จวกนโยบายไร้สติ เพิ่มแข้งนอกทำเพื่อใคร?

ASTVผู้จัดการรายวัน - ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ปธ.ไทยลีก เผยเปิดฤดูกาลนี้เริ่มใช้กฎเพิ่มโควตาแข้งนอก ส่งรายชื่อ 7 คน ลงได้ 5 คนทันที ด้าน "เดอะ เซนต์" อรรณพ สิงโตทอง ผจก.ทีม "ฉลามชล" ออกโรงจวกยับไร้สติ ทำลายโอกาสแจ้งเกิดแข้งดาวรุ่ง ลั่นต้องมีคนรับผิดชอบ

หลังจากที่ยื้อกันอยู่นาน ล่าสุด ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานไทยพรีเมียร์ลีก เปิดเผยเตรียมเปลี่ยนกฎให้แต่ละทีมสามารถส่งผู้เล่นต่างชาติลงสนามได้มากขึ้นกว่าฤดูกาลที่ผ่านมาซึ่งให้ส่งลงสนามได้ 3 คน บวกกับโควตานักเตะเอเชียอีก 1 คน เป็นส่งรายชื่อผู้เล่นต่างชาติได้ถึง 7 คน และสามารถลงสนามได้ถึง 5 คน ในฤดูกาล 2010 ที่จะเปิดสนามกันในเดือนมีนาคมนี้

โดย "ดร.ลูกหนัง" เปิดเผยว่าการเปลี่ยนกฎดังกล่าวก็เพื่อเพิ่มความสนุกสนานให้กับเกมลีกมากขึ้น รวมทั้งเพิ่มความตื่นตัวของผู้เล่นในประเทศให้เรียนรู้ความเป็นมืออาชีพจากแข้งนอก "เรื่องนี้ผมออกตัวก่อนเลยว่าเป็นเพียงคนกลาง คนจัดการแข่งขันเท่านั้น ทุกอย่างเป็นความเห็นชอบจากสโมสรส่วนใหญ่เป็นจำนวน 9 จากทั้งหมด 16 ทีม ที่ลงความเห็นให้เพิ่มผู้เล่นต่างชาติ เพราะเราต้องการอยากให้ฟุตบอลลีกมีความสนุกสนานเรียกผู้ชมเข้าสนามจำนวนมาก ยกตัวอย่างถ้าหากมีทีมไปดึงนักเตะอย่าง กากา หรือโรนัลโด มาใครจะไม่อยากเข้ามาชม มันเหมือนกับการทำธุรกิจ ต้องมองถึงผลกำไร หรือ กระแสคนดูเป็นหลัก กับเรื่องที่มีกระแสว่า ถ้าทำอย่างนี้แล้วฟุตบอลไทยจะไม่ได้พัฒนา ผมว่ามันจะเป็นตัวกระตุ้นให้นักเตะไทยเร่งพัฒนาฝีเท้ามากกว่า ผมมองในแง่นั้น หากใครฝีเท้าไม่ถึงก็เป็นตัวสำรองไปเท่านั้นเอง"

ด้าน "เดอะ เซนต์" อรรณพ สิงโตทอง ผู้จัดการทีม "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ซึ่งเป็นแกนนำในการคัดค้านการเพิ่มโควตาผู้เล่นต่างชาติมาโดยตลอด เผยรู้สึกรับไม่ได้กับการตัดสินใจดังกล่าวเป็นอย่างมาก "บอกตามตรงเลย ชลบุรี เอฟซี จะไม่เดือดร้อนกับเรื่องนี้แน่นอน เราพร้อมที่จะส่งผู้เล่นต่างชาติลงตามโควตาที่เพิ่มขึ้น แต่คนที่คิดกฎข้อนี้ขึ้นมาเคยคิดถึงผลร้ายที่จะตามหลอกหลอนวงการฟุตบอลไทยในอนาคตหรือไม่ ใครก็ตามที่คิดเรื่องแบบนี้ได้ผมว่าเป็นเรื่องไร้สติที่สุด คิดได้อย่างไรว่าการเพิ่มนักเตะต่างชาติจะทำให้ลีกในประเทศเล่นกันสนุกขึ้น ถ้าคิดแบบนี้ทำไมไม่ให้ส่งผู้เล่นต่างชาติลงทั้ง 11 คนไปเลย จะได้สนุกกันมากยิ่งขึ้น ผมไม่ได้ประชด เพียงแต่รับไม่ได้จริงๆ"

"เรื่องนี้มีคนล็อบบีมาตลอด ผมไม่อยากให้เอาการเมืองมาเกี่ยวข้องกับกีฬา ซึ่งเราก็ทราบดีว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ลองหลับตาคิดภาพตามดูว่าเกมหนึ่งแต่ละทีมส่งรายชื่อนักเตะได้ 20 คน เป็นผู้เล่นต่างชาติถึง 7 คน และลงสนามได้ 5 คน มันเกือบครึ่งทีมเลยก็ว่าได้ จากนั้นหากจะเปลี่ยนตัวผู้เล่นลงไปอีก 3 คน ถามว่าค่าจ้างที่แต่ละสโมสรจ้างนักเตะต่างชาติมาแพงแล้วจะเก็บเขาไว้ที่ข้างสนามหรือ คงไม่เด็ดขาด เขาก็ต้องส่งลงเล่น โอกาสตรงนี้ควรเป็นของผู้เล่นดาวรุ่ง หรือนักเตะในประเทศมากกว่า ก็จะเสียโอกาสในการลงเล่นไป แบบนี้จะทำให้นักฟุตบอลทีมชาติไทย และทรัพยากรที่จะขึ้นมาทดแทนมันไม่ได้พัฒนาฝีเท้าจนสามารถแจ้งเกิดกันได้อย่างไร" คนโตแห่งทัพ "ฉลามชล" กล่าว

ขณะเดียวกัน "เดอะ เซนต์" ยังกล่าวถามหาคนรับผิดชอบแนวความคิดดังกล่าวว่า หากเกิดความผิดพลาดขึ้นมา "ฤดูกาลที่ผ่านมาไทยพรีเมียร์ลีกได้รับความนิยมขึ้นมาก็จริง แต่มันก็แค่ปีแรกและไม่ได้เกิดจากคนในสมาคมฟุตบอลฯ ทำด้วยซ้ำ เกิดจากการพัฒนาของแต่ละสโมสรทั้งนั้น หากเพิ่มผู้เล่นต่างชาติมาจำนวนมาก ผมเชื่อเลยว่ามีปัญหาแน่ในระยะยาว เหมือนตอนนี้เราเห็นแล้วว่า เมืองทอง ยูไนเต็ด ก็ต้องเอา "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย กองหน้าทีมชาติไทยแท้ๆ ไปเล่นปีก เนื่องจากมีกองหน้าฝีเท้าดีที่เป็นชาวต่างชาติลงเล่น ซึ่งพอกลับไปเล่นทีมชาติความเฉียบคมก็ลดลงไปเยอะ ไม่ต้องคิดอะไรมาก แค่ผลงานในกีฬาซีเกมส์ทีมชาติไทยยังตกรอบแรก หาคนรับผิดชอบไม่ได้ แต่กับนโยบายเพิ่มผู้เล่นต่างชาติ หากว่าอนาคตทำให้ลีกเราไม่พัฒนา ถามว่าจะมีคนในสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยคนไหนกล้าออกมารับผิดชอบบ้าง ขนาดรัฐมนตรีในรัฐบาลวางนโยบายผิดพลาด เขายังหน้าบางกล้าลาออก แต่เรื่องนี้ใครจะรับผิดชอบ"