กลุ่มการเมืองแพร่ปั้นทีม “แพร่ยูไนเต็ด” - “น้องแม่เลี้ยงติ๊ก-วงศ์วรรณ”จับมือชั่วคราวหนุน

แพร่ – กลุ่มการเมืองในแพร่ ร่วมลงมือหนุนทีมฟุตบอลอาชีพเช่นเดียวกับหลายจังหวัดทั่วประเทศ ที่มีแนวโน้มใช้ฟุตบอลสร้างฐานการเมือง ลงมือปั้น “แพร่ยูไนเต็ด” หวังก้าวขึ้นดิวิชั่น 1 ของเมืองไทย โดยมี “น้องแม่เลี้ยงติ๊ก”นั่งเก้าอี้ประธานสโมสร

รายงานข่าวจากจังหวัดแพร่ แจ้งว่า นายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ,นายนวรัตน์ คณะนัย รองนายก อบจ.แพร่,นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ผู้สนับสนุนสมาคมกีฬาจังหวัดแพร่ ได้ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวสโมสรฟุตบอลอาชีพทีมแรกของจังหวัดแพร่ คือทีมแพร่ยูไนเต็ด (Phrae united) ที่บริเวณสนามกีฬาจังหวัดแพร่ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งมีนายพงศ์สวัสดิ์ ศุภศิริ เป็นประธานสโมสรคนแรก

สำหรับสโมสรฟุตบอลแพร่ยูไนเต็ด มีจุดเริ่มต้นกว่า 3 ปีที่ผ่านมา โดยการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ใช้ชื่อเดิมคือ “แพร่เอฟซี” ภายหลังได้รับความร่วมมือจากสมาคมกีฬาจังหวัดแพร่ -อบจ.แพร่พัฒนาอย่างเป็นระบบ โดยได้เข้าสู่การจดทะเบียนเป็นบริษัทอย่างถูกต้องตามกติกาของสโมสรฟุตบอลอาชีพ ซื่อ “บริษัทฟุตบอลแพร่ยูไนเต็ด จำกัด” ในช่วงต้นปี 2553

พร้อมกับปรับปรุงทั้งผู้บริหารและสต๊าฟโค๊ช ให้มีความพร้อมในการลงสู้ศึกลูกหนังอาชีพของประเทศไทย มีนายพงศ์สวัสดิ์ ศุภศิริ จากนายกสมาคมกีฬาจังหวัดแพร่ มาเป็นประธานสโมสร -นายประสงค์ ชุ่มเชย เป็นผู้จัดการทีม- นายสันติ บินกาซิม เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน

ในส่วนของนักเตะทีมแพร่ยูไนเต็ด ได้คัดนักเตะท้องถิ่นฝีมือดีเป็นหลัก และนำดาวเด่นในวงการฟุตบอลทีมชาติไทยเข้ามาเสริม รวมทั้งนักเตะจากต่างชาติที่ซื้อตัวมาร่วมทีม ซึ่งนักเตะในประเทศที่รู้จักในวงการฟุตบอลคือ วีรวัฒน์ พลเชียงขวาง,ทศพร อินต๊ะรักษา และชาญ ชาญวิชชานนท์ ซึ่งเป็นนักเตะเยาวชนทีมชาติอยู่ในขณะนี้ นอกจากนั้นยังมีนักเตะผิวดำจากต่างแดนจาก ไนจีเรีย และไอเวอรีโคส เข้าร่วมสมทบ เพื่อให้ทีมแข็งแกร่งเต็มที่อีกด้วย

นายพงศ์สวัสดิ์ ศุภศิริ ประธานสโมสรแพร่ยูไนเต็ด กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์เป็นต้นไปเป็นการเตะเริ่มฤดูกาลนี้ ซึ่งมั่นใจว่าแพร่ยูไนเต็ด จะสามารถเข้าไปสู่ 3 ทีมสุดท้ายที่จะเข้าไปเล่นในรอบมินิลีก และนำพาไปสู่ชัยชนะที่จะเข้าสู่ดิวิชั่น 1 ของประเทศไทยได้ ด้วยการเตรียมทีมที่มีความพร้อมที่ดีและแรงสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ สมาคมกีฬาจังหวัดแพร่ และองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่

ส่วนตามกติกาการแข่งขันฟุตบอลอาชีพ การแข่งขันทุกนัดจะต้องมีการเก็บค่าผ่านประตูเพื่อเป็นรายได้ไปพัฒนาวงการฟุตบอลต่อไปนั้น คงต้องทำความเข้าใจกับประชาชนอยู่มากเหมือนกันในการที่จะเข้ามาเชียร์ทีมจังหวัดแพร่

อย่างไรก็ตาม ฐานผู้ชมถือว่า เป็นประเด็นสำคัญในการทำให้สโมสรพัฒนาไปได้เร็วขึ้น ดังนั้นทีมก็ต้องเร่งทำผลงานให้เป็นที่ประทับใจเสียก่อน

ในเบื้องต้นได้รับการสนับสนุนจากภาคธุรกิจและองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ในการสนับสนุนงบประมาณ รวมถึง อบจ.แพร่ให้งบประมาณในการพัฒนาทีมในฤดูกาลนี้จำนวน 1 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเปิดสโมสรฟุตบอลแพร่ยูไนเต็ด ได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะกลุ่มการเมืองในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาเหมือนเป็นคู่ต่อสู้ทางการเมือง แต่พบว่าในการเปิดสโมสรฟุตบอลแพร่มีนักการเมืองที่เคยเป็นคู่ต่อสู้กันจับมือทำงานร่วมกัน อาทิ นายอนุวัธ วงศ์วรรณ นายก อบจ.แพร่ และนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู พร้อมทั้งนายพงศ์สวัสดิ์ ศุภศิริ เป็นต้น