แพร่ – นายทุนอิทธิพล โผล่ทำเหมืองเหล็กเขตป่าอนุรักษ์เมืองแพร่ ชาวบ้านหวั่นกระทบสิ่งแวดล้อม จี้จังหวัดลงตรวจสอบด่วน ชาวบ้านเผยไม่รู้ทำได้อย่างไร
ขณะที่ชาวบ้าน ต.สรอย อ.วังชิ้น จ.แพร่ รวมตัวกันต่อต้านการทำเหมืองเหล็ก บนป่าต้นน้ำของลุ่มน้ำสรอย ซึ่งนายทุนเข้าบุกเบิกแพ้วถางป่าก่อนที่จะได้รับสัมปทานขุดเหมือง ซึ่งชาวบ้านพยายามใช้ช่องทางตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยเรื่องสิทธิชุมชนขับไล่ผู้ประกอบการทำเหมืองออกไป โดยยืนยันต้องการสิ่งแวดล้อมที่ดีมากกว่าอุตสาหกรรม และที่สำคัญเป็นการปกป้องพื้นที่เหมืองทอง ที่พวกเขาเชื่อว่ามีอยู่ในพื้นที่ด้วยมาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดวันนี้(15 ก.พ.) ตัวแทนชาวบ้านได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่า มีกลุ่มทุนบุกเข้าตั้งโรงงานแปรรูปแร่เหล็ก ที่บริเวณริมลำห้วยโป่งตืด หมู่ 8 ต.ป่าสัก อ.วังชิ้น จ.แพร่ โดยจ้างชาวบ้านบางคน ขุดแร่เหล็กมาจาก “ดอยถ้ำ” ในตำบลเดียวกัน ซึ่งเป็นเขตป่าอนุรักษ์ นำออกมาบดโม่ย่อยหินลำเลียงออกจากพื้นที่ สัปดาห์ละ 10 ลำรถบรรทุกขนาดใหญ่
ตัวแทนชาวบ้านเปิดเผยว่า นายทุนที่เข้ามาทำเหมืองชาวบ้านรู้จักชื่อว่า “เสี่ยแดง” เป็นผู้ประกอบการมีนายทุนชาวจีน อยู่เบื้องหลัง ซึ่งการทำเหมืองดังกล่าวถือเป็นกลุ่มอิทธิพล ใช้อำนาจปิดเส้นทางสาธารณะที่สร้างโดยงบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ เพื่อเป็นทางส่วนตัวของเหมือง จนทำให้ อบต.ป่าสัก ต้องใช้งบประมาณสร้างทางเพื่อการเกษตรสายใหม่ขึ้น ด้วยงบประมาณ 70,000 บาท ว่าจ้างรถแบ็คโฮตัดทางบนสันเขาสูงชัน แต่ชาวบ้านไม่สามารถใช้เส้นทางใหม่ได้เนื่องจากมีความลาดชันมากเกินไปจนรถยนต์เพื่อการเกษตรไม่สามารถเดินทางได้
พระยงยุทธ ทีปโก เจ้าอาวาสวัดปางงุ้น อ.วังชิ้น จ.แพร่ เปิดเผยว่า การทำเหมืองของกลุ่มทุนที่เข้ามาใน อ.วังชิ้น รายนี้ ผิดปกติ เพราะการทำเหมืองใดๆ ก็ตามที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพ จะต้องทำประชาพิจารณ์ อีกประการนายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ยืนยันว่ายังไม่มีการขอสัมปทานในพื้นที่ ถ้าจะมีก็เพียงการสำรวจเท่านั้น ทั้งสองประการน่าจะเป็นตัวชี้วัดได้ว่า เหมืองแห่งนี้ยังไม่มีการขออนุญาตอย่างถูกต้อง และจนถึงขณะนี้ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังไม่รับทราบ ไม่ได้ร่วมรับรู้อย่างเป็นทางการ แต่รับรู้แบบผู้มีอำนาจเข้ามาทำกิจการเช่นเดียวกับเหตุการณ์ตัดไม้ทำลายป่าในอดีต
"ตรงนี้เป็นสัญญาณอันตรายต่อสังคมอย่างยิ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ คงนิ่งดูดายไม่ได้แล้ว" พระยงยุทธ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตั้งเหมืองดังกล่าวดำเนินการมากว่า 1 สัปดาห์แล้ว โดยแกนนำชาวบ้าน ต.ป่าสัก ได้ประชุมหารือกันเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 53 ที่ศาลาเอนกประสงค์ บ้านแม่กระต๋อม ต.ป่าสัก อ.วังชิ้น เพื่อระดมความคิดเห็นและหาแนวทางป้องกันปัญหาที่จะตามมา หลังเหมืองนิรนามเปิดกิจการโดยไม่ผ่านการทำประชาพิจารณ์
แกนนำชาวบ้านพบว่า เหมืองใช้วิธีจ้างชาวบ้านเข้าไปนำแร่ออกจากเขตป่าอนุรักษ์ โดยทางการยังไม่ให้ความสำคัญต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งที่ประชุมเชื่อว่า อบต.ป่าสัก และ ผู้ใหญ่บ้านกำนัน ใน ต.ป่าสัก รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐใน อ.วังชิ้น หลายหน่วยงานรู้เห็นการเปิดเหมืองดังกล่าว
นอกจากแกนนำชาวบ้านยังหวั่นว่า น้ำที่เหมืองล้างแร่ถูกทิ้งลงลำห้วยแม่โป่งตืด น้ำจะไหลไปออกลุ่มน้ำสรอย ที่บ้านสองแคว อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของชุมชนก็เป็นได้