มีความเคลื่อนไหวกันต่อ เพราะการอ่านคำพิพากษาค่อนข้างจะใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน มีความสลับซับซ้อน บางคนอาจเข้าใจน้อย เราจึงจำเป็นต้องชี้แจง
นอกจากนี้ ฝ่ายสำนักโฆษกรัฐบาล และกระทรวงการต่างประเทศ ก็เตรียมแผนที่จะชี้แจงเรื่องนี้ หากมีข่าวอะไรไปปรากฏในสื่อต่างประเทศ ในทำนองที่อาจจะสร้างความเสียหายให้กับกระบวนการยุติธรรมไทย หรือถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ หรือใครไปให้ข่าวสื่อต่างประเทศ ทำนองให้เกิดความเสียหาย เราก็เตรียมคนชี้แจงไว้แล้ว.
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศที่พรรคเพื่อไทย ย่านถ.พระราม 4 วานนี้ (26 ก.พ.) ซึ่งเป็นวันพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทเศษ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บรรดาแกนนำ และส.ส.พรรคเพื่อไทย พร้อมอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน ได้เดินทางมาร่วมติดตามฟังคำพิพากษากันอย่างคึกคัก อาทิ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประะานพรรคเพื่อไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรมว.ยุติธรรม นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายสุขุมพงษ์ โง่นคำ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งเป็นเครือข่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ จำนวนมาก ได้เดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษาครั้งนี้ด้วย ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้วิดีโอลิงเข้ามายังพรรคเพื่อไทย เพื่อทักทายผู้สนับสนัน
***แม้วตั้งสมาธิพร้อมรับทุกสถานการณ์
เมื่อเวลา 13.13 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ได้วีดีโอลิงค์เข้ามายังชั้น 4 ที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ กล่าวต้อนรับและให้กำลังใจ ขณะที่พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวขอบคุณแกนนำพรรคและกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาให้กำลังใจ ตนและครอบครัวจะไม่มีวันลืม บางทีก็น้อยใจกับโชคชะตาว่าทำไมเล่นกันแรงอย่างนี้ วันนี้จะเป็นวันประวัติศาสตร์ของกระบวนการยุติธรรม ประวัติศาสตร์ทางการเมืองของพรรคการเมือง 2 พรรคที่แบ่งออกเป็น 2 สี เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของประเทศไทย แต่ไม่ว่าผลการตัดสินจะออกมาอย่างไรตนและครอบครัวได้เตรียมใจพร้อมรับสถานการณ์ทุกรูปแบบ
“วันนี้เรามาดูกันว่าผลจะเป็นอย่างไร และไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรผมก็รับได้ วันนี้กำลังใจพวกเราเข้มแข็งพอ ต้องขอขอบคุณที่มารวมตัวกันที่นี่จำนวนมาก และไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็ขอให้ทุกคนตั้งสติ ดำเนินกิจกรรมต่อไปเพื่อประโยชน์ของประชาชน เพื่อให้เกิดความสงบสุขในสังคมไทย และเพื่อให้เกิดประชาธิปไตยขึ้นอย่างแท้จริง วันนี้ลูกบอลไม่ได้อยู่ข้างเรา มันอยู่ข้างเขา ก็ต้องแล้วแต่ว่าเขาจะเสิร์ฟไปทางไหน แต่ตนก็จะสู้จนกว่าความยุติธรรมจะเกิดขึ้น”?
***ก๊กแดงปิดถ.พระราม4แจกใบปลิว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศที่บริเวณห้องโถงชั้น 1 ที่ทำการพรรคเพื่อไทยนั้น ทันทีที่พ.ต.ท. ทักษิณวิดีโอลิงค์เข้ามาที่จอโปรเจคเตอร์ ที่พรรคนำมาติดตั้งไว้ให้ประชาชนคนเสื้อแดงที่มาร่วมฟังผลการตัดสินคดียึดทรัพย์นั้น กลุ่มคนเสื้อแดงต่างปรบมือด้วยความดีใจกันอย่างคึกคัก บางรายก็โบกมือให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ในขณะที่คนเสื้อแดงบางคนตะโกนว่า “ทักษิณสู้ๆ? สลับกับ ทักษิณกลับมา”? อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่พ.ต.ท.ทักษิณพูดจบ คนเสื้อแดงต่างพากันโห่ร้องและปรบมือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างฟังคำพิพากษา กลุ่มคนเสื้อแดงที่มาชุมนุมกันที่พรรคเพื่อไทย ได้นำรถเครื่อขขายเสียงมาจอดบริเวรหน้าที่ทำการพรรค ข้างถ.พระราม 1 โดยมีการร้องเพลงให้กำลังใจกันเป็นระยะๆ นอกจากนี้กลุ่มคนเสื้อแดง จำนวนหนึ่งได้ยึด ถ.พระราม 4 หน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย แจกจ่ายเอกสารชี้แจง คดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้กับผู้ขับรถสัญจรผ่านไปมา จนทำให้การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัดอย่างหนัก
***“หญิงอ้อ” พาลูกเข้าเซฟเฮาท์
สำหรับความเคลื่อนไหวของคนในตระกูลชินวัตรนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร์ อดีตภริยาพ.ต.ท.ทักษิณและนายพานทองแท้ น.ส.พินทองทาและน.ส.แพรทองธาร ชินวัตร บุตรสาว และบุตรชาย ได้เก็บตัวอยู่ที่เซฟเฮาท์แห่งหนึ่งในกทม.เพื่อติดตามผลการพิพากษาคดียึดทรัพย์ โดยมี พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. และพี่ชายคุณหญิงพจมาน คอยให้การดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยานายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และนายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยนั้น คอยติดตามผลการตัดสินของศาลอยู่ที่ชั้น 33 อาคารชินวัตร 3
***“สมชาย” รับ “แม้ว” กลัวคุกไม่กล้ากลับ
นายสมชาย วงสวัสดิ์ ให้สัมภาษณ์ระหว่างฟังคำพิพากษาว่า ได้พูดคุยโทรศัพท์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยประเมินตรงกันว่าทรัพย์สินที่มีนั้นได้มาก่อนเป็นนายกรัรฐมนตรี จึงต้องการขอความยุติธรรม หากผลออกมาแสดงให้เห็นถึงความยุติธรรม สังคมก็จะรับได้ อย่างไรก็ตาม หากผลการพิพากษาออกมาไม่ตรงกับความรู้สึกเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คงไม่โกรธ แต่คนที่รัก พ.ต.ท.ทักษิณในเมืองไทยจะโกรธหรือไม่ตนไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีโอกาสที่จะกลับมาเมืองไทยอีกหรือไม่ หากศาลสั่งยึดทรัพย์ นายสมชาย กล่าวว่า ใครๆ ก็อยากกลับบ้าน แต่ไม่อยากกลับมาแล้วติดคุกหรอก อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณ คิดว่า กลับมาอาจถูกจำคุกในคดีอื่นก็เป็นได้ เพราะยังมีคดีที่ดินรัชดา เป็นต้น
***ระบุ “พจมาน” เจรจาแล้วแต่ไม่สำเร็จ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาคุณหญิงพจมาน พยายามแจรจาแต่ไม่สำเร็จ นายสมชายกล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าคุณหญิงพจมาน เจรจาล้มเหลวเพราะอะไร ซึ่งถึงวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็อยากให้มีการเจรจาอยู่ เพราะไม่มีใครเคยติดคุกด้วยคดีบัตรประชาชนใบเดียว เพราะไปเป็นหลักประกันในการซื้อที่ดินให้คุณหญิงพจมาน
ส่วนที่ น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย บุตรสาวเป็นหนึ่งในบุคคลที่คัดค้านข้อกล่าวหา และน.ส.ชินณิชา มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะได้ยืมเงินในเครือบริษัทชินคอร์เปอเรชั่น นายสมชาย กล่าวว่า บุตรสาวของตน ไปเป็นพยานให้พ.ต.ท.ทักษิณจริง แต่เรื่องการยืมเงินนั้นได้คืนไปเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม หาก พ.ต.ท.ทักษิณถูกยึดทรัพย์ ก็ไม่เกี่ยวกับครอบครัวของตน เพราะเป็นคนละส่วนกัน
***เตรียมทนายต่างประเทศสู้ศาลโลก
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากศาลสั่งยึดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณทั้งหมด จะยังมีในส่วนอื่นอีก หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่คิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณ คงมีทางหาได้ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีธุรกิจอื่นๆ อยู่อีก เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะอุทธรณ์หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ทราบว่าหากเป็นคดีในเมืองไทย พ.ต.ท.ทักษิณ มีทีมทนาย ที่ดูแลอยู่ แต่รายละเอียดเรื่องการยื่นหลักฐานใหม่เพื่อขออุทธรณ์ไม่ทราบว่า มีอะไรบ้าง
ต่อข้อถามว่า ตามหลักการแล้วผู้ถูกร้องในคดีนี้ สามารถจะยื่นถอดถอน องค์คณะผู้พิพากษาที่ตัดสินคดีหรือไม่ นายสมชาย ปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว
ส่วนความเป็นไปได้ที่พ.ต.ท.ทักษิณจะยื่นฟ้องต่อศาลโลกนายสมชาย กล่าวว่า ทราบเพียงว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีที่ปรึกษาด้านกฎหมายระหว่างประเทศอยู่แล้ว
สำหรับข่าวรัฐบาลขึ้นแบล็กลิสต์คนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ขอถามว่า 200 รายชื่อที่ออกมาตนก็ไม่ทราบว่า มีใครบ้าง เขาทำอะไรผิด มีกฎหมายข้อไหน มาเอาผิด ที่เขาออกมาชุมนุมก็เป็นสิทธิทางกฎหมาย บ้านเรามีกฎหมายมีขื่อมีแป
***“จิ๋ว” นำทีมแถลงท่าทีคำตัดสินศาลวันนี้
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ทุกคนพอที่จะมองออกและรู้ว่าผลการตัดสินคดีดังกล่าวจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะทุกอย่าง ค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้ว เหมือนหลายคดีที่ผ่านมา ขณะนี้ทุกคนเพียงรอนั่งฟังในรายละเอียดว่า ในการตัดสินคดีครั้งนี้มีวิธีคิดอย่างไร เพราะบางเรื่องอย่างการออก กฎหมายสรรพสามิตที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยไปแล้วนั้น มีการนำมาตัดสินอีกครั้งได้หรือไม่ ซึ่งดูแล้วแปลกๆ ดังนั้นแกนนำของพรรคเพื่อไทยพร้อมทั้งส.ส.จะปรึกษาหารือเพื่อแถลงถึงความเห็น ท่าที และมุมมองของพรรคต่อคำตัดสินในคดีดังกล่าวต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.00 น.ทีมงานพรรคเพื่อไทยได้แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า คณะผู้บริหารพรรคเพื่อไทย และส.ส.ของพรรคจะงดแถลงข่าวภายหลังคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของพ.ต.ท.ทักษิณ วานนี้ (26 กพ.) โดยจะมีเพียงการวิดีโอลิงค์แถลงของพ.ต.ท.ทักษิณเพียงคนเดียวผ่านทาง พีเพิลชาแนล ในรายการท็อคอะราวน์เดอะเวิร์ล
อย่างไรก็ตามแกน นำพรรคเพื่อไทยนำโดย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรค นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคจะร่วมแถลงข่าวถึงผลการตัดสินคดียึดทรัพย์ในวันี้ (27ก.พ.) เวลา 10.00 น.ที่พรรคเพื่อไทยแทน
***แก๊งแดงสติแตกหลัง “แม้ว” ถูกยึดทรัพย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.30 น. ระหว่างองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกา แผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษามาถึงช่วงท้าย ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ กลุ่มคนเสื้อแดงที่นั่งฟังผ่านจอโปรเจ็คเตอรร์ขนาดใหญ่บริเวณห้องโถงขั้น 1 พรรคเพื่อไทยถึงกับน้ำตาซึม และเมื่อศาลอ่านลงลึกไปถึงการยึดทรัพย์ทำให้กองเชียร์หลายคนคุมสติไม่อยู่ตะโกนวิพากษ์วิจารณ์ศาลอย่างรุนแรง บางคนถึงกับล้มตัวลงไปกับพื้นดินไปดิ้นมา พร้อมตะโกนโวกเหวกหลายครั้งว่า “เพื่อท่านทักษิณ ชีวิตนี้จะยอมตาย?”
ขณะที่บางคนตะโกนว่า พร้อมที่จะจะพลีชีพ และอยากให้ลุยกันตั้งแต่คืนนี้เลย บางคนตะโกนว่า “เอามันให้หมดตั้งแต่คืนนี้ไปเลย”? ทำเอาเจ้าหน้าที่พรรคเพื่อไทย ต้องระดมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมารักษาการบริเวณหน้าที่ทำการพรรค เพราะเกรงว่าบรรดากลุ่มคนเสื้อแดงจะควบคุมสติไม่ได้ จนทำลายข้าวของสาธารณะที่อยู่บริเวณใกล้ๆ ที่ทำการพรรค และหลังศาลฎีกาฯพิพากษา ยึดทรัพย์ยึด 46373 ล้านบาทเศษ จากที่อายัดไว้ 76,000 ล้านบาทเศษตกเป็นของแผ่นดิน กลุ่มคนเสื้อแดงยังไม่สงบสติอารมย์ ผลักกันตะโกนวิจารณ์ศาลอย่างวุ่นวาย จน พ.ต.ท.ทักษิณ วีดีโอลิงก์แถลงผ่าน พีเพิลชาแนล ในรายการท็อคอะราวน์เดอะเวิร์ล กลุ่มคนเสือแดงจึงสงบสติอารมย์หันมาฟังคำแถลงของ พ.ต.ท.ทักษิณ
***ส.ส.พท.ขู่ผลคดีทำม็อบเสื้อแดงแรง
นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การพิจารณาคดียึดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นชัดเจนว่าเป็นการใช้กฎหมายที่ไม่ได้รับการยอมรับ เป็นกฎหมายที่ออกมาหลังการยึดอำนาจ เมื่อยังแก้ปัญหาเรื่องการใช้กฎหมาย ที่ไม่เป็นธรรมไม่ได้บ้านเมืองเราก็อยู่ลำบาก การแก้ปัญหาการเมืองจะใช้กฎหมายไม่ได้ เพราะจะเป็นการตัดสินที่มีอคติ การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง จากผลการตัดสินอย่างนี้เชื่อว่าสถานการณ์การเมืองจะแรงขึ้นแน่นอน แต่จะแรงถึงขั้นไหนก็ต้องดูจำนวนคนเสื้อแดงที่จะมาร่วมชุมนุม หากประชาชนมาร่วมกันเยอะ 4-5 แสนคน รัฐบาลจะอยู่ไหวหรือ จะไม่ฟังเขาบ้างหรืออย่างไร
ด้านนายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เมื่อคำตัดสินออกมาอย่างนี้ในทางการเมืองก็คงต้องขับเขี้ยว ต้องสู้กันต่อไป ในสภาฯยืนยันว่า จะมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่นอน และในส่วนของนอกสภาคือการชุมนุมของ กลุ่มคนเสื้อแดงนั้นก็คงจะแรงขึ้น เพราะเหมือนเป็นการยุให้คนเสื้อแดงออกมาชุมนุม เพิ่มมากขึ้น ออกมาต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรม ที่วันนี้คนเสื้อแดงต้องหลั่งน้ำตาให้กับความไม่ยุติธรรม
***“เทพ”หวังประชาชนเข้าใจ
เมี่อเวลา 21.00 น. วานนี้ ( 26 ก.พ.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฐานะประธาน คณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง (คตม.) ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังรับทราบคำพิพากษาว่า คิดว่าจากนี้ไปปัญหาควรจะน้อยลง เพราะประชาชนคงจะเข้าใจ และเห็นเหตุผลพร้อมกัน และควรจะรับได้ หลังจากได้ฟังพิพากษาที่ละเอียด
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความอุ่นใจ ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรทุกภาค และตำรวจทุกจังหวัด ดูแลเฝ้าระวังสถานที่ราชการ และสถานที่ที่เป็นสาธารณูปโภค รวมถึงเส้นทางคมนาคม เพื่อป้องกันเหตุไม่ให้มีการสวมรอยสร้างสถานการณ์ ส่วนพื้นที่กทม.นั้น ตั้งแต่เวลา 22.00 น. จะมีตำรวจ และทหารจำนวน 20 กองร้อยดูแลพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนได้สบายใจจึงสนธิกำลัง ส่วนการติดตามของ คตม. ก็จะดูแล และประเมินสถานการณ์ไปเรื่อยๆ แต่คิดว่าคงไม่มีเหตุอะไร ส่วนในพื้นที่ทำเนียบฯไม่จำเป็นต้องมีการทหารมาดูแลแต่อย่างใด
"คิดว่ามันควรจะเบาลง และขอให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา ถ้าเห็นอะไรที่ผิดปกติ ผิดสังเกต ให้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ"นายสุเทพกล่าว
**พบ"อนุพงษ์"เตรียมรับมือป่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น.วันเดียวกันนี้ นายสุเทพได้เดินทางเข้าพบพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เพื่อเข้ามาร่วมรับประทานอาหารกลางวัน และหารือสถานการณ์บ้านเมืองที่อาจมีผลต่อเนื่องมาจากการตัดสินคดียึดทรัพย์ โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ. และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ร่วมด้วย โดยใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม. ก่อนที่จะเดินทางกลับไปยังทำเนียบรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสุเทพ ได้พูดคุยกับพล.อ.อนุพงษ์ ให้ติดตามสถานการณ์การพิจารณาพิพากษาของศาลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะติดตามกลุ่มคนเสื้อแดง ที่เดินทางมาเป็นกองเชียร์ในครั้งนี้ด้วย รวมถึงให้ติดตามหลังการอ่านคำพิพากษาภายใน 5 ชั่วโมง พร้อมให้เตรียมกำลังไว้หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคตม. ยังไม่มีความชัดเจนที่จะเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องหรือไม่ เนื่องจากนายสุเทพมีภารกิจต่อเนื่องในช่วงเย็น ขณะที่ผู้บัญชาการทหารบก ยังคงปฏิบัติงานภายในกองบัญชาการกองทัพบก และประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา
**"มาร์ค"ยังไม่แสดงความเห็น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.40 น. นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล กลับบ้านพักซอยสวัสดิ์ สุขุมวิท 31 ถึง เมื่อเวลา 19.00 น. โดยนายกฯ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยอ้างว่าเนื่องจากไม่ได้ฟังคำตัดสินของศาล อีกทั้งศาลยังพิจารณาคดีไม่จบ
ทั้งนี้ คณะสื่อมวลชนยังติดตามเฝ้ารออยู่บริเวณหน้าบ้าน ส่วนการรักษาความปลอดภัย ยังคงเป็นไปอย่างเข้มงวด มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ทองหล่อ ประมาณ 10 นาย สารวัตรทหาร หน่วยปฎิบัติการพิเศษ ติดอาวุธเอ็ม 16 รักษาความปลอดภัยบริเวณรอบบ้าน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ นายกฯ ก็ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวโดยบอกว่า ขอให้หลังศาลมีคำตัดสินก่อน และตลอดทั้งวันนายกฯ มีภารกิจตลอด ทำให้ไม่ได้ติดตามการอ่านคำพิพากษาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นายกฯได้กลับเข้าบ้าน เพื่อติดตามคำพิพากษาต่อ
ต่อมาเวลา 19.40 น. นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์ว่า จะยังไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน แม้ศาลจะอ่านคำคำพิพากษาเสร็จสิ้นแล้วก็ตาม ขอพักผ่อน
**เตรียมชี้แจงทั้งสื่อไทย-เทศ
ขณะที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้นั่งมอนิเตอร์ ติดตามการอ่านคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณตลอดทั้งวัน
นายสาทิตย์ กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกมาระบุว่าการที่รัฐบาลจัดรายการพิเศษ ก่อนที่ศาลจะตัดสินคดียึดทรัพย์ก่อนหน้า 1 ชั่วโมง เหมือนรู้คำพิพากษาก่อนแล้วว่า ไม่มีการรู้ผลล่วงหน้าและไม่ว่าผลคำพิพากษาจะออกมาอย่างไร รายการก็คงจัดอยู่ เพราะคดีนี้ถือเป็นคดีสำคัญ อยู่ในความสนใจของประชาชน ซึ่งมีรายละเอียดของคดีมาก และ มีคนพยายามที่จะใช้ผลของคดีนี้นำไปสู่การสร้างเงื่อนไขในการปลุกระดมให้มีความเคลื่อนไหวกันต่อ เพราะการอ่านคำพิพากษาค่อนข้างจะใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน มีความสลับซับซ้อน บางคนอาจเข้าใจน้อย เราจึงจำเป็นต้องชี้แจง
นอกจากนี้ ฝ่ายสำนักโฆษกรัฐบาล และกระทรวงการต่างประเทศ ก็เตรียมแผนที่จะชี้แจงเรื่องนี้ หากมีข่าวอะไรไปปรากฏในสื่อต่างประเทศ ในทำนองที่อาจจะสร้างความเสียหายให้กับกระบวนการยุติธรรมไทย หรือถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ หรือใครไปให้ข่าวสื่อต่างประเทศ ทำนองให้เกิดความเสียหาย เราก็เตรียมคนชี้แจงไว้แล้ว.