ASTVผู้จัดการรายวัน-สิงห์รถบรรทุกกว่า 300 คัน ประท้วงตำรวจเก็บส่วยซ่อนรูป จอดริมถนนบางนา-ตราดยาวเกือบ 3 กม. จราจรหนึบ ยื่นหนังสือร้องเรียน แฉพฤติกรรมตำรวจตั้งด่านซ้อน ยัดข้อหาทำยอดใบสั่ง ขีดเส้นรัฐแก้ปัญหาใน 15 มี.ค.ขู่ขนชุดใหญ่ปิดถนนทุกสายในกรุงเทพ เหตุร้องเรียนมาหลายครั้งแต่ถูกเมิน ด้าน"สุรชัย ชัยตระกูลทอง" ปธ.อนุกมธ.คมนาคมขนส่งทางบก วุฒิสภา รับปากแก้ปัญหา นัดเปิดหลักฐาน 25 มี.ค.นี้ ก่อนม๊อบพอใจสลายตัวเปิดจราจรปกติ
วานนี้ (22 ก.พ.) เวลาประมาณ 09.00 น. สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ซึ่งมีสมาชิกเป็นผู้ประกอบการขนส่งทางบกทั่วไทย 13 สมาคม และ 4 ชมรม ได้ประท้วงโดยนำรถบรรทุก รถเครน และรถทัวร์ประมาณ 300 คันจอดที่ถนนบางนา-ตราด ฝั่งขาเข้า 2 ช่องทาง ตั้งแต่กิโลเมตรที่ 4 ถึงกิโลเมตรที่ 7 ความยาวเกือบ 3 กิโลเมตร เนื่องจาก ไม่พอใจการทำงานของตำรวจจราจร ที่มีการตรวจจับควันดำ และเสียงดังที่ไม่ได้มาตรฐาน และมีการตั้งด่านที่ซับซ้อน รวมถึงมีการเก็บส่วยในราคาที่สูงขึ้น โดยเรียกร้องให้รัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แก้ไขปัญหาเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกลาง และตำรวจทางหลวง เรียกเก็บส่วยซ่อนรูป เนื่องจากสร้างปัญหาและความเดือดร้อนให้ผู้ประกอบการรถบรรทุกทั่วประเทศปีละหลายล้านบาท
โดยนายทองอยู่ คงขันธ์ ที่ปรึกษาสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคณะกรรมาธิการคมนาคมวุฒิสภา เร่งแก้ไขปัญหาการเรียกเก็บส่วยซ่อนรูปของตำรวจจราจร และตำรวจทางหลวง โดยให้เวลาแก้ไขถึงวันที่ 15 .ค.นี้ หากยังไม่ได้รับการแก้ไข สหพันธ์ฯ จะนำรถบรรทุกไปประท้วงที่หน้ากองบังคับการจราจร รวมทั้งปิดถนนทุกจุดในกรุงเทพมหานคร เนื่องจากที่ผ่านมาได้เรียกร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายครั้งแต่ไม่ได้รับการแก้ไข
นายทองอยู่ กล่าวว่า ที่ผ่านมา สหพันธ์ฯได้ทำหนังสือไปถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กระทรวงคมนาคม กรมมลพิษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการตำรวจจราจร มาแล้ว ได้รับคำตอบลักษณะเป็นการแก้ตัวของเจ้าหน้าที่รัฐแค่นั้นถือว่าไม่ได้แก้ไขอะไร ตำรวจยังปฎิบัติหน้าที่อย่างไม่เป็นธรรมโดยมุ่งหวังเอาเงินรางวัลนำจับและเงินรางวัลค่าปรับซึ่งค่าเงินรางวัลนำจับเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ส่วนแบ่งเป็นเงิน 75 %ของค่าปรับทำให้เจ้าหน้าที่มีความพยายามที่จะทำยอดค่าปรับจากการจับกุมต่อวันให้ได้วันละ 1,000 คัน
เวลาประมาณ10.50 น.นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการคมนาคมขนส่งทางบก วุฒิสภา ได้เดินทางมารับหนังสือร้องเรียนกับผู้ประท้วงโดยกล่าวว่า ผู้ประกอบการรถบรรทุกร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนจากการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่รับส่วย ซึ่งเป็นส่วยซ่อนรูปด้วยการทำยอดใบสั่ง เพื่อหักเปอร์เซ็นจากค่าปรับ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาอย่างจริงจังและเห็นว่านายกรัฐมนตรีควรจะเป็นเจ้าภาพสำคัญลงมาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการโล๊ะระบบส่วยของเจ้าหน้าที่รัฐ
" ทางวุฒิสภาจะเป็นเจ้าภาพจัดเวทีเพื่อท้าพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในวันที่ 25 มี.ค.นี้ ที่โรงแรมรามาการ์เด้น ให้ทุกคนทุกฝ่ายนำพยานหลักฐานทุกชิ้นที่มีไปพิสูจน์กัน เราจะเอาจริงเรื่องการตรวจสอบ เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะตำรวจซึ่งเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย หาช่องโหว่ของกฎหมายมารังแกประชาชน" นายสุรชัย กล่าว
ส่วนเรื่องอุปกรณ์ตรวจควันดำและเสียงดังของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น นายสุรชัย กล่าวว่า การร้องเรียนระบุว่าไม่มีประสิทธิภาพ และใช้งานมานานพร้อมทั้งไม่มีผู้ชำนาญการร่วมตรวจ ซึ่งเรื่องนี้ก็จะมีการตรวจสอบอุปกรณ์เช่นกัน ว่ามีขั้นตอนวิธีการตรวจอย่างไร ระดับขนาดไหนถึงเกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด
เจ้าหน้าที่ควรจัดหาอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพใช้งานได้แม่นยำในการตรวจ
โดยหลังจากสมาชิกของสหพันธ์การขนส่งทางบกได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายสุรชัย ประธานคณะอนุกรรมาธิการคมนาคมขนส่งทางบก วุฒิสภา และนายสุรชัยรับปากว่าจะเร่งดำเนินการตรวจสอบให้ความเป็นธรรม สร้างความสบายใจให้กับกลุ่มผู้ประท้วง และกลุ่มผู้ประท้วงได้สลายตัวในเวลา12.15 น.
สำหรับ บรรยากาศการประท้วงของผู้ประกอบการรถบรรทุกนั้นเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่ส่งผลกระทบด้านจราจร โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้จัดรถบรรทุก 6 ล้อติดตั้งเครื่องเสียงจอดในช่อเลนส์ด่วนถนนบางนา-ตราดฝั่งขาเข้าหน้าอาคารเนชั่นทาวเวอร์ โดยมีแกนนำสลับกันขึ้นปราศรัยโจมตีการตั้งด่านตรวจควันดำและเสียงดังของตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจรกลาง (บก.จร.)
ที่ตั้งด่านแบบถี่ยิบ ระยะทาง 10 กิโลเมตรมีด่านตรวจลักษณะนี้ถึง 4 ด่าน
ด้านนายอภิชาต ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่ต้องมารวมตัวกันเพราะได้รับความเดือดร้อนจริงๆ จึงต้องเรียกร้องขอความเป็นธรรม จากการกระทำของตำรวจบางคน ที่คอยทำยอดตรวจจับเขียนใบสั่งปรับรถบรรทุกควันดำและเสียงดัง เพื่อนำยอดไปแลกกับเงินนำจับ 70-75 %โดยการตรวจควันดำและเสียงไม่มีเจ้าหน้าที่ชำนาญการร่วมตรวจ ขณะเดียวกันเครื่องมือที่ใช้ก็เก่าเก็บไม่ได้มาตรฐาน ทั้งที่ส่วนใหญ่รถบรรทุกของผู้ประกอบการทุกคนตรวจสภาพอยู่เสมอ
นอกจากนี้ รถบรรทุกที่ใช้ก๊าซ NGV ซึ่งรับรองว่าไม่มีควันดำแน่นอน แต่ตำรวจยังหาช่องเขียนใบสั่งเป็นเสียงดัง จนได้เพื่อให้ได้ยอดใบสั่งตามเป้า หรือบางครั้งเมื่อตรวจเสียงดังก็จะให้กดคันเร่งจนมิดแช่ไว้นานเพื่อจะเอาเสียงดังหรือเอาควันดำให้ได้ ซึ่งไม่ใช่แค่ผู้ประกอบการรถบรรทุกที่ได้รับความเดือดร้อน ยังมีรายงานว่าผู้ประกอบการรถแท็กซี่ และผู้ประกอบการรถตู้ ก็จะเข้าร่วมประท้วงกับพวกตนอีกด้วย และพวกตนยังมีพยานหลักฐานมีคลิปวีดีโอการรับเงิน หรือส่วยของตำรวจที่ตั้งด่านด้วย
"เคยยื่นหนังสือร้องทุกข์ร้องเรียนไปยังกรมขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคมถึงเรื่องนี้หลายครั้ง และส่งหนังสือร้องเรียนไปยัง บก.จร. แต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า จึงรอไม่ไหว ทนไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาการรับส่วยซ่อนรูปของตำรวจ ผู้ประกอบการจะไม่เชื่อคำพูดของผู้ใหญ่ใน บก.จร.อีกแล้ว" นายอภิชาติ กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.อุทัยวรรณ แก้วสะอาด ผู้บังคับการตำรวจจราจร ( ผบก.จร.) กล่าวว่า หากมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวข้องกับตำตรวจจราจรกลางก็พร้อมชี้แจง ส่วนที่มีการระบุว่าตั้งด่านซ้ำซ้อนกับตำรวจท้องที่นั้น ยืนยันว่าไม่มีแน่ เนื่องจากประสานงานกันตลอด ทั้งนี้ หากดูเหมือนว่ามีด่านมากขึ้นน่าจะเป็นเหตุผลเรื่องความมั่นคงตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)
ที่ให้ตรวจการเข้าออกเข้มงวดมากกว่า ส่วนการเรียกเก็บส่วยนั้น ตนเพิ่งมารับตำแหน่ง ขอตรวจสอบก่อน แต่เบื้องต้นยืนยันว่าไม่มีแน่นอน
วานนี้ (22 ก.พ.) เวลาประมาณ 09.00 น. สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ซึ่งมีสมาชิกเป็นผู้ประกอบการขนส่งทางบกทั่วไทย 13 สมาคม และ 4 ชมรม ได้ประท้วงโดยนำรถบรรทุก รถเครน และรถทัวร์ประมาณ 300 คันจอดที่ถนนบางนา-ตราด ฝั่งขาเข้า 2 ช่องทาง ตั้งแต่กิโลเมตรที่ 4 ถึงกิโลเมตรที่ 7 ความยาวเกือบ 3 กิโลเมตร เนื่องจาก ไม่พอใจการทำงานของตำรวจจราจร ที่มีการตรวจจับควันดำ และเสียงดังที่ไม่ได้มาตรฐาน และมีการตั้งด่านที่ซับซ้อน รวมถึงมีการเก็บส่วยในราคาที่สูงขึ้น โดยเรียกร้องให้รัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แก้ไขปัญหาเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกลาง และตำรวจทางหลวง เรียกเก็บส่วยซ่อนรูป เนื่องจากสร้างปัญหาและความเดือดร้อนให้ผู้ประกอบการรถบรรทุกทั่วประเทศปีละหลายล้านบาท
โดยนายทองอยู่ คงขันธ์ ที่ปรึกษาสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคณะกรรมาธิการคมนาคมวุฒิสภา เร่งแก้ไขปัญหาการเรียกเก็บส่วยซ่อนรูปของตำรวจจราจร และตำรวจทางหลวง โดยให้เวลาแก้ไขถึงวันที่ 15 .ค.นี้ หากยังไม่ได้รับการแก้ไข สหพันธ์ฯ จะนำรถบรรทุกไปประท้วงที่หน้ากองบังคับการจราจร รวมทั้งปิดถนนทุกจุดในกรุงเทพมหานคร เนื่องจากที่ผ่านมาได้เรียกร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายครั้งแต่ไม่ได้รับการแก้ไข
นายทองอยู่ กล่าวว่า ที่ผ่านมา สหพันธ์ฯได้ทำหนังสือไปถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กระทรวงคมนาคม กรมมลพิษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการตำรวจจราจร มาแล้ว ได้รับคำตอบลักษณะเป็นการแก้ตัวของเจ้าหน้าที่รัฐแค่นั้นถือว่าไม่ได้แก้ไขอะไร ตำรวจยังปฎิบัติหน้าที่อย่างไม่เป็นธรรมโดยมุ่งหวังเอาเงินรางวัลนำจับและเงินรางวัลค่าปรับซึ่งค่าเงินรางวัลนำจับเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ส่วนแบ่งเป็นเงิน 75 %ของค่าปรับทำให้เจ้าหน้าที่มีความพยายามที่จะทำยอดค่าปรับจากการจับกุมต่อวันให้ได้วันละ 1,000 คัน
เวลาประมาณ10.50 น.นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการคมนาคมขนส่งทางบก วุฒิสภา ได้เดินทางมารับหนังสือร้องเรียนกับผู้ประท้วงโดยกล่าวว่า ผู้ประกอบการรถบรรทุกร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนจากการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่รับส่วย ซึ่งเป็นส่วยซ่อนรูปด้วยการทำยอดใบสั่ง เพื่อหักเปอร์เซ็นจากค่าปรับ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาอย่างจริงจังและเห็นว่านายกรัฐมนตรีควรจะเป็นเจ้าภาพสำคัญลงมาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการโล๊ะระบบส่วยของเจ้าหน้าที่รัฐ
" ทางวุฒิสภาจะเป็นเจ้าภาพจัดเวทีเพื่อท้าพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในวันที่ 25 มี.ค.นี้ ที่โรงแรมรามาการ์เด้น ให้ทุกคนทุกฝ่ายนำพยานหลักฐานทุกชิ้นที่มีไปพิสูจน์กัน เราจะเอาจริงเรื่องการตรวจสอบ เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะตำรวจซึ่งเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย หาช่องโหว่ของกฎหมายมารังแกประชาชน" นายสุรชัย กล่าว
ส่วนเรื่องอุปกรณ์ตรวจควันดำและเสียงดังของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น นายสุรชัย กล่าวว่า การร้องเรียนระบุว่าไม่มีประสิทธิภาพ และใช้งานมานานพร้อมทั้งไม่มีผู้ชำนาญการร่วมตรวจ ซึ่งเรื่องนี้ก็จะมีการตรวจสอบอุปกรณ์เช่นกัน ว่ามีขั้นตอนวิธีการตรวจอย่างไร ระดับขนาดไหนถึงเกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด
เจ้าหน้าที่ควรจัดหาอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพใช้งานได้แม่นยำในการตรวจ
โดยหลังจากสมาชิกของสหพันธ์การขนส่งทางบกได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายสุรชัย ประธานคณะอนุกรรมาธิการคมนาคมขนส่งทางบก วุฒิสภา และนายสุรชัยรับปากว่าจะเร่งดำเนินการตรวจสอบให้ความเป็นธรรม สร้างความสบายใจให้กับกลุ่มผู้ประท้วง และกลุ่มผู้ประท้วงได้สลายตัวในเวลา12.15 น.
สำหรับ บรรยากาศการประท้วงของผู้ประกอบการรถบรรทุกนั้นเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่ส่งผลกระทบด้านจราจร โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้จัดรถบรรทุก 6 ล้อติดตั้งเครื่องเสียงจอดในช่อเลนส์ด่วนถนนบางนา-ตราดฝั่งขาเข้าหน้าอาคารเนชั่นทาวเวอร์ โดยมีแกนนำสลับกันขึ้นปราศรัยโจมตีการตั้งด่านตรวจควันดำและเสียงดังของตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจรกลาง (บก.จร.)
ที่ตั้งด่านแบบถี่ยิบ ระยะทาง 10 กิโลเมตรมีด่านตรวจลักษณะนี้ถึง 4 ด่าน
ด้านนายอภิชาต ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่ต้องมารวมตัวกันเพราะได้รับความเดือดร้อนจริงๆ จึงต้องเรียกร้องขอความเป็นธรรม จากการกระทำของตำรวจบางคน ที่คอยทำยอดตรวจจับเขียนใบสั่งปรับรถบรรทุกควันดำและเสียงดัง เพื่อนำยอดไปแลกกับเงินนำจับ 70-75 %โดยการตรวจควันดำและเสียงไม่มีเจ้าหน้าที่ชำนาญการร่วมตรวจ ขณะเดียวกันเครื่องมือที่ใช้ก็เก่าเก็บไม่ได้มาตรฐาน ทั้งที่ส่วนใหญ่รถบรรทุกของผู้ประกอบการทุกคนตรวจสภาพอยู่เสมอ
นอกจากนี้ รถบรรทุกที่ใช้ก๊าซ NGV ซึ่งรับรองว่าไม่มีควันดำแน่นอน แต่ตำรวจยังหาช่องเขียนใบสั่งเป็นเสียงดัง จนได้เพื่อให้ได้ยอดใบสั่งตามเป้า หรือบางครั้งเมื่อตรวจเสียงดังก็จะให้กดคันเร่งจนมิดแช่ไว้นานเพื่อจะเอาเสียงดังหรือเอาควันดำให้ได้ ซึ่งไม่ใช่แค่ผู้ประกอบการรถบรรทุกที่ได้รับความเดือดร้อน ยังมีรายงานว่าผู้ประกอบการรถแท็กซี่ และผู้ประกอบการรถตู้ ก็จะเข้าร่วมประท้วงกับพวกตนอีกด้วย และพวกตนยังมีพยานหลักฐานมีคลิปวีดีโอการรับเงิน หรือส่วยของตำรวจที่ตั้งด่านด้วย
"เคยยื่นหนังสือร้องทุกข์ร้องเรียนไปยังกรมขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคมถึงเรื่องนี้หลายครั้ง และส่งหนังสือร้องเรียนไปยัง บก.จร. แต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า จึงรอไม่ไหว ทนไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาการรับส่วยซ่อนรูปของตำรวจ ผู้ประกอบการจะไม่เชื่อคำพูดของผู้ใหญ่ใน บก.จร.อีกแล้ว" นายอภิชาติ กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.อุทัยวรรณ แก้วสะอาด ผู้บังคับการตำรวจจราจร ( ผบก.จร.) กล่าวว่า หากมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวข้องกับตำตรวจจราจรกลางก็พร้อมชี้แจง ส่วนที่มีการระบุว่าตั้งด่านซ้ำซ้อนกับตำรวจท้องที่นั้น ยืนยันว่าไม่มีแน่ เนื่องจากประสานงานกันตลอด ทั้งนี้ หากดูเหมือนว่ามีด่านมากขึ้นน่าจะเป็นเหตุผลเรื่องความมั่นคงตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)
ที่ให้ตรวจการเข้าออกเข้มงวดมากกว่า ส่วนการเรียกเก็บส่วยนั้น ตนเพิ่งมารับตำแหน่ง ขอตรวจสอบก่อน แต่เบื้องต้นยืนยันว่าไม่มีแน่นอน