xs
xsm
sm
md
lg

แม้วจ่อฟ้องศาลโลก จี้ปิดวิทยุแดงปลุกระดม เตรียมเชิญทูตชี้แจงคดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - "นช.แม้ว" โม้สื่อไทยที่ดูไบ “ไม่เครียด” วันตัดสินยึดทรัพย์จะเดินห้าง ขณะเดียวกันกลับอยู่ไม่สุขทวิตเตอร์ถี่ยิบเฉ่งรัฐบาลใช้สื่อเป็นเครื่องมือ ลั่นทำทุกวิถีทางให้ได้ทรัพย์คืน บอกถ้าแพ้คดีสู้ต่อศาลโลก บัวแก้ว เชิญทูตยูเออี แจงสถานการณ์พร้อมวอนช่วยจับตาเข้ม "นช.แม้ว" ใช้ดูไบป่วนไทย เชื่อมีโอกาสได้ตัวมารับโทษ "ขวัญชัย" ลั่นเตรียมรถ 2 พันคันขนคนเข้ากรุง 1 มี.ค.นี้อ้างเพื่อ ปชต. ด้าน มท.1 โยนผู้ว่าฯตามสกัดเสื้อแดงขนคนบุกกรุง

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า คณะภาคเอกชนและสื่อมวลชน ที่เข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหาร Gulfood จัดขึ้นในดูไบ ได้มีโอกาสพบพ.ต.ท.ทักษิณ ในระหว่างการเลือกซื้อสินค้าในร้านโคช (Coach) ภายในห้างสรรพสินค้า Mall of Emirates เมื่อวันที่ 20 ก.พ. เวลา 14.30 น. ตามเวลาของดูไบ สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวกับสื่อมวลชนไทยว่า ไม่รู้สึกเครียดต่อการตัดสินคดียึดทรัพย์ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ โดยยืนยันว่าหากไม่ได้รับความยุติธรรมจากการพิจารณาตัดสินคดี ก็จะต่อสู้อย่างเต็มที่ในทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้รับความยุติธรรมกลับคืนมา ซึ่งในวันที่ 26 ก.พ.นี้ จะยังเดินเล่นอยู่ที่ดูไบ อาจจะเดินเลือกซื้อสินค้าที่ห้างแห่งนี้ อย่างที่ทำเป็นประจำเกือบทุกวันอย่างไรก็ตาม หวังว่าจะได้กลับประเทศไทยภายในปีนี้

"ไม่มีอะไรต้องเครียด คงจะอยู่ที่นี่ในวันตัดสิน และอาจจะเดินห้างที่นี่ ซึ่งเป็นไปตามปกติเวลามีแขกมาพบ ก็จะพามาเดินห้างแห่งนี้บ่อยจนเป็นที่รู้จักทุกร้าน แต่ถ้าไม่ได้รับความยุติธรรมก็ต้องต่อสู้ ถามว่าจะต่อสู้ด้วยวิธีการอะไรก็คงจะใช้ทุกวิธีการที่ให้มาซึ่งความยุติธรรม"

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่าถ้าศาลตัดสินยึดทรัพย์ถือว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนเรียกร้องมาตลอด ส่วนกระแสข่าวเรื่องการส่งท่อน้ำเลี้ยงให้กับกลุ่มเสื้อแดงในการชุมนุมนั้น ขอยืนยันว่าการคิดเช่นนั้น เป็นความคิดที่ไม่สร้างสรรค์ในกลุ่มห้องสีม่วง

ทวิตเตอร์ถี่ยิบก่อนตัดสินยึดทรัพย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยิ่งใกล้วันตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ยิ่งทวิตเตอร์เข้ามายังสาวกถี่ขึ้น ล่าสุด วานนี้ (22 ก.พ.) พ.ต.ท.ทักษิณได้ทวิตเตอร์ โต้ตอบกับผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งถึงการตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทว่า "คงเป็นครั้งแรกที่เรื่องอยู่ในศาล รัฐบาลออกโรงวิจารณ์แบบสุดๆ มันแสดงอาการกลัวทางการเมืองมากกว่าจริยธรรม ของการเป็นรัฐบาล(ค้านมานาน)"

นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังทวิตเตอร์ดว่า "สถานีวิทยุและโทรทัศน์ของรัฐทุกวันนี้ถูกใช้เป็นครั้งแรกเพื่อทำลายล้างทางการเมือง เปรียบเสมือนเป็นเครื่องมือ ของพรรคประชาธิปัตย์ยิ่งกว่ายุคคอมฯ ถ้าอยากจะใช้ขอแนะนำให้เอาบุญ ให้ใช้ในเชิงบวก คนจะอยากฟัง/ชมมากกว่าทุกวันนี้ rating รายการการเมืองและข่าวของTVหลักตกมาก คนปิดหนีหมด มีแต่เหลืองฟัง คุณสุทธิชัย หยุ่น ที่เป็นญาติคุณอภิสิทธิ์ฯ (เวชชาชีวะ) ไม่รู้เอาลิง 3 ตัวที่ปิดหู ปิดตา ปิดปากที่ใช้ตอนสมัยนายกฯชาติชาย (ชุณหะวัณ) ไปไว้ไหนเอ่ย ขอยืมใช้หน่อยได้ไหมครับ โธ่เอ้ย!โง่ไปได้มันเป็นลิงทองเหลืองเลยไม่ชอบสีแดง จำไว้นะสามเกลอ ถ้าสีอื่นเป็นรัฐบาลแล้วแย่แค่ 25 %ของรัฐบาลนี้ ลิงทองเหลืองจะออกมาเจี๊ยก"

ลั่นถ้าศาลไทยไม่ยุติธรรมสู้ต่อศาลโลก

ทั้งนี้พ.ต.ท.ทักษิณยังทวิตข้อความโต้ตอบกับแฟนคลับคนเสื้อแดงว่า "ผมเป็นนายกฯที่กระจายอำนาจหมด เซ็นต์งานเฉพาะเรื่องสำนักพระราชวังนอกนั้นมอบ รมต.และรอง นรม.หมด กลายเป็นว่ามีผมผิดคนเดียว สนุกดีครับ ผมถือว่า ผมไม่ผิดผมไม่ดิ้นรนหรอกครับ ถ้าศาลไทยไม่ให้ความเป็นธรรมผมก็ต้องสู้ต่อใน เวทีโลกอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ประชุมเตรียมการแทบทุกวัน"

นอกจากนี้พ.ต.ท.ทักษิณยังมีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า 8e88graphic ได้ทวิตข้อความถึงพ.ต.ท.ทักษิณด้วยว่า "บริหารประเทศแล้วแย่ อย่างมากก็มีม๊อบออกมาประท้วง แต่ถ้าผู้ใดคอรัปชั่นขนาดมหึมาคงโดนกลุ่มประชาชนขับไล่จนไร้ที่ซุกหัวนอน" ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณโต้ตอบกลับไปว่า "ถ้าทุกอย่าง เป็นไปตามครรลอง มีเลือกตั้งหลังยุบสภา ไม่บอยคอตเลือกตั้ง ไม่ปฏิวัติ ไม่ตั้งปฏิปักษ์สอบสวน ไม่ใช้ศาลจัดการเมืองก็ไม่วุ่น"

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า ThaiNormal ได้ทวิตข้อความถึงพ.ต.ท.ทักษิณว่า "อภิสิทธ์บอกก่อนเป็นนายกฯว่า ถ้าปชช. เกิดความแตกแยกจะยุบสภา...แต่นี่ทั้งแตกทั้งแยกแล้วยังขออยู่ต่ออีก กลืนน้ำลายตัวเอง" พ.ต.ท.ทักษิณจึงทวิตข้อความกลับไปว่า "โอกาสอย่างนี้ไม่มีอีกแล้ว เขาเรียกว่าถือฤกษ์อำมาตย์ หน้ามืดห่วงบารมีตัวเองมากกว่าความเดือดร้อนประชาชน มีเลือกตั้งก็แพ้ อยู่ก็ไม่สง่า"

เผยส่งผู้ร้ายข้ามแดนไทย-ยูเออีคืบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (22 ก.พ.) นายโมฮัมเหม็ด อาลี อาเหม็ด ออมรัน อัล แชมซี่ เอกอัครราชทูตยูเออี ประจำประเทศไทย ได้เข้าพบนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วย รมว.ต่างประเทศ โดยใช้เวลาหารือ 40 นาที

นายพนิช กล่าวว่า ได้เชิญเอกอัครราชทูตยูเออี เพื่อหารือถึงกรณีที่ศาลไทย มีคำสั่งให้ส่งนายไมเคิล ไบรอัน สมิทธ ผู้ต้องหาสัญชาติอังกฤษเป็นผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อไปดำเนินคดีในข้อหาปลอมแปลงเอกสารและฉ้อโกง ท ยูเออี ซึ่งคำสั่งนี้เป็นไปตาม คำร้องขอความร่วมมือของยูเออี ถือเป็นความร่วมมือต่างตอบแทนของทั้ง 2 ประเทศ ที่แม้จะไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน

ส่วนการเจรจาจัดทำสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างไทยกับยูเออี นั้น มีความคืบหน้าตามลำดับ 2 ฝ่ายได้มีการรับรองร่างสนธิสัญญาฯแล้ว และต้องมีการ เจรจาอีกครั้ง ซึ่งทางยูเออีได้ตอบรับว่าเจ้าหน้าที่ของยูเออีจะสามารถเดินทางมาเจรจา กับไทยภายในเดือน พ.ค.-มิ.ย.นี้

ขอยูเออีเช็คความเคลื่อนไหว "แม้ว" ป่วน

นายพนิช กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ตนยังได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ของไทย ในขณะนี้และตนได้ขอให้เอกอัครราชทูตยูเออี แจ้งต่อรัฐบาลยูเออี เพื่อขอให้ช่วย ตรวจสอบและติดตามความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในช่วง 2-3 สัปดาห์นี้ อย่างใกล้ชิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ขณะนี้พำนักอยู่ในนครดูไบ ได้ออกมาเคลื่อนไหว อย่างหนึ่งอย่างใดหรือยุยง ปลุกปั่นกระแส รวมถึงโจมตีรัฐบาลและบุคคลสำคัญของไทยหรือไม่ อย่างไรก็ตาม การดำเนินการต่างๆ ขึ้นอยู่ดุลยพินิจของทางการ ยูเออีถ้ามีการดำเนินการใดๆ ซึ่งรัฐบาลไทยเชื่อว่าถ้าพบว่ามีการยุยง ปลุกปั่นกระแส รัฐบาลยูเออีคงไม่ปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พำนักอยู่ต่อไปแน่นอน และคาดหวังว่า ยูเออีจะเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกนอกประเทศเช่นเดียวกับที่เคยทำมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อเดือน เม.ย.2552

นายพนิช กล่าวว่าเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา ศาลของยูเออีได้ขอให้สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) แปลหมายจับกุมชั่วคราว พ.ต.ท.ทักษิณ รวมทั้งสำนวนคดีและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เป็นภาษาอารบิกที่เป็นภาษาราชการของ ยูเออี เพื่อให้ศาลยูเออี ใช้ในการพิจารณาตามที่ทางการไทยร้องขอให้ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นความคืบหน้าและเป็นการส่งสัญญาณในทางบวกต่อความร่วมมือระหว่างไทยกับยูเออีเพิ่มขึ้น

หลังตัดสินคดีเชิญทูตแจ้งคำพิพากษา

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นการแลกตัวนายสมิทธ กับ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ นายพนิช กล่าวว่า คดีของนายสมิทธ มีฐานความผิดตั้งต้นที่เป็นการฉ้อโกง ไม่เหมือนกับคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณที่เป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ เพราะฉะนั้น ในเมื่อมีการใช้ข้อตกลง ต่างตอบแทน หากยูเออี จะร้องขอตัวผู้ต้องหาที่ทำความผิดเช่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เราก็ยินดี

ทั้งนี้ ภายหลังการตัดสินคดียึดทรัพย์ฯแล้ว ทางกระทรวงฯคงจะมีการเชิญคณะทูตานุทูตต่างประเทศและองค์การระหว่างประเทศที่ประจำการในไทย มารับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับคำพิพากษาของศาลฯอีกครั้ง เพราะอยากให้สื่อต่างประเทศและคณะทูตต่างประเทศที่ประจำการในไทย ได้รับทราบข้อมูลที่แท้จริง ไม่อยากให้วิเคราะห์กันไปตามกระแส ส่วนการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ขู่ว่าถ้าถูกยึดทรัพย์ทั้งหมด ก็จะไปฟ้องศาลโลกนั้น ตนไม่แน่ใจว่าศาลโลกจะรับฟ้องกรณีนี้หรือไม่ เพราะไม่ใช่เป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศหรือบริษัทข้ามชาติ

"ขวัญชัย"โวเตรียมรถ2พันคันขนเสื้อแดง

มีรายงานข่าวจาก จ.อุดรธานีแจงว่า วานนี้ (22 ก.พ.) ที่สถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงนายขวัญชัย ไพรพนา หรือ "ดีเจ ปากพล่อยแห่ง" ประธานชมรมคนรักอุดร เปิดเผยว่า ตนเองได้รวบรวมสมาชิกคนรักอุดร และคนเสื้อแดง พร้อมรถยนต์ 2 แถวอีกจำนวน 1,000 คันและของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของจังหวัดอุดรธานีอีก 1,000 คันเพื่อที่จะนำสมาชิกคนเสื้อแดงบุกกรุงเทพมหานคร โดยจะไปรวมตัวกันที่ จ.นครราชสีมา ในวันที่ 28 ก.พ.นี้ ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงทางภาคเหนือก็จะรวมตัวกันที่ จ.นครสวรรค์ และภาคตะวันออกจะรวมตัวกันที่ จ.ชลบุรี ก่อนที่ทั้งหมดจะไหลเข้าไปรวมกันที่กรุงเทพมหานครในวันที่ 1 ม.ค.ที่จะถึงนี้

"ส่วนในช่วงระหว่างวันที่ 24-25 ก.พ.นี้ที่ จ.อุดรธานีเราจะมีการชุมนุมใหญ่เพื่อเรียกน้ำย่อยและจะมีการประชุมกันที่สนามทุ่งศรีเมืองอุดรธานี ซึ่งการต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของชาวไทยทั้งประเทศ" นายขวัญชัย กล่าวอ้าง

**จตุพรดีเดย์24ก.พ.เสื้อแดงเคาะวันป่วนใหญ่

ด้านนายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน เผิดเผยว่า ในวันที่ 24 ก.พ.แกนนำกลุ่ม นปช.จะหารือถึงความชัดเจน คือ กำหนดัวนเวลาในการชุมนุมใหญ่ เพื่อต่อสู้ให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยให้เร็วที่สุด ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกมาระบุว่าอาจเดินทางกลับประเทศไทยในช่วงปลายปี 53 นั้น เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เชื่อมั่นว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดง จะได้รับชัยชนะและบ้านเมืองจะมีประชาธิปไตยที่แท้จริง

“มท.1” โยนผู้ว่าฯติดตามเสื้อแดงขนคน

ทางด้านนายชวรัตน์ ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีคนเสื้อแดงคนรักอุดร เตรียมนำรถขนคนจำนวน 2 พันคันเข้ามาชุมนุมในกรุงเทพฯ และอาจมีผลต่อการจราจรในกรุงเทพฯว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องดูแลเรื่องการจราจร แต่ก่อนที่คนเสื้อแดงจะมีการเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ นั้นผู้ว่าราชการจังหวัดคงจะทราบเรื่องก่อน ดังนั้น ต้องเป็นเรื่องของผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องต้องติดตามดูแลเรื่องนี้

**ป่วนหน้าทำเนียบอัด รบ.ปิดวิทยุเถื่อน

ที่ทำเนียบรัฐบาล วานนี้ (22 ก.พ.) เมื่อเวลา 12.40 น.กลุ่มคนเสื้อแดง นำโดยนายพันธ์ศักดิ์ ซาบุ ชมรมวิทยุชุมชนคนเสื้อแดง ได้นำกลุ่มคนเสื้อแดง 100 คนมาชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดพื้นที่ชุมนุมฝั่งเชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ์ให้ผู้ชุมนุมประท้วง

นายพันธ์ศักดิ์ ได้ขึ้นเวทีรถปราศรัยกล่าวโจมตีรัฐบาลปิดกั้นนำเสนอข่าวสาร และอ้างว่า นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.สำนักนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 เอ็นบีที จะดำเนินการสั่งปิดวิทยุที่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาล

นอกจากนี้ นายพันธ์ศักดิ์ ยังปลุกระดมคนเสื้อแดงว่า ทราบมาว่า สื่อที่ทำข่าวเสื้อแดงรายงานเข้าไปในโรงพิมพ์ แต่โรงพิมพ์ไม่ยอมเสนอข่าว แสดงว่าสื่อมวลชนไทยไม่มีความเป็นกลาง จึงเรียกร้องให้สื่อทำหน้าที่เป็นกลาง และจะขับไล่รัฐบาลถึงที่สุด

***วิทยุแดงปลุกระดมต้องปิด

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการที่ กลุ่มคนเสื้อแดงเครือข่ายวิทยุชุมชนมาชุมนุมขับไล่ตนที่ทำเนียบฯ โดยกล่าวหาตนส่งปิดวิทยุชุมชนคนเสื้อแดงนั้นความจริงไม่ใช่เรื่องที่ตนหรือรัฐบาลจะไปสั่ง แต่เป็นเรื่องที่ต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายเพราะมีวิทยุชุมชนที่ไปลงทะเบียนขอเป็นผู้ออกอากาศชั่วคราว ดำเนินการผิดเงื่อนไข มีการปลุกระดมทำให้เกิดความไม่สงบ หรือล้มล้างการปกครองในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หรือล้มล้างสถาบัน อีกส่วนหนึ่งเป็นวิทยุชุมชนที่ไม่ลงทะเบียน เป็นการขอทดลองออกอากาศชั่วคราว ซึ่งทั้ง 2 ส่วนนี้เป็นปัญหามายาวนาน เมื่อรัฐบาลเข้ามาก็ได้เร่งรัดให้อนุ กทช.ออกระเบียบ โดยมีคนมาลงทะเบียนทั้งหมดประมาณ 6600 สถานี ซึ่งในช่วงสถานการณ์มีการใช้วิทยุชุมชนปลุกระดมรุนแรงมากขึ้น กทช.จึงดำเนินการ

ส่วนที่ ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกมาระบุว่ารัฐบาลนี้ปิดหูปิดตาประชาชน ครอบงำสื่อมากกว่ารัฐบาลที่ผ่านมา นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตนว่ายุคนี้เป็นยุคที่สื่อเสรี มากกว่ายุคใดๆ เรามีทั้งวิทยุชุมชน ทีวีดาวเทียม ส่วนการทำงานของสื่อสารมวลชน เราไม่เคยแทรกแซงปิดหูปิดตาอะไร พ.ต.ท.ทักษิณ ทวิตเตอร์ 2 บรรทัดยังได้ลงหนังสือพิมพ์ จะเอาอะไรกันอีก แต่เนื้อหาที่คุณพูดเหมาะสมหรือเปล่าไม่ใช่ว่า ด่าคนแล้วต้องพาดหัวหน้า 1 เสมอไป 

"ที่ทักษิณมองว่าสื่อถูกแทรกแซงเพราะต้องการให้สื่อเข้าข้าง เพื่อให้เห็นว่าตัวเองถูกแกล้ง ตัวเองไม่ผิด เพื่อกดดันกระบวนการศาล แต่บังเอิญข้อเท็จจริงไม่มีสื่อ ที่กล้าฟันธงลักษณะอย่างนั้น ก่อนหน้านี้พ.ต.ท.ทักษิณ พูดว่าระวังจะมีคนเสื้อแดงจะไปเยี่ยมสื่อตามที่ต่างๆ คำนี้แหละแทรกแซงชัดเจน"

***ยื่น ป.ป.ช.รื้อคดีซุกหุ้น

วานนี้ (22 ก.พ.) นายณัชพล โรจน์ถาวร ประธานเครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านทุจริตแห่งชาติ (ส.ท.ช.) ได้ยื่นหนังสือต่อ นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบความร่ำรวยผิดปกติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพิ่มเติม ในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง "รองนายกรัฐมนตรี"

เมื่อปี พ.ศ. 2544 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ดำรงตำแหน่งเป็น นายกรัฐมนตรี ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และ ครอบครัว จะได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินดังกล่าว ได้มีผู้ร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ถึงความไม่ชอบมาพากลของการแสดงบัญชีทรัพย์สินในขณะดำรงตำแหน่ง “รองนายกรัฐมนตรี” จนเป็นเหตุให้ ป.ป.ช. ทำการไต่สวนข้อเท็จจริง ผลการไต่สวนของ ป.ป.ช. ชี้ว่า มีมูลและได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ผลการวินิจฉัยออกมาในทางเป็นคุณแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ 8 ต่อ 7 เสียง

อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงที่ได้จากการพิจารณา รวมทั้งคำให้การของ พ.ต.ท.ทักษิณที่ให้การต่อศาลรัฐธรรมนูญ ได้ปรากฏชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้มีการซุกซ่อนทรัพย์สินและไม่แสดงบัญชีทรัพย์สินเหล่านั้นจริง ซึ่งเป็นทรัพย์ประเภท “หุ้น” ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณนำไปซุกซ่อนไว้ในชื่อของคนอื่นหรือบุคคลใกล้ชิดเช่น คนรับใช้ คนครัว คนสวน แม่บ้าน และญาติพี่น้อง หลักฐานการซุกซ่อนเหล่านี้ นอกจากจะปรากฏโดยเอกสารหลักฐานแล้ว ยังปรากฏจากคำรับสารภาพของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ให้การต่อศาลรัฐธรรมนูญ ด้วย โดย พ.ต.ท.ทักษิณแก้ตัวว่า การกระทำดังกล่าว บกพร่องโดยสุจริต แสดงว่ามีการกระทำผิดกฎหมายและมีการซุกซ่อนทรัพย์สินจริง จึงขอให้ ป.ป.ช. นำขึ้นมาพิจารณาสอบสวนใหม่อีกครั้งหนึ่ง

วันเดียวกัน ประธาน ส.ท.ช. พร้อมคณะ ได้นำกระเช้าดอกไม้เดินทางไปยัง ศาลยุติธรรม สนามหลวง เพื่อมอบให้กำลังใจแก่ นายสบโชค สุขารมณ์ ประธานศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้ดำเนินการเอาผิดกับนักการเมืองโกงชาติโกงแผ่นดิน ทุจริตต่อหน้าที่ โกงภาษีประชาชน โดยไม่ต้องยำเกรงอิทธิพลใดๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น