แพร่ -ชาวบ้านเตรียมเข้าทำเนียบฯพบนายกฯ อภิสิทธิ์ 23 ก.พ. หลังหมดหวังต้านนายทุนทำเหมืองในเขตป่าอนุรักษ์ พ่อเมืองฉุนสั่งนายอำเภอรายงานด่วนภายใน 18 ก.พ.นี้
หลังจากชาวบ้านใน อ.วังชิ้น จ.แพร่ พบว่า “เสี่ยแดง” และชาวจีนกลุ่มหนึ่ง ลักลอบขุดแร่เหล็กในบริเวณดอยถ้ำ ใน ต.ป่าสัก อ.วังชิ้น และนำมาล้าง-แต่งแร่บริเวณริมห้วยโป่งตืด หมู่ 8 ต.ป่าสัก นานถึง 10 วันแล้ว โดยชาวบ้านส่วนใหญ่กำลังหวั่นวิตกว่าจะเป็นการทำลายป่าเพื่อขุดแร่ และสร้างมลภาวะให้แก่ลุ่มน้ำสรอย เพราะมีการปล่อยน้ำล้างแร่มาตามลำห้วยโป่งตืด ไหลไปลงในลุ่มน้ำสรอย ที่บ้านสองแคว ต.แม่พุง อ.วังชิ้น และมีการร้องสื่อให้มีการเสนอข่าวการบุกรุกดังกล่าว
ล่าสุดนายธวัชชัย ปวนนิ่ว รองนายก อบต.ป่าสัก เปิดเผยว่า เหมืองดังกล่าวไม่เกี่ยวกับอบต. นักลงทุนมาทำในที่ดินของเขา ซึ่งอุตสาหกรรมจังหวัดแพร่ ออกใบอนุญาตมาเรียบร้อยแล้ว อบต.ไม่เกี่ยวข้อง ถ้าจะเกี่ยวก็เป็นอบต.ชุดก่อน ชุดปัจจุบันยังไม่มีผู้บริหารเหมืองมาติดต่อ เท่าที่ทราบเหมืองเริ่มดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2553
นายบุญตา ปิริมา ส.อบต.หมู่ 8 ต.ป่าสัก อ.วังชิ้น จ.แพร่ กล่าวว่า เหมืองแห่งนี้เคยทำมาก่อนแล้ว นำแร่ออกไปเป็น 100 ลำรถพ่วง แล้วก็หยุดไปเพิ่งมาดำเนินการอีกครั้งเมื่อไม่กี่วันมานี้ ชาวบ้านก็หวั่นว่าจะกระทบกับสิ่งแวดล้อม การทำเหมืองไม่ทราบว่ามีการเสียภาษีหรือไม่ ตัวเจ้าของชาวบ้านรู้แต่ว่าคือ “เฮียแดง” จากจังหวัดชุมพร และมีนักลงทุนชาวจีน ซึ่งพูดไทยไม่ได้เลยมาร่วมด้วย เหมืองแห่งนี้มีการจ่ายเงินให้แก่ผู้นำหมู่บ้านเดือนละ 5,000 บาท เป็นค่าอะไรไม่ทราบ แต่ผู้ใหญ่บ้านกำนันก็ไม่มายุ่งเกี่ยว มีผู้ใหญ่บ้านบางรายไปกินเหล้าในแคมป์ประจำ
วิธีการทำเหมืองของบริษัท ใช้วิธีจ้างชาวบ้านในพื้นที่ไปนำหินที่เชื่อว่าเป็นแร่ ออกมาจากป่าอุทยานฯและป่าสงวน ใกล้จุดล้างแร่ นำมากองรวมกัน จากนั้นมีการย่อยแร่ ซึ่งคนงานที่นั่นเรียกว่า “แต่งแร่” แต่ก็ไม่เข้าใจว่าเป็นแร่อะไร ได้ข่าวว่านำส่งไปจำหน่ายถึงเมืองจีน ส่วนของผู้บริหาร อบต.ไม่ได้เข้าไปตรวจสอบ เพียงแต่เข้าไปอำนวยความสะดวกให้แก่ชาวบ้านเมื่อเหมืองจะทำการปิดถนนทำการเกษตร ที่สร้างโดย อบจ.แพร่ โดยใช้งบถึง 70,000 บาทเศษทำทางให้ชาวบ้านใหม่
ด้านนายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า การทำเหมืองที่ ต.ป่าสัก ตนยังไม่ทราบเรื่องเลย น่าแปลกที่มีเหมืองเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่จะเร่งให้เจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะอำเภอรายงานให้ทราบภายในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 53 ซึ่งถ้าพบว่าเพิกเฉย รู้เห็นแล้วไม่ดำเนินการไม่ว่าหน่วยงานใดถือว่ามีความผิดจะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป เพราะการทำเหมืองไม่ใช่ทำกันง่าย ๆ และไม่ใช่ว่าใครจะทำก็ได้ แต่ต้องผ่านการขออนุญาต ต้องเปิดให้ประชาชนรู้เห็นและยินยอมในการทำเหมือง ฉะนั้นปัญหาดังกล่าวขอให้ประชาชนไม่ต้องตื่นกลัว จังหวัดจะเข้าไปคลี่คลายปัญหาโดยเร่งด่วน
ขณะเดียวกันตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ อ.วังชิ้น ส่วนหนึ่งตกลงกันว่า จะเดินทางเข้าพบนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553 เพื่อรายงานความเดือดร้อน