ASTVผู้จัดการรายวัน - แบงก์ชาติเผยปี 57 จะเปิดช่องให้แบงก์ขอใบอนุญาตทำธุรกิจเต็มรูปแบบมากขึ้น ขณะที่การนำเงินสำรองระหว่างประเทศไปซื้อพันธบัตร เพื่อแก้ปัญหาหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ต้องดูตามกฎหมาย
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.จะเพิ่มการแข่งขันให้ระบบสถาบันการเงินมีมากขึ้น โดยในปี 2557 ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงินระยะที่ 2 (มาสเตอร์แพลน2) จะเปิดให้สถาบันการเงินได้รับใบอนุญาตทำธุรกิจเต็มรูปแบบมากขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียให้ครอบคลุมการค้าและการลงทุน ส่วนจะเน้นสถาบันการเงินจากที่ไหนบ้างต้องพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
มาสเตอร์แพลน 2 ได้กำหนดตารางเวลาไว้ชัดเจน โดยในช่วงแรกจะเน้นเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนของระบบสถาบันการเงิน แต่ในระยะต่อไปจะเน้นให้สถาบันการเงินสร้างมูลค่าเพิ่มใหม่ให้มีความหลากหลายในระบบมากขึ้น ซึ่งจะเปิดให้ทั้งผู้เล่นรายใหม่และนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้นด้วย
**แก้ไขหนี้กองทุนฟื้นฟูฯต้องดู กม.**
สำหรับกรณีที่กระทรวงการคลังต้องการให้ธปท.นำเงินสำรองระหว่างประเทศส่วนหนึ่งมาซื้อพันธบัตรรัฐบาลไทย ในอัตราดอกเบี้ย 0% เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินที่เหลืออยู่ประมาณ 2.5 แสนล้านบาท ซึ่งในปัจจุบันธปท.รับผิดชอบเงินต้นและคลังจ่ายอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 5-6 หมื่นล้านบาทในแต่ละปี
นางธาริษากล่าวว่า ขณะนี้ในกฎหมายไม่ว่าจะเป็นพ.ร.บ.ธปท.และพ.ร.บ.เงินตราได้กำหนดไว้ชัดเจนแล้วว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง ขณะเดียวกันกองทุนฟื้นฟูฯ ก็ได้ระบุไว้ชัดเจนแล้วว่าการแก้ไขปัญหาหนี้ควรเอาเงินสำรองระหว่างประเทศจากบัญชีใดได้บ้าง โดยในปัจจุบันมีหนี้ประมาณ 2-3 กองทุน แต่ละกองก็ระบุชัดเจนว่าควรเอาเงินมาจากที่ไหน ประกอบกับช่วงที่ผ่านมา ธปท.มีข้อจำกัด คือ มีการขาดทุนสะสมจากอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้ไม่มีกำไรส่งเงินต้น ทำให้สามารถชำระหนี้ในส่วนของเงินต้นได้ค่อนข้างน้อย จึงมียอดคงค้างเงินต้นของกองทุนฟื้นฟูฯเหลืออยู่มาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามพ.ร.บ.ธปท.นั้น การซื้อพันธบัตรรัฐบาลไทยนั้น เป็นเรื่องที่ ธปท.สามารถทำได้ในลักษณะของการให้รัฐบาลกู้ยืมเงิน เมื่อรัฐบาลขาดดุลงบประมาณ หรือ การซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพื่อปล่อยสภาพคล่องออกจากระบบ ซึ่งทำได้โดยใช้เงินของ ธปท.จากการเพิ่มธนบัตรเพิ่มซึ่งไม่ใช่การนำทุนสำรองเงินตราหรือทุนสำรองทางการระหว่างประเทศไปลงทุนซื้อพันธบัตร
นอกจากนี้ ตามกฎของการนำทุนสำรองระหว่างประเทศของธปท.ไปลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลกเพื่อทำกำไรนั้น จะต้องเป็นการลงทุนที่มีกำไร และที่สำคัญที่สุดจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของทุนสำรองระหว่างประเทศ โดยกำหนดอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตร และตราสารหนี้ที่ธปท.สามารถไปลงทุนได้จะต้องอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า AAAเท่านั้น โดยให้ลงทุนในประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับสูงสุด รวมถึงองค์การระหว่างประเทศที่ได้รับการยอมรับเท่านั้น.
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.จะเพิ่มการแข่งขันให้ระบบสถาบันการเงินมีมากขึ้น โดยในปี 2557 ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงินระยะที่ 2 (มาสเตอร์แพลน2) จะเปิดให้สถาบันการเงินได้รับใบอนุญาตทำธุรกิจเต็มรูปแบบมากขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียให้ครอบคลุมการค้าและการลงทุน ส่วนจะเน้นสถาบันการเงินจากที่ไหนบ้างต้องพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
มาสเตอร์แพลน 2 ได้กำหนดตารางเวลาไว้ชัดเจน โดยในช่วงแรกจะเน้นเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนของระบบสถาบันการเงิน แต่ในระยะต่อไปจะเน้นให้สถาบันการเงินสร้างมูลค่าเพิ่มใหม่ให้มีความหลากหลายในระบบมากขึ้น ซึ่งจะเปิดให้ทั้งผู้เล่นรายใหม่และนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้นด้วย
**แก้ไขหนี้กองทุนฟื้นฟูฯต้องดู กม.**
สำหรับกรณีที่กระทรวงการคลังต้องการให้ธปท.นำเงินสำรองระหว่างประเทศส่วนหนึ่งมาซื้อพันธบัตรรัฐบาลไทย ในอัตราดอกเบี้ย 0% เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินที่เหลืออยู่ประมาณ 2.5 แสนล้านบาท ซึ่งในปัจจุบันธปท.รับผิดชอบเงินต้นและคลังจ่ายอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 5-6 หมื่นล้านบาทในแต่ละปี
นางธาริษากล่าวว่า ขณะนี้ในกฎหมายไม่ว่าจะเป็นพ.ร.บ.ธปท.และพ.ร.บ.เงินตราได้กำหนดไว้ชัดเจนแล้วว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง ขณะเดียวกันกองทุนฟื้นฟูฯ ก็ได้ระบุไว้ชัดเจนแล้วว่าการแก้ไขปัญหาหนี้ควรเอาเงินสำรองระหว่างประเทศจากบัญชีใดได้บ้าง โดยในปัจจุบันมีหนี้ประมาณ 2-3 กองทุน แต่ละกองก็ระบุชัดเจนว่าควรเอาเงินมาจากที่ไหน ประกอบกับช่วงที่ผ่านมา ธปท.มีข้อจำกัด คือ มีการขาดทุนสะสมจากอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้ไม่มีกำไรส่งเงินต้น ทำให้สามารถชำระหนี้ในส่วนของเงินต้นได้ค่อนข้างน้อย จึงมียอดคงค้างเงินต้นของกองทุนฟื้นฟูฯเหลืออยู่มาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามพ.ร.บ.ธปท.นั้น การซื้อพันธบัตรรัฐบาลไทยนั้น เป็นเรื่องที่ ธปท.สามารถทำได้ในลักษณะของการให้รัฐบาลกู้ยืมเงิน เมื่อรัฐบาลขาดดุลงบประมาณ หรือ การซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพื่อปล่อยสภาพคล่องออกจากระบบ ซึ่งทำได้โดยใช้เงินของ ธปท.จากการเพิ่มธนบัตรเพิ่มซึ่งไม่ใช่การนำทุนสำรองเงินตราหรือทุนสำรองทางการระหว่างประเทศไปลงทุนซื้อพันธบัตร
นอกจากนี้ ตามกฎของการนำทุนสำรองระหว่างประเทศของธปท.ไปลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลกเพื่อทำกำไรนั้น จะต้องเป็นการลงทุนที่มีกำไร และที่สำคัญที่สุดจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของทุนสำรองระหว่างประเทศ โดยกำหนดอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตร และตราสารหนี้ที่ธปท.สามารถไปลงทุนได้จะต้องอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า AAAเท่านั้น โดยให้ลงทุนในประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับสูงสุด รวมถึงองค์การระหว่างประเทศที่ได้รับการยอมรับเท่านั้น.