xs
xsm
sm
md
lg

แดงขย่มป๋าเปรมซ้ำ ไถผบ.ทบ.เดือนละ2แสน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - "สุเทพ" ยอมรับมีแผนอารักขา ร.พ.ศิริราช ห่วงกลุ่มไม่หวังดีสร้างสถานการณ์ เฉ่ง "จตุพร" โกหกรายวัน ด้าน "ณัฐวุฒิ" เลี้ยงแกะอีก อ้างป๋าเปรมรับเงิน "กัลยาณี" ต่อเนื่อง ผบ.ทบ.ต้องจ่ายเดือนละ 2 แสน จี้สรรพากรสอบภาษี พร้อมนำม็อบบุกแบงก์กรุงเทพ 19 ก.พ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.30 น. วานนี้ (17 ก.พ.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง (คตม.) ครั้งที่ 1 เพื่อประเมินสถานการณ์ การชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนก.พ.นี้ โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ผบ.เหล่าทัพ และหน่วยงานด้านความมั่นคงเข้าร่วมประชุม

พล.ต.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษก กอ.รมน. แถลงผลการประชุมคตม.ว่า ในการประชุมนั้น หน่วยงานต่างๆที่รับผิดชอบได้รายงานความคืบหน้าของการปฏิบัติงานใน 8 แผนมาตรการักษาความปลอดภัยที่ได้รับมอบหมาย และมีการแบ่งมอบไปเมื่อการประชุมครั้งที่แล้ว ซึ่งประกอบด้วย 1.มาตรการปฏิบัติต่อเป้าหมายพิเศษ 2.มาตรการรักษาบุคคลสำคัญ 3.การปฏิบัติงานด้านการข่าว 4.การปฏิบัติงานด้านกฎหมาย 5.การดำเนินงานต่อสถานีวิทยุชุมชน สื่อที่ปลุกระดมมวลชน 6.การป้องกันการปลุกระดมในสถานศึกษา 7.การปฏิบัติงานด้านข่าวสาร 8.การรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งทั้ง 8 มาตรการ ที่ระบุจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบไปดำเนินการ

นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มีการรายงานเรื่องการข่าวตามเหตุการณ์ที่มีการ เปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นเรื่องความคืบหน้าจากที่กลุ่มคนเสื้อแดงได้มีมติจากการประชุมเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามที่ประชุมยังไม่ได้มีการประเมินว่า การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงจะมีความรุนแรงหรือไม่ แต่เชื่อว่า การชุมนุมจะไม่เกิดความรุนแรง เพราะเจตนาของแกนนำนั้นประกาศว่า จะชุมนุมอย่างสงบ และมีการกำหนดว่า จะไปชุมนุมในสถานที่ต่างๆ ซึ่งเป็นกลุ่มย่อยที่กระจายกันออกไป จึงไม่น่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น แต่เจ้าหน้าที่มีการเตรียมพร้อมรับมือทุกเรื่องแล้ว

***ห่วงกลุ่มไม่หวังดีสร้างสถานการณ์

ทั้งนี้ที่ประชุมห่วงว่าจะมีกลุ่มที่ไม่หวังดีจะแฝงเข้ามาสร้างสถานการณ์ โดย นายสุเทพ มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆเสนอข้อมูลให้คณะกรรมการอย่างต่อเนื่อง หากส่วนการข่าวได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมก็จะมีการแจ้งเตือนให้คณะกรรมการได้ทราบอยู่ตลอด

พล.ต. ดิฏฐพร กล่าว่า นายสุเทพ ได้มอบหมายให้ทางกระทรวงศึกษาธิการ ไปชี้แจงทำความเข้าใจในสถานศึกษา เพื่อให้นักเรียน นักศึกษาได้รู้ เข้าใจในความสำคัญของระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและสถาบันต่างๆมีความสำคัญแค่ไหน ทั้งนี้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ได้แจ้งในที่ประชุมว่า จะให้กทม.เปิดสายรับแจ้งเหตุ 1555 สายด่วน กทม.

ส่วนที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศจะไม่ชุมนุมในวันที่ 26 ก.พ.นี้ ซึ่งเป็นวันพิจารณาคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น พล.ต.ดิฏฐพร กล่าวว่า ที่ประชุม เห็นว่า กลุ่มผู้ชุมนุมอาจรอฟังการตัดสินของศาลก่อน หลังจากนั้นอาจกำหนดแนวทาง ในการเคลื่อนไหวต่อไป ซึ่งเจ้าหน้าที่คงต้องติดตามสถานการณ์ต่อไปจนกว่า เหตุการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

***ยันไม่มีเอกสารลับล่าเสื้อแดง

ส่วนที่กลุ่มเสื้อแดงนำเอกสารลับของรัฐบาล มาเปิดเผยว่า มีแผนจะกำจัดคนเสื้อแดง พล.ต.ดิฏฐพร กล่าวว่า ไม่ใช่เอกสารลับ ซึ่งคนที่รู้อาจนำไปเล่าต่อ แต่เราเป็นห่วงว่า จะนำเนื้อหาในเอกสารไปบิดเบือนจนทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ซึ่งเจตนาการทำงานของรัฐบาลมุ่งหวัง เพื่อให้เกิดความสงบสุขในบ้านเมือง เราไม่มีเจตนาที่จะทำให้เกิดเงื่อนไขที่จะกระทบต่อความเป็นอยู่ และสถานะของประเทศต่อสายตาประชาคมโลก แต่เอกสารที่กลุ่มเสื้อแดงนำไปอ้างมีส่วนหนึ่งที่เป็นจริง แต่อาจมีบางส่วนที่เขานำไปเพิ่มเติมเองตามเจตนาที่เขาจะสร้างกระแส เช่น เรื่องของมวลชน ซึ่งเอกสารดังกล่าวเป็นเรื่องที่เราจะดูแลประเทศชาติให้เกิดความสงบสุข

ที่ประชุมได้พูดถึงระเบิดเอ็ม 79หรือไม่ พล.ต.ดิฏฐพร กล่าวว่า นายสุเทพ ได้ย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษ รวมถึงเจตนาว่า มีความเป็นมาอย่างไร เพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานเต็มที่ แต่จากข้อมูลหลักฐานที่มีอยู่ไม่มีพยานรู้เห็น ประกอบกับหลักฐานที่ปรากฎในที่เกิดเหตุมีจำกัด ทำให้การสืบสวนค่อนข้างล่าช้า

*** "สุเทพ" ซัด "จตุพร"บิดเบือนข้อมูล

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวถึง การออกมาเปิดเผยเอกสารลับของนายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงว่า การประชุมที่นายจตุพรอ้างนั้นเป็นการประชุมกันเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ไม่ใช่ 12 ก.พ.โดยประชุมกันที่ดอนเมือง ซึ่งเท่าที่ดูน่าจะเป็นเอกสารที่ก็อปปี้ มาจากแผ่นสไลด์ที่มีการบรรยายสรุป ซึ่งไม่ได้มากมายเท่าที่นายจตุพร นำออกมาเผยแพร่ น่าจะเป็นจำนวนมากเกินกว่าที่บรรยายไปหน่อย และไม่แน่ใจว่า ทุกแผ่นที่นายจตุพร นำมาจะเป็นของจริง เพราะถ้าเป็นเอกสารของจริงก็จะเห็นได้ว่า เหมือนกับที่ตนได้ให้สัมภาษณ์สื่อไปทุก ๆ วัน

"การประชุมวันนั้นไม่ได้มีอะไรที่เป็นพิษเป็นภัยกับประชาชนและประเทศ ไม่ได้เป็นไปอย่างที่นายจตุพรให้ข่าวบิดเบือน รัฐบาลไม่ได้คิดที่จะไปวางแผนการร้าย อะไร รัฐบาลเพียงแต่ต้องการที่จะกำหนดวิธีการ แผนงานเพื่อรองรับสถานการณ์เท่านั้น จึงไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไร แต่คุณจตุพร ก็พูดจาเกินเหตุ พยายามที่จะกล่าวร้าย มอมเมาประชาชนให้เข้าใจผิดในสิ่งที่รัฐบาลจะทำ ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ ที่คนเหล่านี้พยายามกระทำการต่างๆ แม้แต่การหลอกลวงประชาชนเพียงเพื่อหวังที่จะให้ได้ชัยชนะในทางการเมืองเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของเจ้านายของเขาที่เป็นคนสั่งการอยู่เท่านั้น"

นายสุเทพ กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่มีการตรวจสอบเอกสารที่หลุดออกไป แต่ทาง เจ้าหน้าที่คงจะตรวจสอบกันเองเพราะการประชุมที่ดอนเมือง เป็นการประชุมนอกสถานที่มีโอกาสตกหล่น รั่วใหลตรงไหนได้บ้าง สำหรับตนไม่ได้ติดใจอะไร เพราะไม่ใช่เรื่องที่เป็นความลับอะไร

***รับมีแผนอารักขา ร.พ.ศิริราช

ส่วนที่มีการกล่าวถึงขนาดว่าในการประชุมวันนั้นมีการเตรียมการป้องกันถึงความพยายามที่จะก่อเหตุที่โรงพยาบาลศิริราชด้วย นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีหรอก เพียงแต่มีการกำหนดสถานที่สำคัญๆ ที่จะต้องดูแลอารักขา ซึ่งโรงพยาบาลศิริราช ก็เป็นสถานที่หนึ่งที่เราได้กำหนดว่าจะต้องมีการดูแลอารักขาไม่ให้กลุ่มคนเหล่านี้ ไปกระทำการใดๆ ที่เป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นศูนย์รวมใจของพี่น้องประชาชนคนไทย และเทิดทูน จงรักภักดี ไม่อยากให้ใคร ไปรบกวนพระองค์ท่านที่ทรงประชวรอยู่ที่นั่น

"กลุ่มคนเสื้อแดงเคยแถลงข่าวว่าจะไปที่รพ.ศิริราช ซึ่งเราก็ไม่อยากให้ไปที่นั่น ดังนั้นจึงอยู่ในแผนการว่า จะต้องไม่ให้เกิดเรื่องอย่างนั้นขึ้น ยืนยันว่าไม่มีอะไรที่เป็นไป อย่างที่คุณจตุพร กล่าวหา และไม่มีแผนที่จะจับตัวแกนนำเพื่อลดมวลชนเสื้อแดง คุณ จตุพร โกหกทุกวัน และโกหกมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นการใส่ร้าย พยายามบิดเบือน ข้อเท็จจริงทุกอย่าง ก็ขอให้ประชาชนจับตาดูให้ดีก็แล้วกันว่าสิ่งที่เขาพยายามจะนำมาโกหกนั้น เป็นการโกหกโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะปลุกปั่น ยุยงให้ประชาชนเข้าใจรัฐบาลผิดหรือไม่"

ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้มีการพูดจาปลุกปั่น บิดเบือนบ่อยครั้งขึ้น ในแง่กฎหมายรัฐบาลไม่คิดที่จะทำอะไรหรือ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคิดทุกวัน แต่เวลาจะทำอะไร ก็ต้องให้ฝ่ายกฎหมายดู เพราะบางทีตนคิดว่าผิด แต่ฝ่ายกฎหมายบอกว่ายังขาดองค์ประกอบนั่น องค์ประกอบนี่ ซึ่งก็ไปว่าเขาไม่ได้ แต่ตนก็จะติดตามดูแล เมื่อไหร่ที่เข้าข่ายผิดกฎหมายก็จะดำเนินการทันที ส่วนจุดประสงค์ของเขาต้องการอะไรคงต้องถามนายจตุพร ส่วนที่ พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ก็ออกมาบอกเหมือนกันว่าให้ระวังเหตุรุนแรงช่วงนี้ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่ขอลามไปวิจารณ์ถึงพล.อ.ชวลิต ขอให้ทุกคนดูกันเอาเองก็แล้วกัน

***ไตรรงค์"ปัดสำรองงบใช้ยามวุ่นวาย

นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปฎิเสธข่าวที่ว่ารัฐบาล สำรองเงินไว้สำหรับเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง เพราะ งบประมาณในการรักษาความปลอดภัยนั้นมีอยู่แล้ว มีการเตรียมพร้อมทุกครั้ง คิดว่าไม่น่าจะมีอะไร เป็นการวิตกจริตเกินเหตุ ส่วนการให้ความมั่นใจกับต่างประเทศนั้น อยู่ที่ภาพที่เกิดขึ้น และเชื่อว่าต่างชาติจะเข้าใจว่าการชุมนุมเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ในประเทศที่เจริญแล้ว ในหลายประเทศก็มีการชุมนุมเกิดขึ้น แต่มีปัญหาตรงที่ต่างประเทศมีกฎหมายควบคุมรัดกุมกว่า

นายไตรรงค์ ยังกล่าวถึงบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของ กลุ่มคนเสื้อแดงด้วยว่า การชุมนุมควรจะต้องเป็นผู้ใหญ่และควรที่จะมีสติรู้ว่าที่ทำไปครั้งที่แล้วเป็นผลเสีย ไม่ควรที่จะทำอีก หากยังมีจิตสำนึกความเป็นคนไทยอยู่ก็ไม่ควรที่จะทำ ตนเชื่อว่าทุกคนเป็นคนดีเพียงแต่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน แต่ตนก็ยังรัก เขาก็เป็นพี่น้อง และเชื่อว่าเขาเป็นคนดี ตนจึงให้ความมั่นใจกับชาวต่างชาติที่มาพบว่า จะไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นเหมือนที่ผ่านมา ส่วนความไม่เป็นเอกภาพ ในกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น นายไตรรงค์กล่าวว่า หากชุมนุมอยู่ในกรอบก็ไม่มีปัญหาไม่ว่าจะมีกี่กลุ่มก็ตาม ต่หากใครที่ทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย

***เสื้อแดงเหิมยื่นสอบภาษี"ป๋าเปรม"

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือคนเสื้อแดง แถลงว่าในสัปดาห์หน้าคนเสื้อแดงเตรียมยื่นเรื่องให้ กรมสรรพากรตรวจสอบภาษีย้อนหลัง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เนื่องจากมีข้อมูลว่า ได้รับเงินจากกลุ่มทุนและคณะ 11 อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรายของนางกัลยาณี พรรณเชษฐ์ เจ้าของกลุ่มธุรกิจเครือ เอ็มซีซี สิทธิผล ซึ่งจ่ายเช็คให้กับ พล.อ.เปรม เป็นระยะ ข้ออ้างที่นายวัชระ พรรณเชษฐ์ บุตรชายของ นางกัลยาณีระบุว่า เป็นเงินทำบุญให้กับวัดสวนแก้วนั้น มีข้อน่าสังเกตว่า ทำไมการทำบุญจะต้องจ่ายอ้อมไปยัง พล.อ.เปรม

นอกจากนี้ยังพบความผิดปกติว่า สำเนาเช็คที่จ่ายให้กับ พล.เอ.เปรม ลงวันที่ 5 ก.พ.2547 แต่ผู้รับเหมามารับเงินวันที่ 17 มิ.ย. 2547 เป็นเวลาห่างกันถึง 3 เดือน หากเป็นเช็คปกติพล.อ.เปรมต้องนำเช็ค เข้าบัญชี ซึ่งถือเป็นรายได้ที่ต้องเสียภาษี พฤติการณ์อย่างนี้ต้องเป็นผู้รับเหมาไม่ใช่องค์มนตรีหรือรัฐบุรุษ

"ผมไม่ต้องการให้เรื่องนี้เดือดร้อนไปถึงพระพะยอมหรือกรรมการวัดสวนแก้ว ยืนยันว่าผมไม่ได้ประสานใดๆ กับพระพยอมเพื่อให้ได้มาซึ่งสำเนาเช็ค จึงไม่อยาก ให้ไปหาเรื่องกับพระ เพราะวัดไม่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง"

***อ้าง"กัลยาณี"จ่ายเช็คป๋าต่อเนื่อง

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ไม่ใช่การจ่ายเช็ค 4 - 5 ใบมูลค่า 6 ล้านบาท แต่มีข้อมูลว่านางกัลยาณีได้จ่ายเชคให้กับ พล.อ.เปรมอย่างต่อเนื่อง ได้แก่เช็คเลขที่ 3725886 ลงวันที่ 1 ส.ค. 2546 จำนวน 1 ล้านบาท เช็คเลขที่ 3534473 ลงวันที่ 1 ต.ค. 2545 จำนวน 1.5 ล้านบาท เช็คเลขที่ 2791939 ลงวันที่ 9 มิ.ย. 2541 จำนวน 2 แสนบาท ข้อเท็จจริงดังกล่าวน่าเชื่อว่า เป็นการจ่ายอย่างต่อเนื่อง เมื่อไหร่อยากได้ก็จ่าย ปัญหาคือ พล.อ.เปรมเป็นประธานองคมนตรีหรือเป็นลูกจ้าง ของนางกัลยาณี

"นายกนก ลี้อิสระนุกูล บิดาของนางกัลยาณีเคยได้รับรางวัลจากจอมพล ป.พิบูลสงครามว่าเป็นบุคคลที่ชำระภาษีสูงสุด แต่ลูกสาวกลับคบหากับคนที่มีสถานะสูงสุดที่หลบเลี่ยงภาษีได้อย่างไร ผมขอกล่าวหาว่าพล.อ.เปรมเป็นคนไทยที่หนีภาษี สิ่งที่น่าเจ็บปวด คือ คนเสื้อแดงจ่ายภาษีแต่ถูกรัฐและกลุ่มอำมาตย์กดขี่ พล.อ.เปรม ได้รับเงินเดือนรัฐบุรุษ และประธานองคมนตรี และเงินบำนาญ ผบ.ทบ. มีรายได้ ไม่ต่ำกว่า 3 แสนต่อเดือน และรายได้มหาศาลจากเช็คต่างๆ แต่กลับหลบเลี่ยงภาษี ประเทศไทยกำลังมีรัฐบุรุษเป็นสินค้าหนีภาษี"

***ผบ.ทบ.ต้องใช้"ป๋า"เดือนละแสน

"ไม่ใช่เฉพาะบริษัทเอ็มเอ็มซีสิทธิผล เท่านั้น ยังทราบว่าธนาคารกรุงเทพ บริษัท ซีพี และหลายกลุ่มทุนก็จ่ายให้เหมือนกัน มีนายทหารระดับสูงมาเล่าให้ฟัง ผบ.ทบ.ทุกรุ่น ต้องหารายได้ให้บ้านสี่เสา2แสนบาทต่อเดือน พล.อ.เปรม ได้ชื่อว่า เป็นนักฆ่าลุ่มน้ำเจ้าพระยา ประวัติชีวิตท่านไม่เคยกลัวใครโดยเฉพาะคนเสื้อแดง ไม่เคยหนีคู่ต่อสู้ แต่กลับหนีภาษี ประเทศไทยกำลังมีรัฐบุรุษเป็นสินค้าหนีภาษี ในการประชุม นปช.ครั้งหน้าจะเสนอต่อที่ประชุม ให้ไปเปิดเวทีย่อย หน้าบ้านสี่เสาเทเวศน์ จะไปเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบุรุษ จะนำเอกสารหลักฐานทั้งหมดไปแสดงว่า พล.อ.เปรม มีพฤติกรรมซ่อนเงื่อนและลูกน้องคนใกล้ขิดมีพฤติกรรมอภิสิทธิ์ชนอย่างไร"

***ประกาศบุกแบงก์กรุงเทพ 19 ก.พ.

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่ากลุ่มทุนที่สนับสนุนพล.อ.เปรมมีเป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างธนาคารกรุงเทพ ซึ่งได้รับผลประโยชน์เป็นที่ดินสนามกอล์ฟ เขาสอยดาว จ.จันทบุรี ดังนั้นในวันที่ 19 ก.พ.นี้ คนเสื้อแดงจะไปชุมนุมที่หน้าธนาคารกรุงเทพ ถ.สีลม ตั้งแต่เวลา 12.00 - 18.00 น. เพื่อเปิดเผยข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับรู้ถึงสิทธิพิเศษต่างๆ ที่กลุ่มทุนได้รับ โดย พล.อ.เปรม มีวงจรชีวิต เฉกเช่นนักการเมือง คือ มีกลุ่มทุนให้การสนับสนุน และมีการตอบแทนให้กับกลุ่มทุนต่างๆ

นอกจากนี้ธนาคารกรุงเทพยังมีประเด็นของ มล.ตรีทศยุทธ เทวกุล เจ้าของ โรงเรียนนานาชาติเปรม ติณสูลานนท์ อ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมเลอ เมอริเดียน จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นโรงแรมเดียวที่ติดชายหาดในอ.กะรน โดยถนนต้องตัดอ้อมไปด้านหลังโรงแรม และในเร็วๆ นี้ นปช.จะเปิดเผยข้อมูลขององคมนตรี อักษรย่อ อซึ่งครอบครองที่ดิน 200 ไร่ ในเขตป่าสงวนภูหลวง อ.ด่านซ้าย จ.เลย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการแถลงข่าวนายณัฐวุฒิ ได้นำภาพถ่ายระหว่าง พล.อ.เปรม และนางกัลยาณี หลายภาพมาแสดง และแจกจ่ายให้กับสื่อมวลชน ซึ่งบางภาพเป็นพล.อ.เปรมยืนใกล้ชิดนางกัลยาณี พร้อมย้ำว่าบุคคลทั้ง 2 มีความสัมพันธ์ ไม่ธรรมดา โดยพล.อ.เปรมถือเป็นแขกประจำในคฤหาสน์ย่านปากเกร็ด นนทบุรี ของนางกัลยาณี ในช่วงที่คนเสื้อแดงไปชุมนุมหน้าบ้านสี่เสาฯ พล.อ.เปรมจะไปพักในบ้านหลังดังกล่าว

***ชี้เสื้อแดงหวังกระทบสถาบันสูงสุด

น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตเลขาธิการ สมช.กล่าวถึงสถานการณ์ในขณะนี้ว่ามันวิกฤติมากกว่าครั้งที่ผ่านมา การบริหารงานของรัฐบาลไม่มีความเด็ดขาด จึงทำให้เกิดวิกฤติมาก ทำให้เกิดความเป็นห่วงบ้านเมือง การปล่อยปละละเลยกันมานานจนขณะนี้สถานการณ์กำลังจะสุกงอมในอีก 1-2 วันนี้

ส่วนการเคลื่อนไหวโจมตี แฉเงินบริจาคให้กับ พล.อ.เปรม นั้นน.ต.ประสงค์ กล่าวว่า พวกนี้พยายามหาเรื่องด้วยการสร้างเรื่องราวผูกโยงกันให้เกิดความวุ่นวาย และให้คนเกลียดชังให้กระทบเทือนไปทั่ว โดยเฉพาะเป้าหมายสำคัญคือสถาบันสูงสุด

"กลุ่มคนเสื้อแดงเขาดำเนินการทางจิตวิทยา โดยเคลื่อนไหวมา 1-2 ปีแล้ว รัฐบาลก็ไม่ได้ทำอะไรเลย โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่สามารถแสดงพลังอำนาจแม้ว่า ไม่ได้อยู่ในประเทศไทยก็ตาม โดย พยายามเคลื่อนไหวใน 3 เรื่อง คือเรื่องการสร้างความหวัง เรื่องยั้งความกลัว และเรื่องการยั่วให้เกิดความเกลียดชัง ซึ่งทั้ง 3 เรื่องเขาเคลื่อนไหวมาตลอด และขณะนี้เขาบรรลุผลทำให้ประชาชนเชื่อไปหมดแล้ว โดยการเคลื่อนไหวก็เพื่อผูกโยงให้เกิดความรุนแรงในวันพิพากษาคดียึดทรัพย์"

***หวังเชื่อมโยงวันพิพากษายึดทรัพย์

แหล่งข่าวนายทหารคนสนิทของ พล.อ.เปรม ระบุว่า การออกมาพูดของ กลุ่มคนเสื้อแดงในยามนี้คงรู้แล้วเขาต้องการอะไร และต้องเชื่อมโยงไปถึงการพิจารณา ยึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในวันที่ 26 ก.พ.นี้ ทั้งนี้ พล.อ.เปรม ไม่ได้วิตกกังวลอะไรเกี่ยวกับการออกมาแฉข้อมูลเกี่ยวกับการบริจาคเงินในครั้งนี้ เพราะทาง พล.อ.เปรม หรือทางมูลนิธิมีข้อมูลชัดเจน ไม่ได้นำเงินมาใช้ในเรื่องส่วนตัวแต่อย่างใด

เงินทุกบาททุกสตางค์ที่มีการบริจาคมาให้ พล.อ.เปรม หรือมูลนิธิ สามารถตรวจสอบได้ถึงความโปร่งใส การดำเนินงานต่าง ๆ ไม่มีอะไรแอบแฝง ทุกคนรู้ดี อีกทั้ง พระพยอมก็รู้ดีตลอดว่า พล.อ.เปรม ได้ดำเนินการทำอะไรไปบ้าง โดยเฉพาะการนำเงินไปสร้างอาคาร ในสมัยที่พระพยอม ดูแลเด็กเร่ร่อนที่วัดสวนแก้ว อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มคนเสื้อแดงพยายามทำทุกอย่าง แต่อะไรจะเกิดก็ต้องการ และคงหนีความจริงไม่พ้น” แหล่งข่าวระบุ

*** "คุณหญิงกัลยา" เตือนแดงมีศัตรูเพิ่ม

คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวถึงกลุ่มคนเสื้อแดง เตรียมเดินทางไปปิดล้อมธนาคารกรุงเทพ ในวันที่ 19 ก.พ.โดยอ้างว่า เป็นแหล่งเงินทุนสนับสนุนรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ว่าส่วนตัวยังไม่คิดเช่นนั้น การที่ม็อบเสื้อแดงจะไปชุมนุมที่ไหนเขาก็มีความคิดของเขา เพราะคิดและเชื่ออย่างนั้นไปเอง แต่ความคิดและความเชื่อของเขาทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ดังนั้นคนเสื้อแดงเองก็ต้องคิดให้ดีว่าคนในสังคมคิดอย่างไร

ส่วนที่มีการโยงว่าธนาคารกรุงเทพเป็นของตระกูล โสภณพนิช จึงมีการนัดไปชุมนุมนั้น คุณหญิงกัลยากล่าวว่า ในอดีตนายชิน โสภณพนิช เป็นผู้ก่อตั้งธนาคาร โดยมีลูกๆ เป็นผู้ร่วมถือหุ้น แต่ปัจจุบันได้นำเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ประชาชนทั่วไป ก็สามารถเป็นเจ้าของธนาคารกรุงเทพได้ ดังนั้น เมื่อกลุ่มเสื้อแดงไปบุก ธนาคารกรุงเทพ ก็ไม่กระทบเฉพาะตระกูลใดตระกูลหนึ่ง แต่จะกระทบต่อผู้ที่ถือหุ้นทั้งหมด จึงขอฝากไปถึงแกนนำคนเสื้อแดงว่า ถ้าคิดว่าการบุดธนคารกรุงเทพ เป็นการสร้างศัตรูกับคนจำนวนมากหรือไม่ ที่เขาอาจไม่พอใจ เพราะเขาต้องการ ให้ธนาคารเจริญก้าวหน้าในฐานะผู้ที่ถือหุ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่หลายฝ่ายไม่พูดถึงความสมานฉันท์แต่กลับพุ่งเป้าในวันตัดสินคดีการยึดทรัพย์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จำนวน 7.6 หมื่นล้านบาท จะต้องเกิดเหตุรุนแรง คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า ตนคิดว่าในระยะยาวคนไทยต้องสมานฉันท์ แม้ใกล้การตัดสินคดีดังกล่าวอาจจะมีเหตุการณ์ หลายอย่างเกิดขึ้นรัฐบาลเองก็เอาใจใส่เป็นพิเศษ เห็นได้จากพฤติกรรมของคนเสื้อแดง ที่ทำให้เกิดมีเหตุการณ์ประหลาดๆเกิดขึ้น.
กำลังโหลดความคิดเห็น